ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2241 กลับตัวกลับใจ + ตอนที่ 2242 ติดเชื้อสารกัมมันตภาพรังสี

บทที่ 2241 กลับตัวกลับใจ + ตอนที่ 2242 ติดเชื้อสารกัมมันตภาพรังสี

ตอนที่ 2241 กลับตัวกลับใจ

แม้คุณหนูใหญ่เหริ่นจะตั้งความหวังไว้สวยหรูแบบนั้นแต่เรือนจำไม่ใช่โรงแรมสักหน่อย จะให้คุณอยู่ตลอดไปได้อย่างไรกัน!

ความผิดของเถ้าแก่เหริ่นอย่างมากก็ข้อหาปกปิดความผิดและสมรู้ร่วมคิดไม่ใช่ผู้ก่อคดีด้วยซ้ำ ตัดสินความผิดให้จำคุกสามปีก็เพียงพอแล้ว หากจำคุกต่อไปแม่ของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนต้องให้คนฟ้องศาลแน่ ๆ ถึงตอนนั้นคงเกิดปัญหาอีก

“ในเมื่อแม่ของเธอคิดถึงขนาดนั้นฉันว่าก็ปล่อยพ่อเธอออกมาเถอะ ครอบครัวพวกเธอจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน” เหมยเหมยกล่าว

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำหน้าสับสนอย่างไม่รู้ควรทำอย่างไรดี

“เฮ้อ…หลายปีมานี้พ่อฉันไม่อยู่บ้าน ฉันคิดว่าดีออก พอจู่ ๆกลับมาแบบนี้ฉันไม่รู้ควรเผชิญหน้ากับพ่อฉันอย่างไรดี…”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ที่สำคัญเลยหากว่าพ่อของเขารู้สาเหตุที่ต้องถูกจำคุกคงตีเธอตายแน่ ๆ!

อีกอย่างเธอก็จะรู้สึกผิดเวลาเผชิญหน้ากับพ่อตัวเอง…

“หรือว่าเธอกับพ่อเธอไม่คิดจะกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกตลอดไปเหรอ? ตอนแรก ๆอาจจะรู้สึกกังวลบ้างแต่ผ่านไปสักพักก็ดีขึ้นเองแหละ พวกเธอไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันสักหน่อย พวกเธอเป็นพ่อลูกกันเชียวนะ!”

เหมยเหมยถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ ทั้งที่คิดถึงมากแท้ ๆแต่ดันปากแข็งอยู่ได้

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเกาท้ายศีรษะพร้อมหัวเราะแก้เก้อไปด้วย “งั้นก็ปล่อยออกมาเถอะ เธอรอก่อนนะไว้ฉันจะไปหาวันที่ฤกษ์ดี ๆหน่อย”

“เธอคิดว่ากำลังแต่งงานอยู่เหรอยังต้องเลือกวันฤกษ์ดี ๆอีก…นั่นเรือนจำเชียวนะ ขอแค่ได้ออกมาจะวันไหนก็ฤกษ์ดีทั้งนั้น ตอนนี้ฉันจะให้ลุงเหลาไปจัดการเรื่องนี้ทันที คิดว่าอีกสามสี่วันคงได้ออกมาแล้ว”

เหมยเหมยถลึงตาใส่อีกทีพลางให้ป้าฟางไปสั่งงานลุงเหลา ตอนนี้คนในเรือนจำมีมากจนเบียดเสียด รีบปล่อยตัวออกมาจะได้สละที่ให้คนอื่น

เพราะเธอลืมเรื่องนี้ไปเลยไม่อย่างนั้นคงปล่อยออกมาตั้งนานแล้ว

สามวันหลังจากนั้นเถ้าแก่เหริ่นก็ได้ออกมาจากเรือนจำอย่างราบรื่น เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับแม่ของเธอไปรับด้วยกันทั้งคู่ เถ้าแก่เหริ่นที่ได้กลับมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้งก็น้ำตาคลอเบ้า ร้องไห้ปล่อยโฮเสียงดัง

สุดท้ายภรรยาคนเดิมก็ดีที่สุดแล้ว!

บรรดาชู้รักที่ปากบอกรักเขานักหนา ตลอดสามปีมานี้ไม่เคยมาเยี่ยมเขาเลยสักครั้ง หนีเร็วยิ่งกว่ากระต่ายด้วยซ้ำ!

เถ้าแก่เหริ่นปาดน้ำตาแล้วสาบานกับตัวเองว่าหลังจากนี้จะใช้ชีวิตกับภรรยาให้ดี ส่วนลูกชาย…เขาก็คิดได้แล้ว

ในเรือนจำมีนักโทษที่อายุเพิ่งยี่สิบต้น ๆ มีหลายคนที่ไม่ได้ทำผิดฐานฆ่าคนก็ปล้นทรัพย์มา มีบางส่วนถูกตัดสินโทษประหารชีวิต บางส่วนถูกตัดสินจำคุกอย่างไม่มีกำหนดวันปล่อยตัว กล่าวโดยสรุปก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไป

มีลูกชายแบบนี้แล้วยังจะให้สืบสานตระกูลบ้าบออย่างไรอีก แล้วยังต้องให้คนผมขาวส่งคนผมดำลงนรกอีกต่างหาก เถ้าแก่เหริ่นเห็นนักโทษวัยรุ่นคดีร้ายแรงเหล่านี้ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่าลูกสาวของตนเป็นลูกสาวที่ดีที่สุดในโลกแล้วจริง ๆ!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคิดไม่ถึงว่าพอพ่อของเธอเข้าคุกทีหนึ่งนอกจากจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วยังมองเธอด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความเมตตาอยู่ประจำ ทำเอาเธอรู้สึกผิดในใจกลัวเรื่องอดีตจะถูกเปิดโปง

เหมยเหมยสั่งสอนเธอไประลอกหนึ่งเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถึงสบายใจขึ้น แล้วกลับมาญาติดีกับพ่อของเธอดังเดิม ครอบครัวใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข

เวลาผ่านพ้นไปวันแล้ววันเล่า ไม่นานก็มาถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคม ระหว่างนั้นเหยียนหมิงซุ่นกลับมาหลายครั้งแต่ก็ค้างที่บ้านแค่วันสองวันก็ออกเดินทางอย่างเร่งรีบออกไปอีกแล้ว

เหมยเหมยตั้งครรภ์สามเดือนเต็มจนหน้าท้องเริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย หากไม่สังเกตคงดูไม่ออก เคยไปตรวจที่โรงพยาบาลมาแล้วบอกว่าแข็งแรงดีทั้งแม่และลูก

วันนี้คุณย่าหยางหิ้วปอเปี๊ยะมาเต็มตะกร้า หลังจากรู้ว่าเหมยเหมยตั้งครรภ์คุณย่าก็ดีใจสุดขีดจนต้องทำของอร่อย ๆ มาให้เหมยเหมยทุกสองวัน หลายวันก่อนเหมยเหมยแค่พูดเปรย ๆว่าอยากทานปอเปี๊ยะคุณย่าก็ทำมาให้โดยเฉพาะ ปอเปี๊ยะทอดเหลืองกรอบทุกชิ้น แค่มองก็รู้สึกเจริญอาหารแล้ว

“ขอบคุณค่ะคุณย่า หนูกำลังจะให้ป้าฟางทำเลย!”

เหมยเหมยหยิบขึ้นมากัดหนึ่งชิ้น ความหอมกระจายเต็มปากและทานอย่างเอร็ดอร่อย คุณย่าหยางมีความสุขยิ่งกว่าคนทานอย่างเธอเสียอีก คอยยิ้มตาหยีมองเธอทานไปเรื่อย ๆ

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็แผดเสียงดังถี่ขึ้น

………………………….

ตอนที่ 2242 ติดเชื้อสารกัมมันตภาพรังสี

เหมยเหมยคิดจะลุกไปรับสายแต่คุณย่าหยางห้ามเธอไว้ “ย่าไปรับเอง เธอทานปอเปี๊ยะต่อเถอะ”

เหยียนหมิงซุ่นได้ยินเสียงคุณย่าจากปลายสายก็ชะงักกึกหนึ่งและรีบเอ่ยว่า “คุณย่าครับ เหมยเหมยอยู่บ้านไหม? ย่าให้เธอรับสายที!”

เดิมทีคุณย่าหยางคิดจะคุยกับหลานชายคนโตที่ไม่ได้เจอกันนานสักหน่อย แต่ฟังจากน้ำเสียงที่ดูร้อนรนของเหยียนหมิงซุ่นเลยยื่นหูโทรศัพท์ให้เหมยเหมย “หมิงซุ่นหาเธอ เหมือนจะมีเรื่องด่วน”

เหมยเหมยรับโทรศัพท์มาด้วยความงุนงง ยังไม่ทันเอ่ยปากเหยียนหมิงซุ่นก็พูดขึ้นว่า “เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้จะมีคนไปเอายาวิเศษ เธอให้เขามากหน่อยนะ”

“พี่ พี่บาดเจ็บเหรอ?”

เหมยเหมยใจดิ่งวูบพลั้งปากถามออกมา คุณย่าหยางที่อยู่ข้าง ๆก็สีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน

“เปล่า แค่เพื่อนร่วมรบคนหนึ่งบาดเจ็บนิดหน่อยเลยต้องการยาวิเศษปริมาณมากมาช่วยชีวิตน่ะ” เหยียนหมิงซุ่นอธิบายสั้น ๆแต่น้ำเสียงแฝงด้วยความกังวลที่ยากจะปิดได้มิด

เหมยเหมยสัมผัสได้ ดูเหมือนเพื่อนร่วมรบคนนี้จะสนิทสนมกับเหยียนหมิงซุ่นมาก แม้จะรู้สึกเสียใจเช่นกันแต่เธอก็โล่งอกไปที ดีที่คนเจ็บตัวไม่ใช่เหยียนหมิงซุ่น

“ได้ ฉันจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้เลย สองกาพอไหม?”

“ได้ ไว้กลับไปค่อยเล่าให้เธอฟังอีกที”

เหยียนหมิงซุ่นวางสายไปอย่างรวดเร็วซึ่งดูเหมือนจะรีบมากจริง ๆ

“เหมยเหมย เกิดเรื่องอะไรกับหมิงซุ่นเหรอ?” คุณย่าหยางเป็นห่วงอย่างถึงที่สุด

“เปล่าหรอกค่ะ เพื่อนร่วมรบของพี่หมิงซุ่นบาดเจ็บสาหัส เขาส่งคนมาเอายารักษาตัวน่ะค่ะ หนูจะไปหยิบให้ตอนนี้เลย” เหมยเหมยปลอบประโลมด้วยเสียงอ่อนโยน คุณย่าพรูลมหายใจยาว “งั้นเธอรีบไปเอาเถอะ เฮ้อ…เวรกรรมจริง ๆ หวังว่าจะรีบหายไว ๆนะ”

เหมยเหมยวิ่งไปที่ห้องแล้วรินยาวิเศษใส่กระบอกน้ำทหารสองกระบอก จากนั้นไม่นานก็มีคนมาหาถึงบ้าน หลังแสดงสัญญาณลับกับลุงเหลาเสร็จลุงเหลาถึงปล่อยให้เข้ามาเอายา

“พระเจ้าได้โปรดคุ้มครองให้คนคนนั้นหายไว ๆทีเถิด”

เหมยเหมยประกบสองมือไหว้หลายทีเพื่ออธิษฐานแก่ผู้บาดเจ็บคนนั้น

ณ โรงพยาบาลเขตทหารฝั่งชายแดนทางใต้แห่งหนึ่ง

เหยียนหมิงซุ่นคุยโทรศัพท์เสร็จก็กลับมาด้วยสีหน้ากังวล เขามองเหยียนหมิงต๋าที่นอนอยู่ในตู้กักตัวผ่านกระจกแล้วขมวดคิ้วแน่น

คนที่เจ็บตัวคือเหยียนหมิงต๋านั่นเอง และยาวิเศษนั่นก็เอามาใช้กับเขา

เหยียนหมิงต๋าโดนสารกัมมันตภาพรังสีติดเชื้อขั้นรุนแรง หากไม่ใช่เพราะเหยียนหมิงซุ่นมียาวิเศษติดตัวเหยียนหมิงต๋าคงอยู่ไม่ถึงตอนนี้

แต่เหยียนหมิงต๋าในตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายและต้องการยาวิเศษปริมาณมากในการช่วยชีวิต เหยียนหมิงซุ่นกังวลใจแต่ก็แอบดีใจ โชดดีที่ไม่ยังไม่ถึงทางตัน!

“ลูกพี่ ยามาแล้ว!”

ลูกน้องกล่าวรายงาน ทันทีที่ลงจากเครื่องบินเขาก็รีบเดินทางมาทันที

เหยียนหมิงซุ่นสวมเสื้อป้องกันสารกัมมันตภาพรังสีครบชุดที่ปกปิดทุกส่วนไม่เปิดเผยผิวกายแม้แต่น้อย เหยียนหมิงต๋าติดเชื้อขั้นรุนแรงจึงเป็นแหล่งแพร่สารไปแล้ว หากไม่สวมชุดป้องกันอาจติดเชื้อไปอีกคนได้

ในตู้กักตัวเต็มไปด้วยยาคิดค้นของแพทย์ที่ใช้ทุเลาความเจ็บปวดของเหยียนหมิงต๋าแต่กลับไม่เป็นผลเท่าไรนัก เนื้อตัวของเหยียนหมิงต๋ามีแผลเหวอะหวะไม่เป็นรูปเป็นร่างจนเหยียนหมิงซุ่นยังทนมองไม่ไหว

เขาเทยาวิเศษลงตู้กักตัวจนพอฟื้นฟูรักษาผิวหนังของเหยียนหมิงต๋าได้ เพิ่งเทยาวิเศษเข้าไปเหยียนหมิงต๋าที่หมดสติไปก็ดูสบายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังไม่ฟื้นขึ้นมาแต่ก็ดูออกว่าไม่ได้เจ็บปวดเหมือนเมื่อสักครู่แล้ว

เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจโล่งอก ได้ผลก็ดี อย่างน้อยก็รักษาชีวิตเหยียนหมิงต๋าไว้ได้แล้ว

ส่วนอาการที่ตามมาภายหลังเหยียนหมิงซุ่นแทบไม่อยากจะคิดถึงมันเลย ตอนนี้เขาแค่อยากรักษาชีวิตน้องชายเอาไว้ก่อนเท่านั้น

เขาหยอดป้อนยาวิเศษให้เหยียนหมิงต๋าอีกหลายหยด เหยียนหมิงต๋าดูดดื่มมันอย่างหิวกระหาย ไม่นานก็ดื่มไปเกือบครึ่งกระบอกและดูท่าทางอาการจะดีขึ้นเล็กน้อยอย่างชัดเจน เหยียนหมิงซุ่นถึงวางใจไปเปราะหนึ่ง

ขอเพียงอาการของเหยียนหมิงต๋าคงที่ก็จะสามารถย้ายไปอยู่ในโรงพยาบาลทหารเมืองหลวงได้ อุปกรณ์การแพทย์ของพรมแดนทางใต้นี้ไม่ได้ครบครันเท่าที่เมืองหลวง

……………………….

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท