ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 1986 ฉันไม่มีพ่อบุญธรรมสักหน่อย + ตอนที่ 1987 ฉีกหน้ากากของเธอ

บทที่ 1986 ฉันไม่มีพ่อบุญธรรมสักหน่อย + ตอนที่ 1987 ฉีกหน้ากากของเธอ

ตอนที่ 1986 ฉันไม่มีพ่อบุญธรรมสักหน่อย

“คุณหนูจ้าวระวังคำพูดด้วย ภรรยาของฉันมาจากตระกูลผู้ดี งดงามสง่า แล้วจะมีรอยสักได้อย่างไร? โจวจื่อหัวจากฮ่องกงนั่นแค่พูดจาเหลวไหล คุณจ้าวเป็นคนฉลาดจะเชื่อคำพูดกลวง ๆอย่างนั้นได้อย่างไรเล่า?” เฮ่อเหลียนเช่อพูดเสียงเย็นชา

เหยียนหมิงซุ่นก้าวออกมายืนบังหน้าเหมยเหมยแล้วยิ้มเอ่ยกับเฮ่อเหลียนเช่อว่า “ไม่มีมูลคงไม่เกิดกระแส อีกอย่างโจวจื่อหัวไม่ใช่คนธรรมดา อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงเจ้าพ่อประจำถิ่นแล้วจะกล้าพูดจาเหลวไหลเหมือนอันธพาลตัวเล็กตัวน้อยได้อย่างไรกัน!”

เหมยเหมยพยักหน้าแรง ๆแล้วพึมพำเสียงเบา “นั่นสิ ๆ แมลงวันกินแต่ของเน่า โจวจื่อหัวทำไมไม่ไปว่าคนอื่นล่ะ?”

เฮ่อเหลียนเช่อตวัดตาคมกริบมาทันที เหมยเหมยตัวสะท้านแล้วรีบหลบหลังเหยียนหมิงซุ่น

ไม่กลัวหรอก เพราะฉันมีสามีคอยบังอยู่

“เหมยเหมยของฉันก็พูดไม่ผิด หรือว่าระหว่างนายกับโจวจื่อหัวมีเรื่องเข้าใจผิดแล้วยังเคลียร์กันไม่รู้เรื่องหรือเปล่า เอาแบบนี้แล้วกันฉันกับโจวจื่อหัวเคยผูกมิตรกันไว้บ้าง ถ้ามีเรื่องเข้าใจผิดฉันยอมเป็นตัวกลางช่วยเกลี่ยไกล่ให้แล้วกันนะ เป็นไงล่ะ?” เหยียนหมิงซุ่นแสร้งกล่าว

“คงไม่ต้องลำบากคุณชายหมิงหรอก โจวจื่อหัวเป็นโรคประสาท ไม่มีอะไรให้ต้องพูด” เฮ่อเหลียนเช่อกัดฟันแล้วปรายตามองไปยังเหมยเหมยที่หลบอยู่หลังเหยียนหมิงซุ่นแวบหนึ่งก่อนจะกระตุกยิ้มเย้ยหยัน

“ฉันก็ขอเตือนคุณชายหมิงระวังตัวหน่อยแล้วกัน ตอนนี้โจวจื่อหัวก็แค่หมาบ้าตัวหนึ่ง ไม่แน่สักวันเขาอาจจะกุข่าวเสียหายใส่ร้ายผู้หญิงของคุณชายหมิงก็ได้!” สายตาของเฮ่อเหลียนเช่อเต็มไปด้วยความปองร้าย

เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะทีหนึ่ง “คุณชายเช่อคิดมากไปแล้ว เหมยเหมยของฉันทำตัวสงบเสงี่ยมอยู่ในกรอบในเกณฑ์ดี ไม่ได้เที่ยวไหว้พ่อบุญธรรมไปทั่ว ไม่ได้ทำผิดเลยไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร แล้วจะไปกลัวคนร้ายกาจพวกนั้นทำไมกัน?”

เขาชะงักแล้วกวาดตามองอู่เยวี่ยแวบหนึ่งถึงแค่นเสียงกล่าว “อีกอย่างมีฉันอยู่ ใครมันจะไม่มีตามองกล้าวางแผนทำร้ายผู้หญิงของฉัน? อยากตายหรือไงกัน!”

เหมยเหมยอุ่นวาบที่หัวใจแล้วมองเฮ่อเหลียนเช่ออย่างรังเกียจ เกลียดจริง ๆเลย!

หางตาเหลือบเห็นลาดไหล่ที่ขาวผิดปกติของอู่เยวี่ย เหมยเหมยเลยหมุนตารอบหนึ่งก่อนจะมีแผนดี ๆในใจ แสร้งหยิบแก้วน้ำเก็บความร้อนจากกระเป๋าออกมา ต้องขอบคุณความใส่ใจของเหยียนหมิงซุ่นที่พอถึงฤดูหนาวก็จะสั่งให้เธอพกน้ำชาพุทราแดงทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ตอนนี้ถึงคราวได้ใช้ประโยชน์แล้วไง

“วันนี้อากาศหนาวขนาดนี้ ดื่มชาขับไอเย็นสักหน่อยดีกว่า”

เหมยเหมยดื่มชาไปก็ประเมินมองอู่เยวี่ยไป จงใจยิ้มเอ่ย “โอหยางซานซานเธอไม่หนาวเหรอ? ฉันใส่เสื้อเยอะขนาดนี้ยังหนาวแทบแย่ แต่เธอกลับโชว์ไหล่ขนาดนี้!”

อู่เยวี่ยลอบกัดฟันกรอด ทำไมเธอจะไม่หนาวกันล่ะ เธอหนาวจะตายอยู่แล้ว

แต่เธอจะยอมแพ้นางแพศยาต่อหน้าคนอื่นไม่ได้

หนำซ้ำเธอจะบอกว่าตัวเองหนาวต่อหน้าแขกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นการที่เธอใส่ชุดราตรีมาต้อนรับแขกจะกลายเป็นเรื่องตลกของคนทั้งเมืองหลวง

“คุณหนูจ้าวสุขภาพแย่เกินไปแล้ว ฉันไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิด” อู่เยวี่ยแสร้งทำท่าเหมือนไม่เป็นอะไรแล้วยังจงใจคลี่ผ้าคลุมออกหน่อยเผยให้เห็นเนื้อหนังมากกว่าเดิม

บรรดาแขกกระซิบกระซาบเสียงเบาก่อนจะเริ่มสงสัยในคำพูดของโจวจื่อหัว คุณนายเฮ่อเหลียนไม่มีรอยสักบนไหล่และไม่มีไฝสีแดงอย่างว่าสักหน่อย คงไม่ใช่ชู้รักคนนั้นแน่ ๆ!

พวกเขาว่าแล้วเชียว คุณชายเช่อคงไม่ได้สายตาแย่ขนาดนั้นหรอก!

เฮ่อเหลียนเช่อหูดีได้ยินคำกระซิบกระซาบของคนพวกนี้ชัดเต็มสองหูเลยจุดยิ้มอย่างพึงพอใจ บรรลุจุดประสงค์ของเขาในวันนี้แล้ว

เหยียนหมิงซุ่นย่อมได้ยินชัดเต็มสองหูด้วยเช่นกันเลยลอบแสยะยิ้มไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่รอดูเรื่องสนุก ๆต่อไปเงียบๆ!

ยายตัวแสบของเขาคงไม่ยอมจบง่าย ๆหรอก!

“โอ๊ย ฉันเวียนหัว…”

จู่ ๆ เหมยเหมยก็ร้องขึ้นมาตัวเซเอนเอียงไปอีกข้างซึ่งเป็นฝั่งที่อู่เยวี่ยยืนอยู่พอดี

………………………

ตอนที่ 1987 ฉีกหน้ากากของเธอ

บรรดาแขกสีหน้าเปลี่ยนไป นี่มันละครฉากใหญ่อะไรกัน?

เฮ่อเหลียนเช่อไหวตัวหมายจะยกเท้าถีบเหมยเหมยออกแต่เหยียนหมิงซุ่นกลับไวกว่ารั้งเหมยเหมยมาอยู่ในอ้อมแขน เพียงแต่น้ำชาในแก้วกลับหกใส่ตรงซอกคอบ่าไหล่ของอู่เยวี่ยพอดิบพอดี

น้ำสาดเป็นวงกว้างแล้วหยดลงบนเสื้อคลุมไหล่จุดสีแดงเรียงรายอย่างสวยงาม

อาหารบำรุงชั้นดีเก๋ากี่ที่ผู้บังคับบัญชาการใหญ่เหยียนเตรียมไว้ให้ภรรยาสุดรักล้วนหกอยู่บนเสื้อคลุมไหล่ขนมิงค์ตัวนี้หมดแล้ว

“เฮ้ย ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันจะเช็ดให้นะ…”

เหมยเหมยตาไวมือไวรีบฉุดอู่เยวี่ยไว้ก่อนที่หล่อนจะเข้าห้อง หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมไว้แต่แรกเช็ดน้ำบนลำคอให้หล่อน เธอเช็ดอย่างแรงไม่มีท่าทีจะทะนุถนอมสักนิด

“จ้าวเหมยเธอทำอะไร…ปล่อยฉันนะ!”

อู่เยวี่ยคิดจะขืนตัวให้หลุดแต่กลับถูกกระชากไว้อย่างเหนียวแน่น พอจุดที่ถูกน้ำชาหกใส่ถูกลมพัดเข้าก็เย็นราวกับมีน้ำแข็งวางอยู่ หนาวจนเธอปากสั่นฟันกระทบกัน

“ขอโทษ…ขอโทษ ฉันจะช่วยเช็ดน้ำให้สะอาดเลย ถ้าเป็นหวัดละฉันแย่เลย ใกล้เสร็จแล้ว”

เหมยเหมยปากบอกขอโทษแต่มือกลับไม่รอช้ารีบเร่งความไวให้เร็วขึ้น เฮ่อเหลียนเช่อฉลาดไม่นานก็รู้ทันจุดประสงค์ของเหมยเหมยเลยสีหน้าเปลี่ยนไปยื่นมือหมายจะห้ามเหมยเหมย

“คุณชายเช่ออย่ากังวลใจไป คุณนายไม่กลัวความหนาว สุขภาพร่างกายแข็งแรงขนาดนี้ น้ำแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก”

เหยียนหมิงซุ่นรุดก้าวน้ำไปหนึ่งก้าว ดูท่ากำลังพูดขำ ๆแต่กลับใช้ร่างขวางเฮ่อเหลียนเช่อเอาไว้

“เหลวไหล วันอากาศหนาวขนาดนี้น้ำหกใส่จะไม่เป็นไรได้ไง? เหยียนหมิงซุ่น ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรไป ฉันไม่ปล่อยพวกแกสองคนไว้แน่!” เฮ่อเหลียนเช่อร้อนรนเหลือเกิน เขาวางแผนมาตั้งนานจะล้มเหลวไม่ได้

เหมยเหมยกระชากตัวอู่เยวี่ยไว้แน่นทำให้อีกฝ่ายกระดิกตัวไม่ได้แม้แต่น้อย มือยังขยับเช็ดไปเรื่อย ๆทำให้ผิวที่ขาวเนียนในทีแรกเริ่มขึ้นสีแดงคล้ำและผิวตะปุ่มตะป่ำบางจุดเริ่มปรากฎขึ้นมา

เพียงแค่จุดที่เช็ดออกยังไม่มาก หากไม่สังเกตอาจจะมองไม่เห็นได้เลยต้องเช็ดออกให้มากกว่านี้

เหมยเหมยจำจุดที่ตนเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองกับมือได้อย่างแม่นยำเลยเลือกเช็ดจุดที่แผลเยอะที่สุดพร้อมเร่งความเร็ว เธอได้ยินถ้อยคำของเฮ่อเหลียนเช่อเลยจงใจพูดเสียงดัง “คุณชายเช่อไม่ต้องกังวลไปหรอก เมื่อกี้ภรรยาของคุณเพิ่งบอกว่าไม่หนาวเลยสักนิด คุณดูสิวันอากาศหนาว ๆแบบนี้เธอยังใส่แค่ชุดตัวบางออกมา ดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลย เก่งจะตายไป!”

แขกคนอื่นที่แต่เดิมคิดว่าเหมยเหมยค่อนข้างซุ่มซ่าม พอได้ฟังคำของเธอกลับไม่คิดอย่างนั้นแล้ว

นั่นน่ะสิ พวกเขาใส่เสื้อโค้ทตัวหนายังหนาวจนตัวสั่นแต่คุณนายเฮ่อเหลียนใส่ชุดปาดไหล่ แล้วยังมีท่าทีเฉยเมยไม่สะทกสะท้านอะไร ซึ่งบ่งบอกว่าเธอไม่กลัวหนาวจริง ๆ ไม่อย่างนั้นจะใส่ชุดนี้ได้อย่างไรกันล่ะ?

“แบบนี้แหละ คนท้องหงุดหงิดง่ายเลยไม่กลัวหนาวเท่าไรเมื่อเทียบกับคนทั่วไป” คนที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อนเอ่ยขึ้นโดยมีคนอื่น ๆพยักหน้าตาม

เฮ่อเหลียนเช่อคร้านจะฟัง เขาเห็นแล้วว่าแผลตรงซอกคอของอู่เยวี่ยใกล้จะปิดไม่มิดก็ยิ่งร้อนใจ แม้แผลพวกนี้ไม่ได้มาจากการลบรอยสักแต่คนอื่นคงไม่คิดอย่างนั้น ต้องคิดว่าพวกเขาจงใจปกปิดหลักฐานและจะทำให้ความพยายามของเขาต้องสูญเปล่า

“เหยียนหมิงซุ่นแกคิดจะหาเรื่องเหรอ? หลีกไป!”

เฮ่อเหลียนเช่อถลึงตาโตตั้งท่าเตรียมรบ

อู่เยวี่ยเองก็พยายามขืนตัวออกแต่เธอเป็นห่วงเด็กในท้องเลยไม่กล้าใช้แรงมากจึงทำให้ขืนตัวไม่สำเร็จ เธอจึงทั้งโกรธทั้งร้อนใจ

“เอ๋…โอหยางซานซานทำไมบนคอเธอมีรอยแผลเยอะขนาดนี้ล่ะ? โอ้โห มีแต่รอยแผลเต็มไปหมดเลย ดูจากรูปร่างลักษณะคล้ายนกตัวโตเลยนะ โอหยางซานซานแผลพวกนี้มาจากไหนเหรอ?”

ในที่สุดเหมยเหมยก็เช็ดคอนซีลเลอร์ที่ใช้ปกปิดรอยแผลบนไหล่ของอู่เยวี่ยจนสะอาด เผยให้เห็นรอยแผลตะปุ่มตะป่ำสีดำคล้ำในตอนแรก หากดูไกล ๆจะมองเห็นไม่ค่อยชัดนักแต่หากดูใกล้ ๆค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว

………………………..

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท