ตอนที่ 2143 กุ้งมังกรน้อยกินกับเบียร์
เหมยเหมยเห็นว่าฉีฉีเก๋อฟังคำแนะนำจึงไม่ได้พูดว่าเธออีกต่อไป ช่วงบ่ายไม่มีเรียน ใกล้จะเรียนจบแล้ววิชาเรียนจึงมีน้อยมาก นักเรียนส่วนใหญ่กำลังยุ่งอยู่กับการหางาน
พวกเธอสามคนต่างก็ไม่ได้หางานทำดังนั้นจึงว่างมาก ไม่เหมือนคนอื่น ๆที่ยุ่งอยู่กับการหางาน
เหมยเหมยกลับบ้านก่อน ช่วงนี้เหยียนหมิงซุ่นยุ่งมาก ออกเช้ากลับดึก ตอนเช้าเธอจะให้ป้าฟางซื้อของโปรดของเหยียนหมิงซุ่นเอาไว้ เพราะเธอเตรียมจะทำอาหารมื้อเย็นด้วยตัวเอง
เธอและเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้กินข้าวด้วยกันมานานแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นชอบกินสเต็ก เหมยเหมยจึงตั้งใจทำสเต็กรูปหัวใจสองสามชิ้น กุ้งมังกรน้อยผัดเผ็ดอีกจานใหญ่ ปีกไก่ย่างน้ำผึ้งที่เธอชอบกิน และยังเตรียมเบียร์ไว้ด้วย รอแค่เหยียนหมิงซุ่นกลับมาก็เริ่มทานอาหารได้เลย
“หอมจัง ทำไมวันนี้ถึงกลับบ้านเร็วนักล่ะ?”
เหยียนหมิงซุ่นถอดเสื้อคลุมออกแล้วเดินเข้าไปกอดเหมยเหมยที่กำลังผัดผักจากด้านหลัง หอมแก้มเธอแล้วก็กอดอยู่อย่างนั้น
“วันนี้ไม่มีธุระอะไรก็เลยกลับมาทำอะไรอร่อย ๆให้พี่ทาน ตั้งใจตอบแทนพี่เป็นพิเศษเลยนะ!” เหมยเหมยเงยหน้าขึ้นฉีกยิ้มให้เขาจึงโดนเหยียนหมิงซุ่นจับจูบอย่างหนักหน่วง
ผักในกระทะส่งเสียงร้องฉ่า ๆ เหมยเหมยผลักเขาออกอย่างแรงแล้วรีบผัดต่อพลางบ่นว่า “โอ๊ย…ผักไหม้หมดแล้ว พี่นี่จริง ๆเลย…”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวอันที่ไหม้พี่กินเอง” เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มแล้วแอบขโมยหอมอีกรอบ
เหมยเหมยบิดตัวไปมาอย่างรำคาญ “พี่อย่ากอดฉันสิ ร้อนจะตายอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันต้องตักใส่จานอีกนะ!”
“พี่ตักเอง!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่อยากผละออกเลยสักนิด ต่อให้ร้อนแค่ไหนเขาก็ยังชอบกอด เขาเขย่ากระทะไปมาอย่างคล่องแคล่วแล้วตักผักบุ้งผัดกระเทียมขึ้นมาเรียบร้อย และหยิบของอื่น ๆที่ทำเสร็จแล้วออกมาด้วย
“ที่รักวันนี้เหนื่อยแย่เลย!”
เหยียนหมิงซุ่นแกะเปลือกกุ้งมังกรน้อยป้อนเหมยเหมย ส่วนตัวเองก็แกะทานเช่นกัน
เหมยเหมยรินเบียร์ ตอนนี้อยู่ในช่วงกลางเดือนเมษายน วันนี้อากาศร้อนเล็กน้อยดื่มเบียร์กำลังเหมาะ กุ้งมังกรน้อยกับเบียร์เข้ากันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลย
“ชนแก้ว!”
ทั้งสองคนชนแก้ว สบตายิ้มให้กัน ใจสื่อถึงกันโดยไม่ต้องพูดอะไร
กินไปคุยไป กุ้งมังกรน้อยจานใหญ่ก็หมดไปกว่าครึ่งโดยไม่รู้ตัว ปากเล็ก ๆของเหมยเหมยก็เผ็ดเจ่อแดงไปหมด ราวกับทาปาก เหยียนหมิงซุ่นไม่ให้เธอกินต่อแต่ให้เธอกินปีกไก่ย่างน้ำผึ้งแทน
“ฉันกินสองชิ้นก็พอแล้ว ตอนเย็นกินน้อยหน่อย ไม่อย่างนั้นจะใส่ชุดแต่งงานที่สั่งตัดไม่ได้”
เหมยเหมยจ้องปีกไก่ย่างหอมกรุ่นอย่างอาลัยอาวรณ์ กินเพียงสองชิ้นเพื่อบรรเทาความอยากเท่านั้น วันแต่งงานตรงกับเดือนตุลาคม ซึ่งวันนั้นอากาศเย็นสบายทำอะไรจะได้จิตใจสงบ
ชุดแต่งงานของเธอออกแบบโดยนักออกแบบชั้นนำระดับโลกที่เหยียนหมิงซุ่นเชิญมาโดยเฉพาะ เป็นงานที่เย็บด้วยมือ ชุดแต่งงานประดับด้วยคริสตัลสวยงาม กระบวนการซับซ้อนมากจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จเลย
เหมยเหมยไม่อยากให้ถึงเวลานั้นแล้วใส่ชุดแต่งงานที่สวยงามแบบนั้นไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงต้องรักษารูปร่างให้ดีอยู่เสมอ!
“ไม่เป็นไร พี่จะให้นักออกแบบขยายเอวให้เล็กน้อย เธอกินอย่างวางใจได้เลย”
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มและป้อนสเต็กให้เธอ เหมยเหมยค้อนใส่เขาอย่างน่ารักแต่ก็ยังคงกินสเต็กอยู่ดี ช่วงนี้เธอมีความอยากอาหารมาก กินอะไรก็อร่อยไปหมดทุกอย่าง
“เหยียนหมิงต๋าเขาออกมาจากป่าหรือยัง?” เหมยเหมยถาม
หนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาเหยียนหมิงต๋าถูกส่งไปยังภูเขาเขตลึกทางตะวันตกเฉียงใต้ ทุก ๆสามเดือนเหยียนหมิงซุ่นจะส่งคนไปแอบทิ้งอุปกรณ์ยังชีพไว้ ที่เหลือเขาต้องช่วยเหลือตัวเองทั้งหมด
เดิมทีเมื่อครึ่งปีก่อนเหยียนหมิงต๋าควรออกมาได้แล้ว เพราะว่าเวลาที่เดิมพันกับเฮ่อเหลียนเช่อไว้หมดลงแล้ว แต่เหยียนหมิงต๋าก็ไม่ยอมออกมา บอกว่าจะฝึกต่อไปเหยียนหมิงซุ่นจึงตามใจเขา
“ยังเลย รอถึงตอนพวกเราจะแต่งงาน เขาถึงจะออกมา”
เหยียนหมิงซุ่นพอใจกับท่าทีของเหยียนหมิงต๋ามาก อันที่จริงหนึ่งปีครึ่งกับการฝึกฝนที่แสนลำบากมันได้ผลไม่เบาเลย ดูท่าทางคิดได้มากกว่าเมื่อก่อนเยอะ แถมไม่ได้โง่เขลาขนาดนั้นแล้วด้วย
แค่เหมยเหมยนึกถึงเฮ่อเหลียนเช่อที่ถูกเล่นงานจนหัวหมุนก็อยากหัวเราะเสียเหลือเกิน เธอนึกบางอย่างขึ้นได้จึงถอนหายใจออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “แค่พริบตาเดียวเสี่ยวเป่าก็สองขวบแล้ว เร็วจริง ๆเลยเนอะ!”
………………………………………….
ตอนที่ 2144 อยากให้ใครพังพินาศ ก่อนอื่นต้องทำให้เขาคลุ้มคลั่งเสียก่อน
พอเหมยเหมยนึกถึงเด็กน้อยน่ารักที่เติบโตขึ้นแล้วก็มีรอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้า
การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาของเสี่ยวเป่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญยังบอกว่าพวกเขาไม่เคยผ่านการผ่าตัดที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้มาก่อน กระจกตาของอู่เยวี่ยดูเหมือนจะเตรียมไว้เพื่อเสี่ยวเป่าโดยเฉพาะ เพราะมันเข้ากันได้ดีอย่างไร้ที่ติราวกับว่าเป็นดวงตาของเสี่ยวเป่าเองเสียอย่างนั้น
ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่าหากไม่มีอะไรเหนือคาด ดวงตาของเสี่ยวเป่าก็จะไม่มีปัญหาอะไรสมบูรณ์แบบเหมือนคนทั่วไป
ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำเหล่านี้ต่างงงงวยเช่นกัน ท้ายที่สุดพวกเขาก็รู้สึกว่ามันคงจะเป็นความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างอู่เยวี่ยกับเสี่ยวเป่า เพราะส่วนมากกระจกตาจะมาจากการบริจาคของคนแปลกหน้า การที่จะได้รับจากคนสายเดียวกันโดยตรงแบบนี้มีน้อยถึงน้อยมาก
อันที่จริงมันเป็นเพราะลมหายใจมังกรของฉิวฉิวที่มอบให้เสี่ยวเป่าเพราะมันมีประโยชน์ต่อเสี่ยวเป่ามาก ไม่เพียงเท่านั้นยาพิษที่อู่เยวี่ยวางเสี่ยวเป่าก็ได้รับการแก้พิษด้วยลมหายใจมังกรนี้เช่นกัน
ไม่อย่างนั้นอู่เยวี่ยคงจะไม่ถูกฆ่าตายง่ายดายเช่นนั้น!
หลังจากการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาของเสี่ยวเป่าสำเร็จแล้ว เฮ่อเหลียนเช่อก็ฆ่าอู่เยวี่ยทิ้ง แต่ก็ไม่ได้ทรมานเธอมากนัก แค่ฉีดยาให้เธอเพื่อที่จะได้มีความสุขขึ้นบ้าง
เฮ่อเหลียนเช่อยังมอบร่างของอู่เยวี่ยให้กับเหยียนหมิงซุ่นด้วยตัวเอง บอกว่าเป็นนี่เป็นการตอบแทนบุญคุณที่เตือนกัน
หลังจากเหมยเหมยเผาอู่เยวี่ยเสร็จก็ฝังอู่เยวี่ยและเหอปี้อวิ๋นไว้ด้วยกัน ปล่อยให้แม่ลูกรักกันอยู่ใต้ดินผืนนี้!
จากวันนี้ไปบุญคุณความแค้นก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นก็นึกถึงเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆที่รอดชีวิตจากอันตรายมาได้เช่นกัน คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เหมยเหมยใจเต้นนึกว่าเสี่ยวเป่าเป็นอะไรไป “ทำไมเหรอ เสี่ยวเป่ามีปัญหาอะไรเหรอ?”
“เปล่าหรอก เฮ่อเหลียนเช่อดีกับน้องชายของเขามาก แล้วจะเป็นอะไรไปได้อย่างไรกัน แต่อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นในอนาคต” เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ปิดบังแล้วพูดเหตุผลออกมาว่า “เมื่อสองเดือนก่อนหนิงเฉินเซวียนรับเสี่ยวเป่ามาเลี้ยงเอง ฉันว่าชีวิตของเสี่ยวเป่าในวันข้างหน้าคงจะไม่ง่ายเท่าไรนัก”
ตอนนี้หนิงเฉินเซวียนบ้าคลั่งขึ้นเรื่อย ๆ บางทีเขาอาจมีสายเลือดของการกดขี่ทารุณคนในครอบครัวอยู่ในตัวเขาก็ได้ นิสัยจะโหดร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาการหวาดระแวงก็รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้เขาได้บีบคอพยาบาลที่ดูแลเขาเป็นการส่วนตัวตายคามือ
เพียงเพราะว่าเขาฝันร้ายระหว่างที่งีบหลับอยู่และพยาบาลคนนี้ก็กำลังเอาผ้าห่มมาคลุมตัวให้เขา หนิงเฉินเซวียนเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาจึงบีบคอพยาบาลผู้น่าสงสารคนนั้นจนตาย
อีกทั้งเมื่อก่อนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน เพียงแต่เรื่องพวกนี้โดนหนิงเฉินเซวียนปกปิดเอาไว้ แต่กลับปิดบังเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ และเขาก็รายงานแก่นายใหญ่ทั้งหมดแล้ว
ตอนนั้นนายใหญ่พูดเพียงแค่ว่า “อยากให้ใครพังพินาศ ก่อนอื่นต้องทำให้เขาคลุ้มคลั่งเสียก่อน!”
เหยียนหมิงซุ่นเข้าใจในทันที
นายใหญ่เตรียมกับดักเอาไว้แล้ว
วันเวลาดี ๆของหนิงเฉินเซวียนใกล้จะหมดลงแล้ว
ดังนั้นเหยียนหมิงซุ่นถึงได้เป็นห่วงเสี่ยวเป่าอยู่บ้าง อยู่ใกล้คนบ้าคลั่งอย่างหนิงเฉินเซวียน เสี่ยวเป่าอันตรายเกินไปจริง ๆ
เหมยเหมยตกใจจนหน้าถอดสี “ทำไมเฮ่อเหลียนเช่อถึงเอาเสี่ยวเป่าไปให้ตาแก่โรคจิตนั่นเลี้ยงล่ะ ต่อให้หนิงเฉินเซวียนไม่ทำร้ายเสี่ยวเป่า หรือจะให้เสี่ยวเป่ากลายเป็นเฮ่อเหลียนเช่อคนที่สองงั้นเหรอ?”
ที่สำคัญที่สุดก็คือเสี่ยวเป่าไม่ใช่เด็กปกติ พวกเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็ไม่มีใครสังเกตเห็น แต่หลังจากที่เหมยเหมยเล่นกับเสี่ยวเป่าไม่กี่ครั้งก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้ได้
เสี่ยวเป่าเป็นเด็กออทิสติกแต่กำเนิด เขาไม่ชอบพูดคุยกับใคร ชอบเล่นคนเดียวแต่ไอคิวของเสี่ยวเป่ากลับสูงมาก อีกทั้งความสามารถทางศิลปะก็ยอดเยี่ยมมาก เรียกได้ว่าอัจฉริยะเลยทีเดียว
บ้านตระกูลหนิงก็กำลังทานอาหารเย็นเช่นกันแต่โต๊ะอาหารกลับเงียบเหงา มีเพียงแค่หนิงเฉินเซวียนและเสี่ยวเป่าเท่านั้น บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมายมากกว่าสิบอย่าง
“เสี่ยวเป่าอยากทานอะไร ปู่จะคีบให้นะ” หนิงเฉินเซวียนเค้นรอยยิ้มที่ยากจะเห็นได้ในยามปกติออกมา แต่หลายปีมานี้เขาชราขึ้นเร็วมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น ต่อให้ยิ้มก็ยังทำให้รู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี
………………………………………….