ตอนที่ 2243 ไม่รู้ว่าจะมีอาการอื่นในภายหลังอีกหรือเปล่า
หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นเหยียนหมิงซุ่นก็กลับมา เขาไม่ได้กลับบ้านทันทีแต่จัดการเรื่องเหยียนหมิงต๋าให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยตรวจร่างกายตัวเองอีกที เมื่อมั่นใจว่าไม่ได้ติดเชื้ออะไรถึงกลับบ้าน
เหมยเหมยที่อกสั่นขวัญหายมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ พอเห็นเหยียนหมิงซุ่นกลับมาอย่างปลอดภัยไม่เป็นอะไรถึงวางใจก่อนจะโถมเข้าอ้อมกอดเขาอย่างลืมตัว
“พี่ไม่เป็นไรก็ดี ฉันกังวลแทบแย่”
หลังจากเหยียนหมิงซุ่นโทรมาเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนก็ไม่มีข่าวคราวอะไรอีกเลย เหมยเหมยเริ่มใจคอไม่ดีอีกครั้งกลัวว่าเหยียนหมิงซุ่นจะเป็นอะไรไปด้วยอีกคน เธอยังไม่กล้าบอกความจริงกับคุณย่าหยางแค่บอกว่าเหยียนหมิงซุ่นโทรมาทุก ๆสามถึงห้าวัน เธอแบกรับความกดดันไว้คนเดียวจนกลางค่ำกลางคืนก็นอนไม่หลับ
“ยัยโง่ พี่ยังสบายดี ไม่มีแม้แต่รอยถลอกเลยสักนิด!”
เหยียนหมิงซุ่นสวมกอดร่างนุ่มตัวหอมของภรรยา บรรยากาศตลบอบอวลด้วยกลิ่นอายอันคุ้นเคย เขาเองก็รู้สึกจิตใจสงบลงมาแล้วเช่นกัน ทั้งคู่กอดกันอยู่เงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไรเพราะไม่อยากทำลายความเงียบแสนสุขในยามนี้
……
ผ่านไปนานเหมยเหมยถึงผละออกจากเหยียนหมิงซุ่นแล้วปิดจมูกขมวดคิ้วอย่างนึกรังเกียจ “พี่ไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้วเนี่ย? เหม็นจะตายอยู่แล้ว รีบไปอาบน้ำเลย!”
เหยียนหมิงซุ่นก้มลงสูดดมและกลิ่นเหม็นเปรี้ยวก็ลอยเข้ามาเตะจมูกเต็มเปา แม้แต่ตัวเองยังทนไม่ได้
“แล้วเมื่อกี้เธอจะกอดแน่นทำไม…แค่ไม่ได้อาบน้ำมาสามวันเอง…”
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มพูดหยอกเย้า เหมยเหมยถอยหลังหลายก้าวพลางโบกมือปัด “เหม็นจะตายอยู่แล้ว อยู่ให้ห่างจากฉันหน่อย…กลิ่นหึ่งจนฉันมึนหัวไปหมด!”
วันอากาศร้อนอบอ้าวไม่อาบน้ำวันเดียวก็เหนียวตัวจะแย่ หมอนี่กลับไม่อาบน้ำมาตั้งสามวัน เนื้อบนตัวคงกลายเป็นเนื้อดองเค็มไปแล้วมั้ง ไม่ได้เรื่องขึ้นทุกวันจริง ๆ
เหยียนหมิงซุ่นไม่หยอกเหมยเหมยต่ออีก เขาหยิบเสื้อผ้าแล้วไปชำระร่างกาย เนื่องจากเหยียนหมิงต๋ายังต้องอยู่ในตู้กักตัวเลยไม่ได้นั่งเครื่องบินมาแต่เลือกนั่งรถไฟมาเมืองหลวง จากพรมแดนใต้มาเมืองหลวงต้องใช้เวลาเดินทางสามวันสามคืนแล้วจะให้เขาไปอาบน้ำที่ไหนกัน!
พอได้ชำระร่างกายจนสะอาดเหยียนหมิงซุ่นก็รู้สึกสบายผ่อนคลายทั้งตัวและสดชื่นขึ้นมา เหมยเหมยให้ป้าฟางเตรียมอาหารเย็นไว้ตั้งนานแล้วซึ่งล้วนมีแต่ของโปรดเหยียนหมิงซุ่นทั้งนั้น
“เพื่อนร่วมรบที่บาดเจ็บของพี่คนนั้นไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม?” เหมยเหมยตักน้ำซุปให้เหยียนหมิงซุ่นแล้วยังแกะกุ้งให้อีกหลายตัวก่อนจะรวดถาม
เหยียนหมิงซุ่นชะงักมือที่กำลังตักน้ำซุปทานแล้วบอกเธอไปตามตรงอย่างไม่คิดปิดบัง “ยานั่นให้หมิงต๋าใช้ เพิ่งพ้นขีดอันตรายมา”
‘แกร๊ง’
เหมยเหมยตกใจจนช้อนร่วงแล้วถามเสียงแผ่ว “เหยียนหมิงต๋ากำลังเข้ารับการฝึกบนเขาใหญ่พรมแดนทางใต้ไม่ใช่เหรอ? หรือว่าโดนสัตว์ร้ายทำร้ายเข้า?”
“รุนแรงกว่าสัตว์ร้ายหนึ่งร้อยเท่า เขาติดเชื้อจากสารกัมมันตภาพรังสีอย่างรุนแรง ถึงตอนนี้จะรักษาชีวิตไว้ได้แต่ไม่รู้ว่าจะมีอาการอื่นตามมาภายหลังอีกหรือเปล่า” เหยียนหมิงซุ่นยิ้มขมขื่น เขาไม่รู้ว่าควรอธิบายกับคุณปู่คุณย่าอย่างไรด้วยซ้ำ
“ติดเชื้อสารกัมมันตภาพรังสีเหรอ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…”
เหมยเหมยตกใจไม่น้อย สารกัมมันตภาพรังสีเชียวนะ…แค่ฟังก็รู้สึกสะพรึงมากแล้ว
เมื่อครั้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูที่ประเทศญี่ปุ่นครึ่งลูก ขนาดเวลาผ่านไปหลายสิบปีคนที่โดนสารกัมมันตภาพรังสียังทุกข์ทรมานอย่างเจ็บปวดจนกระทั่งสืบทอดถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
สารกัมมันตภาพรังสีคงเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้แล้ว น่ากลัวยิ่งกว่ายาพิษหมื่นเท่า
เหยียนหมิงซุ่นเล่าเรื่องที่เหยียนหมิงต๋าค้นพบฐานระเบิดปรมาณูไปคร่าว ๆ “หมิงต๋าโดนคนในฐานลับเห็นเข้าเลยเผลอเดินเข้าไปในห้องกำจัดขยะที่มีสารกัมมันตภาพรังสีโดยไม่ทันระวังตัว…”
เหมยเหมยเอามือปิดปากอย่างตกใจ หนีไปอยู่ในที่แบบนั้นแล้วยังรอดชีวิตมาได้อีกหรือ?
“ดีที่มียาวิเศษของเธอ ยาวิเศษพวกนี้พอจะช่วยบรรเทาพิษจากสารกัมมันตภาพรังสีได้บ้างเลยทำให้หมิงต๋ารอดชีวิตมาได้ เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าร่างกายของเขาจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า…”
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจเพราะสถานการณ์ในขณะนี้ไม่ค่อยเป็นใจเสียเท่าไร
……………………..
ตอนที่ 2244 จ่ายด้วยราคาที่แพงเกินไป
เหมยเหมยเองก็ถอนหายใจอีกคน สถานการณ์ของเหยียนหมิงต๋าไม่ใช่เพียงไม่สู้ดีแต่แทบไม่อยากคาดคิดถึงมันด้วยซ้ำ
ติดเชื้อจากสารกัมมันตภาพรังสีอย่างรุนแรง…
รอดชีวิตมาได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้วเพียงแต่จะเกิดสิ่งผิดปกติในร่างกายหรือเปล่า หรืออาจจะถ่ายทอดสู่รุ่นลูกหลานหรือไม่นั้น…ยังคาดเดาไม่ได้!
“อย่ากังวลเกินไปเลย พี่บอกฉันว่ายาวิเศษของฉันช่วยลดอนุภาพของสารกัมมันตภาพรังสีได้ไม่ใช่เหรอ? อย่างไรเสียฉันก็มียาวิเศษอยู่อีกมาก งั้นก็ให้เหยียนหมิงต๋าดื่มทุกวันเลย ยังไงก็ต้องดีขึ้นแน่นอน” เหมยเหมยพูดปลอบ
“พี่ก็คิดอย่างนั้น เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกคุณปู่กับคุณย่านะ” เหยียนหมิงซุ่นทิ้งท้าย
“ไม่บอกหรอก ฉันบอกพวกท่านว่าเหยียนหมิงต๋าออกปฏิบัติภารกิจ แต่หลายวันก่อนคุณย่ายังบ่นอยู่เลยว่าตั้งสองปีแล้วทำไมเหยียนหมิงต๋ายังไม่กลับบ้านอีก” เหมยเหมยเอ่ย
เหยียนหมิงซุ่นมุ่นคิ้วแล้วพูดอย่างขมขื่น “ปิดได้นานแค่ไหนก็แค่นั้นเถอะ ตอนนี้หมิงต๋ายังออกจากตู้กักตัวไม่ได้ รอสารกัมมันตภาพรังสีบนตัวเขาหายไปหมดก่อนถึงจะออกมาได้”
เหมยเหมยถามด้วยความสงสัย “ฐานระเบิดปรมาณูนั่นเป็นฝีมือใครกัน? ทำไมต้องไล่ล่าเหยียนหมิงต๋าด้วย?”
“หนิงเฉินเซวียน” เหยียนหมิงซุ่นตอบเสียงนิ่ง
เหมยเหมยตกใจเฮือกใหญ่แล้วเผลอร้องเสียงหลง “เขาบ้าไปแล้วเหรอ…”
ลักลอบสร้างฐานปรมาณูโดยพลการจริงเหรอเนี่ย?
หนิงเฉินเซวียนคิดจะทำลายโลกงั้นหรือ?
เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะ “ก็บ้าไปแล้วไงละ…เขาติดสินใจว่าถ้าก่อกบฏไม่สำเร็จก็จะให้คนทั้งประเทศตายพร้อมกับเขา!”
เหมยเหมยตกใจจนหน้าซีด เธออุตส่าห์ได้ฟื้นคืนชีพหาสามีดี ๆได้แล้วยังมีลูกอีกครั้ง เธอยังใช้ชีวิตไม่หนำใจเลยคงไม่ยอมตายเป็นเพื่อนตาแก่โรคจิตนั่นหรอกนะ!
“แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ…ทำลายฐานลับนั่นได้ไหม?”
“อย่ากังวลไปเลย…พี่ไม่ปล่อยให้มันสมดั่งปรารถนาหรอก เธอกับลูกต้องไม่เป็นไร!” เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าหนักแน่น ต่อให้ลำบากมากเพียงใดเขาก็จะขัดขวางหนิงเฉินเซวียนให้ได้
เขาเองก็ยังใช้ชีวิตไม่หนำใจด้วยเช่นกัน เขายังอยากใช้ชีวิตร่วมกับเหมยเหมยและลูกตลอดไปนะ!
วันรุ่งขึ้นเหยียนหมิงซุ่นพาเหมยเหมยไปหาคุณย่าหยาง คุณย่าเห็นหลานชายคนโตกลับมาอย่างปลอดภัยก็ฉีกยิ้มกว้างทันที สัปดาห์นี้คนที่อกสั่นขวัญหายไม่ได้มีเพียงเหมยเหมยแต่ยังมีเธอด้วยอีกคน
แต่เพื่อไม่ให้เหมยเหมยกังวลคุณย่าหยางจึงแสร้งทำเหมือนไม่เป็นอะไร เธอไปอยู่เป็นเพื่อนชวนเหมยเหมยพูดคุยเป็นประจำทั้งที่ความจริงเธอร้อนใจดั่งมีไฟแผดเผา
“ไม่เป็นไรก็ดี หลานไปทีก็เกือบสองเดือน ทำเอาเหมยเหมยร้อนใจแทบแย่” คุณย่าหยางบ่นเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็พาลนึกถึงหลานชายคนเล็กเลยอดถามไม่ได้ “หมิงต๋าจะกลับมาเมื่อไรเหรอ? นี่ตั้งสองปีแล้ว ภารกิจอะไรกันทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนั้น…”
คุณปู่เหยียนใช้ไม้เท้าประคองตัวเดินเข้ามา สภาพร่างกายของเขาฟื้นตัวได้ไม่เลวจนเดินเองได้แล้วแต่กลับอยู่ห่างจากไม้เท้าไม่ได้ รอพักฟื้นอีกสักระยะคงหยุดใช้ไม้เท้าได้แล้ว
“นี่คุณจะถามอะไรเยอะแยะ หมิงต๋าต้องกำลังปฏิบัติภารกิจลับอยู่แล้ว ความลับระดับชาติจะบอกได้เหรอ? คุณรีบไปทำกับข้าวได้แล้ว ทำของโปรดของหมิงซุ่นกับเหมยเหมยด้วยนะ”
คุณปู่ไม่ค่อยพอใจกับท่าทีไม่รู้กาลเทศะของคุณย่าหยาง ถึงแม้เขาจะคิดถึงหลานชายคนเล็กไม่แพ้กันแต่ก็ยังกลั้นใจไม่ถามออกมา
เขาเป็นคนรู้จักแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว จะทำตัวเป็นคนที่มีนิสัยใจคออย่างยายแก่ไม่ได้!
“คุณก็ว่าแต่ฉัน เมื่อวานใครกันที่ถามฉันว่าทำไมหมิงต๋ายังไม่กลับมาอีก…” คุณย่าถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจก่อนจะเข้าไปโชว์ฝีมือทำอาหารในห้องครัว
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มกล่าว “หมิงต๋ากำลังปฏิบัติภารกิจพิเศษอยู่จริง ๆ ติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้ ขอแค่ภารกิจนี้สำเร็จเขาก็จะสร้างคุณงามความดีระดับพิเศษเลยนะครับ”
เขาไม่ได้หลอกทั้งคู่เพราะเหยียนหมิงต๋าได้ทำความผิดไว้เมื่อสองปีก่อน เดิมทีไม่อาจอยู่ประจำการในค่ายทหารได้อีกแล้ว แต่ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะเขาค้นพบฐานลับเก็บระเบิดปรมาณูเจอเข้าก็ไม่อยากนึกถึงผลที่จะตามมาเลย
พอนายใหญ่รู้ว่าเหยียนหมิงต๋ากำลังตกอยู่ในอันตรายเลยออกคำสั่งด้วยตัวเองว่าเหยียนหมิงต๋าได้ทำคุณงามความดีระดับพิเศษและอนุญาตให้เข้าทีมเสวี่ยอิงและเลื่อนตำแหน่งอีกด้วย
แต่เกียรติยศทั้งหมดนี้ต้องจ่ายด้วยราคาที่มากเกินไป!
เหยียนหมิงซุ่นยอมให้น้องชายปลดประจำการดีกว่าให้นอนอยู่ในตู้กักตัวที่ไม่รู้ว่าชีวิตในอนาคตจะเป็นเช่นไรบ้าง
…………………………