ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2141 ตีให้ตายคนโง่แบบเธอ + ตอนที่ 2142 เรื่องของความรักความรู้สึกไปแตะต้องมากไม่ได้

บทที่ 2141 ตีให้ตายคนโง่แบบเธอ + ตอนที่ 2142 เรื่องของความรักความรู้สึกไปแตะต้องมากไม่ได้

ตอนที่ 2141 ตีให้ตายคนโง่แบบเธอ

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้ารัว ๆ “ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเธอไม่มีที่อยู่อาศัยถาวร แม้แต่รังให้ซุกหัวนอนยังไม่มี จะรีบแต่งงานไปทำไม?”

อันที่จริงเธอยังมีคำพูดที่ยังไม่ได้พูด สามีภรรยาที่ขาดแคลนเรื่องเงินมักจะเกิดสารพัดปัญหา!

ความรักของคู่รักถ้าหากกินไม่อิ่มท้องความรักก็จะค่อย ๆจางหายไป และสุดท้ายก็จะทะเลาะวิวาทกันไม่หยุดจนบั่นทอนสายสัมพันธ์สุดท้ายจนขาดสิ้น ถ้าไม่เลิกรากันไปก็ต้องทนอยู่อย่างทุกข์ทรมาน

ฉางชิงซงมีความสามารถและยังประจบผู้มีอำนาจเก่ง แต่เขาเป็นคนต่างถิ่น ไม่มีรากฐานใด ๆในเมืองหลวงเลย หากต้องการก้าวหน้าคงต้องทุ่มเทเวลาและความพยายามให้มากขึ้น แถมยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จหรือเปล่าด้วย!

หากดูในระยะเวลาอันสั้นภายในห้าปีนี้ฉางชิงซงคงยังผงาดขึ้นมาไม่ได้ ส่วนบ้านคงซื้อไม่ไหวแน่นอน

หากแต่งงานตอนนี้คนที่ต้องลำบากก็คือฉีฉีเก๋อ แต่ฉางชิงซงกลับได้ภรรยาที่แสนอบอุ่นเอาอกเอาใจ นับว่าดีดลูกคิดมาดีแล้วจริง ๆ!

ฉีฉีเก๋อกลับไม่คิดเช่นนั้น “รุ่นพี่ฉางบอกว่าสามารถยื่นคำร้องขอห้องจากหน่วยงานได้หนึ่งห้อง และพวกเราเองก็ออกข้างนอกบ่อย นอนเต็นท์ก็ได้แล้ว”

เหมยเหมยมองเธออย่างไม่เห็นด้วย “ผู้ใหญ่อย่างพวกเธอนอนเต็นท์ได้ แต่ในอนาคตมีลูกเล็กล่ะจะให้พวกเขานอนเต็นท์เหมือนกับพวกเธอเหรอ? ฉีฉีเก๋อเธอทำราวกับว่าชีวิตมันเป็นเรื่องง่ายอย่างนั้นแหละ!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนต่อว่าอย่างไม่พอใจ “เธอคิดว่ามีชีวิตเพื่อความรักเท่านั้นเหรอ? ไม่เลย การใช้ชีวิตคือฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือ บ้านและเงิน หากไม่มีสิ่งเหล่านี้แม้แต่โรมิโอกับจูเลียตก็ยังต้องเลิกรากัน ฉีฉีเก๋อเธอต้องคิดให้ดี ๆนะเพราะจะทำลวก ๆไม่ได้ นี่ไม่ใช่เพื่อตัวเธอเองเท่านั้นแต่เพื่อฉางชิงซงและครอบครัวของพวกเธอด้วย”

พอฉีฉีเก๋อได้ฟังก็ตกตะลึงไป ในความคิดของเธอการแต่งงานก็แค่เปลี่ยนจากเตียงเดี่ยวสองเตียงมารวมกันเป็นเตียงคู่ก็แค่นั้น จะมีปัญหามากมายขนาดนั้นได้อย่างไร?

“ฉันไม่ได้คิดมากขนาดนั้น แม่ของรุ่นพี่ฉางสุขภาพไม่ค่อยดีเลยบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ อีกทั้งฉันก็อยากจะแต่งงานเร็วหน่อยด้วย…”

“บ้าเอ้ย…I ล่ะยอม You จริงๆ!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโมโหจนตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นพรวดตบหลังศีรษะของฉีฉีเก๋อเสียงดัง จากนั้นก็มองยัยทึ่มที่ไม่ยอมพยายามเพื่อตัวเองอย่างคาดหวังว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้

“สมองของเธอโดนประตูหนีบมาใช่ไหม…”

เสียงคำรามราวกับเสียงสิงโตนี้ได้ดึงดูดความสนใจของนักเรียนจำนวนมากในโรงอาหาร ทั้งหมดมองไปที่พวกเขาสามคนด้วยความประหลาดใจ

เหมยเหมยรีบลุกขึ้นรั้งคุณหนูใหญ่เหริ่นที่กำลังเดือดถึงขีดสุดเอาไว้ พูดเสียงเบาว่า “ออกไปค่อยคุยกัน!”

มีคนเยอะขนาดนี้มองดูอยู่ ขายขี้หน้าจะตายอยู่แล้ว!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโมโหจนไม่แม้แต่จะกินข้าวแล้วคว้าตัวฉีฉีเก๋อที่ทำหน้างุนงงเดินออกไปข้างนอก เหมยเหมยถือจานข้าวแล้วเดินตามออกไป ข้าวร้อน ๆที่เพิ่งตักมายังไม่ทันได้กินเลย!

ทั้งสามคนไปที่สระบัวอันเงียบสงบที่ไร้ผู้คนในตอนเที่ยง

“เธอบอกมาสิว่าทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้ พวกเขาบอกว่าอยากอุ้มหลานเธอก็ต้องทำตามอย่างว่าง่ายงั้นเหรอ ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ในอุ่นเตียงในหน้าหนาวไม่พอแล้วยังช่วยคลอดลูกให้อีก เรียนมหาวิทยาลัยมาสี่ปีเสียเวลาเปล่า ๆสินะ?”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดีดหน้าผากของฉีฉีเก๋ออยู่หลายครั้ง ในตอนนี้อยากจะตบให้นังโง่นี่ได้สติขึ้นมาจริง ๆ

เธอไม่คัดค้านที่จะแต่งงานเพราะไม่ช้าก็เร็วก็ต้องแต่งงานอยู่ดี แต่การมีลูกจะรีบร้อนขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?

สิ่งที่คลอดออกมาคือหนึ่งชีวิตที่จำเป็นต้องใช้ความตั้งใจในการบ่มเพาะเลี้ยงดูเขา เราต้องสร้างสภาพความเป็นอยู่ที่ดีให้กับลูก ๆของเราด้วย แทนที่จะปล่อยให้เด็กเกิดมาและทนทุกข์ทรมาน สู้ไม่มียังดีเสียกว่า!

ถ้าพูดอย่างไม่น่าฟังก็คือหากทั้งสองคนไปต่อกันไม่ได้ ไม่มีลูกก็ยังเลิกราทางใครทางมันกันได้โดยไม่มีอะไรต้องห่วง แต่ถ้าหากมีลูกล่ะจะทำอย่างไร?

มีแม่คนไหนที่จะตัดใจยอมปล่อยลูกไปได้บ้าง?

มีผู้หญิงฮวาเซี่ยมากมายแค่ไหนที่ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมเสียสละความสุขทั้งชีวิตของตัวเองเพื่อลูกกัน?

ฉีฉีเก๋อยัยโง่นี่กลับต้องการเอาตัวเองผูกกับต้นไม้สักต้นให้ตายในเร็ววัน ช่างโง่จนหมดหนทางจะเยียวยาแล้วจริง ๆ!

…………………………………………..

ตอนที่ 2142 เรื่องของความรักความรู้สึกไปแตะต้องมากไม่ได้

เหมยเหมยส่งชามข้าวให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยน “อย่าโมโหเลย ๆ กินก่อน ฉันพูดกับฉีฉีเก๋อเอง”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลูบท้องแล้วตักเนื้อชิ้นใหญ่ทานคำโต ตอนนี้ถึงได้รู้สึกโกรธน้อยลงบ้างแล้ว ทั้งยังตบท้ายพูดด้วยความขุ่นเคืองใจว่า “ถ้ายัยโง่นี่ไม่ฟังพวกเราละก็ วันหลังเธอต้องเสียใจแน่!”

เงินเดือนของฉางชิงซงกับเงินโบนัสรวมกันยังไม่ถึงห้าร้อยด้วยซ้ำ บวกกับเงินพิเศษที่เขาได้รับหนึ่งเดือนก็ประมาณแปดร้อยได้ แต่ส่วนใหญ่จะต้องส่งกลับไปให้แม่เพราะแม่ของเขาต้องทานยาตลอด แถมน้องสาวของเขายังต้องเรียนมหาวิทยาลัยอีกตั้งสามปี

หากฉางชิงซงย่ำอยู่กับที่ไปแบบนี้ ตลอดชีวิตทำแต่งานศิลปะ งั้นคุณภาพชีวิตในอีกยี่สิบปีข้างหน้าก็เป็นที่ประจักษ์กันแล้ว

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกเสียใจที่ตอนนั้นไม่ได้ห้ามฉีฉีเก๋อไว้ หากรู้เร็วกว่านี้ปล่อยให้เธอไปหาใครในทุ่งหญ้ายังจะดีซะกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องชีวิต ลูกหลานของชาวทุ่งหญ้าทุกคนล้วนแต่เป็นผู้มีเงินมีอิทธิพลในท้องถิ่นกันทั้งนั้น!

ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าฉางชิงซงยังไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรสักอย่าง แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นพวกไม่มีอนาคต!

ฉีฉีเก๋อยังไม่ยอมฟังเท่าไรนักจึงตวาดกลับว่า “ฉันไม่เสียใจหรอก ฉันไม่ได้ขี้กลัวอย่างที่เธอพูดสักหน่อย!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถลึงตาใส่ ดูท่าจะเกิดไฟโทสะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เหมยเหมยจึงรีบร้อนจับเธอไว้

พวกอารมณ์ความรักความรู้สึกจำพวกนี้ไปแตะต้องมากไม่ได้จริง ๆ ต่อให้จะเป็นเพื่อนรักกันก็เถอะ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นสามีภรรยาที่นอนบนเตียงเดียวกัน แล้วเธอล่ะคือใคร?

แต่ว่าสิ่งที่ควรเตือนก็ต้องเตือน คงไม่สามารถดูเพื่อนกระโดดลงไปในกองไฟได้หรอก!

“ฉีฉีเก๋อ เธอจะรีบแต่งงานพวกเราก็ไม่ได้คัดค้านอะไรหรอกนะ แต่เรื่องมีลูกฉันหวังว่าเธอจะไตร่ตรองให้ดีอีกครั้ง เรื่องนี้พ่อแม่ของเธอรู้ไหม? พวกเขามีความคิดเห็นอย่างไร?” เหมยเหมยพูดอย่างนุ่มนวล ฉีฉีเก๋อเลยผ่อนคลายลงแล้วส่ายศรีษะ

“ฉันยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลย”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทานอย่างลวก ๆแล้วสบถด่าออกมาว่า “ตอนนี้เธอโทรไปบอกพ่อกับแม่ของเธอเลย ดูสิว่าพวกเขาเห็นด้วยหรือเปล่า?”

“นั่นสิ เรื่องสำคัญขนาดนี้ฉีฉีเก๋อต้องปรึกษาพ่อแม่นะ พวกเขาอาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมรู้อะไรเยอะมากกว่าพวกเรา แล้วพวกเขายังเป็นคนที่รักเธอมากที่สุดในโลกด้วยคงไม่ตัดสินใจอะไรที่ไม่ดีต่อเธอแน่นอน!” เหมยเหมยกล่าว

“งั้นคืนนี้ฉันจะโทรบอกพ่อเรื่องนี้แล้วกัน” ฉีฉีเก๋อเห็นด้วย นี่คือจุดแข็งของเธอเช่นกัน แต่ไหนแต่ไรก็รับฟังคำแนะนำตักเตือนเสมอ พูดตักเตือนได้ง่ายกว่าพวกหลงผิดที่กู่ไม่กลับมากกว่าเยอะ

“ตอนกลางคืนฉันจะจับตาดูเธอไว้ อย่าคิดจะตีเนียนเชียวล่ะ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกัดฟันกรอดและรู้สึกไม่ชอบฉางชิงซงขึ้นมา

ตอนนี้ยังไม่ทันแต่งงานยังขอให้แฟนเสียสละเพื่อครอบครัวของเขา วันหลังแต่งงานไปแล้วจะขนาดไหนกันนะ?

หากว่าในอนาคตฉีฉีเก๋อและแม่สามีเกิดขัดแย้งกันขึ้นมา ฉางชิงซงจะเข้าข้างฝั่งไหน?

คำตอบชัดเจนมาก วันหน้าฉีฉีเก๋อคงต้องกล้ำกลืนความไม่ธรรมจนอกแตกตายแน่ ๆ!

มีหลายครั้งที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอยากจะบอกให้ฉีฉีเก๋อเลิกกับฉางชิงซงแล้วค่อยหาผู้ชายดี ๆใหม่สักคน แต่พอคำพูดมาถึงริมฝีปากก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงไป อึดอัดจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แถมยังไม่ได้แสดงสีหน้าดี ๆกับฉีฉีเก๋อสักเท่าไรด้วย

บรรยากาศเริ่มกระอักกระอ่วนขึ้นมาชั่วขณะ เหมยเหมยจงใจพูดจายียวนขึ้นว่า “เชี่ยนเชี่ยนเธอกับอิงจวี้กังจะมีงานมงคลเมื่อไร ตอนนี้อยู่ด้วยกันแล้วอย่าท้องก่อนแต่งล่ะ!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้ใส่ใจและไม่อายเลยสักนิด แถมยังกลอกตามองบนใส่เธออีก “จะเป็นไปได้อย่างไรกัน พวกเราได้ทำประกันเรียบร้อยแล้ว เรื่องแต่งงานไม่รีบร้อน รอบริษัทอยู่ตัวก่อนพวกเราถึงจะจัดงานแต่งงาน จะช้าจะเร็วก็ต้องเป็นคนของฉันอยู่ดี ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก!”

“อย่าเอาแต่พูดถึงพวกเราเลย แล้วเธอล่ะ? เมื่อไรจะจัดงานแต่งงานกับท่านหัวหน้าเหยียน ฉันรอดื่มฉลองงานแต่งงานนี้มาสี่ปีแล้วนะ!“ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอาคืน

เหมยเหมยยิ้มหวาน “เรียนจบก็จัดเลย พี่หมิงซุ่นบอกว่าเขาจะจัดงานแต่งงานที่ในโลกนี้ไม่มีใครเทียมได้ให้ฉันด้วยนะ ดูท่าทางลึกลับมากทีเดียวล่ะ”

“ในโลกนี้ไม่มีใครเทียมได้เลยเหรอ งั้นคงจะยอดเยี่ยมมาก มันต้องสุดยอดมากแน่ ๆ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนนึกอิจฉา เธออดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมฉีฉีเก๋อสักประโยคว่า “ดูไว้นะ นี่ถึงจะเป็นการแต่งงานกับผู้ชายที่ดี ส่วนฉางชิงซงของเธอน่ะ…เชอะ ขี้เกียจจะพูดถึงเขาแล้ว!”

…………………………………………..

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท