ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2199 พวกเราต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่าง + ตอนที่ 2200 เข้าบัญชีล้าน

บทที่ 2199 พวกเราต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่าง + ตอนที่ 2200 เข้าบัญชีล้าน

ตอนที่ 2199 พวกเราต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่าง

เหมยเหมยฟังแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ ทำไมลูกชายของเธอกับเหยียนหมิงซุ่นจะต้องใช้แซ่เดียวกับเฮ่อเหลียนชิงด้วยล่ะ?

“นี่เป็นเรื่องที่พี่กับพ่อบุญธรรมตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก ลูกคนแรกให้ใช้แซ่ของพ่อบุญธรรมเพื่อเป็นทายาทสืบทอดตระกูลเฮ่อเหลียน” เหยียนหมิงซุ่นกล่าวอธิบาย ตอนนั้นเขายังไม่ทันได้คิดอะไรก็เลยตอบตกลงไป

เขาไม่ได้ชอบแซ่เหยียนของตัวเองสักเท่าไร แต่สาเหตุที่ไม่เปลี่ยนชื่อเพราะว่าเขาไม่ได้เอามาใส่ใจนัก แล้วก็ไม่อยากให้สองปู่ย่าตระกูลเหยียนเสียใจ ส่วนลูกจะแซ่อะไรเขายังไงก็ได้ เพราะทายาทตระกูลเหยียนมีเหยียนหมิงต๋าเป็นผู้สืบทอดอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องเป็นเขา

เหมยเหมยเข้าใจขึ้นมาในทันที เธอไม่ได้ขัดข้องเรื่องแซ่ของลูก แต่เธอไม่ค่อยพอใจกับชื่อที่เขาตั้งให้ ทำไมจะต้องใช้คำว่าเซียวด้วย ฟังแล้วให้ความรู้สึกว่าชื่อของคน ๆนี้ดูไม่น่าเข้าใกล้ เธอไม่อยากให้ลูกชายโตขึ้นเป็นคนที่แข็งกระด้าง

“แซ่เดียวกับเขาฉันไม่ขัดข้องอะไร แต่ชื่อของลูกจะต้องให้พวกเราเป็นคนตั้งเอง เฮ่อเหลียนเซียวไม่เพราะเลยสักนิด ฉันจะตั้งชื่อเพราะ ๆให้ลูกชายของฉันเอง”

เหมยเหมยแสดงออกว่าไม่ชอบชื่อนี้ออกมาตรง ๆ จากนั้นก็เริ่มคิดหนัก ไม่นานก็คิดชื่อที่ไพเราะออกมาได้

“เฮ่อเหลียนเสี้ยวเทียนลื่นหูไหมล่ะ?”

เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแล้วพูดแย้งขึ้นมาแบบไม่ต้องคิดว่า “อีกหน่อยพอลูกชายของเราไปโรงเรียนคงต้องได้รับฉายาว่าสุนัขเสี้ยวเทียนแน่เลย”

“ถ้าอย่างนั้นชื่อเฮ่อเหลียนเอ๋าเฟิงเป็นอย่างไรบ้าง เพราะไหมล่ะ?” เหมยเหมยยังคงไม่ยอมแพ้

“ลมที่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นก็คงมีแต่พายุทอร์นาโดแล้วล่ะ เธออยากให้ลูกของเราโดนคนอื่นเรียกว่าพายุทอร์นาโดงั้นเหรอ?”

“ถ้าอย่างนั้นก็เฮ่อเหลียนอวี่มั่ว ดูมีพลังเก่าแก่ดีออก” เหมยเหมยพึงพอใจเป็นอย่างมาก ฟังชื่อแล้วก็นึกถึงภาพวาดแม่น้ำกับภูเขาที่มีความงดงามเต็มเปี่ยม

เหยียนหมิงซุ่นปากกระตุกเล็กน้อย ถึงแม้ว่าชื่อนี้จะดีกว่าเสี้ยวเทียนกับเอ๋าเฟิงเล็กน้อยแต่เขาก็ยังไม่ชอบอยู่ดี ฟังดูแล้วเหมือนชื่อผู้หญิง ลูกชายของเขาจะต้องเป็นผู้ชายอกสามศอกจะมาอ้อนแอ้นไม่ได้!

