ตอนที่ 2225 ตายไปพร้อมกับฉัน
พวกเหมยเหมยเลือกสถานที่ถ่ายภาพตรงสนามหญ้าหน้าหอประชุม ทิวทัศน์ของสถานที่แห่งนี้ดีที่สุดแล้ว ภาพหมู่จบปีการศึกษามักจะถ่ายกันที่นี่ ชั้นเรียนอื่น ๆจะแยกย้ายกันไปตามอัตโนมัติ หลังจากชั้นเรียนนี้ถ่ายภาพเสร็จ ชั้นเรียนอื่น ๆถึงจะมาถ่ายภาพต่อ
เวลานี้นักศึกษาในชั้นเรียนอื่น ๆต่างก็กังวลและหวาดกลัว แต่ก็แอบดีใจที่พวกเขาไม่ได้อยู่ชั้นเรียนเดียวกับถังม่านลี่ เลยไม่ต้องซวยไปด้วย!
พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปมุงดูแต่เลือกที่จะวิ่งปรู๊ดออกไปทันที เวลานี้หน้าหอประชุมจึงมีเพียงอาจารย์และนักศึกษาชั้นเรียนเดียวกับเหมยเหมย รวมถึงหวังเหลยด้วย
เรื่องที่ถังม่านลี่เป็นหญิงขายบริการนั้นไม่ใช่ความลับอะไรในชั้นเรียน แต่เมื่อพวกเขาได้ยินหวังเหลยพูดว่าถังม่านลี่มีรายได้หลายล้านก็พากันตกตะลึงและเหลือเชื่อ
หลายล้าน?
พวกเขาทำงานทั้งชีวิตยังไม่น่าจะถึงหนึ่งล้านเลยด้วยซ้ำ?
เป็นแค่สาวขายบริการคนหนึ่ง เพียงไม่กี่ปีก็ทำรายได้ไปหลายล้านแล้ว ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ!
ที่แท้ที่เขาบอกกันว่านักวิจัยขีปนาวุธสู้คนขายไข่ไม่ได้ แต่สำหรับพวกเขาแล้วไม่ว่าจะขายกระสุนหรืออะไรก็ตาม ย่อมสู้คนขาย ‘เนื้อ’ ไม่ได้หรอก แค่นอนอ้าขาบนเตียงเงินก็กลิ้งเข้ากระเป๋าไม่มีขาดแล้ว!
ทำไมสังคมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ?
ถังม่านลี่พูดเสียงขรึม “หวังเหลยนายไปฟังใครพูดจาไร้สาระมา? ฉันจะไปมีเงินหลายล้านได้ไง? เงินห้าหมื่นหยวนนั่นฉันใช้เวลาสี่ปีในการเก็บหอมรอมริบกว่าจะได้มา นายไม่คิดหน่อยเหรอถ้าฉันมีเงินหลายล้านจริง ฉันจะปล่อยให้พ่อแม่ทำไร่ทำนาในชนบทแบบนั้นได้อย่างไร? ทำไมถึงไม่สร้างบ้านหลังใหม่ให้กับครอบครัวล่ะ?”
ความสงสัยฉายบนใบหน้าของหวังเหลย ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น พ่อแม่ของถังม่านลี่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านทรุดโทรม พวกเขายังคงไปทำงานตามปกติทุกวัน ไม่เห็นว่าสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวเธอจะดีขึ้นตรงไหน หรือว่าเธอจะไม่มีเงินจริง ๆนะ?
“ฉันจะบอกอะไรนายให้ตอนนี้ถังม่านลี่เป็นผู้หญิงที่โดนพวกคนรวยเรียกใช้บริการมากที่สุด ทำงานทีหนึ่งเริ่มต้นก็ได้ห้าหมื่นต่อคืนแล้ว เสื้อผ้าของเธอราคาเป็นหมื่น ครอบครัวของนายถูกเธอหลอกแล้วล่ะ ถ้าปล่อยแม่ไก่ที่ออกไข่ทองคำไป เอาเงินห้าหมื่นแค่นั้นจะไปมีประโยชน์อะไรเล่า…”
เสียงดังขึ้นข้างหูของหวังเหลย เขาตัวสั่นอย่างรุนแรง ท่าทีการแสดงออกของเขาแข็งกร้าวขึ้นมาอีกครั้ง ถลึงตาจ้องถังม่านลี่อย่างดุดัน “เธออย่ามาโกหกฉัน ฉันได้ยินมาหมดแล้วว่าเธอทำงานแค่คืนเดียวก็มีรายได้ตั้งห้าหมื่นเชียวนะ เธอคิดว่าให้เงินฉันแค่ห้าหมื่นแล้วจะจบงั้นเหรอ? เธอกล้าหลอกฉันใช่ไหม งั้นฉันจะฝังคนพวกนี้ไปพร้อมกันเลย!”
