ตอนที่ 2331 ชื่อค่อนข้างคุ้นหู
โม่เฉียวหลิงเล่ารายละเอียดสถานการณ์ปัจจุบันของเธออย่างอ้อมค้อม จุดประสงค์ก็เพื่อให้ป้าสะใภ้ใหญ่ช่วยพูดขอร้องให้เธอสามารถเข้าไปทำงานในบริษัทของโม่ซิวหย่วนนั่นเอง เธอเคยสืบถามดูแล้วก็รู้มาว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทนี้
และในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่คงต้องเข้าบริษัทเพื่อแสดงตัวบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อเปิดประชุมคณะกรรมการหรืออะไรสักอย่าง ถ้าหากเธอเข้าไปในบริษัทได้คงมีสักวันที่เธอได้พบกับเหยียนหมิงซุ่นแน่นอน…อีกอย่างคนใกล้ชิดมักจะได้ผลประโยชน์ก่อนใคร สุดท้ายเหยียนหมิงซุ่นก็จะตกเป็นของเธออย่างง่ายดาย
ส่วนโม่ซิวหย่วน โม่เฉียวหลิงก็ไม่ได้คิดจะปล่อยไป เธอรู้สึกว่าโม่ซิวหย่วนก็เป็นตัวเลือกสำรองที่ไม่เลวเลยทีเดียว
หากยั่วยวนเหยียนหมิงซุ่นไม่สำเร็จ งั้นโม่ซิวหย่วนก็พอได้
เป็นภรรยาของผู้บริหารก็เฉิดฉายไม่เลวเช่นกัน
แน่นอนถ้าหากเป็นไปได้ โม่เฉียวหลิงยังคงอยากคบกับเหยียนหมิงซุ่นมากกว่าอยู่ดี ถึงอย่างไรเหยียนหมิงซุ่นก็สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของเจ้าชายขี่ม้าขาวในใจของเธอมากกว่า และเธอเคยไปสืบถามมาก่อนแล้วว่าตำแหน่งทางทหารของเหยียนหมิงซุ่นนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่ร่ำรวยแต่ยังมีอำนาจอีกด้วย
เมื่อเทียบกับภรรยาของผู้บริหารที่ไม่ขาดแคลนเงินแล้ว อันที่จริงเธออยากมีฐานะเป็นคุณหญิงผู้สูงส่งภรรยาของข้าราชการระดับสูงมากกว่า
ส่วนหัวหน้าโรงงานเล็ก ๆอย่างหลานชายของป้าสะใภ้ใหญ่ โม่เฉียวหลิงไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
ดีกว่าพวกพนักงานธรรมดานิดหน่อย ได้ยินมาว่าซื้อบ้านหลังเล็ก ๆในเมืองหลวงแล้วเรียบร้อยแต่เธอไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยสักนิด คางคกอยากกินเนื้อห่านฟ้า เอาแต่ฝันกลางวัน!
ป้าสะใภ้ใหญ่ไม่รู้ถึงความคิดในใจที่แท้จริงของโม่เฉียวหลิง เธอรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ขอเพียงแค่จัดการเอาโม่เฉียวหลิงเข้าไปทำงานในบริษัทให้ได้ พอหลานชายของเธอได้อยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกับโม่เฉียวหลิงบ่อย ๆ นานวันเข้าความรักต้องค่อย ๆก่อตัวขึ้นแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็ต้องคู่กันอยู่ดี
แต่ป้าสะใภ้ใหญ่กลับไม่รู้เลยว่าบริษัทของโม่ซิวหย่วนใหญ่แค่ไหน และโรงงานกับสำนักงานก็ไม่ได้อยู่ที่เดียวกันเลย ถึงแม้ว่าโม่เฉียวหลิวจะเข้ามาทำงานในบริษัทก็ต้องอยู่แต่ในอาคารสำนักงานซึ่งห่างจากโรงงานไกลโข!
แล้วจะทำความรู้จักใกล้ชิดสนิทสนมบ่อย ๆกันได้อย่างไร?
คุณลุงใหญ่โม่ไม่รู้ว่าป้าสะใภ้ใหญ่คิดจะทำอะไร เขาคร้านจะพูดเรื่องไร้สาระแล้วก่อนจะหยิบเหล้าและยาสูบขึ้นมาเพื่อจะเอาไปคืนด้วยตัวเอง
“ต่อให้โม่เฉียวหลิงเป็นนางฟ้าลงมาจากสวรรค์ฉันก็ไม่อยากได้ ใครใช้ให้พ่อแม่ของเธอเป็นคนใจดำกันล่ะ…หมิงซุ่นและซิวหย่วนต่างก็บอกว่าให้พวกเรายุ่งกับครอบครัวนี้ให้น้อยลงหน่อย เธอทำเป็นหูทวนลมหรือไง?”
คุณลุงใหญ่โม่เป็นชาวนาที่ซื่อสัตย์และขี้กลัว เขาไม่สนใจเรื่องธุรกิจเลยสักนิดและรักที่จะทำงานในพื้นที่เท่านั้น แต่เขามีข้อดีก็คือเชื่อฟัง
ขอแค่เป็นเรื่องที่เหยียนหมิงซุ่นสั่งไว้เขาก็จำมันจนขึ้นใจและไม่คิดจะฝ่าฝืนเด็ดขาด
ป้าสะใภ้ใหญ่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดถึงได้เกลี้ยกล่อมให้ลุงใหญ่โม่ไม่เอาของไปคืนได้สำเร็จ ทั้งยังบอกว่าผ่านไปสักระยะเธอจะเป็นคนเอาของไปคืนเอง
“เธออย่าลืมแล้วกัน” คุณลุงใหญ่โม่กำชับด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ป้าสะใภ้ใหญ่ตอบรับอย่างใจลอยเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี พอพี่สะใภ้ของเธอได้ฟังเรื่องราวของโม่เฉียวหลิงก็ตั้งใจมาแอบสังเกตดูโม่เฉียวหลิงเป็นพิเศษ ทั้งยังพึงพอใจในตัวเธอมากและคิดอย่างเดียวว่าอยากให้เธอมาเป็นหลานสะใภ้
ตอนนี้เธอขึ้นหลังเสือแล้วจะลงก็คงยากจึงทำได้แค่ดันทุรังทำต่อไปเท่านั้น
หวังแค่ว่าหลานชายและหลานสะใภ้จะพยายามช่วยเธอจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงได้!
เหมยเหมยที่โดนฝากฝังด้วยความหวังอันสูงลิ่วก็วางโทรศัพท์แล้วเดินไปที่ห้องหนังสือ
“พี่คะ พี่รู้จักโม่เฉียวหลิงไหม? ฉันรู้สึกคุ้น ๆชื่อนี้จังแฮะแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน”
เหมยเหมยทำหน้างงงวย เธอรู้สึกคุ้นชื่อนี้เหลือเกินแต่เหมือนสมองแตกเป็นชิ้นส่วนคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกสักที
เหยียนหมิงซุ่นนิ่งตะลึงไป ทำไมจู่ ๆเหมยเหมยถึงได้ถามถึงโม่เฉียวหลิงได้ล่ะ?
“เป็นแค่ญาติห่าง ๆในหมู่บ้านของยายพี่น่ะ ไม่สลักสำคัญอะไรหรอก เธอมีอะไรเหรอ?”
เหยียนหมิงซุ่นแสดงสีหน้าไม่ใส่ใจเหมือนกำลังพูดถึงคนแปลกหน้ายังไงอย่างนั้น
…………………………………………..
ตอนที่ 2332 ยายแม่มดแก่ที่หลอกเอาเงินไปสองแสนหยวน
เหมยเหมยเล่าเรื่องที่ป้าสะใภ้ใหญ่โทรมาให้ฟัง “ป้าสะใภ้ใหญ่หาตัวพี่ซิวหย่วนไม่พบเลยอยากให้ฉันช่วยบอกเขาหน่อยว่าให้ช่วยจัดหางานในบริษัทให้โม่เฉียวหลิงที”
“เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่ง รออีกเดี๋ยวพี่จะโทรศัพท์กลับไปถามเอง”
เหยียนหมิงซุ่นมีสีหน้าเรียบนิ่งแต่ในใจกลับไม่พอใจเป็นอย่างมาก และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไม่พอใจกับทางญาติทางฝั่งนี้
เมื่อก่อนยามยากจน ครอบครัวตระกูลโม่มีความสามัคคีกันมากไม่ได้มองเรื่องเงินสำคัญอะไรขนาดนั้น
แน่นอนว่าเวลานั้นก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร
แต่พอหลังจากครอบครัวมีเงินความขัดแย้งก็มีมากขึ้นตามกาลเวลา แต่สำหรับภายนอกก็ยังดูเป็นหนึ่งเดียวกันดีอยู่ แต่ความขัดแย้งภายในเล็ก ๆน้อย ๆก็มีมาไม่หยุดหย่อน ยังดีที่คุณลุงคุณอาทั้งสามยังปรองดองรักใคร่กันดีมาโดยตลอด
แต่ระหว่างป้า ๆน้า ๆทั้งสามคนดูเหมือนจะสนิทกันแต่ภายในใจกลับไม่ใช่อย่างที่แสดงออกมา พวกเขามักจะกระทบกระทั่งกันไปมาทะเลาะขัดแย้งกันไม่หยุด
หากไม่ใช่เพราะมีคุณตาโม่คุณยายโม่ช่วยกันท่าไว้คงจะมีเรื่องมากกว่านี้แน่นอน
แม้รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยามทุกข์ยากยังร่วมทุกข์กันได้แต่ยามมั่งมีกลับยากที่จะร่วมสุขกันได้ นี่เป็นสัจธรรมความจริงอันเป็นนิรันดร์ แต่เหยียนหมิงซุ่นก็ยังรู้สึกเหนื่อยใจอยู่ดี
ทั้ง ๆที่เตือนไปแล้วว่าอย่าไปมาหาสู่กับครอบครัวของโม่เฉียวหลิง แต่ป้าสะใภ้ใหญ่กลับทำหูทวนลม คาดไม่ถึงว่ายังคิดจะให้โม่เฉียวหลิงไปทำงานในบริษัทของเขาอีก?
ถึงแม้จะเคยพบปะเพียงครั้งเดียวในร้านเกี๊ยวป้าหวัง แต่เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกสังหรณ์ใจว่าความคิดของหญิงสาวคนนี้ต้องไม่ธรรมดา ดังนั้นการที่จู่ ๆป้าสะใภ้ใหญ่โทรมาโม่เฉียวหลิงน่าจะมีส่วนเอี่ยวด้วยแน่นอน
พอเหมยเหมยได้ยินว่าเหยียนหมิงซุ่นจะจัดการเองก็ตรงกับความต้องการของเธอพอดีจึงออกไปฝึกโยคะต่อ
หลังจากเธอออกไปเหยียนหมิงซุ่นก็โทรศัพท์หาคุณยายโม่
ตอนนี้ลุงและอาทั้งสามของตระกูลโม่ต่างมีความเห็นแก่ตัวเล็กน้อย มีเพียงคุณตาและคุณยายเท่านั้นที่จริงใจกับเขา ฉะนั้นต้องเล่าสถานการณ์ให้ผู้อาวุโสทั้งสองรับรู้ถึงจะเหมาะสม
คุณยายโม่ยังสุขภาพแข็งแรงดี พอได้รับโทรศัพท์จากเหยียนหมิงซุ่นก็ดีใจมากพร้อมถามไถ่ด้วยความห่วงใย
“เหมยเหมยคงคลอดช่วงปีใหม่ใช่ไหม? ยายมีไก่ยี่สิบกว่าตัว หลังปีใหม่จะให้ซิวหย่วนติดไปเมืองหลวงด้วยเอาไว้ให้เหมยเหมยทานบำรุงร่างกายนะ”
เหยียนหมิงซุ่นพลันอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจกล่าวยิ้ม ๆว่า “คุณย่าของผมก็เลี้ยงไว้ไม่น้อย พอกินแล้วล่ะ คุณยายกับคุณตาเก็บเอาไว้กินเถอะครับ”
“ไม่ได้สิ เรื่องนี้หลานห้ามยุ่ง ยายจะให้ซิวหย่วนเอาไปด้วย ในเมื่อรถเขาก็ออกจะใหญ่โตขนไปได้สบาย ๆอยู่แล้ว ยายยังเก็บไข่ไว้อีกหลายร้อยฟองจะให้เอาไปพร้อมกันด้วยเลย”
คุณยายโม่ไม่ยอมท่าเดียว น้อยครั้งนักที่จะหัวรั้นเช่นนี้เหยียนหมิงซุ่นจึงต้องตามใจเธอ แต่เมื่อนึกถึงรถแลนด์โรเวอร์รุ่นใหม่ของโม่ซิวหย่วนที่อัดแน่นไปด้วยไก่ อยู่ดี ๆเขาก็นึกอยากหัวเราะออกมา
หลังจากคุยกันไปสองสามประโยคเหยียนหมิงซุ่นก็ถามถึงโม่เฉียวหลิง
“คุณยายครับ โม่เฉียวหลิงมาที่บ้านเราใช่ไหม?”
“ใช่ เธอเอาของมาฝากยาย ยายคุยกับเขาไปแค่สองสามประโยค ฟังน้ำเสียงของเธอแล้วน่าจะอยากทำงานในบริษัทของซิวหย่วนแต่ยายไม่ได้ตกปากรับคำอะไรนะ”
แม้ว่าคุณยายโม่จะอายุมากแล้วแต่ไม่ได้เลอะเลือนเลยสักนิด เธอเคยชอบโม่เฉียวหลิงผู้หญิงคนนี้ก็จริง แต่ในเมื่อหลานชายไม่ชอบ เธอก็ไม่อยากทำให้หลานชายต้องลำบากใจจึงรักษาระยะห่างไว้
“ทำไมหลานรู้ว่าเธอเคยมาที่บ้านเราล่ะ? เธอไปหาหลานเหรอ?” คุณยายโม่เคร่งเครียดขึ้นมา
“เปล่าครับ แต่ป้าสะใภ้ใหญ่โทรมาหาเหมยเหมย ขอให้เหมยเหมยช่วยจัดการให้โม่เฉียวหลิงได้ทำงานในบริษัทซิวหย่วน”
พอคุณยายโม่ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหขึ้นมาทันที ดีจริง ๆ…คาดไม่ถึงว่าจะกล้าไปก่อกวนหลานสะใภ้ลับหลังเธอ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจนลืมตัวแล้วหรือไงกัน!
“หลานไม่ต้องไปสนใจป้าสะใภ้ใหญ่หรอกนะ เลอะเลือนขึ้นทุกวัน เดี๋ยวยายจัดการเอง!”
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจ เขารู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก
คุณยายยังเป็นคุณยายคนเดิมเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
เพิ่งวางสายไปไม่นานเหมยเหมยก็ผลักประตูเข้ามาพร้อมคำรามใส่เขาว่า “ฉันนึกออกแล้วว่าโม่เฉียวหลิงคนนี้เป็นใคร แม่ของเธอก็คือยายแม่มดแก่ที่หลอกเอาเงินพวกเราไปถึงสองแสนหยวนไม่ใช่เหรอ?”
…………………………………………..