ฟังไปฟังมากลับรู้สึกว่าชื่อที่พ่อบุญธรรมตั้งให้มันดีอยู่แล้ว เฮ่อเหลียนเซียว สั้น ๆกระชับ เรียกง่ายดีออก!

“ตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ เธอว่าเหยียนเล่อเล่อเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?” เหยียนหมิงซุ่นรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาในทันที

เหมยเหมยติดกับเข้าแล้วจริง ๆเพราะเธอไม่คิดเรื่องชื่อของลูกชายอีกต่อไป พยักหน้าแล้วพูดว่า “ชื่อนี้พอได้อยู่”

เป็นเจ้าหญิงที่ไร้ซึ่งความกังวลใด ๆ เป็นความหวังที่พ่อแม่มีต่อลูกผู้หญิงทุกคน เธอเองก็เช่นกัน ชื่อว่าเหยียนเล่อเล่อก็ถือว่าไม่เลว

เหยียนหมิงซุ่นมุมปากเหยียดยิ้ม ภรรยาของเขาเอาใจง่ายขึ้นทุกวัน

เหมยเหมยกินข้าวไปสักพักก็เหมือนจะนึกเรื่องที่เป็นปัญหาขึ้นมาได้อีกหนึ่งเรื่อง “ถ้าหากคนแรกของเราเป็นผู้หญิง แล้วเรื่องผู้สืบทอดสกุลของพ่อบุญธรรมพี่จะทำอย่างไรต่อไป”

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้ลูกสาวแซ่เฮ่อเหลียน” เหยียนหมิงซุ่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบ ๆ เขาตัดสินใจไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงอย่างไรก็จะมีแค่คนเดียวเท่านั้น

“ตาแก่จะไม่ขัดข้องเหรอ?”

“ไม่พอใจก็ให้แซ่เหยียน ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก” เหยียนหมิงซุ่นยักคิ้ว ตอนนั้นเขาไม่ได้ตกลงว่าจะคลอดลูกชายให้สักหน่อย ส่งสินค้าให้แล้ว ถ้าจะไม่รับก็ไม่ใช่ปัญหาของเขานี่นา

เหมยเหมยเข้าใจความหมายของเหยียนหมิงซุ่นจึงถามหยั่งเชิงออกมาว่า “พวกเราจะมีลูกกันแค่คนเดียวใช่ไหม?”

“แน่นอน การมีลูกคนเดียวเป็นนโยบายของภาครัฐ พวกเราต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างสิ” เหยียนหมิงซุ่นพูดออกมาด้วยท่าทีสุขุมนิ่งขรึม รู้สึกขอบคุณผู้เชี่ยวชาญที่เสนอนโยบายนี้ออกมาจริง ๆ เพราะเหตุนี้ทำให้เขาไม่ต้องหาข้ออ้างอื่นอีก

เหมยเหมยแอบด่าเหยียนหมิงซุ่นในใจไปหลายสิบรอบ เป็นเพราะรำคาญเสียงเด็กสิไม่ว่า อย่าคิดว่าเธอจะไม่รู้นะ

อืม…งั้นเรื่องชนกลุ่มน้อยจะให้เหยียนหมิงซุ่นรู้ไม่ได้ เดี๋ยวต้องไปกำชับพ่อกับแม่ว่าอย่าหลุดปากพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่นเด็ดขาด รอคลอดลูกคนนี้ก่อนเธอค่อยหาโอกาสคลอดคนที่สอง ขอแค่มีลูกอยู่ในท้อง เหยียนหมิงซุ่นจะทำอะไรได้ล่ะ?

