ตอนที่ 2215 จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต
เหมยเหมยยืนอยู่ตรงหน้าคุณแม่ฉางพอดี เธอไม่คิดว่าคุณแม่ฉางที่ดูท่าทางป่วยออด ๆแอด ๆจะลงไม้ลงมือได้ ปฏิกิริยาแรกของเธอคือรีบเอามือบังหน้าทองไว้ ไม่ทันหลบจึงถูกคุณแม่ฉางผลักเข้าเต็มแรงทำให้ร่างหงายไปด้านหลัง
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอยู่ใกล้ที่สุดตกใจจนหน้าซีดรีบวิ่งไปประคองเอาไว้ แต่เธอตัวอ้วนเลยเคลื่อนไหวไม่คล่องตัวนัก สิ่งที่แค้นใจที่สุดคือคุณแม่ฉางจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป ผลักทีหนึ่งไม่ว่าแต่กลับผลักซ้ำอีกทีหนึ่ง
“ทำร้ายหลานฉันนักใช่ไหม ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเธอมายุ่มย่ามแล้วจะเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร…”
คุณแม่ฉางเกลียดเหมยเหมยกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสุดใจ เธอได้ข่าวมาว่าเพราะยัยตัวดีสองคนนี้เป่าหูฉีฉีเก๋อ ฉีฉีเก๋อถึงได้โทรหาพ่อแม่ ไม่อย่างนั้นตอนนี้ลูกชายเธอคงจดได้ทะเบียนกับฉีฉีเก๋อไปแล้ว
ขอเพียงประทับตราก็เป็นเรื่องตอกตะปูเข้ากระดาษเหล็ก ฉีฉีเก๋อเท่ากับเป็นคนตระกูลฉางที่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติของเธอ แล้วจะมีปัญหาพวกนี้ได้อย่างไร?
ถึงคราวกลับไปจัดงานแต่งงานที่บ้านเกิดเธอยังจะได้ค่าซองแต่งงานอีกเป็นกอบเป็นกำ ค่าใส่ซองที่เคยให้ไปต้องเอาคืนมาให้หมด แล้วยังจะได้ค่าสินเดิมตั้งอีกก้อนหนึ่งแหนะ!
เธอได้สืบมาจากลูกชายหมดแล้วว่าแม้ฉีฉีเก๋อจะหน้าตาขี้เหร่ไปสักหน่อย แต่เดิมไม่เข้าตาเธอหรอกแต่พอได้ยินว่าครอบครัวอีกฝ่ายเป็นเจ้าของฟาร์มม้าเธอก็เปลี่ยนใจทันที
แผนจดทะเบียนสมรสก็มาจากเธอเอง เธอวางแผนคิดจะเป็นฝ่ายกุมอำนาจการตัดสินใจ ขอเพียงลูกชายร่วมเตียงกับลูกสาวเขาแล้วปล่อยเมล็ดพันธุ์ไว้ในตัวก็เท่ากับเป็นการตอกตะปูลงบนกระดานเหล็กแล้ว ยังจะกลัวแม่ไก่ฟักไข่ทองคำอย่างฉีฉีเก๋อหนีไปอีกหรือ?
ไม่ว่าจะบินหนีไปไหนก็ต้องเป็นคนตระกูลฉางของเธออยู่ดี!
แล้วยังต้องเป็นฝ่ายตอบรับเงื่อนไขของเธอด้วย!
บ้านที่เมืองหลวงต้องเป็นสินแต่งงานภายใต้ชื่อของลูกชายเธอ รถยนต์ก็ต้องมี ไหนจะค่าเทอมเรียนมหาวิทยาลัยของลูกสาวเธอ ค่าหาหมอเลี้ยงชีพในชีวิตบั้นปลายของเธอ…
เธอวางแผนไว้หมดแล้ว!
ไม่ให้ก็ไม่แต่งงาน สุดท้ายดูสิว่าใครจะเป็นคนอับอายขายหน้า อย่างไรบ้านเธอก็ไม่เสียเปรียบอยู่แล้วที่ได้นอนกับลูกสาวอีกฝ่ายฟรี ๆ แล้วยังได้หลานมาฟรี ๆอีกคน!
แผนการที่คุณแม่ฉางวางไว้เสียดิบดีถูกคนปั่นจนล้มไม่เป็นท่า เธอจะไม่แค้นได้อย่างไร?
เพราะแขนไม่ค่อยมีแรงนักเธอจึงรู้สึกว่าผลักหนึ่งทียังไม่สะใจพอเลยผลักไปอีกหนึ่งที คุณแม่ฉีฉีเก๋อทั้งสูงทั้งแข็งแรงเธอย่อมสู้ไม่ไหว ยัยเด็กนี่ดูท่าทางอ่อนแอแล้วเธอจะสู้ไม่ไหวหรือ?
เดิมทีเหมยเหมยทรงตัวได้แล้วแต่พอโดนอีกทีจึงทำให้เธอเสียการทรงตัวจนร่างหงายหลังอีกครั้ง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ่งร้อนใจก็ยิ่งช้าพลางตวาดด่าเสียงดัง “ถ้าเหมยเหมยเป็นอะไรไป ทั้งครอบครัวของป้าต้องตายแน่!”
เธอเห็นว่าคงประคองไม่ทันเลยผุดความคิดหนึ่งขึ้น เธอเลือกล้มตัวนอนเป็นเบาะรองให้เหมยเหมย เธอมีไขมันเยอะตัวนุ่มนิ่ม ท้องของเหมยเหมยคงไม่เป็นไร
“ปัง” เสียงร่วงตกพื้นเพราะเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทิ้งตัวนอนบนพื้นหินอ่อนอย่าแรง เจ็บจนต้องกัดฟันกรอดใบหน้ากลมเป็นลูกซาลาเปาบิดเบี้ยว
แต่มีอีกร่างหนึ่งวาบเข้ามาซึ่งก็คือป้าฟางที่พุ่งพรวดมารับตัวเหมยเหมยไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็หมุนอยู่ที่เดิมหนึ่งรอบผ่อนแรงลงถึงประคองเหมยเหมยได้อย่างมั่นคง
“คุณหนู ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”
เหมยเหมยเองก็ตกใจแทบแย่ มีชั่ววูบหนึ่งที่เธอรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปช่วงก่อนจะถูกผลักตกตึกเมื่อชาติที่แล้ว ความอ่อนแรงและเศร้าใจอย่างลึกซึ้งถาโถมเข้ามา ทำให้เธอนึกเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถ
หากคราวนี้เธอปกป้องลูกไม่ได้อีก เธอคงไม่คู่ควรจะเป็นแม่คนแล้วจริง ๆ!
“ไม่เป็นไร!”
เหมยเหมยหายใจหอบถี่แล้วก็ค่อย ๆสงบลง พอไม่รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายถึงค่อยวางใจ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนบนพื้นร้องขึ้น “ป้าพยุงฉันที โอ๊ย…เจ็บจะตายอยู่แล้ว…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเสียใจเหลือเกิน หากเธอรู้แต่แรกว่าป้าฟางที่ดูเรียบร้อยจะมีทักษะไหวพริบดีขนาดนี้ แล้วเธอจะมาลำบากทำไมอีกล่ะ?
………………………
ตอนที่ 2216 ป้าฟางระเบิดอารมณ์
ป้าฟางยื่นแขนฉุดเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่กัดฟันสูดปากลุกขึ้นตามแรงดึง ฤดูร้อนใส่เสื้อบางจึงเห็นว่าตรงข้อศอกล้มเป็นแผลช้ำอย่างชัดเจนและเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
เหมยเหมยอุ่นวาบที่หัวใจพลางให้เธอไปทำแผลสักหน่อย
“ไม่ต้องหรอก กลับไปทาทิงเจอร์ไอโดดีนหน่อยก็พอ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ อีกทั้งตอนนี้เธอก็ไม่สบายใจที่จะไปด้วย ใครจะรู้เล่าว่ายายแก่นี่จะมาไม้ไหนอีก!
ฉางชิงซงกับพวกลุงปาเกินต่างพรูลมหายใจเฮือกใหญ่ พวกเขาต่างรู้เรื่องที่เหมยเหมยตั้งครรภ์ดี ยิ่งรู้ว่าหากเหมยเหมยเป็นอะไรไปพวกเขาทุกคนในที่นี้คงหนีไม่พ้นจากการเอาคืนของเหยียนหมิงซุ่นแน่!
“แม่ แม่ทำอะไรน่ะ…”
ฉางชิงซงเดินเข้ามาขอโทษเหมยเหมยแล้วหันไปตำหนิแม่อย่างไม่พอใจ เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าคุณแม่ฉางจะลงไม้ลงมือทันที แล้วยังเล็งเป้าหมายไปที่เหมยเหมยอีกต่างหาก นี่คิดจะฆ่าเขาเลยหรือไงกัน?
คุณแม่ฉางว่าอย่างไม่พอใจ “ฉันแค่ผลักเบา ๆทีเดียวเอง หรือว่าเธอทำจากทองคำผลักนิดผลักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?”
“เพี้ยะ”
ป้าฟางประคองเหมยเหมยไปยืนให้ห่างแล้วให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคอยเฝ้าเอาไว้ จากนั้นก็พุ่งตัวมาตรงหน้าคุณแม่ฉาง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ตบหน้าฉาดใหญ่ นี่เธอใช้แรงไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นแต่ก็ตบหน้าคุณแม่ฉางตัวหมุนไปหลายตลบ หากไม่ใช่เพราะฉางชิงซงประคองได้ทันคงล้มกับพื้นก้นจ้ำเบ้าไปแล้ว
“เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้ามาผลักคุณหนูฉัน? ถ้าอยากตายก็พูดมาตรง ๆ ฉันจะให้คนลากคนทั้งครอบครัวเธอไปฝังทีเดียว!”
ป้าฟางกับพวกฉางชิงซงเป็นคนบ้านเดียวกัน เธอพูดด้วยภาษาท้องถิ่นดั้งเดิมพร้อมด่าไปยกหนึ่ง
คุณแม่ฉางถูกตบจนบวมไปครึ่งหน้า ทั้งยังมีเลือดซึมออกตรงมุมปาก เธอคายฟันออกมาสองซี่ ทั้งกลัวทั้งโกรธแล้วทิ้งตัวนั่งบนพื้นร่ำไห้ปล่อยโฮ…
“โอ๊ย…มีคนอาละวาดหาเรื่อง…กลางวันแสก ๆก็กล้าทำร้ายคนอื่น…แบบนี้ยังเห็นความสำคัญของกฎหมายอยู่หรือเปล่า…”
การแกล้งทำตัวน่าสงสารเป็นวิชาถนัดมือของคุณแม่ฉาง เธออาศัยวิธีการนี้ปราบสามีและลูกชาย แล้วยังปราบเจ้าของโรงงานรวมถึงเพื่อนร่วมงานได้อยู่หมัดไม่มีใครเอาชนะเธอได้และไม่มีใครกล้าหาเรื่องเธอ
แต่ตอนนี้เธอกลับเจอคนจริงเข้าแล้ว
ป้าฟางมองฉางชิงซงอย่างเหยียดหยามแวบหนึ่ง ฉีฉีเก๋อถูกตาต้องใจผู้ชายแบบนี้นับว่าช่างตาบอดเสียจริง เจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อน นี่ไม่ใช่คู่ชีวิตที่ดีเลย หากฉีฉีเก๋อแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้จริง ๆ งั้นก็รอมีชีวิตที่ลำบากไปเถอะ!
“ต้นไม้มีเปลือกลำต้น คนยังต้องมีหน้า[1] เธอปล่อยให้แม่เธอทำตัวงี่เง่าแบบนี้เหรอ? อย่ามาทำให้คนบ้านเกิดเราต้องอับอายขายหน้าสิ!”
ถ้อยคำของป้าฟางทำเอาฉางชิงซงใบหน้าขึ้นสี เขาทั้งอายทั้งรู้สึกผิดนึกอยากหาหลุมมุดเข้าไปเสีย เขาก้มตัวลงประคองคุณแม่ฉางที่ยังร้องโหยหวนพลางพูดเกลี้ยกล่อมเสียงเบาไม่กี่ประโยค แต่ก็ไม่เกิดผลแถมคุณแม่ฉางร้องไห้หนักกว่าเดิม
“อยากตายตอนนี้เลยใช่ไหม? ฉันจะส่งเธอไปหายมบาลเดี๋ยวนี้เลย!”
ป้าฟางตีหน้านิ่งสายตาฉายแววเยือกเย็น ความอาฆาตที่ปกปิดเอาไว้แผ่กระจายออกมาจากตัวจนทำเอาทุกคนสะดุ้งเฮือกเสียวสันหลังวาบ เวลานี้พวกเขาเพิ่งค้นพบว่าผู้หญิงที่มีท่าทางคล้ายพี่เลี้ยงข้างตัวเหมยเหมยเป็นคนโหดคนหนึ่งดี ๆนี่เอง
คุณแม่ฉางยังไม่ทันได้สติก็ถูกป้าฟางคว้าคอเสื้อไว้ เจ้าตัวเท้าลอยเหนือพื้นสองขาส่ายไปมากลางอากาศ
“ชิงซง…แก…รีบมาช่วยฉันสิ…จะฆ่าฉันตายอยู่แล้ว!”
คุณแม่ฉางตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่างพลางเรียกผู้ชายบ้านตนรีบมาช่วยชีวิต
คุณพ่อฉางเองก็สะดุ้งตกใจ ดูท่าทางเขาเป็นคนซื่อ ๆสงบเสงี่ยม ที่ผ่านมาเขาไม่ปริเสียงพูดจาใด ๆเลย พอเห็นภรรยากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากก็รีบพุ่งเข้ามาคิดจะช่วยภรรยาให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือป้าฟาง
ฉางชิงซงรีบห้ามเขาไว้ หันไปคุยกับป้าฟางดี ๆ “ป้าครับ แม่ผมไม่รู้กฎระเบียบ ไว้ผมกลับไปจะสั่งสอนเธอเอง ป้าเป็นคนใจกว้างได้โปรดเมตตาอย่าถือสาแม่ผมเลยนะครับ…”
……………………………
[1] เป็นสำนวนแปลว่าคนเราควรมีศักดิ์ศรี