ตอนที่ 2069 มีข่าวคราวแล้ว
หลังทานข้าวเสร็จเหมยเหมยก็ส่งข้อความไปทางเพจเจอร์ของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน ไม่นานคุณหนูใหญ่เหริ่นก็โทรกลับมา
“มีเรื่องดี ๆอะไรถึงได้ทักหาฉันเหรอ?” เสียงดังกังวานของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแม้จะผ่านโทรศัพท์ก็ยังใสได้ขนาดนี้ ช่างเต็มไปด้วยพลังจริง ๆ
“อยากให้เธอช่วยตามหาคนหน่อย เธอเป็นเจ๊ใหญ่ของเมืองหลวงไม่ใช่หรือไง!” เหมยเหมยแอบประจบประแจงไปที ซึ่งได้ผลกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมากเพราะอีกฝ่ายได้ใจเหลือเกิน
“แหงอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าฉันโม้นะ ทั่วทั้งเมืองหลวงนอกจากเรื่องของ**ไห่ที่ฉันไม่กล้าสืบ เรื่องอื่นไม่มีเรื่องไหนที่ฉันไม่รู้ เธออยากหาใครเหรอ?”
“เธอเคยได้ยินคนที่ชื่อลี่เมิ่งเฉินไหม?” เหมยเหมยถามออกไป
เหยียนหมิงซุ่นหูกระดิกแล้ววางโน้ตบุ๊คในมือลง ช่วงนี้เขากำลังศึกษาเรื่องคอมพิวเตอร์ เขาไม่ได้คิดว่าจะต้องเก่งอย่างโจวเจี๋ยรุ่ยหรือลี่เมิ่งเฉิน แต่ก็ต้องรู้ไว้บ้างไม่มากก็น้อย
เขามองเหมยเหมยแล้วยิ้มอย่างปลื้มใจ
เมื่อครู่ตอนทานข้าวเขาแค่ถามเล่น ๆขึ้นมาเท่านั้นเหมยเหมยก็จำได้แล้ว แถมยังช่วยเขาตามสืบอีก ช่างเป็นยายโง่เสียจริง คนที่แม้แต่เสี่ยวกัวยังหาไม่เจอ เพื่อนจอมปากสว่างและชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่นของเธอจะตามหาเจอได้อย่างไร?
เหยียนหมิงซุ่นไม่อยากบั่นทอนความกระตือรือร้นของเหมยเหมยเลยปล่อยให้เธอวิ่งเต้นอยู่อย่างนั้น เมื่อหาไม่พบก็จะล้มเลิกความตั้งใจไปเอง เขาศึกษาคอมพิวเตอร์ต่อไปโดยมีโจวเจี๋ยรุ่ยคอยสอนให้เขาใช้โปรแกรม ดูท่าทางน่าสนุกเหมือนกัน
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตะโกนเสียงดัง “รู้จักสิ ลี่เมิ่งเฉินคือรุ่นพี่ฉันเอง เป็นรุ่นพี่ของฉันหนึ่งรุ่น เมื่อก่อนเขาเคยออกรายการกับเธอไม่ใช่เหรอ? รายการที่ชื่ออัจฉริยะอะไรนั่นน่ะ”
“ใช่ เขานั่นแหละ ที่แท้เขาก็คือรุ่นพี่เธอนี่เอง เชี่ยนเชี่ยน เธอสามารถตามหาตัวเขาเจอไหม?” เหมยเหมยดีใจมากและรู้สึกว่าช่างบังเอิญเสียจริง
เหยียนหมิงซุ่นตัดสินใจหยุดทำทุกอย่าง ดูท่าจะเหนือคาดเขาไปนิด เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับลี่เมิ่งเฉินมีความสัมพันธ์นี้ด้วยหรือ?
ผ่านไปครู่หนึ่งเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถึงตอบกลับ “อันนี้ฉันไม่แน่ใจจริง ๆ ปกติรุ่นพี่ลี่ชอบแวบไปแวบมา ฉันเคยเจอเขาแค่สามสี่ครั้งเอง อาจจะหาเขาไม่เจอหรอกนะ เหมยเหมยจะตามหาเขาทำไมเหรอ?”
เหมยเหมยผิดหวังหน่อย ๆแต่ก็อยู่ในความคาดหมาย คนที่เหยียนหมิงซุ่นตามหาไม่พบเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหาเจอสิแปลก!
“ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรหรอก ไม่เจอก็ช่างเถอะ เชี่ยนเชี่ยนเธอก็ไปทำงานของเธอเถอะ!” เหมยเหมยพูดกลบเกลื่อนไม่กี่ประโยคแล้ววางสายไป ก่อนจะยิ้มเอาใจเหยียนหมิงซุ่นทีหนึ่ง
“ไม่มีเรื่องสำคัญจริง ๆ เธออย่าคิดมากเลย รีบนอนซะ เด็กดี!”
เหยียนหมิงซุ่นลูบศีรษะเธอเบา ๆ ผมนุ่มลื่นยิ่งกว่าเส้นไหมทำเอาใจเขากระตุกจนเกือบจะสิงวิญญาณยายตัวแสบอย่างลึกซึ้งเสียแล้ว
แต่เขาก็อดทนไว้ การบ้านที่โจวเจี๋ยรุ่ยจัดให้ยังไม่เสร็จ รอให้เสร็จก่อนค่อยว่ากัน!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกำหูโทรศัพท์เงียบไปพักใหญ่ อยู่ ๆก็โทรมาถามถึงใครก็ไม่รู้ นี่หมายความว่าอย่างไร?
เหมยเหมยไม่ใช่คนว่างงานขนาดนั้นนี่นา!
น่าจะมีเรื่องสำคัญสินะ?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนครุ่นคิดอยู่นานก็ไล่โทรทีละสาย เธอโม้ไปตั้งเยอะก็ต้องหาทางกู้หน้าตัวเองสักหน่อย ทำธุรกิจต้องให้มีความน่าเชื่อถือนี่นา!
ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นไม่มีความคืบหน้าใดๆ ลี่เมิ่งเฉินเหมือนหายตัวไปจากโลก รู้สึกว่าเจ้าหมอนี่อาจจะประกอบสร้างยานอวกาศบินไปพักผ่อนที่นอกโลกแล้วละมั้ง!
โลกนี้ไม่พอสำหรับเจ้าหมอนี่แล้ว!
“คงไม่ได้ปลอมเป็นคนอื่นไปต่างประเทศแล้วนะ?” เสี่ยวกัวสงสัย
เหยียนหมิงซุ่นย่นคิ้ว หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆก็ยากจะตามหาแล้ว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นสายจากเหมยเหมย เธอตะโกนเสียงดังด้วยความตื่นเต้น “พี่ เชี่ยนเชี่ยนบอกว่ามีข่าวของลี่เมิ่งเฉินแล้ว!”
เหยียนหมิงซุ่นตกใจอย่างมาก เรื่องจริงหรือโกหกกันแน่?
ลูกน้องตั้งมากมายของเขายังหาไม่พบ ลำพังเด็กผู้หญิงธรรมดาอย่างเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับหาพบงั้นเหรอ?
หากเป็นเรื่องจริงแล้วบรรดาลูกน้องของเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
…………………………..
ตอนที่ 2070 แจกจ่ายภารกิจ
เหยียนหมิงซุ่นยังไม่ค่อยเชื่อว่าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจะตามหาลี่เมิ่งเฉินพบ ในเมื่อเขาเชื่อมั่นในตัวลูกน้องที่ผ่านการฝึกด้วยตัวเขาเองอย่างมาก คนที่แม้แต่พวกเขายังตามหาไม่พบเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจะตามหาพบได้อย่างไร?
แต่เขาก็ให้เหมยเหมยเรียกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาที่บ้านเพราะกลัวเกิดเรื่องเหนือคาดขึ้น หากเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมีข่าวคราวจริง ๆ เขาจะพลาดโอกาสนี้ไปไม่ได้!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาถึงอย่างรวดเร็วเพราะเธอขับรถมาเอง หลายปีมานี้บริษัทครอบครัวเธอรุ่งเรืองมาก คุณแม่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่าล้วนเป็นเพราะคุณงามความดีของลูกสาวเลยซื้อรถเอฟเอดับบลิวคันสีแดงให้เป็นของขวัญวันเกิด
“รุ่นพี่ลี่อยู่ไหนฉันไม่รู้แต่ฉันรู้ว่าอยู่ในเมืองหลวงแน่นอน ตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนเขาก็แจกจ่ายภารกิจในกระทู้โรงเรียนมัธยมปลายของเราติดต่อกันหลายภารกิจ จนตอนนี้มีคนได้เงินรางวัลไปพันกว่าคนแล้ว” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนบอกข้อมูลที่เธอได้มา
เหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นมองหน้ากัน แจกจ่ายภารกิจ?
แล้วยังมีเงินรางวัลด้วย ลี่เมิ่งเฉินทำอะไรกันแน่?
“ภารกิจอะไร?” เหมยเหมยถามด้วยความแปลกใจ
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มตอบ “ภารกิจน่าสนใจทีเดียว เขาจะเว้นช่วงทุก ๆสองสามวันแล้วจะถามหนึ่งคำถามเพื่อให้คนตอบคำถาม ไม่ว่าเธอจะตอบอะไรก็จะได้เหรียญเติมเกมยี่สิบเหรียญ”
เหมยเหมยเกิดสนใจขึ้นมาชั่วขณะ “ลี่เมิ่งเฉินถามอะไรบ้าง?”
“มีแต่คำถามแปลก ๆ เช่นโจทย์คณิต แตงโมหนึ่งลูกหั่นได้สามส่วนแต่จะแบ่งให้เด็กห้าคนได้อย่างไร?”