“พี่พูดถูกแล้ว เราต้องปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐ” เหมยเหมยยิ้มตาหยีตอบรับ

เธอก็ไม่ได้ทำผิดกฎสักหน่อย เพียงแค่อาศัยช่องว่างนิด ๆหน่อย ๆเท่านั้นเอง!

นี่เป็นการเสียสละทำประโยชน์เพื่อสังคมที่อีกหน่อยจะมีแต่ผู้สูงอายุนะ!

……………………………………………………

ตอนที่ 2200 เข้าบัญชีล้าน

เฮ่อเหลียนชิงที่อยู่สวนฟาร์มดีใจจนหุบยิ้มไม่อยู่ เงินวางกองเต็มโต๊ะ แบงค์ร้อยเป็นปึก ๆวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ปึกหนึ่งมีหนึ่งหมื่น

“หนึ่ง…สอง…สาม…หนึ่งร้อยแปด…”

เฮ่อเหลียนชิงนับไปยิ้มไป มีทั้งหมด 108 ปึกเท่ากับมีเงินหนึ่งล้านแปด

“ตัวเลขนี้ไม่เลวเลย ไถ่กลับไปหมดหรือยัง?” เฮ่อเหลียนชิงยิ้มด้วยความเบิกบานใจ เมื่อวานถูกหนิงเฉินเซวียนทำให้โมโหแต่บัดนี้ไปมลายหายไปแล้ว

ถูกทำให้โมโหแล้วได้เงินกลับมาล้านแปด งั้นเขาก็ยอมโมโหทุกวันเลย!

“เอากลับไปหมดแล้วครับ เหลือแค่ม้าเซ็กเธาว์ตัวเดียวเท่านั้น” เสี่ยวเมิ่งยิ้มแล้วพูดตอบ

เฮ่อเหลียนชิงคิ้วเป็นเส้นตรง จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ว่า “ม้าเซ็กเธาว์เป็นเมียของโฉ่วโฉ่ว เป็นของบ้านเราแล้วจะเอากลับไปได้อย่างไร ไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ!”

เขาจ้องเสี่ยวเมิ่งอย่างนึกรังเกียจ ชักจะไม่ได้เรื่องขึ้นทุกวัน

เสี่ยวเมิ่งปากกระตุกน้อย ๆ ถามขึ้นว่า “หนิงเฉินเซวียนส่งคนมาเอาม้าคืน นายท่านว่า…”

เฮ่อเหลียนชิงแค่นเสียงได้ใจ “เขาอยากได้มันก็เรื่องของเขาแล้วเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก แกให้คนเอาเงินพวกนี้ไปเปิดบัญชีเงินฝากแยกไว้ให้หลานของฉัน”

เสี่ยวเมิ่งเรียกลูกน้องมาแล้วให้เอาเงินออกไปเปิดบัญชีเงินฝาก เขาจงใจออกไปโผล่หน้าที่สวนฟาร์มอีกครั้ง หนิงเฉินเซวียนยังอยู่พร้อมสีหน้าบึ้งตึง เขาเห็นเช่นนั้นยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบเลย

“คุณท่าน ผมเกรงว่าหนิงเฉินเซวียนจะแอบลงมือลับหลัง” เสี่ยวเมิ่งกลับมาแล้วเอ่ยขึ้น

เฮ่อเหลียนชิงแสยะยิ้มเย็นยะเยือก “คิดว่าฉันจะกลัวเหรอ สั่งการลงไปว่าช่วงนี้เพิ่มการคุ้มกันให้หนาแน่นขึ้น หากมีเรื่องแบบครั้งที่แล้วเกิดขึ้นอีกก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน”

“ครับ!”

เสี่ยวเมิ่งตื่นตกใจ ทำหน้าจริงจังแล้วจัดการทุกอย่างตามที่บอก ไม่กล้าหละหลวมใด ๆอีก

แต่ว่าครั้งนี้หนิงเฉินเซวียนไม่ได้ลงมือทำอะไร แต่เขากลับเล่าเรื่องนี้ให้นายใหญ่ฟัง นายใหญ่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในสนามม้านานแล้ว ทั้งยังรู้สึกไม่พอใจกับการพูดจากลับกลอกของหนิงเฉินเซวียนด้วย อีกทั้งเขาไม่คิดจะทนกับตาแก่คนนี้อีกต่อไป แน่นอนว่าไม่ได้พูดจาถนอมน้ำใจเหมือนอย่างเคยแต่กลับพูดกับหนิงเฉินเซวียนออกมาตรง ๆว่าเขาเป็นคนพูดจาอะไรเชื่อถือไม่ได้ ทั้ง ๆที่เป็นฝ่ายพูดเรื่องพนันขึ้นมาก่อนแต่พอแพ้แล้วกลับไม่ยอมรับ นี่ไม่ใช่นิสัยของลูกผู้ชายเลย

“ในเมื่อม้าเซ็กเธาว์ตัวนี้เป็นม้าที่นายแพ้พนันให้กับเขาไปแล้ว ถึงนายจะไม่ยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก มันจะเป็นการบ่งบอกว่านายเป็นคนใจแคบ ฉันคิดว่าเรื่องนี้พอแค่นี้เถอะ ต่อไปก็อย่าก่อเรื่องอีก ตกลงไหมเหล่าหนิง”

ถึงแม้นายใหญ่จะพูดไปยิ้มไปแต่น้ำเสียงออกแนวปฏิเสธมากกว่า สายตายังแฝงไปด้วยความดุดัน

หนิงเฉินเซวียนรู้สึกตกใจอยู่ในใจ การลำเอียงของนายใหญ่ครั้งนี้ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย แต่ยิ่งกว่านั้นคือความโกรธ แต่ว่าเขาก็ไม่ได้แสดงออกมาและเปลี่ยนไปพูดเรื่องที่เฮ่อเหลียนชิงกอบโกยผลกำไรจากเรื่องในครั้งนี้แทน

นายใหญ่รู้อยู่แล้วเพราะก่อนที่หนิงเฉินเซวียนจะมาฟ้อง เฮ่อเหลียนชิงได้แวะมาหาก่อนแล้ว เขามามอบเงินจำนวนล้านแปดนั้นเก็บเข้าคลังของประเทศโดยไม่ขาดแม้แต่แดงเดียว พร้อมทั้งบอกว่าเอาเงินจำนวนนี้ไว้สนับสนุนประเทศชาติ

ถึงขนาดเอาเงินมาสนับสนุนประเทศชาติ นายใหญ่จะไม่พอใจได้อย่างไร หนึ่งล้านก็สามารถเอาไปทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างแล้ว หากว่าทุกคนคิดได้แบบเฮ่อเหลียนชิงจะช่วยลดเรื่องกังวลใจเขาได้ขนาดไหนกันนะ?

“เรื่องนี้เฮ่อเหลียนชิงทำไม่ถูกต้อง เดี๋ยวฉันจะไปตำหนิเขาเอง”

นายใหญ่กล่าวโทษเฮ่อเหลียนชิงแต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อเอาเงินเข้าคลังของประเทศไปแล้วจะเอาออกมาคงเป็นไปไม่ได้ เขาอยากจะจัดการคนของรัฐบาลที่โลภมากพวกนั้นมานานแล้ว!

หากกินเงินเดือนไปวัน ๆจะมีเงินมากขนาดนั้นได้อย่างไร?

หึ อย่านึกว่าเขาไม่รู้ว่าคนพวกนี้แอบสมรู้ร่วมคิดกันนะ!

เพียงแต่ว่าน้ำที่ใสเกินไปจะไม่มีปลา คนที่เข้มงวดเกินไปก็จะไม่มีเพื่อน เรื่องอะไรก็ไม่ควรทำให้มันเกินไป เขาจึงจำเป็นต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปไงล่ะ!

…………………………………………..

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท