ตอนที่ 2309 ทานหมดได้
“พี่…เหยียนหมิงซุ่น ไม่ว่าอย่างไรเราก็เป็นคนบ้านเกิดเดียวกันแล้วยังอยู่หมู่บ้านเดียวกันอีกด้วย พี่ไม่เห็นต้องเย็นชากับฉันขนาดนี้เลยนี่นา” โม่เฉี่ยวหลิงพูดอย่างน่าสงสาร
ทันใดนั้นเองเถ้าแก่ก็หิ้วเกี๊ยวสามกล่องที่ห่อเสร็จสรรพเรียบร้อยพร้อมน้ำจิ้มพริกอีกหนึ่งขวดยื่นส่งให้ เหยียนหมิงซุ่นจ่ายเงินเสร็จก็ปรายตามองโม่เฉี่ยวหลิงอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ไม่มีความจำเป็นต้องแสดงท่าทีเป็นกันเองด้วยสักหน่อย”
เขาหิ้วถุงเกี๊ยวสาวเท้าออกไปจากร้าน มีข้อความใหม่เข้ามาในโทรศัพท์ที่คาดว่าต้องเป็นเหมยเหมยอย่างแน่นอน เขาต้องรีบกลับไปรายงานตัว ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลากับผู้หญิงที่ไม่มีความสำคัญใด ๆคนนี้
โม่เฉี่ยวหลิงโมโหจนตาแดงก่ำ เธอหน้าตาก็ไม่ถือว่าแย่มากทั้งช่วงนี้ฐานะทางครอบครัวมีแนวโน้มดีขึ้นทำให้รสนิยมการแต่งตัวก็ดีไม่หยอก ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถูกรับเข้าทำงานเป็นพนักงานฝ่ายขายในห้างสรรพสินค้าหรอก
หนำซ้ำตั้งแต่มหาวิทยาลัยจนตอนนี้เธอมีคนตามจีบตลอด เพียงแต่ไม่เข้าตาเธอสักคน
คนที่ตามจีบเธอเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคนต่างถิ่นที่เข้ามาทำงานในปักกิ่งเช่นเดียวกับเธอ เป็นผู้ชายที่ไม่มีรถไม่มีบ้านไม่มีเงินเก็บซึ่งไม่เข้าตาเธออย่างแน่นอนอยู่แล้ว เธอต้องการผู้ชายที่หล่อเหลามีหน้าที่การงานและสร้างหลักปักฐานอยู่เมืองหลวงได้อย่างเหยียนหมิงซุ่น
โม่เฉี่ยวหลิงค่อนข้างใจหายกับท่าทีของเหยียนหมิงซุ่นแต่เธอก็ไม่ท้อใจ ผลทุกอย่างอยู่ที่การกระทำของคน เธอสามารถใช้ประโยชน์ด้านสายสัมพันธ์ญาติมิตรได้ เหยียนหมิงซุ่นให้ความเคารพรักคุณยายของเขามากที่สุดไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะไปหาคุณยายโม่
เหมยเหมยเฝ้ารออย่างคาดหวังจนกระทั่งได้เกี๊ยวที่เธอคะนึงถึงมาในที่สุด เหยียนหมิงซุ่นยังไม่ทันทิ้งตัวนั่งก็ถูกเธอผลักออกแย่งเกี๊ยวไปเปิดขวดน้ำจิ้มพริกราดใส่เกี๊ยวจนแดงฉาน ก่อนจะเริ่มลงมือทานอย่างมีความสุข
“รสชาตินี้เลย…อร่อยสุด ๆ…มีความสุขจัง ขอบคุณนะที่รัก”
เหมยเหมยทานติดต่อกันสามชิ้นถึงพอจะหายอยากได้บ้าง จากนั้นถึงนึกถึงผู้เสียสละตนสร้างคุณงามความดีอย่างเหยียนหมิงซุ่นขึ้นมาได้เลยพูดขอบคุณไปหลายประโยค จากนั้นก็ทานเกี๊ยวต่อไป
เหยียนหมิงซุ่นร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก เขาในบัดนี้สู้ไม่ได้แม้กระทั่งเกี๊ยวแล้ว
“อร่อยขนาดนั้นเชียวเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นสงสัยเหลือเกิน
ต่อให้เป็นเกี๊ยวที่อร่อยแค่ไหนแล้วจะอร่อยได้สักเท่าไรกันเชียว?
“อืม…อร่อยสุด ๆไปเลย พี่ลองทานชิ้นหนึ่งดูสิ…อ้าม…” เหมยเหมยคีบเกี๊ยวที่เปื้อนน้ำจิ้มพริกป้อนให้เขา
รสชาติแรกที่สัมผัสคือความเผ็ดที่ไม่นับว่าเผ็ดมาก แต่ปริมาณน้ำจิ้มที่มากขนาดนี้ทำให้เหยียนหมิงซุ่นที่ไม่ชื่นชอบการทานเผ็ดเท่าไรต้องขมวดคิ้วแน่น รสชาติเผ็ดร้อนคลุ้งเต็มปากแล้วยังจะลิ้มลองรสชาติดั้งเดิมของเกี๊ยวได้ที่ไหนกันเล่า?
เขาเคี้ยวลวก ๆหลายทีก่อนจะกลืนเกี๊ยวที่เผ็ดแทบตายลงท้องไป เหมยเหมยทานจนปากเล็กแดงเป็นปื้นด้วยใบหน้ายิ้มระรื่นพลางถามเขา “อร่อยสินะ? เอาอีกสักชิ้นไหม?”
“ไม่ต้อง เธอทานเยอะ ๆเลย”
เหยียนหมิงซุ่นกล่าวปฏิเสธ ให้อภัยเขาเถอะที่เข้าไม่ถึงความอร่อยของเกี๊ยวร้านป้าหวัง วัตถุดิบดี น้ำจิ้มพริกร้อนแรงใช้ได้แต่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอร่อยเกินจริงอย่างเหมยเหมยว่าเลยสักนิด
สมแล้วที่ว่ากันว่าคนท้องมักจะโง่ลงสามปี ภรรยาเขาโง่จนไม่หลงเหลือประสาทรับรสแล้ว!
“อืม…โชคดีที่พี่ซื้อมาสามกล่อง ฉันคิดว่าฉันน่าจะทานหมดได้” เหมยเหมยมองเกี๊ยวที่กองพูนเป็นภูเขาลูกเล็กตรงหน้าด้วยดวงตาประกาย ไม่หลงเหลือคราบผู้หญิงเรียบร้อยตอนทานข้าวอย่างเคยอีกต่อไป กัดคำหนึ่งก็ครึ่งลูกจนน้ำในไส้ทะลักกระเด็นไปทั่ว
เหยียนหมิงซุ่นสะดุ้งเฮือกใหญ่ สามกล่องก็สี่สิบห้าชิ้น รวมกับเถ้าแก่ใจดีแถมให้อีกห้าชิ้น ต่อให้เขาทานไปแล้วหนึ่งชิ้นก็ยังเหลือตั้งสี่สิบเก้าชิ้น…
เมื่อก่อนเหมยเหมยทานได้มากสุดแค่สิบชิ้น ตอนนี้แทบจะเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่า ท้องไม่ระเบิดเอาหรือ?
เขากำลังจะพูดเกลี้ยกล่อมสักหน่อยแต่จู่ ๆเหมยเหมยก็ร้องโอดครวญ “โอ๊ย…”
“เป็นอะไรไป? ท้องตึงแล้วใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นชักกังวล เขารู้อยู่แล้วเชียวว่าทานมากขนาดนี้ต้องเกิดเรื่องแน่
“เปล่า ลูกได้ทานเกี๊ยวแล้วดีใจ กำลังเต้นระบำอยู่เลย…พี่ลองลูบดูสิ อยู่ตรงนี้…” เหมยเหมยฉีกยิ้มอย่างดีใจคว้ามือเหยียนหมิงซุ่นมาสัมผัสหน้าท้อง
………………………..
ตอนที่ 2310 เจ้าตัวเล็กแรงเยอะไม่เบา
“ตุ๊บ…ตุ๊บ…”
เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าตกใจ เขาไม่คิดว่าเด็กในครรภ์จะมีแรงมากขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าหนังท้องนูนโป่งเป็นรูปร่าง ทั้งยังเต้นแรงถึงขั้นเขายังสัมผัสได้ว่ากำลังขยับมือหรือเท้าอยู่
“โอ๊ย…ลูกแรงเยอะจัง…ต้องดีใจเพราะได้ทานเกี๊ยวแน่ ๆ เมื่อก่อนไม่เคยดีใจขนาดนี้มาก่อน ดิ้นทีสองทีก็สงบลงแล้ว…”
เจ้าตัวเล็กดิ้นไม่ยอมหยุดจริง ๆ ไล่เตะตั้งแต่ท้องด้านบนยันท้องน้อย ขยับจากซ้ายไปขวา แม้มีชุดนอนกั้นอยู่ก็ยังเห็นหนังท้องของเหมยเหมยขยับดิ้นไปมา
เหมยเหมยถูกเจ้าตัวเล็กก่อกวนจนแทบนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้เลยได้แต่เอนพิงพนักเก้าอี้หายใจหอบ วันนี้ร่าเริงเกินไปแล้วดิ้นอยู่เกือบสามนาที แต่กลับยิ่งดิ้นก็ยิ่งร่าเริงไม่มีท่าทีจะหยุดลงเลยสักนิด
“ลูกกำลังเตะมือพี่…”
เหยียนหมิงซุ่นเจอปรากฎการณ์ใหม่ก็ยิ่งตกใจกว่าเดิม
เพื่อยันยันความคิดของเขาเหยียนหมิงซุ่นจึงจงใจขยับย้ายมือมาอีกที่ แล้วแตะลงหน้าท้องของเหมยเหมย เขายิ้มให้เหมยเหมยพลางกล่าว “เธอรอดูนะ เดี๋ยวก็ตามมาแล้ว”
ทั้งคู่นั่งสังเกตท้องอย่างสนอกสนใจจนไม่ว่างทานเกี๊ยวอีกแล้ว และเป็นไปตามคาด–
ไม่นานนักจุดที่เหยียนหมิงซุ่นเอามือแตะก็นูนขึ้นมาทั้งยังใช้แรงไม่น้อยจนเหมยเหมยเผลอสูดปาก มองค้อนใส่เหยียนหมิงซุ่นแวบหนึ่ง “อย่าหยอกลูกสิ เดี๋ยวเหนื่อยนะ”
เหยียนหมิงซุ่นดันเสพติดไปเสียแล้วพลางย้ายมือไปเรื่อย ๆ เจ้าตัวเล็กก็ตามมาเตะอีกทีด้วยแรงที่เพิ่มมากขึ้น คล้ายกำลังประกาศว่านี่เป็นถิ่นของเขา(เธอ) ห้ามคนนอกเข้ามาใกล้
“โอ๊ย…พี่หยุดเล่นได้แล้ว หนังท้องฉันใกล้จะถูกเตะจนแตกแล้ว” เหมยเหมยถลึงตาใส่เหยียนหมิงซุ่นที่ยังเล่นเป็นเด็ก ๆแวบหนึ่งให้เขารีบหยุด
เหยียนหมิงซุ่นชักมือกลับทั้ง ๆที่ยังสนุกอยู่แล้วจับจ้องหน้าท้องของเหมยเหมยไม่ละสายตา พอผ่านไปพักใหญ่แล้วไม่มีท่าทีเคลื่อนไหวใด ๆจึงอดขำออกมาไม่ได้
“เจ้าตัวเล็กนี่ระมัดระวังตัวเองดีเหมือนกันนี่!” เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าชื่นชม
เหมยเหมยแค่นเสียงอย่างเย่อหยิ่งทีหนึ่ง “แรงของลูกก็เยอะมากนะ ฉันว่าน่าจะเป็นลูกผู้ชาย ในเมื่อชอบเตะทำประตูขนาดนี้ อนาคตให้เขาไปเตะฟุตบอลแล้วสร้างชื่อเสียงให้ประเทศเรา”
ชาติที่แล้วจนกระทั่งวันที่เธอตาย ฮวาเซี่ยก็ยังส่งออกทีมเตะฟุตบอลไม่ได้เลย อย่าว่าแต่ระดับโลกเลยแม้แต่ระดับเอเชียยังไม่ติดอันดับด้วยซ้ำ ประเทศที่มีประชากรนับพันล้านแต่สู้ประเทศเกาะเล็กอย่างญี่ปุ่นไม่ได้ มันน่าเสียดายจริง ๆ
เหยียนหมิงซุ่นเองก็คิดว่าเจ้าตัวเล็กน่าจะเป็นลูกชาย ดูจากความระมัดระวังตัวและมือเท้าที่คล่องแคล่วและไหวพริบดี คุณสมบัติเหมาะกับการเป็นทหารชั้นดีเลย
“ตอนนี้คุยเรื่องนี้ยังเร็วไปหน่อย เราต้องเป็นพ่อแม่ที่หัวทันสมัยด้วย จะบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบไม่ได้ มา ทานเกี๊ยวอีกสักชิ้น!”
เหยียนหมิงซุ่นพูดด้วยท่าทีเข้มงวดพลางคีบเกี๊ยวยัดปากเหมยเหมย ก่อนที่ตนจะคีบอีกชิ้นที่ไม่จิ้มน้ำพริกบริการตัวเอง ความอยากถูกกระตุ้นตั้งแต่อยู่ในร้านเกี๊ยวเมื่อครู่แล้ว
เหมยเหมยไม่พอใจคว้ากล่องเกี๊ยวไปกอดไว้ ถลึงตาจ้องเขาอย่างระแวง “ของฉันหมด…ไม่มีส่วนของพี่!”
ตอนนี้เธอหิวจนแทบกลืนช้างได้ทั้งตัว เหยียนหมิงซุ่นกลับมีหน้ามาแย่งเกี๊ยวของเธออีก ขอคัดค้านอย่างรุนแรง!
“ทานมากขนาดนี้เธอจะปวดท้องเอาได้นะ พี่ช่วยเธอครึ่งหนึ่ง” เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เหมยเหมยที่ตั้งครรภ์ไม่เพียงแต่ระดับสติปัญญาลดลงเท่านั้น แม้แต่นิสัยยังกลายเป็นเด็กน้อยที่เริ่มหวงอาหารของตัวเองเสียแล้ว!
“ฉันทานหมดได้ พี่อย่าหาข้ออ้างมาทานเกี๊ยวของฉัน พี่ไปนอนซะ”
เหมยเหมยกอดกล่องเกี๊ยวหันหลังพลางทำหน้ารังเกียจเหยียนหมิงซุ่น พอหมดประโยชน์ก็ทิ้ง
เหยียนหมิงซุ่นลูบจมูกปอย ๆอย่างระอาพร้อมลูบท้องไปมา วิ่งแจ้นออกไปซื้อเกี๊ยวกลางดึกแต่ได้ทานเพียงสองคำ
หนึ่งชิ้นภรรยาตบเป็นรางวัลให้เขา ส่วนอีกชิ้นเขาขอเอง…
สถานะของเขาในตอนนี้คือ…
………………………