เหมยเหมยขมวดคิ้ว คำถามนี้คุ้นหูจัง เพราะหากผ่านไปราวสิบปีข้างหน้า คำถามวิเคราะห์สุดสยองพวกนี้จะกลายเป็นคำถามยอดนิยมในโลกโซเชียลซึ่งได้ยินมาว่าเป็นคำถามพิเศษไว้ทดสอบสภาวะทางจิตประเภทหนึ่ง หากตอบถูกทั้งหมดก็จะบ่งบอกว่ามีความเป็นได้ร้อยละแปดถึงเก้าสิบที่คุณจะมีปัญหาทางจิต
แต่ตอนนี้น่าจะไม่นิยมคำถามแบบนี้สินะ?
ลี่เมิ่งเฉินรู้มาจากไหนกันแน่?
แต่ไม่นานเหมยเหมยก็เข้าใจ ได้ข่าวว่าโจทย์วิเคราะห์เหล่านี้ล้วนเป็นโจทย์ไว้สำหรับทดสอบกันภายในของ FBI ถ้าลี่เมิ่งเฉินเป็น King ที่แวบไปแวบมาอย่างไร้ร่อยรอยคนนั้นจริง ๆ การที่เขาจะได้โจทย์ทดสอบจากภายใน FBI คงง่ายยิ่งกว่าวิ่งจากซีตันไปหวังฝู่แล้วล่ะ
แต่เธอก็แปลกใจอยู่ดีว่าลี่เมิ่งเฉินโพสต์โจทย์พวกนี้ไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตให้คนตอบคำถามเพื่ออะไรกันแน่?
หรือว่ากินอิ่มท้องว่างจนเกินไปงั้นหรือ?
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้ว เขารู้โจทย์พวกนี้อยู่แล้ว เฮ่อเหลียนชิงมีครบมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
ตอนที่เฉินซานพาเขาไปหาเฮ่อเหลียนชิงเมื่อเจ็ดปีก่อน เขาต้องร่วมแข่งขันกับหนุ่มวัยรุ่นมากฝีมือเหมือนกันหลายคน ด่านแรกของการสัมภาษณ์ก็คือการตอบโจทย์พวกนี้ มีทั้งหมดสามสิบข้อเขาถูกไปยี่สิบแปดข้อได้คะแนนสูงสุด
คนอื่น ๆตอบถูกเพียงไม่กี่ข้อหรือบางคนตอบไม่ถูกเลยสักข้อเดียว ตอนนั้นเขายังแอบดีใจคนเดียวรู้สึกว่าตัวเองฉลาดเกินคนนัก แต่–
พอภายหลังเฮ่อเหลียนชิงได้บอกที่มาที่ไปของโจทย์พวกนี้ เขาก็รู้สึกแย่ยิ่งกว่าอะไร
ทั้งที่เขาเป็นคนปกติยิ่งกว่าปกติแล้วจะเป็นคนโรคจิตได้อย่างไร?
แค่ตอบคำถามไม่กี่คำถามก็บ่งบอกว่าเขาโรคจิตแล้ว บททดสอบนี้ไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย
เมื่อนั้นอารมณ์ยามที่เขาได้ฟังเฮ่อเหลียนชิงเล่าถึงที่มาที่ไปของโจทย์ เขาหลงคิดว่าตนจะถูกปัดให้ตกรอบไปแล้วในเมื่อไม่มีใครอยากได้ลูกบุญธรรมเป็นโรคจิต
แต่ผลกลับอยู่เหนือความคาดหมายของเขากับคนอื่น ๆ คนที่ตอบถูกน้อยกว่าสิบข้อล้วนถูกปัดตกรอบ คนที่เหลือมีแต่คนที่ตอบถูกมากกว่าสิบข้อขึ้นไป และเขาก็ย่อมอยู่ต่อ
ภายหลังเขาเคยถามเฮ่อเหลียนชิงว่าทำไมถึงเลือกเช่นนี้?
เมื่อนั้นเฮ่อเหลียนชิงได้พูดประโยคที่น่าสนใจออกมาว่า ‘ถ้าไม่โรคจิตก็ประสบความสำเร็จไม่ได้!’
ความจริงเหยียนหมิงซุ่นคิดไม่ตกมาตลอดว่าทำไมถึงว่าเขาโรคจิตล่ะ?
ต่อมาพอเขารู้ว่าคะแนนของเฮ่อเหลียนเช่อได้เต็มสามสิบคะแนนก็ยิ่งหงุดหงิด ทำไมถึงได้คะแนนแย่กว่าหมอนี่ได้ล่ะ?
แต่ถ้าได้คะแนนโจทย์พวกนี้เต็มก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องน่าโอ้อวดอะไร!
คำถามนี้จึงติดค้างอยู่ในใจเหยียนหมิงซุ่นมาตลอดจนตอนนี้เขาก็ยังปล่อยวางไม่ได้สักที
……………………..