ตอนที่ 1980 แบงค์กงเต็กเอาไหม
เหมยเหมยมองคุณยายถานอย่างดูแคลน ขึ้นเสียงแล้วพูดว่า “คุณยายคะ ทนายความที่คุณยายสอบถามนี่ไม่ได้เรื่องเลยนะคะ ทำไมเขาถึงไม่บอกข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับผู้หญิงที่ต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุกับคุณยายด้วยละว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ ถ้าไม่มีชีวิตแล้วจะเอาอะไรมาเลี้ยงดูคุณยายละคะ? หรือว่าเอาเงินกงเต็ก[1]เหรอ?”
พอนึกถึงเงินกงเต็ก เหมยเหมยก็คิดอะไรขึ้นมาได้จึงทำทีแสร้งหยิบของจากกระเป๋าล้วงเอาเงินกงเต็กที่เหลือจากครั้งที่ไปวางบนหลุมศพของพ่อสวีจื่อเซวียนออกมาจากมิติ เนื่องจากเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนซื้อมาเยอะเกิน เผาในระยะเวลาสั้น ๆคงไม่หมดเธอจึงเก็บเอาไว้ วันนี้มีโอกาสได้ใช้มันเสียที
“นี่ค่ะ มากขนาดนี้พอกินพอใช้ไหมคะ?”
เหมยเหมยยัดเงินกงเต็กก้อนโตปึกหนาใส่อ้อมอกของคุณยายถาน คุณยายถานสายตายาวเลยมองไม่ชัดแต่หลังจากเงินมาอยู่ในมือ เธอถึงเพิ่งเข้าใจจึงสะบัดมือทิ้งเหมือนกับถูกเงินกงเต็กทิ่มแทง
“แกมันนังคนชั่ว กล้าเอาเงินกงเต็กมาเล่นกับฉัน…ฉันจะฆ่าแก!”
คุณยายถานเป็นผู้หญิงเจ้าอารมณ์ จึงเลิกแขนเสื้อขึ้นเตรียมทะเลาะวิวาท เหมยเหมยทำหน้าทะเล้นใส่เธอ จากนั้นก็วิ่งไปหลบหลังเหยียนหมิงซุ่นทันที
ทุกเรื่องล้วนมีสามีคอยกำบังอยู่ด้านหน้า เธอมีหน้าที่แค่ขยับปากเท่านั้น!
เหยียนหมิงซุ่นแค่นเสียงเบา พร้อมกับส่งสายตาพิฆาตอันเย็นเยือกดั่งขั้วโลกเหนือไปให้คุณยายถาน…
คุณยายถานเก่งกว่าลูกชายลูกสาวของเธอเล็กน้อยแต่ต้านได้เพียงไม่กี่นาทีก็เข่าอ่อนล้มลงกับพื้น ความถืออำนาจบาตรใหญ่ก่อนหน้านั้นพลันหายไปหมดไม่มีเหลือ
ใบหน้าไร้เลือดฝาด คุณยายถานงุดหน้าลงด้วยความหวาดกลัวไม่กล้าสบสายตากับเหยียนหมิงซุ่นตรง ๆ
เมื่อกี้มีอยู่ช่วงหนึ่งคุณยายถานรู้สึกขึ้นมาจริง ๆว่าเหยียนหมิงซุ่นจะฆ่าเธอให้ตายได้ ซ้ำยังง่ายกว่าการฆ่ามดสักตัวหนึ่งด้วยซ้ำ
“ไสหัวไป อย่าริอาจจะคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้!” เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้พูดเสียงดังแต่คนตระกูลถานกลับไม่มีใครกล้าโต้ตอบแม้แต่คนเดียว เอาแต่ก้มหน้าหลบตา
“ฉันเป็นแม่ของซูฟาง…เธอจะต้องให้เงินเบี้ยชราฉันสิ!” คุณยายถานยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ บ่นพึมพำอย่างหัวรั้น น้ำตาของหญิงชราไหลพรากด้วยความเจ็บปวด
เพียงแค่ตอนนี้กลับไม่มีใครเห็นใจเธอแล้ว!
เหมยเหมยมุดออกมาอีกครั้งเอ่ยประชดเสียงดัง “สองคนที่อยู่ข้าง ๆคุณยายเป็นคนตายหรือไง? มีลูกชายลูกสาวอยู่ ยังจะบอกว่าไม่มีคนเลี้ยงจนแก่อีกเหรอ? สมองของคุณยายถูกลาถีบจนฟั่นเฟือนแล้วหรือไง?”
“พรืด”
ในกลุ่มแขกมีคนหลุดหัวเราะออกมาและพยายามฝืนมันเอาไว้ ถึงอย่างไรก็เป็นพิธีบำเพ็ญกุศลที่เคร่งครัด ไม่ควรเสียมารยาท เพียงแต่…
สาวสวยคนนั้นช่างพูดจาได้ตลกจริง ๆนี่นา!
คุณยายถานเถียงกลับอย่างโมโห “พวกมันหาเงินได้น้อย แค่ครอบครัวตัวเองยังดูแลไม่ไหวแล้วจะเอาเงินจากไหนมาเลี้ยงฉันกับตาแก่ล่ะ!”
เหยียนหมิงต๋ารีบพูดว่า “ผมจะ…”
เหยียนโฮ่วเต๋อผลักลูกชายคนเล็ก คำรามเสียงเบา “เกี่ยวอะไรกับแก หุบปาก!”
เหมยเหมยหัวเราะร่า “ลูกชายลูกสาวของคุณไร้ความสามารถแล้วจะโทษใครได้ล่ะ? คงต้องโทษที่คุณไม่มีปัญญาอบรมสั่งสอนพวกเขาตั้งแต่แรก บาปนี้คุณเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ตอนนี้ก็คงต้องลิ้มรสของความทุกข์ทรมานแล้วล่ะ!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้มีความอดทนพอที่จะเสวนากับคนตระกูลถานจึงหันไปพูดกับเหยียนหมิงต๋าว่า “เงินบำนาญของแม่นายให้ย่าเป็นคนเก็บ ห้ามให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น!”
“ครับ ผมจะกลับเอาไปให้คุณย่า” เหยียนหมิงต๋าตอบด้วยสีหน้าบึ้งตึง
แม้ว่าการตายของถานซูฟางจะทำให้เขารู้สึกไม่พอใจพี่ใหญ่ แต่ตั้งแต่เล็กจนโตเขาเคยชินต่อการที่จะต้องเชื่อฟังพี่ชายคนโตมาโดยตลอดจึงตกปากรับคำไปโดยไม่รู้ตัว
เหยียนโฮ่วเต๋อกระวนกระวายขึ้นมา “ย่าของแกอายุเยอะแล้วความจำไม่ดี ถ้าหากทำของแกหายจะทำไงล่ะ พ่อเก็บไว้ให้แกไปสู่ขอสะใภ้แล้วกัน!”
ครั้นเขายื่นมือออกไปหมายจะแย่งเงิน แววตาเย็นชาของเหยียนหมิงซุ่นพุ่งออกมาราวกับแสงเลเซอร์ เหยียนโฮ่วเต๋อตกใจจนต้องหดมือกลับแต่สายตายังคงจับจ้องอย่างละโมบ
คนที่ไม่เคยใช้ชีวิตลำบากมาก่อนไม่มีทางรับรู้ถึงความสำคัญของเงินทองหรอก พอเขาไปอาศัยอยู่ในเขตภูเขาทุรกันดานมาครึ่งค่อนปี เหยียนโฮ่วเต่อถึงตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่าการไม่มีเงินนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวเพียงใด
……………………………………………………………..
ตอนที่ 1981 ไม่ได้เงินสักแดงเดียว
เหยียนหมิงซุ่นมองพ่อแท้ ๆตรงหน้าอย่างนึกดูถูกดูแคลนแวบหนึ่ง ถ้าแม่ของตนมีความสัมพันธ์กับผู้ชายมากมายไร้ศีลธรรม เขาคงสงสัยว่าตนไม่ใช่ลูกแท้ ๆของเหยียนโฮ่วเต๋อไปแล้ว!
ทำไมถึงได้มีผู้ชายที่หน้าด้านไร้ยางอายขนาดนี้?
มีชีวิตอยู่ยังนับว่าเป็นเวรกรรมเสียด้วยซ้ำ!
“ฝังถานซูฟางเสร็จพ่อก็กลับไปทำงาน ช้าหนึ่งวันหักหนึ่งร้อยหยวน” เหยียนหมิงซุ่นพูดทิ่มแทงใจอย่างไม่ไว้หน้า ทำเอาเหยียนโฮ่วเต๋อเจ็บปวดใจเหมือนโดนมีดทิ่มแทง
เงินทั้งเดือนของเขาแค่แปดร้อยกว่าหยวน ถ้าหักไปแปดวันคงไม่เหลืออะไรแล้ว งั้นเขาจะใช้ชีวิตอย่างไรล่ะ?
ลูกชายคนโตของเขาใจเหี้ยมเหลือเกิน!
เหมยเหมยเบะปาก ต่อให้ใจเหี้ยมอย่างไรก็สู้ชายโฉดอย่างคุณไม่ได้หรอก คนใจดำอำมหิต!
สุสานของถานซูฟางอยู่ที่ภูเขาเฟิ่งหวง เหยียนหมิงซุ่นสั่งให้ลูกน้องจัดซื้อไว้ซึ่งเป็นเพียงสุสานธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ทั้งหมดเพราะเขาเห็นแก่เหยียนหมิงต๋า ไม่อย่างนั้นเหยียนหมิงซุ่นคงไม่สนใจหรอกว่าจะเอาเธอไปฝังไว้ที่ไหน
ภูเขาเฟิ่งหวงยังคงหน้าตาเหมือนชาติที่แล้วไม่มีผิดซึ่งมีการปรับแต่งเป็นสุสานตั้งแต่ปีที่แล้ว เพียงแต่ตำแหน่งภูเขาที่มีสุสานของเหมยเหมยในตอนนั้นถูกเหมยซูหานซื้อเอาไว้แล้ว เขาปลูกดอกลิลลี่ที่เหมยเหมยชื่นชอบมากที่สุดในชาติที่แล้วเต็มไปหมด ทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง…มีครบทุกสี
พอถึงฤดูใบไม้ผลิทีไรภูเขาแห่งนี้จะผลิบานไปด้วยดอกลิลลี่แล้วค่อย ๆกลายเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามประจำเมืองจิน
ฤดูใบไม้ผลิจะมีคนมาถ่ายรูปหรือวาดรูปประจำซึ่งเหมยซูหานก็เปิดให้พวกเขาเข้ามาตามอัธยาศัย มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือห้ามเด็ดดอกลิลลี่บนภูเขาแห่งนี้ เขาได้จ้างคนมาเฝ้าโดยเฉพาะ หากจับได้จะถูกสั่งห้ามไม่ให้ก้าวเข้ามาในเขตนี้อีกตลอดชีวิต
เหยียนหมิงซุ่นสังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของเหมยเหมยเลยก้มหน้ากระซิบถาม
เหมยเหมยถอนหายใจเฮือกหนึ่งพลางชี้ไปที่ภูเขาที่ห่างออกไปไกล “ในฝันฉันถูกฝังไว้ที่นั่น”
เหยียนหมิงซุ่นใจหล่นวูบรีบก้มหน้าดูเหมยเหมย พอเห็นว่าเธอยังยิ้มออกไม่ได้มีสีหน้าเศร้าสลดนักถึงสบายใจขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังรู้สึกปวดใจไม่หาย
“เธอว่างเกินไปถึงได้นึกถึงเรื่องในฝันอยู่เรื่อย คืนนี้เรามาออกกำลังกายให้หนักไปเลย…” เสียงแผ่วลงเรื่อย ๆ ลมร้อนปะทะซอกคอเธอจนขาอ่อนยวบ
เหมยเหมยรีบประกบมือทำท่าเหมือนสวดมนต์พลางกล่าวขอโทษภูตผีเทวดารอบทิศว่าอย่าได้คาดโทษเธอเลย!
“พี่ทำอะไรน่ะ ที่มันสุสานสาธารณะนะ ระวังคืนนี้จะมาหาพี่!”
เหมยเหมยยื่นแขนหยิกเอวเขาแรง ๆทีหนึ่ง กล้าหยอกเย้ากลางสุสานสาธารณะแบบนี้มันจริง ๆเลยนะ…
เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้วอย่างไม่ใส่ใจ เขาไม่กลัวคนชั่วช้าแล้วจะกลัวผีได้อย่างไร?
ส่วนทางเหยียนหมิงต๋ากราบไหว้เสร็จแล้ว ดวงตาแดงก่ำเช่นเดียวกับเหยียนโฮ่วเต๋อ แต่เขากำลังเศร้าใจแทนตัวเองที่ต้องไปที่ที่ห่างไกลทุรกันดารนั่นอีกแล้วมากกว่า เขาคงไม่มีวันกลับมาผงาดอีกไปจนวันตาย
ถ้ารู้ว่าจะมีวันนี้ต่อให้ตายอย่างไรเขาก็จะใช้ชีวิตกับโม่เหวินเซียงให้ดี!
ทุกอย่างเป็นเพราะนังแพศยาถานซูฟาง!
ตายไปก็สมน้ำหน้าแล้ว!
เหยียนโฮ่วเต๋อถลึงตาจ้องรูปถ่ายของถานซูฟานบนแท่นสุสานอย่างรังเกียจ ชีวิตของเขาต้องพังเพราะผู้หญิงคนนี้ ถึงตายไปก็ลบล้างความแค้นในใจเขาไม่ได้!
ต่อให้ไม่สมยอมอย่างไรแต่เหยียนโฮ่วเต๋อก็ก้าวขึ้นขบวนรถไฟสู่ทางใต้ ไม่รู้ต้องรอถึงชาติปางไหนถึงจะได้กลับมาเมืองจินอีกครั้ง
คนตระกูลถานยังอยากหาเรื่องอยู่แต่พวกเขาไม่มีความกล้านั่น ได้แต่มองเหยียนหมิงต๋าหอบเงินกลับเมืองหลวงอย่างนั้นด้วยความรู้สึกปวดใจ
พออู่เยวี่ยที่ดูแลครรภ์อยู่เมืองหลวงได้รับสายจากเมืองจินสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ไร้ประโยชน์สิ้นดี พ่ออย่าไปสนใจพวกเขาเลย เรื่องที่ฉันสั่งพ่อทำเสร็จหรือยัง?”
“จดทะเบียนบริษัทไปแล้วชื่อบริษัทภาพยนตร์เสินฮั่ว ตอนนี้รอแค่เงินทุน ถ้าเงินเข้าบัญชีเมื่อไรก็เริ่มงานได้เลย” ผู้ชายปลายสายเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
อู่เยวี่ยจุกอยู่ในอก ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องเงินเธอจะนึกถึงเงินหนึ่งล้านนั่นพลันก็เหมือนมีมีดมาปักอยู่กลางอก
“รีบร้อนอะไร? อีกไม่กี่วันก็เอาให้แล้ว” อู่เยวี่ยวางสายไปอย่างไม่สบอารมณ์
พวกไร้ประโยชน์ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จ ไม่ได้การ เธอต้องคิดวิธีหาเงินใหม่!
……………………..
[1] ธนบัตรที่ใช้เผาเซ่นไหว้ผู้ตาย