ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2163 ฉิวฉิวให้สัญญาณ + ตอนที่ 2164 เหมยเหมยที่หมดสติไป

บทที่ 2163 ฉิวฉิวให้สัญญาณ + ตอนที่ 2164 เหมยเหมยที่หมดสติไป

ตอนที่ 2163 ฉิวฉิวให้สัญญาณ

เหมยเหมยเห็นมีดสั้นพกพาที่โฉ่วโฉ่วหลบอยู่ถึงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งตกใจทั้งกลัว เธอล้วงเอาแส้ออกมาโดยไม่ต้องคิดแล้วเอนตัวไปด้านหลังเพื่อปัดมีดพกพาที่ตามไล่หลังโฉ่วโฉ่วมา

มีดสั้นพกพาถูกเขวี้ยงมาด้วยแรงไม่มากนัก เหมยเหมยเอาแส้ปัดทีก็หล่นไป แต่แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวกว่าเดิม

เธอฝืนโบกแส้อีกทีเพื่อปัดมีดสั้นพกพาที่อยู่ห่างจากกีบหลังของโฉ่วโฉ่วไม่ถึงคืบทิ้ง ชายสองคนนี้ใช้วิธีสกปรกต่ำช้ามาก พวกเขาเอาแต่เล็งเป้าไปตรงเท้าของโฉ่วโฉ่ว จุดประสงค์ช่างร้ายกาจนัก

แม้เหมยเหมยจะไม่รู้จักชายสองคนนี้แต่ใช้เท้าหลังคิดยังคิดได้เลยว่าใครเป็นคนสั่งมา นอกจากตาแก่หนิงเฉินเซวียนนั่นทั้งเมืองหลวงจะมีใครที่ให้คนมาลอบฆ่าม้าตัวเดียวอีกล่ะ?

เนื่องจากโฉ่วโฉ่วต้องคอยหลบมีดสั้นพกพาแล้วยังต้องคอยระมัดระวังความปลอดภัยให้แก่เหมยเหมยอีกจึงวิ่งไม่เร็วนัก ชายสองคนนั้นทักษะการต่อสู้ไม่เลวจึงไล่ตามมาได้ทัน ทั้งยังมีมีดสั้นพกพาคอยเขวี้ยงมาอันแล้วอันเล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกต่างหาก เหมยเหมยฟาดแส้ติดต่อกันหลายครั้งซึ่งบริเวณช่วงล่างทั้งเจ็บทั้งชา ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือเธอเริ่มปวดบริเวณท้องน้อยรุนแรงกว่าเดิมแล้ว

ของเหลวอุ่นช่วงล่างที่ดูเหมือนจะเป็นประจำเดือน มาได้ผิดเวลาจริง ๆ!

“โฉ่วโฉ่ว วิ่งเร็วหน่อย ฉันไม่เป็นไรหรอก!”

เหมยเหมยไม่มีแรงสกัดมีดสั้นพกพาแล้วจริง ๆ เธอจึงให้โฉ่วโฉ่วเร่งความเร็วเพื่อสลัดชายพวกนั้นทิ้ง ทนอีกเพียงครู่เดียวคนในสวนฟาร์มก็จะสังเกตเห็นสิ่งปกติตรงนี้แล้ว

เธอก็นึกแปลกใจเช่นกันว่าทำไมคอกม้าตรงนี้ถึงไม่มีคนคอยเฝ้าจับตาดู เหมยเหมยอยากตะโกนขอความช่วยเหลือแต่เธอใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดแล้ว อีกทั้งโฉ่วโฉ่วยังวิ่งไกลออกมาเรื่อย ๆ ลำพังเสียงของเธอส่งไปไม่ถึง

ไม่นานโฉ่วโฉ่วก็เร่งความเร็วขึ้นทำให้ร่างกายของเหมยเหมยสั่นสะเทือนไม่หยุด หลายครั้งที่เกือบหล่นจากหลังม้าแต่เธอกัดฟันกำขนไว้แน่น เฮ่อเหลียนชิงไม่ได้ใส่ชุดอานม้าให้โฉ่วโฉ่ว เหมยเหมยจึงนั่งอยู่หลังม้าที่เปลือยเปล่า หากวิ่งช้า ๆคงไม่เป็นไร แต่เมื่อไรที่วิ่งเร็วเธอรู้สึกเพียงเหมือนอวัยวะภายในแทบหลุดออกจากร่างเลยทีเดียว

ภาพตรงหน้าเริ่มมืดลง เหงื่อซึมทั้งตัวและความเจ็บจากบริเวณท้องน้อยทำให้เธอแค่อยากทิ้งตัวนอนลงไป

“ฮี่…”

โฉ่วโฉ่ววิ่งไกลออกมาเรื่อย ๆ ไม่นานก็สลัดชายสองคนนั้นทิ้งได้สำเร็จ ต่อให้พวกเขาจะแรงมากแค่ไหนมีดสั้นพกพาที่เขวี้ยงมาคงไม่เป็นอันตรายต่อโฉ่วโฉ่วอีกแล้ว

ชายสองคนนั้นรู้ว่าแผนการล้มเหลวแล้ว หากชักช้าต่อพวกเขาต้องหนีไม่พ้นแน่ ๆ

“แยกย้าย!”

ทั้งคู่สบตาแวบหนึ่งก่อนจะหันหลังวิ่งกลับไป มุดกลับเข้าหลุมที่พวกเขาขุดไว้

เหยียนหมิงซุ่นกับเฮ่อเหลียนชิงกำลังปรึกษาบางอย่างในห้องหนังสือ ซึ่งทั้งสองความเห็นไม่ตรงกันสักเท่าไรจึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างมาคุ ฉิวฉิวที่ฟุบอยู่ในอ้อมแขนของเฮ่อเหลียนชิงพลันก็เด้งตัวขึ้น ร้องเสียงจิ๊ ๆไม่หยุด แล้วกระโดดตัวเบาพุ่งไปตรงระเบียงหน้าต่าง ผลักหน้าต่างหมายจะออกไปข้างนอก

“เห็นกระรอกตัวเมียแสนสวยหรือไง?”

เฮ่อเหลียนชิงพูดหยอกล้อ สวนฟาร์มแห่งนี้มีกระรอกไม่น้อย ทุกครั้งที่ฉิวฉิวมาก็ต้องไปหยอกเอินกระรอกตัวเมียแสนสวยสักตัวสองตัว เบื้องหน้าเฮ่อเหลียนชิงมีฝูงตัวเมียอยู่จึงทำเอาเขาเห็นแล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์ถึงได้พูดออกไปแบบนั้น

เหยียนหมิงซุ่นใจกระตุกวูบ สีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลันแล้วรีบตามออกไป

ต้องเกิดอะไรขึ้นกับเหมยเหมยแน่!

เพิ่งวิ่งออกจากบริเวณลานบ้านเหยียนหมิงซุ่นก็ได้ยินเสียงม้าร้องอยู่ไกล ๆ พอได้ยินเช่นนั้นก็กระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่งจนใจของเขาหล่นวูบ

“ที่สนามม้ามีคนคอยเฝ้าไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสี่ยวเมิ่งที่วิ่งตามมา

“มีหกคนคอยสับเปลี่ยนเวรกัน ทำไมโฉ่วโฉ่วถึงได้ร้องเสียงถี่ขนาดนั้นล่ะ?” เสี่ยวเมิ่งเองก็สงสัย เขาเป็นคนจัดตารางให้ยามในสวนฟาร์มด้วยตัวเองเพราะใกล้จะถึงวันแข่งขันแล้วถึงได้จัดยามหกคนสลับเปลี่ยนเวรกันเฝ้าเพื่อรับประกันว่าจะมีคนเฝ้าสนามม้าตลอดยี่สิบชั่วโมง

แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว

……………………….

ตอนที่ 2164 เหมยเหมยที่หมดสติไป

เหยียนหมิงซุ่นเป็นห่วงความปลอดภัยของเหมยเหมยเลยเร่งฝีเท้าวิ่งด้วยความเร็วจนเท้าแทบไม่แตะพื้น สลัดเสี่ยวเมิ่งทิ้งห่าง ระหว่างทางเจอยามคนอื่น ๆในสวนฟาร์มที่ต่างก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากทางสนามม้าเหมือนกันจึงรีบวิ่งไปดูเหตุการณ์

“ทำไมพวกนายถึงมาอยู่ที่นี่?”

เสี่ยวเมิ่งตวาดฉับพลันและสีหน้าดูกรุ่นโกรธอย่างมาก

เขาเห็นยามสามนายที่แต่เดิมควรสลับเวรเฝ้าสนามม้ากำลังวิ่งพุ่งตัวไปทางสนามม้าจึงบันดาลโทสะในทันที

สามคนนี้ไม่อยู่ในสนามม้าบ่งบอกว่าตรงสนามม้าไม่มียามแม้แต่คนเดียว ส่วนเหมยเหมยอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง พอนึกถึงเสียงคำรามของโฉ่วโฉ่วเมื่อครู่ก็ยิ่งทำให้เสี่ยวเมิ่งยิ่งร้อนใจ

หากเหมยเหมยเป็นอะไรไปในสวนฟาร์ม ต่อให้เขาเป็นลูกน้องเก่าแก่ของเฮ่อเหลียนชิง เกรงว่าเหยียนหมิงซุ่นก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่!

“ใครก็ได้จับกุมสามคนนี้ไป ไว้ฉันจะกลับมาคิดบัญชีกับพวกมันทีหลัง”

เสี่ยวเมิ่งเรียกลูกน้องมาเพื่อพายามที่หน้าซีดสามคนออกไป ก่อนจะเร่งฝีเท้าวิ่งไปทางสนามม้า

เหยียนหมิงซุ่นใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดของเขาจนตัวแทบจะลอยได้อยู่แล้ว นี่ต่างหากทักษะที่แท้จริงของเขา แต่ไม่มีใครเคยเห็นซึ่งวินาทีนี้เองก็เช่นกัน ทุกคนต่างถูกเขาสลัดทิ้งห่างอยู่ด้านหลัง

ระหว่างที่วิ่งมาตลอดทางเหยียนหมิงซุ่นก็จับสังเกตเห็นจุดบกพร่องหลายจุดกับระบบความปลอดภัยในสวนฟาร์ม สิ่งที่น่าโมโหมากกว่านั้นคือสนามม้ากลับไม่มีคนเฝ้าเลยแม้แต่คนเดียว หากศัตรูลักลอบเข้ามาทางนี้ สวนฟาร์มคงถูกจู่โจมไม่เหลือซาก

ไม่ได้เรื่องเลย!

ไว้กลับไปเขาจะจัดระเบียบสวนฟาร์มนี้ใหม่

เพิ่งวิ่งไปถึงขอบสนามม้าเหยียนหมิงซุ่นก็เห็นโฉ่วโฉ่ววิ่งมาทางเขาโดยมีเหมยเหมยฟุบอยู่ด้านหลัง ท่าทางคล้ายหมดสติไปทำให้เหยียนหมิงซุ่นหวั่นใจขึ้นมาทันที

“เหมยเหมย…”

โฉ่วโฉ่วหยุดอยู่ตรงหน้าเหยียนหมิงซุ่น เหยียนหมิงซุ่นรีบอุ้มเหมยเหมยขึ้นมาสำรวจดูว่าเธอมีบาดแผลบนตัวหรือไม่ เมื่อเห็นว่าไม่มีคราบเลือดถึงค่อยวางใจ

แต่พอเห็นใบหน้าซีดเซียวของเหมยเหมยนั่นทำให้เขาหวั่นใจอีกครั้ง หรือเกิดอาการบาดเจ็บภายในงั้นหรือ?

เหมยเหมยที่ทนไม่ไหวจึงหมดสติไประหว่างทาง พอรู้สึกตัวว่าโฉ่วโฉ่วหยุดวิ่งและได้ยินเสียงเหยียนหมิงซุ่น เธอพยายามเปิดเปลือกตาใช้เสียงแผ่วอ่อนแรงเอ่ยขึ้นว่า “มีคนร้าย…ปวด…ท้อง…”

พูดจบเธอก็เป็นลมหมดสติไป

เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าเปลี่ยน ปวดท้องได้อย่างไรกัน?

เขารีบมองไปช่วงล่างของเหมยเหมยอัตโนมัติ วันนี้เธอสวมกางเกงขายาวสีเทาอ่อนมาที่ขณะนี้ถูกย้อมกลายเป็นสีแดงเข้ม เหยียนหมิงซุ่งถอนใจโล่งอกชั่วขณะ เมื่อวานเหมยเหมยบอกว่าประจำเดือนมา คาดว่าคงตกใจเกินไปบวกกับอาการปวดท้องประจำเดือน

แต่เขาก็ไม่กล้ารีรอจึงรีบอุ้มเหมยเหมยวิ่งกลับไป โดยไม่ลืมปลอบประโลมโฉ่วโฉ่วที่มองด้วยสายตากังวล

“วางใจได้ เจ้านายของแกไม่เป็นไรหรอก”

เหยียนหมิงซุ่นคิดว่าไม่เป็นไรจริง ๆ แต่พอไม่นานหลังจากนั้นได้ฟังคำวินิจฉัยของคุณหมอก็ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง

เขารีบกวาดสายตาสำรวจสภาพแวดล้อมละแวกนั้นรอบหนึ่งอย่างรวดเร็วจึงเห็นว่าไม่มีกลิ่นอายที่น่าสงสัย ดูท่าผู้บุกรุกคงหนีไปแล้ว เหยียนหมิงซุ่นเป็นห่วงสุขภาพของเหมยเหมยเลยไม่ได้ตามไป ระหว่างทางกลับมาก็พบพวกเสี่ยวเมิ่ง

“มีคนลอบจู่โจมที่สนามม้า หนีไปแล้ว”

เหยียนหมิงซุ่นอธิบายสถานการณ์คร่าว ๆก่อนที่เสี่ยวเมิ่งจะพาคนตามไล่ล่าต่อไป ส่วนเขาอุ้มเหมยเหมยกลับไป ไม่นานคุณหมอที่ประจำการอยู่สวนฟาร์มก็มาถึง

“ทำไมถึงเป็นลมได้ล่ะ?” เฮ่อเหลียนชิงมองด้วยสายตาห่วงใย เห็นสีหน้าของยายโง่นี่แล้วดูท่าอาการจะไม่สู้ดีนัก!

“มีคนลอบจู่โจมที่สนามม้า พี่เมิ่งพาคนไปไล่ล่าแล้ว คุณหมอล่ะ…”

เหยียนหมิงซุ่นอธิบายสั้น ๆและไม่สนใจคำถามของเฮ่อเหลียนชิงอีก เขารีบให้คุณหมอที่เดินทางมาถึงตรวจเช็กร่างกายเหมยเหมยโดยไม่ลืมเตือนพวกเขาว่า “ประจำเดือนเหมยเหมยมา”

………………………..

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท