ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2019 ความสงสัยของเหมยซูหาน + ตอนที่ 2020 อู่เยวี่ยจอมร้ายกาจ

บทที่ 2019 ความสงสัยของเหมยซูหาน + ตอนที่ 2020 อู่เยวี่ยจอมร้ายกาจ

ตอนที่ 2019 ความสงสัยของเหมยซูหาน

ตอนแรกเหมยเหมยตั้งใจจะไปเข้าพบผู้อำนวยการที่สำนักงาน GD โดยตรง เพื่อไม่ให้ผ่านมือโอหยางเซี่ยงหมิง แต่เหมยซูหานกลับต้องการพบเธอจึงนัดเธอออกไปดื่มชาที่โรงน้ำชา

ยังคงเป็นสถานที่เดิม ซึ่งเงียบสงบมาก ราวกับว่าตลอดทั้งปีจะมีแขกเพียงแค่ไม่กี่คน

“ให้ฉันสั่งคุกกี้ถั่วลิสงให้เธอสักจานไหม?” เหมยซูหานยิ้มพลางพูด

“เอาสิ ชาเขียวหลงจิ่งอีกสักกานะ”

เหมยเหมยพยักหน้า เธอในตอนนี้สามารถเผชิญหน้ากับเหมยซูหานได้อย่างสงบแล้ว ในใจไร้ซึ่งอารมณ์ฟุ้งซ่านราวกับเป็นการเผชิญหน้ากับเพื่อนทั่วไปก็ไม่ปาน ความสัมพันธ์ไม่อาจพูดได้ว่าดีแต่ก็ไม่อาจพูดได้ว่าแย่ เพราะเป็นไปอย่างปกติราบเรียบ

เป็นแบบนี้ยังดีกว่าอีก

พนักงานนำชาและคุกกี้เข้ามาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วแล้วถอยออกไปเงียบ ๆ ในห้องจึงเงียบสงบมาก

เหมยซูหานเลื่อนคุกกี้ไปทางเหมยเหมยพร้อมทั้งรินชาสีเขียวอ่อนให้เธอ เมื่อเทียบกันแล้วแค่ดมก็รู้ว่าเป็นชาหมิงเฉียน[1]

“นัดฉันมามีเรื่องอะไรเหรอ?” เหมยเหมยยกน้ำชาขึ้นจิบพร้อมเอ่ยถาม

เหมยซูหานยกยิ้มแล้วพูดว่า “เธอไม่ต้องกังวลเรื่องใบอนุญาตออกอากาศของเจ้าอัปลักษณ์นะ ฉันจะจัดการให้เอง”

เหมยเหมยเหลือบมองเขาครู่หนึ่ง เหมยซูหานนั่งด้วยท่าทีสงบนิ่ง หว่างคิ้วก็แลดูสงบ ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะทำให้เขาวิตกกังวลได้

“ขอบคุณนะ ฉันกังวลใจกับเรื่องนี้อยู่พอดี” เหมยเหมยเองก็ไม่คิดเกรงใจ

“ขอบคุณอะไรกัน ฉันเองก็เป็นผู้ร่วมลงทุนกับละครเรื่องนี้นะ แน่นอนว่าต้องหวังให้ละครทำเงินอยู่แล้วสิ” เหมยซูหานพูดอมยิ้ม

เหมยเหมยเองก็ยิ้มตาม เธอลืมไปเสียสนิท เพราะที่สำคัญเลยเหมยซูหานมาปรากฏตัวในกองถ่ายน้อยมาก ตั้งแต่เริ่มถ่ายทำจนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยไปกองถ่ายเลย ซ้ำยังไม่เคยโทรมาถามความคืบหน้าในการถ่ายทำละครทีวีด้วย แค่ควักเงินก้อนใหญ่ให้จากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอะไรอีก

“งั้นฉันไม่ขอบคุณแล้วนะ ขอยกชาแทนเหล้า ขอให้ละครทีวีของพวกเราได้ยอดขายพุ่งกระฉูดแล้วกัน” เหมยเหมยยกถ้วยชาขึ้นชนกับเหมยซูหานหนึ่งครั้ง

“วางใจเถอะ ยอดขายพุ่งกระฉูดแน่นอน” เหมยซูหานมั่นใจมาก

เขาดื่มชาเข้าไปหลายอึกราวกับกำลังขบคิดบางอย่างอยู่ จนในที่สุดก็เอ่ยขึ้น “เหมยเหมยรู้เรื่องเสี่ยวเป่าไหม?”

เหมยเหมยชะงักไป นึกไม่ถึงว่าเหมยซูหานจะถามเธอเรื่องเสี่ยวเป่า เธอจึงพยักหน้ารับ

“รู้สิ ลูกชายของเฮ่อเหลียนเช่อ ฉันเจอตอนงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือน เขาเป็นเด็กคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มมาก ๆเลยนะ”

“ใช้แล้วล่ะ เสี่ยวเป่าคือเด็กคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่สุดในโลกนี้เลย ฉันชอบเขามาก” เหมยซูหานยกยิ้ม สีหน้าแววตามีแต่ความรักความเอ็นดู จนพอจะดูออกเลยว่าเขาชอบเด็กคนนั้นมากจริง ๆ

เหมยเหมยเองก็ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะตัวเธอเองก็ชอบเสี่ยวเป่ามากเช่นกัน

เธอรอให้เหมยซูหานพูดต่ออย่างเงียบ ๆเพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งใจนัดเธอออกมาเจอเพียงแค่จะบอกเธอว่าชอบเสี่ยวเป่าหรอก คิด ๆดูแล้วต้องมีเรื่องบางเรื่องอยากคุยกับเธอแน่

เหมยซูหานจิบชาอีกอึกแล้วพูดต่อไปว่า “สองเดือนมานี้ฉันได้เจอกับเสี่ยวเป่ารวม ๆแล้วประมาณห้าหกครั้งจึงพบปัญหาบางอย่างเข้า เธอคงได้ยินเรื่องประหลาดของเสี่ยวเป่ามาบ้างใช่ไหม?”

“ใช่ ได้ยินมาว่าเสี่ยวเป่าเอาแต่แม่คนเดียว แล้วยังปฏิเสธการเข้าหาของทุกคนด้วย” เหมยเหมยพูดความจริงออกมา

“ใช่ และตอนนี้มันแย่ลงยิ่งกว่าเดิมเพราะทั้งวันไม่ยอมออกห่างโอหยางซานซานเลยตลอด24ชั่วโมง ยอมให้แค่โอหยางซานซานอุ้มเท่านั้น แค่ห่างจากแม่เพียงหนึ่งเมตรเสี่ยวเป่าก็งอแงอาละอาดแล้ว”

เหมยซูหานมุ่นคิ้ว เฮ่อเหลียนเช่อพาเขาไปเจอเสี่ยวเป่าเพียงไม่กี่ครั้ง ทุกครั้งที่เจอกันก็มักจะกระอักกระอ่วนใจเพราะเสี่ยวเป่าไม่สนใจเขาเลย แถมยังปฏิเสธการเข้าหาของเขาด้วย ทางด้านเฮ่อเหลียนเช่อเองก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน

จากเดิมคิดว่ารอให้เสี่ยวเป่าโตขึ้นมาหน่อยคงเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ดูทรงจากตอนนี้แล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย กลับกันยิ่งแย่ลงทุกวัน

“นี่มันผิดปกติมาก ฉันสงสัยว่าโอหยางซานซานต้องทำเรื่องไม่ดีบางอย่างกับเสี่ยวเป่าแน่” เหมยซูหานพูดในสิ่งที่เขาคาดเดาไว้ออกมา

[1] ใบชาที่เก็บเกี่ยวจากต้นที่เพิ่งแตกหน่อใบใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ ใบชาอ่อนนุ่ม กลิ่นหอมมาก รสชาติดีเลิศ โดยจะเก็บเกี่ยวก่อนถึงช่วงเทศกาลเชงเม้ง

………………………………………………

ตอนที่ 2020 อู่เยวี่ยจอมร้ายกาจ

เหมยเหมยนิ่งไป ไร้ปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆสักพักใหญ่ ขบคิดอยู่เนิ่นนานกว่าจะนึกออกว่าโอหยางซานซานที่เหมยซูหานพูดถึงก็คืออู่เยวี่ย เหมยซูหานไม่รู้เรื่องที่อู่เยวี่ยตายแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่

เธอตกใจกับคำพูดของเหมยซูหานมาก ย้อนถามกลับไปว่า “เธอทำอะไรกับเสี่ยวเป่า?”

เหมยซูหานเงียบไปสักพักแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้ฉันยังพูดอะไรไม่ได้ แต่ฉันมั่นใจว่าโอหยางซานซานจะต้องวางยาเสี่ยวเป่าแน่นอน เสี่ยวเป่าถึงได้ติดเธอหนักขาดนั้น แค่ครึ่งวินาทีก็ห่างเธอไม่ได้แล้ว”

“เคร้ง”

เหมยเหมยเกือบทำแก้วชาคว่ำ เธอตกใจมากจริง ๆ

ในเสี้ยววินาทีนั้นคำพูดของเหมยซูหานได้ทำให้เธอนึกถึงผง* จะมียาอะไรที่สามารถเสพติดได้มากกว่าผง*อีกล่ะ?

แต่เสี่ยวเป่ายังอายุไม่ถึงหกเดือนเลยนะ ต่อให้อู่เยวี่ยใจจืดใจดำแค่ไหน แต่จะถึงขนาดกล้าลงมือทำเรื่องแบบนี้กับลูกชายตัวเองได้เลยเหรอ?

“เป็นไปไม่ได้ นั่นคือลูกชายแท้ ๆของเธอเลยนะ สายสัมพันธ์แม่ลูกเธอจะกล้าลงมือแบบนั้นได้อย่างไรกัน?” เหมยเหมยส่ายหน้าเป็นพันละวันบ่งบอกว่าไม่เชื่อ

“ฉันก็ไม่ได้อยากจะคาดเดาคนเป็นแม่ในทางลบหรอกนะ แต่ความจริงเป็นแบบนั้น โอหยางซานซานไม่เหมาะกับการเป็นแม่คนเลย” เหมยซูหานพูดด้วยความเกลียดชัง

เขาเป็นคนคิดรอบครอบ รวมถึงตัวเขาเองเคยอ่านตำราการแพทย์มามาก มีความรู้พื้นฐานทางการแพทย์อยู่บ้าง แถมยังชื่นชอบเสี่ยวเป่ามากด้วย ดังนั้นจุดเล็ก ๆน้อย ๆของเสี่ยวเป่าเขาจึงสังเกตเห็นหมด หลายครั้งมานี้เขาได้พบกับความร้ายกาจของโอหยางซานซานไม่น้อย

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีหลักฐาน ดังนั้นเขาต้องหาคนมาช่วย

ร่างกายของเสี่ยวเป่าไม่อาจทนรับการทรมานจากอู่เยวี่ยได้อีกต่อไป เด็กคนหนึ่งที่งดงามแต่กลับถูกแม่แท้ ๆของตัวเองทารุณกรรมราวกับไม่ใช่มนุษย์

“ทำไมนายถึงมาบอกฉันล่ะ? ถ้านายสงสัยว่าโอหยางซานซานมีปัญหานายบอกเฮ่อเหลียนเช่อไปตรง ๆก็ได้เลยนี่” เหมยเหมยไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไร เธอสงสัยว่านี่เป็นกลลวงของเฮ่อเหลียนเช่อ เหมยซูหานอาจจะไม่รู้เรื่องด้วยแต่ก็อาจจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

เธอไม่ควรสร้างเรื่องวุ่นวายให้เหยียนหมิงซุ่นอีก

แต่ในใจเธอก็ยังรู้สึกเป็นกังวล หากว่าสิ่งที่เหมยซูหานพูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นเสี่ยวเป่าก็น่าสงสารมาก!

เหมยซูหานมองปราดเดียวก็รู้ได้ถึงความวิตกของเหมยเหมย จึงอธิบายว่า “อาเช่อไม่มีทางเชื่อคำพูดของฉัน แล้วฉันก็กลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ดังนั้นฉันถึงต้องมาหาเธอ หวังว่าเหยียนหมิงซุ่นจะช่วยหาหลักฐานเอาผิดโอหยางซานซานได้ ช่วยเสี่ยวเป่าด้วยนะ”

เขาพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ ท่าทีเจ็บปวดจับใจ

“โอหยางซานซานไม่ใช่คน เธอไม่เหมาะที่จะเป็นแม่ของเสี่ยวเป่า ตอนนี้ยังพอช่วยรักษาเสี่ยวเป่าได้ทัน หากช้าไปกว่านี้เสี่ยวเป่าคงแย่แน่ เธอเองก็ชอบเสี่ยวเป่าใช่ไหมล่ะ? ขอร้องช่วยเขาทีนะ เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์เขาไม่ควรเข้ามาข้องเกี่ยวกับความแค้นของผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ”

เหมยซูหานมองเหมยเหมยด้วยสาตาวิงวอน หางตามีน้ำตาคลออยู่ แววตาเต็มไปด้วยความหวัง

เหมยเหมยกัดริมฝีปากเอ่ยว่า “นายคิดว่าโอหยางซานซานวางยาอะไรเสี่ยวเป่า?”

“ยาอะไรฉันไม่อาจระบุได้แน่ชัด แต่ฉันมั่นใจว่าต้องเป็นยาเสพติดประเภทหนึ่งแน่นอน ไม่งั้นเสี่ยวเป่าไม่มีทางติดโอหยางซานซานขนาดนั้น”

เหมยซูหานพูดออกมาอย่างมั่นใจ และมีท่าทีโมโหเป็นอย่างมาก การคาดเดาของเขากับเหมยเหมยตรงกัน

“ฉันจะกลับไปปรึกษากับพี่หมิงซุ่นก่อน ฉันจะให้คำตอบนายพรุ่งนี้นะ”

ท้ายที่สุดก็ทำใจแข็งไม่ลง เหมยเหมยเองก็ไม่อยากเห็นเด็กที่น่ารักอย่างเสี่ยวเป่าถูกยัยชั่วอู่เยวี่ยทำร้าย แต่เธอก็ไม่ได้รับปากในทันทีเพราะถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็สำคัญไม่ควรมองข้าม เธอต้องปรึกษาเหยียนหมิงซุ่นเสียก่อนถึงจะตัดสินใจได้

“ขอบใจนะ ฉันสงสัยว่าหมอเกาที่อยู่ข้างกายโอหยางซานซานจะเป็นพวกเดียวกันกับเธอ บางทีเธออาจจะหาช่องโหว่จากเขาได้”

เหมยซูหานแนะนำพร้อมก่นด่าโอหยางซานซานออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่ได้ดูสุขุมสง่าเหมือนเคย ดูแล้วค่อนข้างผิดแปลกไปบ้าง แต่ก็พอจะเห็นได้ว่าเขาโกรธแค้นผู้หญิงคนนี้มากจริงๆ

เหมยเหมยนึกบางอย่างขึ้นได้ หรือควรจะบอกตัวตนที่แท้จริงของโอหยางซานซานกับเหมยซูหานดีนะ?

……………………………………………………………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท