ตอนที่ 2313 ได้รับความสะเทือนใจ
ยามใบไม้ร่วงใบสุดท้ายพัดปลิวไปตามสายลม ฤดูหนาวก็มาเยือน
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่ไม่มาหานานมาขอทานข้าวด้วย
“นี่เธอไปทำไร่ทำนามาเหรอ? ดูหน้าผอมซูบลงเชียว” เหมยเหมยมองเพื่อนที่อดีตตัวกลมขาวเหมือนลูกซาลาเปาแต่เพิ่งห่างหายกันไปไม่กี่เดือนกลับผอมลงอย่างน่าตกตะลึง
ปวดใจจัง!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรับเอาของว่างที่ป้าฟางยื่นมาให้พร้อมเอ่ย “ขอบคุณค่ะป้า ไม่ได้ทานอาหารฝีมือป้าตั้งนาน คิดถึงจะตายอยู่แล้ว”
เธอว่าแล้วก็หยิบเอาคุกกี้ยัดใส่ปากเคี้ยวกรวบ ๆหลายชิ้นติดกันถึงถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างพึงพอใจ ก่อนจะค่อย ๆ ทานส่วนที่เหลือ
“อย่าไปพูดถึงมันเลย ช่วงนี้ฉันงานยุ่งจนหัวหมุนกินข้าวไม่ตรงเวลา ไม่ผอมสิแปลก!” แม้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปากจะบ่นเช่นนั้นแต่สีหน้ากลับดีใจอย่างปิดไม่มิด
เมื่อก่อนเธอยอมทนหิวปีนเขาวิ่งออกกำลังกาย…ใช้วิธีมากมายก็ยังลดความอ้วนไม่ได้ ครั้งนี้กลับลดความอ้วนได้โดยไม่ทันตั้งตัว ทำเอาเธอดีใจแทบแย่
อีกอย่างงานธุรกิจรับจัดงานแต่งงานของเธอได้เปิดให้บริการแล้ว ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาขายดิบขายดีจนมีใบสั่งจองกันเข้ามายาวถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ได้ทั้งเงินได้ทั้งลดความอ้วน…
เรื่องดี ๆอย่างยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเช่นนี้ เธอไม่ดีใจสิแปลก!
เหมยเหมยเขม่นตาใส่เธออย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง อวด…กำลังอวดอยู่ชัด ๆ!
อยากไล่ตะเพิดออกบ้านจริง ๆ!
“ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงฤดูกาลแต่งงานไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงว่างมาหาฉันได้ล่ะ?” เหมยเหมยแค่เอ่ยปากก็เต็มไปด้วยความอิจฉาแล้ว
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะคิกคัก “ไม่ได้มาหาเธอหลายเดือนแล้วนี่นา ช่วงนี้เธอเป็นยังไงบ้าง…โอเค…เห็นสภาพเธอก็รู้แล้วว่าสบายดีแน่นอน ขาวกลมเหมือนก้อนแป้งเลย สามีของเธอเลี้ยงเธอได้ดีเลยนะ!”
โดนจี้จุดอีกหมื่นครั้ง!
เหมยเหมยคร้านจะสนใจเธอเลยหยิบเอาของว่างมาทาน ของว่างชนิดนี้ทำจากแป้งข้าวโพดที่กู้อี้หัวบอกว่าทานเยอะ ๆได้เพราะดีต่อเด็กทารกในครรภ์ด้วย
“ฉีฉีเก๋อเป็นอย่างไรบ้าง? เธออายุครรภ์น้อยกว่าฉันแค่หนึ่งเดือนเอง ตอนนี้ก็น่าจะหกเดือนได้แล้วสินะ” เหมยเหมยถามถึงฉีฉีเก๋อที่ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนเช่นกัน
“หลายเดือนมานี้ฉันงานยุ่งนิดหน่อยเลยไม่ได้ไปหาหล่อนมาเดือนกว่าแล้ว ไม่ได้การล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปหาหล่อนสักหน่อย ยัยโง่นี่มีเรื่องอะไรก็เก็บไว้ในใจไม่เคยเป็นฝ่ายบอกฉันก่อนหรอก น่าโมโหชะมัดเลย”
“ไหนว่าฉางชิงซงย้ายออกจากห้องเช่ามาเช่าบ้านอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
หอพักที่บริษัทจัดให้นั้นทั้งแคบทั้งไม่สะดวก หลังฉีฉีเก๋อตั้งครรภ์ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย ห้องน้ำรวมของหอพักพวกเขาอยู่ไกลจากห้องพอสมควร ฤดูร้อนยังพอว่าแต่ฤดูหนาวสิน่าเป็นห่วง
ฉีฉีเก๋อดันไม่ชินกับการใช้โถสักนิด เธอแค่อยากไปเข้าห้องน้ำอย่างเดียว ทีนี้ละลำบากเลย
ดีที่หลายเดือนมานี้ฉางชิงซงพอหาเงินได้บ้างเลยมีเงินออมส่วนหนึ่งหาเช่าบ้านข้างนอกที่มีห้องน้ำส่วนตัวได้ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนช่วยหาห้องที่มีหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่นให้พวกเขา ตำแหน่งที่ตั้งและราคาค่อนข้างเหมาะสมแต่ฉางชิงซงกลับไม่พอใจ จากนั้นตัวเขาเองก็ได้ไปหาบ้านเช่าที่มีสองห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่นที่ราคาค่าเช่าเดือนละตั้งสี่ร้อยหยวน แพงกว่าที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหาให้หนึ่งร้อยหยวน
“ใช่ ย้ายเข้าไปได้สองเดือนกว่าแล้ว ไม่รู้เจ้าฉางชิงซงกำลังคิดอะไรอยู่ ปกติซื้อกับข้าวหน่อยยังขี้เหนียว แต่เช่าบ้านกลับใจกว้างยอมจ่ายเงินมากกว่าหนึ่งร้อยหยวนซะงั้น มันจำเป็นเหรอ?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนบ่นกับเหมยเหมย ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันในห้องเดียวก็เพียงพอแล้ว ต่อให้คลอดลูกแต่สามปีแรกก็ต้องนอนบนเตียงเดียวกับพ่อแม่อยู่ดี ไม่จำเป็นต้องหาห้องนอนเพิ่มเลย เงินหนึ่งร้อยที่เสียไปมันสูญเปล่าชัด ๆ
“ฉางชิงซงยังบอกว่าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับลูกล่วงหน้า เตรียมบ้าอะไรล่ะ โอ๊ย พูดแล้วฉันก็ชักโมโห ไม่ได้การ ฉันจะไปเยี่ยมยัยโง่นั่นเดี๋ยวนี้เลย ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห เหตุผลที่เธอไม่ได้ไปเยี่ยมหนึ่งเดือนกว่า นอกจากงานที่ยุ่งแล้วก็มีสาเหตุเพราะโมโหฉางชิงซงด้วย
และยิ่งรำคาญที่ฉีฉีเก๋อไม่เอาไหน เรื่องในบ้านแทบจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงล้วนแต่เป็นฉางชิงซงตัดสินใจทั้งหมด ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนที่นิสัยเด็ดเดี่ยวตรงไปตรงมา แต่พอหลังแต่งงานกับฉางชิงซงดันเป็นคนเอื่อยเฉื่อยไปเสียได้
เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่นกล่าว “ฉันไปกับเธอด้วยแล้วกัน!”
…………………….
ตอนที่ 2314 ชีวิตแย่มาก
บ้านเช่าของฉางชิงซงอยู่ห่างจากบ้านเหมยเหมยไม่ไกลนัก เธอไม่ได้เจอฉีฉีเก๋อหลายเดือนแล้วจึงคิดถึงมากพอสมควร ประจวบเหมาะจะได้แวะไปเยี่ยมด้วย เพราะคุณหมอบอกให้เธอเดินเยอะ ๆจะได้ส่งผลดีต่อการคลอดลูก
ลุงเหลาขับรถไปส่งพวกเธอซึ่งมีป้าฟางไปด้วย พอป้าฟางได้ยินว่าจะไปหาฉีฉีเก๋อก็ใจกระตุกวูบขึ้นมาทันที ครอบครัวนี้ถือว่าสุดยอดมากทีเดียว ต่อให้ยายปีศาจแก่นั่นไม่อยู่แต่เธอก็ต้องจับตาดูให้ดี
ฉางชิงซงไม่อยู่บ้านมีเพียงฉีฉีเก๋ออยู่เพียงลำพัง เธอดีใจมากที่ได้เจอเพื่อน
“รีบเข้ามานั่งสิ ฉันจะไปรินน้ำชาให้พวกเธอนะ!”
ฉีฉีเก๋อมือวุ่นพันกันไปหมดแล้วยังแบกท้องโตขนาดนั้นอีก เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดึงแขนเธอไว้แล้วตวาดใส่ “เธอไปนั่งให้ดี ๆเลย รินน้ำชาอะไร คิดว่าเราต้องการน้ำชาของเธอหรือไง!”
เหมยเหมยส่ายศีรษะอย่างระอา เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนนี่จริง ๆเลย…ทั้ง ๆที่กำลังพูดแสดงความห่วงใยแต่เธอดันมีความสามารถที่พูดหักหาญน้ำใจอีกฝ่ายจริง ๆ
ฉีฉีเก๋อยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและก็ไม่ได้ไปรินน้ำชาแต่นั่งคุยกับพวกเธอที่ทำหน้าสลดหน่อย ๆ “ที่บ้านไม่มีแม้แต่เมล็ดทานตะวันให้พวกเธอด้วยซ้ำ…”
“พอเถอะ เราก็ไม่ได้ต้องการเมล็ดทานตะวันของเธอหรอก นี่หนึ่งเดือนนี้เธอมัวแต่ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่เห็นอ้วนขึ้นเลย เหมยเหมยอ้วนขึ้นตั้งสิบกิโลในหนึ่งเดือนแล้วนะ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกวาดตามองเพื่อนที่ดูแล้วก็เดือดขึ้นมาทันที
เหมยเหมย ‘…ปวดใจ…’
แต่สภาพของฉีฉีเก๋อไม่ค่อยสู้ดีจริง ๆ ไม่ได้ดูเปล่งปลั่งอย่างที่คนท้องควรเป็น แถมยังมีเริมขึ้นตรงปากหลายจุด ผิวแห้งถลอก แก้มตอบลงแต่ท้องกลับใหญ่มากซึ่งก็ยิ่งขับให้ดูแปลกไปกว่าเดิม
“เชี่ยนเชี่ยนพูดไม่ผิดเลย ฉีฉีเก๋อเธอไม่ค่อยเจริญอาหารหรือเปล่า? เดือนที่หกเป็นช่วงที่เด็กกำลังเติบโตเลยนะ ปกติควรเจริญอาหารมากสิ ตอนฉันท้องเดือนที่หกมีคืนหนึ่งทานเกี๊ยวตอนเที่ยงคืนตั้งสี่สิบกว่าชิ้นแหนะ!”
เหมยเหมยเองก็รู้สึกแปลกใจมาก สภาวะของฉีฉีเก๋อในตอนนี้แย่มากจนเธออดขมวดคิ้วไม่ได้ หรือว่าฉางชิงซงไม่ยอมซื้อของมาบำรุงให้ฉีฉีเก๋อหรือ?
“ฉันทานเก่งมากนะ แค่ไม่อ้วนเท่านั้นเอง แต่คุณหมอบอกว่าฉันสบายดี ไม่เป็นไรหรอก” ฉีฉีเก๋อยิ้มพลางโบกมือปัด
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหน้าตึงคว้ามือเธอมาทีเดียวแล้วตะคอกใส่ “ทำไมมือเธอหยาบกร้านขนาดนี้? โอ้โห…มีแผลเปื่อยด้วย…เธอทำอะไรมาเนี่ย?”
เหมยเหมยก็คว้ามือฉีฉีเก๋อมาดูเช่นกัน เมื่อครู่ไม่ทันสังเกตแต่คราวนี้กลับเห็นชัดเจนแล้วว่ามือแตกและเต็มไปด้วยบาดแผลที่เกิดจากความหนาว ทั้งยังมีหลายจุดที่เลือดซึมออกมาอีกต่างหาก
“ฉีฉีเก๋อ เธอทำอะไรมากันแน่? เมื่อก่อนต่อให้หนาวแค่ไหนมือของเธอก็ไม่เคยอักเสบขนาดนี้มาก่อน อีกอย่างคนท้องร่างกายค่อนไปทางร้อนมากกว่า เธออย่าบอกฉันว่าเกิดจากความหนาวเชียวนะ” เหมยเหมยถามเสียงเข้ม
ฉีฉีเก๋อรีบชักมือกลับ ทำหน้าไม่สบายใจแล้วตอบเสียงเบา “ฉันแค่ซักเสื้อผ้าไม่กี่ตัว…ไม่คิดว่า…”
“ใช้น้ำเย็นเหรอ?”
“ไม่…ก็ใช้น้ำร้อนอยู่…”
“เหลวไหล…เธอคิดว่าฉันโง่เหรอ ใช้น้ำร้อนซักผ้าแล้วจะอักเสบได้ขนาดนี้เหรอ? อีกอย่างทำไมเธอต้องใช้มือซักผ้าด้วย? ฉันซื้อเครื่องซักผ้าให้เธอแล้วไม่ใช่เหรอ เธอโง่หรือไง!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก่นด่า
เหมยเหมยกวาดตาสำรวจมองรอบห้องที่นับว่าเป็นระเบียบพอควรซึ่งดูออกว่ามีการทำความสะอาดอยู่ทุกวัน ห้องนั่งเล่นมีกล่องลังเครื่องซักผ้าอยู่ เธอเดินไปดันเบา ๆก็พบว่ากล่องหนักอึ้งก็หน้าตึงอย่างอดไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าข้างในมีเครื่องซักผ้าอยู่!
ฉางชิงซงทำบ้าอะไรเนี่ย?
แม้เครื่องซักผ้านั้นเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นคนซื้อแต่กลับเป็นเงินของลุงปาเกิน เขาไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับคนตระกูลฉางเลยเอาเงินให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฝากเธอซื้อเครื่องซักผ้าให้หนึ่งเครื่อง ลูกสาวจะได้สบายหน่อย
แต่กลับไม่คิดว่าเครื่องซักผ้าที่เต็มไปด้วยความรักของพ่อจากลุงปาเกินกลับไม่ได้แสดงศักยภาพของมันอย่างที่ควร
…………………..