ตอนที่ 2004 เด็กคนนี้มีปัญหา
อู่เยวี่ยมองเหมยเหมยอย่างลำพองใจ พูดตามตรงเธอเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าลูกที่ตัวเองคลอดออกมาจะหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มถึงเพียงนี้ นี่ทำให้อู่เยวี่ยรู้สึกว่าสวรรค์คงเห็นว่าเธอน่าสงสารเกินไปจึงส่งเด็กที่เหมือนกับเทวดาลงมาช่วยเธอ
เหมยเหมยรู้สึกถึงความลำพองใจที่อยู่ในใจของอู่เยวี่ยพลันรู้สึกจุกอก พระเจ้าช่างตาบอดจริง ๆ ความเป็นไปได้อันน้อยนิดขนาดนี้อู่เยวี่ยยังโชคดีได้
ทันใดนั้น——
เด็กในอ้อมแขนของอู่เยวี่ยก็ลืมตาขึ้นมองเหมยเหมยด้วยความพร่าเบลอจนถึงขั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับกำลังขบคิดอะไรอยู่และเหมือนกับกำลังเพ่งพินิจพิจารณา ช่างน่ารักเสียจนใคร ๆก็อยากสัมผัสเขาอย่างอดใจไม่ไหว
“คุณชายเช่อช่างวาสนาดีเสียจริง ดูสิว่าเด็กคนนี้น่ารักขนาดไหน!”
แขกคนอื่น ๆต่างก็ยอมรับในความน่ารักที่ไม่มีใครเทียมได้ แทบไม่มีใครไม่เอ็นดูเขาเลย พร้อมทั้งชมไม่หยุดปาก
เฮ่อเหลียนเช่อลำพองใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้รู้สึกว่าคนเหล่านี้พูดเกินจริงเลยสักนิด เขาเองก็คาดไม่ถึงว่าน้องชายของเขาจะหน้าตางดงามดั่งเทวดาลงมาจุติบนโลกแห่งความจริงนี้
ไม่สิ เพราะเทวดายังดูดีสู้น้องชายของเขาไม่ได้เลย!
จู่ ๆเทวดาตัวน้อยก็อ้าปากหาวอย่างน่ารัก อมยิ้มน้อย ๆ ความงดงามนี้ดั่งภาพวาดยังไงอย่างนั้น
เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้เขาพลันรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะละลาย จนลืมความเกลียดชังที่มีต่อพ่อแม่ของเด็กคนนี้จนหมดสิ้น!
อู่เยวี่ยยิ่งรู้สึกลำพองใจขึ้นไปอีก เธอจงใจกระชับอ้อมกอดลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเพราะไม่อยากให้เหมยเหมยเห็นลูกของเธอ
ราวกับว่าตอนนี้เธอเป็นเจ้าของสมบัติสุดล้ำค่าหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ และนังแพศยาจ้าวเหมยกลับไม่มีอะไรเลย ความน้อยเนื้อต่ำใจในอดีตได้ย้อนกลับคืนไปแล้ว
ในใจของเหมยเหมยรู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ใจยิ่งกว่าเดิม เพราะเธออิจฉามากจริง ๆ
หากรู้ว่าอู่เยวี่ยจะมีลูกที่หน้าตาน่ารักขนาดนี้ ตีให้ตายเธอก็จะไม่มาให้ทรมานใจตนเองแบบนี้หรอก
“ลูกของคุณหนูจ้าวกับคุณชายหมิงต้องหน้าตาน่ารักมากแน่ ๆ!” อู่เยวี่ยจงใจเอ่ยขึ้น
เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงเบา “ก็ไม่แน่หรอก ถ้าเอายีนส์ด้อยของทั้งคู่มารวมกันยังไม่รู้เลยว่าหน้าตาจะเป็นแบบไหน!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ยอมเสียเปรียบ “ลูกชายของฉันจะเป็นอย่างไรคงไม่ต้องรบกวนให้คุณชายเช่อมาห่วงหรอก เพราะไม่ว่าจะหน้าตาดีร้ายอย่างไรก็เป็นลูกของฉัน เพราะเช่นนั้นจะหน้าตาแบบไหนก็ได้ ผู้ชายไม่ได้อาศัยแค่รูปลักษณ์สักหน่อย”
เขาเน้นคำว่าลูกชายของเขาชัดถ้อยชัดคำแล้วมองเด็กที่อยู่ในอ้อมอกของอู่เยวี่ย เฮ่อเหลียนเช่อใจหล่นวูบพลันรู้สึกขาดความมั่นใจขึ้นมาทันที
หรือว่าเจ้าบ้าเหยียนหมิงซุ่นจะรู้อะไรเข้า?
อู่เยวี่ยกลับได้ยินเช่นนั้นก็โมโหขึ้นมา ตอนนี้ในตระกูลหนิงเธอมีสถานะแตกต่างจากในอดีตแล้วจึงมีความกล้าขึ้นมาก พูดจาอะไรแน่นอนว่าต้องมีความมั่นใจขึ้น
“คุณชายหมิงหมายความว่าไงคะ? หรือว่าคุณจะบอกว่าลูกของฉันไม่ใช่สายเลือดตระกูลหนิงงั้นเหรอ? คุณชายหมิงคุณคิดมากเกินไปแล้ว”
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มเล็กน้อยแฝงนัยยะบางอย่าง “คุณนายเฮ่อเหลียนอย่าเพิ่งโมโหไป ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่สายเลือดตระกูลหนิงเสียหน่อย เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกชายของใครก็แค่นั้น”
เฮ่อเหลียนเช่อสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เขามั่นใจแล้วว่าเหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าเขาแอบทำการสับเปลี่ยนบางอย่างลับ ๆแน่นอน หากเขาบอกหนิงเฉินเซวียนละก็…
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มให้เฮ่อเหลียนเช่อเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนคำพูดว่า “ฉันล้อเล่นคุณนายเฮ่อเหลียน เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณชายเช่อแล้วจะเป็นลูกของใครได้ล่ะ? คุณหนิงก็ไม่ได้มีงานอดิเรกปีนขึ้นเตียงลูกสะใภ้เสียหน่อยใช่ไหมครับ?”
เฮ่อเหลียนชิงเองก็รีบเข้ามาร่วมสร้างความวุ่นวายด้วย เอ่ยเสียงแหลมสูงขึ้นว่า “ก็ไม่เสมอไปนะ ตาแก่หนิงสารเลวนี่ชอบแย่งเมียคนอื่น!”
“พวกแกคิดจะมาทำอะไรกันแน่? ถ้าแค่มาก่อความวุ่นวายก็กรุณาไสหัวไปเถอะ ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างพวกแก!” หนิงเฉินเซวียนพุ่งเข้ามาด่ายกใหญ่ด้วยใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความโกรธ
เฮ่อเหลียนชิงยักไหล่แต่กลับไม่พูดอะไรอีก แล้วดื่มกินอาหารต่อไปอย่างว่าง่าย
ฉิวฉิวที่กินเนื้ออิ่มหนำสำราญแล้วก็ไม่รู้ว่ากระโดดเข้าอ้อมแขนของเหมยเหมยตั้งแต่เมื่อไร จากนั้นก็เหลือบมองเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของอู่เยวี่ยแล้วพูดขึ้นว่า “เด็กคนนี้มีปัญหา”
…………………………………………..
ตอนที่ 2005 ตาบอดแต่กำเนิด
เหมยเหมยตกใจแล้วรีบถามฉิวฉิวอย่างร้อนใจว่าเกิดอะไรขึ้น เวลานี้จิตใจของเธอกลับไม่ได้ดีใจขนาดนั้น
ถ้าหากได้ยินว่าเด็กคนนี้สุขภาพไม่แข็งแรงก่อนหน้าจะมาร่วมงานเลี้ยงครบเดือน เธอคงมีความสุขมากแน่นอน แต่ตอนนี้พอได้เห็นเด็กแล้วเธอกลับใจร้ายอำมหิตไม่ลง!
เธอไม่ต้องการให้เด็กที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มคนนี้ได้รับความเจ็บปวดใด ๆ เธอหวังว่าเด็กคนนี้จะมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง
ต่อให้เขาจะเป็นลูกของอู่เยวี่ยก็ตาม!
“เด็กคนนี้ตาบอดตั้งแต่เกิด” ฉิวฉิวพูดอย่างมั่นใจ
ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีทักษะทางการแพทย์ลึกซึ้งอะไรแต่ลูกตาของเด็กคนนี้ไม่มีการขยับ แค่แวบเดียวมันก็มองออกแล้ว
และมีบางอย่างที่ฉิวฉิวยังไม่ได้พูดออกมาเพราะมันยังไม่แน่ใจ มันสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติบนร่างกายของเด็กคนนี้ ทำให้มันไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ตาบอดตั้งแต่เกิด?
เหมยเหมยตกตะลึงเป็นอย่างมาก “แกไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม?”
คาดไม่ถึงเลยว่าเด็กที่หน้าตางดงามขนาดนี้จะตาบอดตั้งแต่เกิด น่าเสียดายจัง
ฉิวฉิวไม่พอใจอยู่บ้าง “ฉันจะมองผิดได้ไง เด็กคนนี้ตาบอดตั้งแต่เกิด แถมยังมีปัญหาอื่นอีกด้วย”
“ปัญหาอะไร?”
“ตอนนี้ยังไม่รู้ รอจนเด็กคนนี้โตขึ้นกว่านี่หน่อยฉันถึงจะมองออก”
เหมยเหมยรู้ความสามารถของฉิวฉิวดี หากมันพูดแบบนี้ก็แสดงว่าเด็กคนนั้นจะต้องมีปัญหาแน่นอน การคาดเดาก่อนหน้านี้ทั้งของเธอและเหยียนหมิงซุ่นต่างก็ถูกต้องทั้งหมด
เด็กคนนั้นสุขภาพไม่แข็งแรงจริง ๆด้วย!
เหมยเหมยมองไปทางเด็กคนนั้นอีกครั้ง ดวงตากลมโตไม่ใช่สีดำขลับแต่มีสีเหลืองอำพันเล็กน้อย สวยงามราวกับฟากฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่กลับ…
ไม่รู้ว่าพวกหนิงเฉินเซวียนสังเกตเห็นจุดนี้หรือยัง?
คิด ๆแล้วคาดว่าคงยังไม่รู้เพราะไม่อย่างนั้นหนิงเฉินเซวียนคงจะไม่มีความสุขขนาดนี้ ทายาทสืบทอดที่ตาบอดตั้งแต่เกิด ต่อให้จะมีความสามารถเก่งกาจแค่ไหนแล้วจะอย่างไรเล่า?
ถ้าหากหนิงเฉินเซวียนรู้ว่าเด็กคนนี้ตาบอดตั้งแต่เกิด ด้วยนิสัยของเขาแล้วไม่แน่ว่าอาจจะกำจัดเด็กคนนี้ทิ้ง เหมยเหมยเสียวสันหลังวาบตัวสั่นสะท้าน และไม่กล้าคิดอีกต่อไป
เรื่องที่เด็กคนนี่ตาบอดตั้งแต่เกิดไม่สามารถพูดออกมาได้ ถ้าพูดออกมาเขาต้องตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
อยู่ดี ๆเด็กน้อยก็หันมายิ้มให้เหมยเหมย ถึงแม้จะบอกว่าเด็กที่เพิ่งครบหนึ่งเดือนเต็มจะยังไม่ยิ้มแต่เป็นเพราะกล้ามเนื้อกระตุกโดยไม่รู้ตัวเท่านั้น แต่เหมยเหมยกลับมั่นใจว่าเด็กคนนี้กำลังยิ้มให้เธออยู่จริง ๆ
เหมยเหมยเองก็ยิ้มขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ อู่เยวี่ยก็ยิ่งรู้สึกลำพองใจแล้วเอาผ้ามาคลุมหน้าลูกไว้เพื่อไม่ให้เหมยเหมยมองอีก
“ในเมื่อคุณหนูจ้าวชอบเด็กมากขนาดนี้ งั้นก็มีเองสักคนสิ ลูกของคนอื่นต่อให้ดูดีแค่ไหนก็เป็นลูกของคนอื่น”
อู่เยวี่ยเอ่ยขึ้นอย่างมีเจตนาแอบแฝง เยาะเย้ยที่เหมยเหมยไม่มีลูกเป็นของตัวเอง
“ในสายตาของฉัน ไม่ว่าจะเป็นลูกของใครก็ล้วนเป็นนางฟ้าเทวดาตัวน้อยที่น่ารัก ฉันชอบทั้งนั้นแหละ คุณนายเฮ่อเหลียนคิดมากไปแล้ว”
เหมยเหมยไม่ได้ทำตัวเย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ได้ทำตัวต่ำต้อย คำพูดของเธอได้รับคำชมจากผู้คนมากมาย แต่สิ่งที่เธอพูดนั้นมาจากใจของเธอจริง ๆ เดิมทีเธอก็ชอบเด็กอยู่แล้ว คำสาปแช่งด่าทอที่เธอมีต่อลูกของอู่เยวี่ยก่อนหน้านี้ทั้งหมดมันทำให้เธอรู้สึกเสียใจในตอนนี้
อู่เยวี่ยแค่นเสียงในลำคอ นังคนปากแข็ง แต่เธอก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าในอนาคตนังแพศยาจ้าวเหมยจะคลอดตัวอะไรออกมา!
“อืม…”
ทันใดนั้นเด็กที่นอนหลับอย่างเงียบ ๆก็บิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดแต่กลับไม่ปริเสียงร้องสักแอะ กำปั้นเล็ก ๆกำแน่นพร้อมกับบิดตัวไปมาไม่หยุด ดูท่าทางเจ็บปวดมาก มันเหมือนกับว่ากำลังจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้น
สีหน้าของอู่เยวี่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อยพูดกับเฮ่อเหลียนเช่อว่า “ฉันพาลูกกลับไปกินนมก่อนนะ”
เฮ่อเหลียนเช่อขมวดคิ้วเล็กน้อย พยักหน้าแล้วให้อู่เยวี่ยกลับห้องไป
เด็กในอ้อมอกของอู่เยวี่ยยังคงบิดตัวไปมาไม่หยุดและดิ้นพล่านแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหมยเหมยรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของเด็กคนนั้น เธอรู้สึกว่ามันแปลกมาก ทำไมเด็กคนนั้นถึงไม่ร้องไห้นะ?