ถังม่านลี่สีหน้าดุดันขึ้น ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าใครเป็นคนหลอกหวังเหลย นอกจากสีอันน่านังสารเลวนั้นจะมีใครอีก!
รอเธอจัดการหวังเหลยก่อนแล้วจะไปจัดการนังสารเลวนั่นแน่!
อธิการบดีเผยรอยยิ้มใจดีขึ้นเรื่อย ๆ กล่าวกับหวังเหลยอย่างอ่อนโยนว่า “พ่อหนุ่ม นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเธอกับถังม่านลี่ หรือจะให้ฉันเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยให้พวกเธอดีไหม พวกเราหาสถานที่สำหรับคุยกันแบบส่วนตัวดีกว่า เธอคิดว่าไงล่ะ?”
ถังม่านลี่ก็กล่าวเชิงเห็นพ้องด้วย “ใช่ หวังเหลย นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับนาย นายจะดึงเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆมาเกี่ยวข้องด้วยทำไม ฉันกับนายไปคุยกันตรงโน้นดีกว่า มีเงื่อนไขอะไรนายก็ว่ามาเลย ขอแค่ฉันทำให้นายพอใจได้ ต่อให้ฉันต้องยืมเงินคนอื่นก็จะทำ!”
อธิการบดีถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกชื่นชมถังม่านลี่อยู่บ้าง ถึงแม้จะก่อเรื่องใหญ่โตไม่น้อยและทำอาชีพที่ไม่ดี แต่ก็ยังมีความรับผิดชอบอยู่ไม่น้อย
เพียงแต่——
หวังเหลยยิ้มเยาะ “พวกเธอคิดว่าฉันโง่หรือไง? พาฉันไปที่อื่นแล้วจะให้ตำรวจมาจับฉันใช่ไหมล่ะ? วันนี้ฉันจะให้ทุกคนตายไปพร้อมกับฉันและถังม่านลี่ เธอผิดต่อฉันมาหลายปีแล้ว ฉันจะทำให้เธอตายอย่างไร้ความสงบสุข!”
เหมยเหมยปิดปากเงียบมาตลอด เธอกำลังรอจังหวะที่หวังเหลยและถังม่านลี่พูดคุยกัน ลมแผ่วเบาพัดพาไปยังทิศทางของหวังเหลย เหมยเหมยรีบฉวยโอกาสโปรยผงยาที่อยู่บนฝ่ามือของเธอลอยไปซึ่งเป็นผงยาที่ไม่มีรสและไม่มีสี ส่วนใหญ่ถูกพัดไปตกอยู่บนตัวของหวังเหลยแต่เขากลับไม่ทันได้สังเกต
………………………………….
ตอนที่ 2226 คุณชายหมิงมาแล้ว
เหมยเหมยพรูลมหายใจ ผงยาที่เธอโปรยไปเป็นผงที่ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นเตรียมไว้ให้ซึ่งเรียกว่าผงคัน ขอแค่สัมผัสโดนร่างกายเพียงเล็กน้อยก็จะคันมากจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
เธอก็แค่ต้องการสร้างโอกาสให้กับบอดี้การ์ดลับสองคนนั้น
“นายบอกว่าอยากแต่งงานกับถังม่านลี่ไม่ใช่เหรอ? นายว่าฉันช่วยนายเกลี้ยกล่อมถังมานลี่ให้ยอมแต่งงานกับนายเป็นไงล่ะ แล้วก็จัดงานเลี้ยงในเมืองหลวง พวกเราจะไปร่วมแสดงความยินดีกับนายด้วยเลย!”
เหมยเหมยเห็นหวังเหลยมือสั่นอย่างรุนแรง ดูท่าทางสติของเขาใกล้จะหลุดเต็มทีแล้ว เห็นทีจะต้องมีคนพูดคุยกับเขาเพื่อทำให้เขาสบายใจขึ้นบ้าง
โชคดีที่ถังม่านลี่ฉลาดขึ้นเยอะ เธอฝืนต่อความน่ารังเกียจตอบไปว่า “หวังเหลย ที่จริงฉันยังชอบนายอยู่นะ แต่เหตุผลที่ฉันไม่อยากแต่งงานกับนายก็เพราะว่าแม่ของนายมักจะดูถูกฉันอยู่ตลอด นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันทำอะไรโง่ ๆ…ในเมื่อตอนนี้นายยินดีที่จะตายเพื่อฉัน ฉันรู้สึกประทับใจเหลือเกิน ไม่อย่างนั้นพวกเราไปจดทะเบียนสมรสกันที่สำนักเขตเถอะ!”
ในดวงตาของหวังเหลยปรากฎความดีใจ เขาชอบถังม่านลี่จริง ๆ ชอบตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมต้นแล้วด้วย ถ้าถังม่านลี่ยินยอมที่จะแต่งกับเขา…
“ถังม่านลี่เคยพูดในหอพักว่าเธอเกลียดผู้ชายในหมู่บ้านที่สุด ทั้งเชยทั้งเหม็นทั้งอัปลักษณ์ เธอบอกว่าต่อให้ต้องแต่งกับคนแก่ก็ยังดีกว่าคนในหมู่บ้านเดียวกันเลย”
เสียงนั้นดังก้องขึ้นในหัวเขาอีกครั้ง หัวใจของชายคนนั้นบีบแน่น เส้นประสาทตึงเปรี๊ยะขึ้นอีกครั้ง ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “นังแพศยา เธอคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดจอมปลอมของเธองั้นเหรอ เธอเคยบอกว่าสู้ยอมแต่งงานกับคนแก่ยังดีกว่าอีก เธอคิดจะโกหกฉันอีกแล้วสินะ…สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือพวกนักศึกษาอย่างพวกเธอ สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วมีอะไรดีนักหนา…จะมีชีวิตอยู่หรือตายก็ขึ้นอยู่กับฉันไม่ใช่หรือไง ฮ่า ๆ…ขอแค่ฉันดึงสลักระเบิดออก พวกเธอก็จะต้องไปพบยมบาลเป็นเพื่อนฉัน…”
หวังเหลยหัวเราะลำพองใจอย่างบ้าคลั่ง ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะอีกต่อไป มือจับสลักแน่นและกำลังจะดึงมันในตอนนี้…
“อ๊า…” พวกนักศึกษาร้องกันเสียงหลง เหตุการณ์นี้อยู่เหนือการควบคุมอีกครั้ง อธิการบดีไม่สามารถปลอบโยนเขาได้อีกต่อไป
“ฮ่า ๆ……”
หวังเหลยภาคภูมิใจกับความแตกตื่นในตอนนี้เหลือเกิน เพราะสิ่งเหล่านี้คือความภาคภูมิใจของสวรรค์ แต่ตอนนี้เขากลับควบคุมชีวิตความเป็นความตายของพวกเขาได้ ณ ตอนนี้หวังเหลยที่เรียนไม่จบมัธยม ทันใดนั้นประโยคหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา “เมื่อเผชิญกับชีวิตความเป็นและความตาย ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีความแตกต่างระหว่างชนชั้นของคนรวยกับคนจนอีกต่อไป!”
ตอนนี้เขารู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้ช่างถูกต้องเสียเหลือเกิน ให้ตายสิ!
หวังเหลยมองถังม่านลี่ที่ในที่สุดก็ตกใจหน้าซีดด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วยิ้มอย่างสิ้นหวัง ขณะที่เขากัดฟันเตรียมดึงสลักออกอยู่นั้น แผ่นหลังและลำคอของเขาก็มีอาการคันเล็กน้อย ตอนแรกเขาไม่ได้ใส่ใจนักแต่กลับทวีความคันขึ้นเรื่อย ๆราวกับมีมดคลานอยู่ก็ไม่ปาน บริเวณอื่น ๆก็เริ่มมีอาการคันขึ้นมาเช่นกันจนค่อย ๆลามไปทั่วร่างกาย…
หวังเหลยจึงต้องคลายมือออกจากสลักระเบิดเพื่อใช้สองมือเกาทั่วร่างกาย
โอกาสมาแล้ว เมื่อมีโอกาสต้องรีบคว้าไว้!
บอดี้การ์ดสองคนที่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของหวังเหลยอยู่ตลอดก็รีบพุ่งประชิดเข้ามาเหมือนสายฟ้าฟาด ทุกคนเห็นเพียงสองเงาดำเท่านั้น ยังไม่ทันดึงสติกลับมาหวังเหลยก็ถูกจับตัวได้แล้ว
“คุณหนู คุณชายหมิงใกล้มาถึงแล้วครับ” บอดี้การ์ดคนหนึ่งบิดแขนของหวังเหลยไว้ ส่วนบอดี้การ์ดอีกคนก็ถอดวัตถุระเบิดออกและนำไปวางไว้ในที่ปลอดภัย
ทุกคนต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก มีหลายคนถึงกับทรุดลงกับพื้น แต่มีบางคนดีใจที่ยังมีชีวิตรอดมาได้
พิธีจบการศึกษาปีนี้ช่างยากที่จะลืมเลือนจริง ๆ!
“ปี๊ป่อ…ปี๊ป่อ”
เสียงไซเรนดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆและในไม่ช้าก็มาถึง เหยียนหมิงซุ่นก็มาถึงในเวลาเดียวกัน เขานั่งเฮลิคอปเตอร์มาเลย โชคดีที่สนามหญ้าหน้าหอประชุมใหญ่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการลงจอด เฮลิคอปเตอร์ทำให้อธิการบดีและนักศึกษาทุกคนตกตะลึงต่างงงงวยกันไปหมด
นี่ยังมีบุคคลสำคัญที่ไหนมาอีกละเนี่ย?
………………………………….