ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 1984 งดงามท่ามกลางความหนาวเหน็บ + ตอนที่ 1985 ทำไมบนตัวไม่มีรอยสักแล้ว

บทที่ 1984 งดงามท่ามกลางความหนาวเหน็บ + ตอนที่ 1985 ทำไมบนตัวไม่มีรอยสักแล้ว

ตอนที่ 1984 งดงามท่ามกลางความหนาวเหน็บ

คฤหาสน์ตระกูลหนิงคึกคักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แขกส่วนมากเดินทางมาถึงแล้วแม้จะต้องต้านลมหนาวมาความอบอุ่นนี้ก็ไม่ลดลงเลย

วันนี้หนิงเฉินเซวียนแต่งตัวได้มีชีวิตชีวาอย่างมากไม่เหมือนอย่างเคยที่เอาแต่ใส่เสื้อสีดำทำให้ดูดุดันขึงขัง วันนี้เขาใส่เสื้อโค้ทสีน้ำตาลแล้วสวมหมวกหนังสีเดียวกันขับให้ดูเป็นพิธีการอย่างมาก

ใบหน้าแต้มยิ้มยืนรับแขกอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ที่ทำเอาทุกคนตื่นตระหนกตกใจ นานทีจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้เลยนะ!

เหมยเหมยลงจากรถ ลมหนาวพัดเข้ามาจนตัวสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ ลอบด่าหนิงเฉินเซวียนในใจว่าเกิดวันไหนไม่เกิดดันมาเกิดในวันอากาศหนาวเช่นนี้

เธอกระชับปกคอเสื้อโค้ทแน่นแล้วสอดมือคล้องแขนเหยียนหมิงซุ่นเพื่อหาความอบอุ่น

แต่พอเธอเห็นอู่เยวี่ยพลันก็รู้สึกว่าหนิงเฉินเซวียนเลือกวันเวลาเกิดได้ดีเหลือเกิน พระเจ้าก็ช่างเป็นใจ

อู่เยวี่ยสวมชุดราตรีสีแดงปาดไหล่เผยให้เห็นผิวขาวเนียน ซึ่งมีเพียงเสื้อคลุมขนมิงค์ที่แม้จะเป็นขนมิงค์แต่นั่นเป็นเพียงผ้าชิ้นเล็ก ๆ แล้วมันช่วยต้านลมหนาวได้สักเท่าไรกันเชียว?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอู่เยวี่ยกับเฮ่อเหลียนเช่อที่กำลังยืนรับแขกอยู่ตรงประตูเลย!

หนิงเฉินเซวียนยืนรับแขกอยู่ข้างนอกส่วนสองสามีภรรยาคู่นี้อยู่ในห้องโถง แม้จะอยู่ในห้องโถงแต่วันนี้อากาศหนาวเกินไปอุณหภูมิจึงต่ำจนน่าตกใจ

เห็นอู่เยวี่ยโชว์ไหล่ให้เห็นวับ ๆแวม ๆ เหมยเหมยที่เห็นยังรู้สึกหนาวแทนแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจเบิกบาน

ให้ลมหนาวพัดมาแรงกว่านี้เถอะ!

“ยินดีด้วยนะ!” เหมยเหมยหน้ายิ้มกว้างเดินเข้าไปหาสองสามีภรรยาคู่นี้

เฮ่อเหลียนเช่อกลับไม่ค่อยหนาวสักเท่าไรเพราะเหมยซูหานได้เตรียมเสื้อโค้ทตัวหนาไว้ให้เขาแล้ว ต่อให้ไปทางเหนือก็ไม่หวั่น พอเขาเห็นเหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยสายตาก็เย็นยะเยือกลงแต่ใบหน้ากลับยิ้มแก้มปริ

“ยินดีต้อนรับ คุณชายหมิงงานยุ่งยังอุตส่าห์สละเวลามาด้วยตัวเอง เป็นเกียรติจริง ๆ!”

เฮ่อเหลียนเช่อแสร้งยิ้มแล้วจับมือทักทายเหยียนหมิงซุ่น ทั้งคู่แอบประลองเรี่ยวแรงกันลับ ๆด้วยรอยยิ้มฉาบหน้าแต่สายตากลับไม่ยิ้มไปด้วยเลย

เหมยเหมยเห็นอู่เยวี่ยที่หนาวจนใบหน้าซีดเซียวเลยอมยิ้มน้อย ๆ “วันนี้ชุดของคุณนายเฮ่อเหลียนสวยจัง สั่งตัดจากไหนเหรอ ไว้ฉันจะไปสั่งตัดกระโปรงด้วยสักชุด”

เมื่อครู่เธอเห็นอู่เยวี่ยเลิกชายกระโปรงขึ้นท่าทางเหมือนจะเข้าไปเสาะหาความอุ่นจากในห้อง เธอจะให้โอกาสนางแพศยานี้ได้หรือ?

ให้หนาวตายไปเลย!

อู่เยวี่ยเตรียมจะไปผิงลมอุ่นจากฮีทเตอร์ในห้องอย่างว่าจริง ๆ แม้เฮ่อเหลียนเช่อจะใช้วิธีนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่โจวจื่อหัวเอ่ยถึงแต่ก็กังวลว่าร่างกายของเธอจะแบกรับไม่ไหวจึงให้เธอกลับไปผิงลมอุ่นในห้องสักพัก

ไม่อย่างนั้นเธอคงรับไม่ไหว เด็กในท้องก็เช่นกัน

“กระโปรงนี้อาเช่อสั่งตัดมาให้ฉันเอง คุณจ้าวถามเขาได้” อู่เยวี่ยพูดขึ้นลวก ๆแล้วถือชายกระโปรงขึ้นเตรียมกลับเข้าห้องไป

เฮ่อเหลียนเช่อรู้ทันแผนร้ายของเหมยเหมยเลยเตรียมตอบแทน เหยียนหมิงซุ่นกลับห้ามเขาไว้ “เฮ่อเหลียนเช่อเสื้อโค้ทที่แกใส่ดูดีไม่หยอก ซื้อมาจากไหนเหรอ?”

เฮ่อเหลียนเช่อไม่สบอารมณ์อย่างมากแต่เขาจะหักหน้าก็ไม่ได้ในเมื่อวันนี้เป็นวันฉลองวันคล้ายวันเกิดของหนิงเฉินเซวียน เขาในฐานะเจ้าบ้านหากหักหน้าแขกไม่รู้เรื่องนี้จะแพร่งพรายออกไปอย่างไร!

ทางเฮ่อเหลียนเช่อมีเหยียนหมิงซุ่นคอยรั้งไว้คุยเรื่องไร้สาระ คนนอกเห็นพวกเขาสนิทสนมกันขนาดนี้ก็แอบคิดในใจว่าคู่อริสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

เหมยเหมยขยิบตาให้เหยียนหมิงซุ่น เธอกับสามีของเธอคือคู่รักรู้ใจในตำนานชนิดที่ต่างฝ่ายต่างรู้ใจกันดีโดยไม่ต้องพูดอะไรมากมาย แค่มองตาก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการทำอะไร

สมแล้วที่เกิดมาคู่กัน คู่สร้างคู่สมชัด ๆ

“ฉันดูกระโปรงเธอหน่อยได้ไหม โอ้โฮ กระโปรงตัวนี้ฉันยิ่งดูก็ยิ่งชอบแฮะ!”

เหมยเหมยเอียงตัวขวางทางอู่เยวี่ยไว้แล้วยิ้มท้าทายอีกฝ่าย แต่ในสายตาคนนอกกลับคิดว่าพวกเธอกำลังคุยกันอย่างออกรสอยู่

………………………

ตอนที่ 1985 ทำไมบนตัวไม่มีรอยสักแล้ว

ในขณะนี้อู่เยวี่ยหนาวจนพูดไม่ออก ดวงหน้าขาวซีดปากช้ำม่วงแต่เพราะแต่งหน้าไว้บาง ๆ อีกทั้งการตั้งครรภ์ส่งผลทำให้เธอผิวเสียอย่างมาก แล้วยังตากลมหนาวนานขนาดนี้เลยดูสภาพเยี่ยงผีก็ไม่ปาน

“ต่อให้คุณจ้าวจะชอบขนาดไหนก็เปล่าประโยชน์ ชุดนี้มีแค่ตัวเดียวไม่มีตัวที่สอง เห็นทีคุณจ้าวคงต้องลองตัวอื่นแล้วละ”

แม้อู่เยวี่ยจะหนาวแทบแย่แต่เธอกลับไม่ยอมทิ้งโอกาสที่จะได้โจมตีเหมยเหมยไปง่าย ๆ เอ่ยปากพูดหยันและทำหน้าได้ใจ

เหมยเหมยยิ้มตาหยีไม่มีท่าทีเคืองโกรธเพียงเพราะประโยคดูถูกไม่กี่ประโยคนี่หรอก เธอสวมเสื้อขนมิงค์สวมหมวกหนังอย่างครบครัน ต่อให้มีลมพายุพัดกระหน่ำสิบระดับก็ไม่หวั่น

อู่เยวี่ยยิ่งหนาวเธอก็ยิ่งดีใจ

“ที่แท้ก็สั่งตัดส่วนตัวนี่เอง ต้องใช้เงินมากเลยสิท่า คุณชายเช่อดีกับเธอจริง ๆทำเอาฉันอิจฉาตาร้อนไปด้วยเลย!” เหมยเหมยมองชุดราตรีบนตัวอู่เยวี่ยด้วยสีหน้าอิจฉาแถมยังยื่นมือไปลูบด้วย

เธอสังเกตเห็นว่าผ้าคลุมไหล่ของอู่เยวี่ยไม่ได้ปิดมิดชิดเผยให้เห็นลาดไหล่ขาวเนียนสะอาดสะอ้านไร้ซึ่งรอยสักลายพญาหงส์ที่โจวจื่อหัวพูดถึง

พลันก็เข้าใจจุดประสงค์ที่ทำไมหนิงเฉินเซวียนทุ่มเทจัดงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดมากขนาดนี้ ช่างลำบากเสียจริง!

ถ้าอย่างนั้นเธอจะช่วยหน่อยแล้วกัน!

มือที่เดิมทีเหมยเหมยคิดจะลูบจับชุดราตรีแต่กลับเลื่อนไปข้างบนตรงผ้าคลุม อู่เยวี่ยหนีไม่ทันเลยถูกเหมยเหมยสัมผัสเข้าอย่างจัง

“ผ้าคลุมอันนี้ทำจากมิงค์รัสเซียสินะ ดูแล้วเสื้อผ้าตัวนี้คลับคล้ายคลับคลากับเสื้อโค้ทของฉันแต่ของฉันจับแล้วนุ่มกว่า ฉันว่าสินค้าในประเทศเราดีกว่า โอหยางซานซานนิสัยที่เธอชื่นชอบของต่างประเทศไม่ดีเลยสักนิด ตอนนี้สถานะของเธอไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ต้องระวัง…”

เหมยเหมยปากคุยจ้อพร่ำบ่นราวกับคุณป้าจอมจุ้น สุดท้ายแล้วก็เพื่อต้องการประชดประชันความชื่นชมของต่างชาติ การตกเป็นทาสตะวันตกของอู่เยวี่ยนั่นเอง

อู่เยวี่ยที่เริ่มคุกรุ่นหายหนาวเป็นปลิดทิ้ง

“คุณหนูจ้าวจุ้นจ้านมากเกินไปหรือเปล่า เธอกล้าสาบานหรือว่าตัวเองไม่เคยใช้ของนำเข้าน่ะ?”

เหมยเหมยเอียงศีรษะแสร้งทำเป็นครุ่นคิดอย่างจริงจังแล้วยิ้มอย่างเคอะเขิน “แหม ฉันไม่กล้าตอบจริง ๆว่าไม่เคยใช้ ตอนเด็กเคยทานนมผงธัญพืชนำเข้ามาก่อนด้วยละ รสชาติดีไม่หยอก โอหยางซานซานเธอเคยทานมาก่อนไหมละ?”

อู่เยวี่ยรู้สึกอัดอั้นในอกอีกครั้ง ทำไมเธอจะไม่เคยทานมาก่อนล่ะ?

เมื่อก่อนเหอปี้อวิ๋นซื้อนมผงธัญพืชนำเข้าให้เธอทั้งนั้นแต่นางแพศยาจ้าวเหมยกลับชอบแอบขโมยทานนมผงธัญพืชของเธอ ต่อมาเหอปี้อวิ๋นไม่มีอำนาจในการใช้เงินมากนักเลยเปลี่ยนมาเป็นสินค้าในประเทศ พอถูกไล่ออกจากตระกูลอู่ก็แทบไม่มีเงินซื้อข้าวกินด้วยซ้ำไป

อู่เยวี่ยรู้สึกปวดใจเหลือเกิน หลังจากผ่านอุปสรรคมากมายจึงทำให้เธอรู้ว่าเหอปี้อวิ๋นเป็นเพียงคนเดียวบนโลกนี้ที่ดีกับเธอจากใจจริง

แต่กลับตายไปแล้ว

เพราะนางแพศยาจ้าวเหมย!

สายตาอู่เยวี่ยดุดันเย็นยะเยือก รอเธอแข็งแกร่งมีอำนาจเป็นของตัวเองได้เมื่อไรจะต้องให้นางแพศยาจ้าวเหมยตายทั้งเป็น จะต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!

“แค่นมผงธัญพืชเอง ใครจะไม่เคยทานบ้าง” อู่เยวี่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เหมยเหมยหัวเราะคิกคักแต่สายตากลับจดจ้องลำคอของอู่เยวี่ยราวกับเจอเรื่องน่าสนุกเลยปรับเสียงดังขึ้น “โอหยางซานซาน ที่แท้บนตัวเธอไม่มีรอยสักเหรอเนี่ย ไหนว่าบนตัวเธอสักลายนกฟินิกซ์ไม่ใช่เหรอ?”

บรรดาแขกที่แสร้งทำเป็นไม่สนใจแต่กำลังเงี่ยหูแอบฟังอยู่ตัวสะท้านเฮือกและยืนนิ่งอยู่กับที่ แสร้งทำเป็นกระซิบกระซาบกันเอง

เฮ่อเหลียนเช่อสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยและไม่ชอบใจน้ำเสียงของเหมยเหมยอย่างมาก ทว่าก็เข้าทางเขาพอดี ยืนรับแขกมากมายขนาดนี้กลับไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ เวลานี้ประจวบเหมาะพอดีเลย

…………………………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท