ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2215 จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต + ตอนที่ 2216 ป้าฟางระเบิดอารมณ์

บทที่ 2215 จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต + ตอนที่ 2216 ป้าฟางระเบิดอารมณ์

ตอนที่ 2215 จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต

เหมยเหมยยืนอยู่ตรงหน้าคุณแม่ฉางพอดี เธอไม่คิดว่าคุณแม่ฉางที่ดูท่าทางป่วยออด ๆแอด ๆจะลงไม้ลงมือได้ ปฏิกิริยาแรกของเธอคือรีบเอามือบังหน้าทองไว้ ไม่ทันหลบจึงถูกคุณแม่ฉางผลักเข้าเต็มแรงทำให้ร่างหงายไปด้านหลัง

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอยู่ใกล้ที่สุดตกใจจนหน้าซีดรีบวิ่งไปประคองเอาไว้ แต่เธอตัวอ้วนเลยเคลื่อนไหวไม่คล่องตัวนัก สิ่งที่แค้นใจที่สุดคือคุณแม่ฉางจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป ผลักทีหนึ่งไม่ว่าแต่กลับผลักซ้ำอีกทีหนึ่ง

“ทำร้ายหลานฉันนักใช่ไหม ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเธอมายุ่มย่ามแล้วจะเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร…”

คุณแม่ฉางเกลียดเหมยเหมยกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสุดใจ เธอได้ข่าวมาว่าเพราะยัยตัวดีสองคนนี้เป่าหูฉีฉีเก๋อ ฉีฉีเก๋อถึงได้โทรหาพ่อแม่ ไม่อย่างนั้นตอนนี้ลูกชายเธอคงจดได้ทะเบียนกับฉีฉีเก๋อไปแล้ว

ขอเพียงประทับตราก็เป็นเรื่องตอกตะปูเข้ากระดาษเหล็ก ฉีฉีเก๋อเท่ากับเป็นคนตระกูลฉางที่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติของเธอ แล้วจะมีปัญหาพวกนี้ได้อย่างไร?

ถึงคราวกลับไปจัดงานแต่งงานที่บ้านเกิดเธอยังจะได้ค่าซองแต่งงานอีกเป็นกอบเป็นกำ ค่าใส่ซองที่เคยให้ไปต้องเอาคืนมาให้หมด แล้วยังจะได้ค่าสินเดิมตั้งอีกก้อนหนึ่งแหนะ!

เธอได้สืบมาจากลูกชายหมดแล้วว่าแม้ฉีฉีเก๋อจะหน้าตาขี้เหร่ไปสักหน่อย แต่เดิมไม่เข้าตาเธอหรอกแต่พอได้ยินว่าครอบครัวอีกฝ่ายเป็นเจ้าของฟาร์มม้าเธอก็เปลี่ยนใจทันที

แผนจดทะเบียนสมรสก็มาจากเธอเอง เธอวางแผนคิดจะเป็นฝ่ายกุมอำนาจการตัดสินใจ ขอเพียงลูกชายร่วมเตียงกับลูกสาวเขาแล้วปล่อยเมล็ดพันธุ์ไว้ในตัวก็เท่ากับเป็นการตอกตะปูลงบนกระดานเหล็กแล้ว ยังจะกลัวแม่ไก่ฟักไข่ทองคำอย่างฉีฉีเก๋อหนีไปอีกหรือ?

ไม่ว่าจะบินหนีไปไหนก็ต้องเป็นคนตระกูลฉางของเธออยู่ดี!

แล้วยังต้องเป็นฝ่ายตอบรับเงื่อนไขของเธอด้วย!

บ้านที่เมืองหลวงต้องเป็นสินแต่งงานภายใต้ชื่อของลูกชายเธอ รถยนต์ก็ต้องมี ไหนจะค่าเทอมเรียนมหาวิทยาลัยของลูกสาวเธอ ค่าหาหมอเลี้ยงชีพในชีวิตบั้นปลายของเธอ…

เธอวางแผนไว้หมดแล้ว!

ไม่ให้ก็ไม่แต่งงาน สุดท้ายดูสิว่าใครจะเป็นคนอับอายขายหน้า อย่างไรบ้านเธอก็ไม่เสียเปรียบอยู่แล้วที่ได้นอนกับลูกสาวอีกฝ่ายฟรี ๆ แล้วยังได้หลานมาฟรี ๆอีกคน!

แผนการที่คุณแม่ฉางวางไว้เสียดิบดีถูกคนปั่นจนล้มไม่เป็นท่า เธอจะไม่แค้นได้อย่างไร?

เพราะแขนไม่ค่อยมีแรงนักเธอจึงรู้สึกว่าผลักหนึ่งทียังไม่สะใจพอเลยผลักไปอีกหนึ่งที คุณแม่ฉีฉีเก๋อทั้งสูงทั้งแข็งแรงเธอย่อมสู้ไม่ไหว ยัยเด็กนี่ดูท่าทางอ่อนแอแล้วเธอจะสู้ไม่ไหวหรือ?

เดิมทีเหมยเหมยทรงตัวได้แล้วแต่พอโดนอีกทีจึงทำให้เธอเสียการทรงตัวจนร่างหงายหลังอีกครั้ง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ่งร้อนใจก็ยิ่งช้าพลางตวาดด่าเสียงดัง “ถ้าเหมยเหมยเป็นอะไรไป ทั้งครอบครัวของป้าต้องตายแน่!”

เธอเห็นว่าคงประคองไม่ทันเลยผุดความคิดหนึ่งขึ้น เธอเลือกล้มตัวนอนเป็นเบาะรองให้เหมยเหมย เธอมีไขมันเยอะตัวนุ่มนิ่ม ท้องของเหมยเหมยคงไม่เป็นไร

“ปัง” เสียงร่วงตกพื้นเพราะเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทิ้งตัวนอนบนพื้นหินอ่อนอย่าแรง เจ็บจนต้องกัดฟันกรอดใบหน้ากลมเป็นลูกซาลาเปาบิดเบี้ยว

แต่มีอีกร่างหนึ่งวาบเข้ามาซึ่งก็คือป้าฟางที่พุ่งพรวดมารับตัวเหมยเหมยไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็หมุนอยู่ที่เดิมหนึ่งรอบผ่อนแรงลงถึงประคองเหมยเหมยได้อย่างมั่นคง

“คุณหนู ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”

เหมยเหมยเองก็ตกใจแทบแย่ มีชั่ววูบหนึ่งที่เธอรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปช่วงก่อนจะถูกผลักตกตึกเมื่อชาติที่แล้ว ความอ่อนแรงและเศร้าใจอย่างลึกซึ้งถาโถมเข้ามา ทำให้เธอนึกเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถ

หากคราวนี้เธอปกป้องลูกไม่ได้อีก เธอคงไม่คู่ควรจะเป็นแม่คนแล้วจริง ๆ!

“ไม่เป็นไร!”

เหมยเหมยหายใจหอบถี่แล้วก็ค่อย ๆสงบลง พอไม่รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายถึงค่อยวางใจ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนบนพื้นร้องขึ้น “ป้าพยุงฉันที โอ๊ย…เจ็บจะตายอยู่แล้ว…”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเสียใจเหลือเกิน หากเธอรู้แต่แรกว่าป้าฟางที่ดูเรียบร้อยจะมีทักษะไหวพริบดีขนาดนี้ แล้วเธอจะมาลำบากทำไมอีกล่ะ?

………………………

ตอนที่ 2216 ป้าฟางระเบิดอารมณ์

ป้าฟางยื่นแขนฉุดเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่กัดฟันสูดปากลุกขึ้นตามแรงดึง ฤดูร้อนใส่เสื้อบางจึงเห็นว่าตรงข้อศอกล้มเป็นแผลช้ำอย่างชัดเจนและเลือดซึมออกมาเล็กน้อย

เหมยเหมยอุ่นวาบที่หัวใจพลางให้เธอไปทำแผลสักหน่อย

“ไม่ต้องหรอก กลับไปทาทิงเจอร์ไอโดดีนหน่อยก็พอ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ อีกทั้งตอนนี้เธอก็ไม่สบายใจที่จะไปด้วย ใครจะรู้เล่าว่ายายแก่นี่จะมาไม้ไหนอีก!

ฉางชิงซงกับพวกลุงปาเกินต่างพรูลมหายใจเฮือกใหญ่ พวกเขาต่างรู้เรื่องที่เหมยเหมยตั้งครรภ์ดี ยิ่งรู้ว่าหากเหมยเหมยเป็นอะไรไปพวกเขาทุกคนในที่นี้คงหนีไม่พ้นจากการเอาคืนของเหยียนหมิงซุ่นแน่!

“แม่ แม่ทำอะไรน่ะ…”

ฉางชิงซงเดินเข้ามาขอโทษเหมยเหมยแล้วหันไปตำหนิแม่อย่างไม่พอใจ เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าคุณแม่ฉางจะลงไม้ลงมือทันที แล้วยังเล็งเป้าหมายไปที่เหมยเหมยอีกต่างหาก นี่คิดจะฆ่าเขาเลยหรือไงกัน?

คุณแม่ฉางว่าอย่างไม่พอใจ “ฉันแค่ผลักเบา ๆทีเดียวเอง หรือว่าเธอทำจากทองคำผลักนิดผลักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?”

“เพี้ยะ”

ป้าฟางประคองเหมยเหมยไปยืนให้ห่างแล้วให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคอยเฝ้าเอาไว้ จากนั้นก็พุ่งตัวมาตรงหน้าคุณแม่ฉาง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ตบหน้าฉาดใหญ่ นี่เธอใช้แรงไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นแต่ก็ตบหน้าคุณแม่ฉางตัวหมุนไปหลายตลบ หากไม่ใช่เพราะฉางชิงซงประคองได้ทันคงล้มกับพื้นก้นจ้ำเบ้าไปแล้ว

“เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้ามาผลักคุณหนูฉัน? ถ้าอยากตายก็พูดมาตรง ๆ ฉันจะให้คนลากคนทั้งครอบครัวเธอไปฝังทีเดียว!”

ป้าฟางกับพวกฉางชิงซงเป็นคนบ้านเดียวกัน เธอพูดด้วยภาษาท้องถิ่นดั้งเดิมพร้อมด่าไปยกหนึ่ง

คุณแม่ฉางถูกตบจนบวมไปครึ่งหน้า ทั้งยังมีเลือดซึมออกตรงมุมปาก เธอคายฟันออกมาสองซี่ ทั้งกลัวทั้งโกรธแล้วทิ้งตัวนั่งบนพื้นร่ำไห้ปล่อยโฮ…

“โอ๊ย…มีคนอาละวาดหาเรื่อง…กลางวันแสก ๆก็กล้าทำร้ายคนอื่น…แบบนี้ยังเห็นความสำคัญของกฎหมายอยู่หรือเปล่า…”

การแกล้งทำตัวน่าสงสารเป็นวิชาถนัดมือของคุณแม่ฉาง เธออาศัยวิธีการนี้ปราบสามีและลูกชาย แล้วยังปราบเจ้าของโรงงานรวมถึงเพื่อนร่วมงานได้อยู่หมัดไม่มีใครเอาชนะเธอได้และไม่มีใครกล้าหาเรื่องเธอ

แต่ตอนนี้เธอกลับเจอคนจริงเข้าแล้ว

ป้าฟางมองฉางชิงซงอย่างเหยียดหยามแวบหนึ่ง ฉีฉีเก๋อถูกตาต้องใจผู้ชายแบบนี้นับว่าช่างตาบอดเสียจริง เจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อน นี่ไม่ใช่คู่ชีวิตที่ดีเลย หากฉีฉีเก๋อแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้จริง ๆ งั้นก็รอมีชีวิตที่ลำบากไปเถอะ!

“ต้นไม้มีเปลือกลำต้น คนยังต้องมีหน้า[1] เธอปล่อยให้แม่เธอทำตัวงี่เง่าแบบนี้เหรอ? อย่ามาทำให้คนบ้านเกิดเราต้องอับอายขายหน้าสิ!”

ถ้อยคำของป้าฟางทำเอาฉางชิงซงใบหน้าขึ้นสี เขาทั้งอายทั้งรู้สึกผิดนึกอยากหาหลุมมุดเข้าไปเสีย เขาก้มตัวลงประคองคุณแม่ฉางที่ยังร้องโหยหวนพลางพูดเกลี้ยกล่อมเสียงเบาไม่กี่ประโยค แต่ก็ไม่เกิดผลแถมคุณแม่ฉางร้องไห้หนักกว่าเดิม

“อยากตายตอนนี้เลยใช่ไหม? ฉันจะส่งเธอไปหายมบาลเดี๋ยวนี้เลย!”

ป้าฟางตีหน้านิ่งสายตาฉายแววเยือกเย็น ความอาฆาตที่ปกปิดเอาไว้แผ่กระจายออกมาจากตัวจนทำเอาทุกคนสะดุ้งเฮือกเสียวสันหลังวาบ เวลานี้พวกเขาเพิ่งค้นพบว่าผู้หญิงที่มีท่าทางคล้ายพี่เลี้ยงข้างตัวเหมยเหมยเป็นคนโหดคนหนึ่งดี ๆนี่เอง

คุณแม่ฉางยังไม่ทันได้สติก็ถูกป้าฟางคว้าคอเสื้อไว้ เจ้าตัวเท้าลอยเหนือพื้นสองขาส่ายไปมากลางอากาศ

“ชิงซง…แก…รีบมาช่วยฉันสิ…จะฆ่าฉันตายอยู่แล้ว!”

คุณแม่ฉางตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่างพลางเรียกผู้ชายบ้านตนรีบมาช่วยชีวิต

คุณพ่อฉางเองก็สะดุ้งตกใจ ดูท่าทางเขาเป็นคนซื่อ ๆสงบเสงี่ยม ที่ผ่านมาเขาไม่ปริเสียงพูดจาใด ๆเลย พอเห็นภรรยากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากก็รีบพุ่งเข้ามาคิดจะช่วยภรรยาให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือป้าฟาง

ฉางชิงซงรีบห้ามเขาไว้ หันไปคุยกับป้าฟางดี ๆ “ป้าครับ แม่ผมไม่รู้กฎระเบียบ ไว้ผมกลับไปจะสั่งสอนเธอเอง ป้าเป็นคนใจกว้างได้โปรดเมตตาอย่าถือสาแม่ผมเลยนะครับ…”

……………………………

[1] เป็นสำนวนแปลว่าคนเราควรมีศักดิ์ศรี

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท