ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2012 เสี่ยวเป่าคือที่พึ่งของอู่เยวี่ย + ตอนที่ 2013 แมงมุมแม่ม่ายดำ

บทที่ 2012 เสี่ยวเป่าคือที่พึ่งของอู่เยวี่ย + ตอนที่ 2013 แมงมุมแม่ม่ายดำ

ตอนที่ 2012 เสี่ยวเป่าคือที่พึ่งของอู่เยวี่ย

หมอเกามีท่าทีลังเล เวลาล่วงเลยไปนานเขาก็ไม่ยอมขยับเท้าสักที เขารู้สึกสับสับเป็นอย่างมาก ความรู้สึกกับความผิดชอบชั่วดีตีกันไปมาจนลากยาวไม่จบไม่สิ้น

เขาชอบอู่เยวี่ยและไม่อยากเห็นเธอตาย

แต่เขาก็ไม่กล้าทำร้ายเด็กทารกตัวน้อยในผ้าอ้อม โดยเฉพาะเสี่ยวเป่าผู้งดงามเหมือนเทวดาตัวน้อย เขากล้ำกลืนเหมือนอยู่ในนรกทุกวัน หวังอยากให้ตัวเองตาย ๆไปในเร็ววันถึงจะดี

“เราคิดหาวิธีอื่นดีกว่าไหม?” หมอเการ้องขออีกครั้ง

ความอึดอัดใจจุกอยู่ในอกของอู่เยวี่ย เธอรู้สึกโกรธเกลียดผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก ก็เป็นแค่เศษสวะ ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้ยังใช้งานได้อยู่ เธอคงกำจัดเจ้าหมอนั่นทิ้งไปแล้ว

อู่เยวี่ยหยิกเข้าที่เนื้อขาด้านใน ขอบตาแดงก่ำจนแลดูน่าสงสาร

“คุณคิดว่าฉันอยากทำร้ายเสี่ยวเป่าเหรอ? เสี่ยวเป่าเป็นลูกชายสุดที่รักที่ฉันคลอดออกมาอย่างยากลำบาก ฉันรักเขามาก ฉันจะเต็มใจทำร้ายเขาได้อย่างไร?”

น้ำตาของอู่เยวี่ยไหลพรากพร้อมจ้องมองเสี่ยวเป่าในอ้อมอกอย่างอาลัยอาวรณ์ ร้องไห้พร้อมกล่าวว่า “คุณเคยคิดไหมถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันก็ไม่อาจจะอยู่เคียงข้างและเติบโตไปพร้อมกับเสี่ยวเป่าได้ แค่ฉันคิดว่าจะต้องแยกจากกับเสี่ยวเป่าโดยมีความเป็นความตายมาขวางกั้น หัวใจของฉันก็เหมือนถูกมีดทิ่มแทง คุณว่ามาสิว่าฉันควรทำอย่างไร?”

เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าร้องไห้ฟูมฟาย ใจของหมอเกาก็แหลกสลาย

สิ่งที่อู่เยวี่ยพูดล้วนเป็นความจริง เพราะมันคือความจริง เขาถึงได้ลังเลเช่นนี้

“ถ้างั้นพวกเราคิดหาวิธีอื่นดีกว่าไหม? คิดหาวิธีที่ดีต่อกันทั้งสองฝ่าย ได้ไหม?”

“ถ้ายังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ คุณคิดว่าฉันเต็มใจที่จะทำแบบนี้เหรอ?” อู่เยวี่ยหยิกเข้าที่ขาตัวเองอีกครั้ง น้ำตาไหลอาบหน้ามากกว่าเดิม ในใจรู้สึกอึดอัดมาก ตอนนี้เธอเหลือตัวคนเดียวไม่มีใครเป็นที่พักพิง จึงจำเป็นต้องพึ่งพาคนไร้ประโยชน์อย่างหมอเกา

หมอเกาถอนหายใจลากยาว เขาเองก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว เสียงร้องไห้ของอู่เยวี่ยทำให้เขาว้าวุ่นใจจึงจำต้องใจร้ายหยิบเอายาน้ำที่เตรียมไว้อยู่เนิ่นนานออกมา

“เธอใช้ก่อนแล้วกัน ฉันจะไปหาข้อมูลอื่นดูว่าพอจะมีวิธีอื่นอีกหรือเปล่า” หมอเกาไม่กล้ามองเสี่ยวเป่า จำต้องเบือนหน้าหนี

อู่เยวี่ยแอบยิ้มชั่วร้าย แต่ใบหน้ากลับแสดงออกว่าขอบคุณและรับเอายามา

“คุณพยายามใช้ให้น้อยหน่อย อย่าทาเยอะเกินล่ะ” หมอเกากำชับ

อู่เยวี่ยคิดบางอย่างออกเหลือบมองหมอเกา ถอดเสื้อตัวที่ไม่ได้ติดกระดุมนั้นออก ยิ้มอ่อน ๆและเอ่ยว่า “งั้นคุณก็มาทาให้ฉันสิ!”

หมอเกาหน้าแดงเคอะเขินขึ้นมาทันที ลมหายใจหอบถี่ขึ้น จิตใต้สำนึกร้องบอกเขาว่าไม่ควรทำเช่นนี้อีกแล้ว แต่สัญชาตญาณร่างกายของเขากลับพุ่งไปหาอู่เยวี่ย มือที่สั่นระริกเริ่มขยับทายาให้

“อืม…คุณอ่อนโยนจัง…ฉันไม่เหลือใครให้ไว้ใจได้อีกแล้ว มีแค่คุณเท่านั้น คุณต้องช่วยฉันนะคะ…”

อู่เยวี่ยจงใจเลิกเสื้อออกให้กว้างขึ้นพร้อมกับวางเสี่ยวเป่าไว้บนเตียง และเลียเบา ๆที่กกหูของหมอเกา

เฮ่อเหลียนเช่อและหนิงเฉินเซวียนปรึกษากันอยู่เนิ่นนาน ก็ยังปรึกษาหาวิธีที่ดีออกมาไม่ได้ คนทั้งคู่ต่างก็หมดความอดทน

“แข็งใจฆ่าอู่เยวี่ยให้ตายไปเลย ผมไม่เชื่อหรอกว่าถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้ เสี่ยวเป่าจะไม่กินนม!” เฮ่อเหลียนเช่อพูดขึ้นด้วยความขุ่นเคือง

หนิงเฉินเซวียนส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไม่ได้ ตอนนี้เสี่ยวเป่ายังกินนมอยู่ ถ้าหากว่าเขาไม่ยอมกินนมของผู้หญิงคนอื่นจริง ๆ แกจะให้เขาหิวตายเหรอ?”

ในใจของหนิงเฉินเซวียน เสี่ยวเป่าคือที่หนึ่ง มีค่ามากยิ่งกว่าชีวิตของเขา เขาไม่มีทางใช้หลานชายเป็นหนูทดลองแน่นอน

“งั้นจะทำอย่างไรดีล่ะ? จะปล่อยให้คนชั่วอย่างนังนี่มีชีวิตอยู่ต่อไปเหรอ?” เฮ่อเหลียนเช่อเถียงกลับอย่างไม่พอใจ ตอนแรกคนที่ต้องการฆ่าอู่เยวี่ยคือหนิงเฉินเซวียน แต่ตอนนี้กลับปฏิเสธ แล้วจะเอาไงกันแน่?

……………………………………………….

ตอนที่ 2013 แมงมุมแม่ม่ายดำ

หนิงเฉินเซวียนจ้องเขาอย่างดุดัน “ถ้าตอนนั้นแกเชื่อฟังฉัน ขอผู้หญิงคนอื่นแต่งงาน ตอนนี้จะเกิดปัญหาวุ่นวายมากขนาดนี้เหรอ?”

“ขอผู้หญิงคนอื่นแต่งงาน อาจจะคลอดลูกออกมาไม่ได้เหมือนเสี่ยวเป่าก็ได้นะครับ!” เฮ่อเหลียนเช่อบ่นอุบอิบเสียงเบา

หนิงเฉินเซวียนสะอึก คิด ๆดูแล้วมันก็ใช่ ถึงแม้ว่ายัยชั่วอู่เยวี่ยจะไม่ได้ว่านอนสอนง่ายแต่กลับดูถูกท้องของเธอไม่ได้เลย เสี่ยวเป่าที่คลอดออกมาเป็นที่เอ็นดูชื่นชอบของคนไม่น้อย!

ท้องของหญิงสาวคนอื่น ๆอาจจะไม่ได้ดีถึงเพียงนี้ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วตอนนั้นที่เฮ่อเหลียนเช่อดึงดันจะแต่งงานกับอู่เยวี่ยก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นเขาจะมีหลานชายที่ดีขนาดนี้เหมือนเสี่ยวเป่าเหรอ?

หนิงเฉินเซวียนขบคิดอยู่สักพักถึงได้ตัดสินใจว่า “ก่อนที่เสี่ยวเป่าจะหย่านม ห้ามทำอะไรอู่เยวี่ยเป็นการชั่วคราว หลังจากเสี่ยวเป่าหย่านมแล้วค่อยว่ากันอีกที”

เพื่อหลานชายแล้ว เขาสามารถทนให้อู่เยวี่ยมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกหลายเดือน สิ่งที่เขามีคือความอดทน

สำหรับหนิงเฉินเซวียนแล้วอู่เยวี่ยก็เป็นแค่มดตัวหนึ่ง เขาอยากจะให้มันตายมันก็ต้องตาย อยากจะให้มันรอดมันก็ต้องรอด ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา

แต่เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าอู่เยวี่ยไม่ใช่แค่มดตัวหนึ่ง เธอคือแมงมุมแม่ม่ายดำที่มีพิษร้ายแรงคนหนึ่ง!

แม้ว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะไม่พอใจแต่ก็ทำได้แค่นี้ เขารู้สึกเจ็บปวดในใจ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกชายแท้ ๆ สิ่งดี ๆที่หนิงเฉินเซวียนปฏิบัติต่อเสี่ยวเป่าทำให้เขารู้สึกหึงหวง

แต่เขาไม่กล้าแสดงออกมาให้เห็น นี่คงจะเป็นได้แค่ความลับตลอดไป จนถึงวันตายก็ไม่อาจพูดได้

เหมยซูหานอยู่บ้านทำกับข้าวไว้เต็มโต๊ะซึ่งล้วนเป็นของที่เฮ่อเหลียนเช่อชอบกินทั้งนั้น เขานั่งลงข้างโต๊ะ จ้องมองกับข้าวที่มีไอร้อนพวยพุ่งพลางลอบถอนหายใจ

เป็นเพราะเสี่ยวเป่าช่วงนี้เฮ่อเหลียนเช่อจึงมาหาเขาที่นี่น้อยครั้งนัก แล้วก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มักจะหาเวลาว่างมาอยู่กับเขา แม้จะเชื่อในความรู้สึกที่เฮ่อเหลียนเช่อมีต่อเขา แต่เหมยซูหานก็ยังรู้สึกหดหู่อยู่ดี มากกว่านั้นคือความรู้สึกโทษตัวเองและความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

เพราะเขาไม่สามารถมีลูกให้เฮ่อเหลียนเช่อได้ และเขาก็ไม่สามารถยืนอยู่เคียงข้างเฮ่อเหลียนเช่อได้อย่างเปิดเผยสมเกียรติ

รู้ไหมว่ามีอยู่หลายครั้งที่เขาฝันว่าได้กลายเป็นคุณนายเฮ่อเหลียน เขาในฝันมีความสุขหอมหวานเพียงใดตื่นจากฝันเขาก็ยิ่งเจ็บปวดเท่านั้น

“เฮ้อ…”

เหมยซูหานถอนหายใจอีกครั้ง เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นนอกประตู เฮ่อเหลียนเช่อเดินเข้าประตูบ้านมา เขาเห็นอาหารมื้อโอชะที่จัดวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะและเหมยซูหานที่นั่งหันหลังให้กับประตู แผ่นหลังนั้นเต็มไปด้วยความเหงาเดียวดาย

เฮ่อเหลียนเช่อใจดิ่งวูบพลันนึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้มากินข้าวกับเหมยซูหานนานมากแล้ว

“ฉันกลับมาแล้ว ทำไมวันนี้กับข้าวเยอะจัง ฉันจะกินให้เยอะ ๆเลย หิวจะตายอยู่แล้ว” เฮ่อเหลียนเช่อพูดขึ้นเสียงดัง แล้วเดินเข้าไปโอบไหล่ของเหมยซูหาน

เหมยซูหานยกยิ้มอย่างดีใจ “ฉันไปตักข้าวให้ นายไปล้างมือสิ”

“ได้เลย!”

เฮ่อเหลียนเช่อเดินไปห้องน้ำอย่างว่าง่าย ไม่นานก็ล้างมือเสร็จเดินออกมารับจานข้าวจากมือของเหมยซูหาน พร้อมฉุดเขาให้ลงมานั่งด้วยกัน “เรามากินด้วยกันสิ ดูสินายผอมไปหมดแล้วนะ กินเยอะ ๆล่ะ”

เขาคีบเนื้อติดมันเยิ้ม ๆชิ้นหนึ่งแล้ววางลงจานของเหมยซูหาน พร้อมกับมองเขาส่งยิ้มตาหยีให้

เหมยซูหานยกยิ้มอย่างจนใจ ความจริงคือเขาไม่กินเนื้อติดมันมานานมากแล้ว แต่เพื่อความความสุขของเฮ่อเหลียนเช่อเขาจึงกินเนื้อติดมันนั้นเข้าไป เพื่อตอบแทนน้ำใจเฮ่อเหลียนเช่อเหมยซูหานจึงได้คีบเนื้อติดมันชิ้นใหญ่วางลงจานของเฮ่อเหลียนเช่ออย่างทะเล้น

“นายเองก็กินเยอะ ๆล่ะ”

เฮ่อเหลียนเช่อยัดเนื้อติดมันเข้าปากคำเดียวอย่างไม่ใส่ใจโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตาเลยด้วยซ้ำ กับข้าวที่เหมยซูหานทำเป็นรสชาติที่ถูกปากของเขามากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นอะไรเขาก็กินได้อย่างมีความสุข

“ดูเหมือนนายจะมีเรื่องในใจนะ ไหนลองพูดออกมาสิ บางทีฉันอาจจะช่วยนายคิดหาวิธีได้นะ!” แม้ว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะพูดพลางกลั้วหัวเราะ แต่เหมยซูหานก็สังเกตได้ว่าเขามีเรื่องหนักใจอยู่

………………………………………………..

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท