ตอนที่ 2333 กล้าแต่งงานซ้อนจะตัดของพี่ซะ
เหมยเหมยรู้สึกมีบางอย่างค้างคาในใจ แม้กระทั่งฝึกโยคะก็ยังทำใจให้สงบไม่ได้จึงถือโอกาสนั่งบนเสื่อแล้วคิดทบทวนดูว่าเคยได้ยินชื่อโม่เฉียวหลิงมาจากที่ไหน และก็ทำให้เธอนึกออกขึ้นมาจริง ๆ
เธอยังเคยพูดกับเหยียนหมิงซุ่นเมื่อหลายวันก่อนอยู่เลยว่าแม่ของผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ที่น่ารังเกียจเหมือนกับแม่ของฉางชิงซง แถมในเวลานั้นยังอยากให้เหยียนหมิงซุ่นแต่งงานกับลูกสาวของเธออีกต่างหาก
คน ๆนั้นก็คือโม่เฉียวหลิงนี่เอง!
“ฉันบอกพี่ไว้ก่อนเลยนะว่าห้ามให้โม่เฉียวหลิงไปทำงานที่บริษัทเป็นอันขาด ป้าสะใภ้ใหญ่คิดอะไรอยู่ถึงได้ช่วยคนนอกมาเล่นงานฉัน แล้วยังคิดจะให้โม่เฉียวหลิงเข้ามาทำงานในบริษัทอีก เธอต้องการจับคู่พี่กับโม่เฉียวหลิงใช่ไหม…”
เหมยเหมยบ่นยาวเหยียดอย่างหัวเสีย ไม่พอใจป้าสะใภ้ใหญ่เอามาก ๆ
รู้ทั้งรู้ว่ายายแม่มดแก่นั่นทั้งโลภทั้งเห็นแก่ได้ยังจะยัดเยียดโม่เฉียวหลิงเข้ามาอีก เห็นว่าโลกวุ่นวายไม่พอหรืออย่างไร?
เหยียนหมิงซุ่นลูบจมูกปอย ๆ เขายังคงประเมินไอคิวของเหมยเหมยต่ำเกินไป คาดไม่ถึงว่าเธอจะนึกออกด้วย
“พี่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าโม่เฉียวหลิงหน้าตาเป็นอย่างไร ต่อให้เข้ามาทำงานในบริษัทจริงพี่ก็ไม่ได้เข้าบริษัทเสียหน่อย แล้วจะไปเจอกันได้อย่างไร?” เหยียนหมิงซุ่นพยายามพูดจาเอาอกเอาใจเพื่อปลอบประโลมคนที่กำลังระเบิดอารมณ์ให้สงบลง
“หรือว่าพี่ตกปากรับคำให้โม่เฉียวหลิงมาทำงานที่บริษัทแล้ว?”
เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่น เธอโมโหเป็นอย่างมาก ถลึงตาใส่เหยียนหมิงซุ่นอย่างหาเรื่อง
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจอย่างจนปัญญา จุดสนใจของผู้หญิงมักจะแตกต่างจากผู้ชายเสมอ ทั้ง ๆที่เขาไม่ได้พูดอะไรเลยสักนิด
“แน่นอนว่าไม่ใช่ โม่เฉียวหลิงเป็นเพียงคนสัญจรไปมาบนท้องถนนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตเรา และตลอดชีวิตนี้ไม่มีทางเกี่ยวดองกันแน่นอน”
เหมยเหมยเบะปาก “นั่นก็ไม่แน่ ป้าสะใภ้ใหญ่ของพี่อยากจะให้เธอมาเกี่ยวดองกับพี่ไม่ใช่เหรอ?”
เหยียนหมิงซุ่น ‘…ทุกครั้งที่หาเหตุผลมาโต้กับเขาช่างว่องไวเหลือเกิน ฝีปากคมคายจริง ๆ’
“พี่จะโทรหาพี่เขาดู”
เหยียนหมิงซุ่นตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโม่ซิวหย่วนในทันที และยังเปิดลำโพงอีกด้วย
“วางใจเถอะ พอโม่เฉียวหลิงเพิ่งเรียนจบก็มาสมัครงานที่บริษัทแล้วล่ะ แต่ฉันบอกฝ่ายบุคคลให้ลงบัญชีดำของบริษัทไว้แล้ว ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับการคัดเลือกอย่างแน่นอน”
เสียงของโม่ซิวหย่วนดังแว่วออกมา เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่เหมยเหมยด้วยท่าทียียวน นัยน์ตาฉายแววหยอกล้อ
เหมยเหมยรู้สึกว่าความหึงหวงของตัวเองเกิดขึ้นโดยไร้ต้นสายปลายเหตุ เธอแค่นไอสองสามทีพร้อมทำสีหน้ากลบเกลื่อนอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เชิดคางขึ้นแล้วเอ่ยว่า “ไม่ได้รับเลือกก็สมควรแล้ว วันหลังต่อให้บังเอิญเจอกันก็ห้ามทักเป็นอันขาด…”
ฉับพลันเธอก็มองไปที่เหยียนหมิงซุ่นด้วยท่าทีระหวาดระแวง “พี่คงไม่ได้เจอเธอมาหรอกใช่ไหม?”
ไม่อย่างนั้นไร้ข่าวคราวมาตั้งหลายปีแล้ว จู่ ๆจะโผล่มาได้อย่างไร?
เหยียนหมิงซุ่นใจเต้นระส่ำ สงสัยในใจลึก ๆถึงเรื่องที่ว่าพอตั้งท้องก็จะโง่ลงไปสามปีขึ้นมาทันที
ภรรยาของเขาไม่ได้โง่ลงเลยสักนิดแต่กลับฉลาดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก คาดไม่ถึงว่าจะเดาออกว่าเขาและโม่เฉียวหลิงเคยบังเอิญเจอกันมาก่อนด้วย!
“บังเอิญเจอกันตอนไปซื้อเกี๊ยวให้เธอ แต่พี่ไม่ได้สนใจอะไรเขาเลยนะ” เหยียนหมิงซุ่นเน้นประโยคหลังเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของเขา
เหมยเหมยทำหน้าประมาณว่า ‘ที่แท้ก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ’ ฉายชัดบนใบหน้าพร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ยว่า “ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องแฝงเจตนาร้าย ต้องอยากแต่งงานกับพี่อยู่อีกแน่ ๆ…หน้าไม่อายจริง ๆ!”
“วางใจเถอะ เขาเทียบไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้วโป้งของเธอด้วยซ้ำ อีกอย่างทหารแต่งงานซ้อนไม่ได้ ฉะนั้นเรื่องที่เธอกังวลใจไม่เกิดขึ้นแน่นอน”
เหยียนหมิงซุ่นอธิบายอย่างใจเย็นเพื่อแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโม่เฉียวหลิงนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
เหมยเหมยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พูดเสียงฮึดฮัดว่า “ถ้าพี่กล้าแต่งงานซ้อน ฉันจะตัดน้องชายของพี่ซะ…”
ท่อนล่างของเหยียนหมิงซุ่นเย็นวาบ ภรรยาของเขาไม่เพียงแต่ฉลาดขึ้นเท่านั้นแต่ยังโหดเหี้ยมขึ้นอีกด้วย…
เสียงโทรศัพท์แผดเสียงดังขึ้น คุณลุงใหญ่โม่เป็นคนโทรมา หลังจากคุยกันครู่หนึ่งก็วางสายไป
“หมิงซุ่นวางใจเถอะ ลุงล็อกโทรศัพท์เอาไว้แล้ว ส่วนกุญแจลุงก็เป็นคนเก็บไว้เอง แถมยังไล่ป้าสะใภ้ใหญ่ไปทำไร่ทำนาแล้วด้วย วัน ๆคงว่างมากเลยก่อเรื่องขึ้นน่ะ”
คุณลุงใหญ่โม่โดนคุณยายโม่สั่งสอนมาชุดหนึ่งเลยทั้งโมโหทั้งอับอาย พอกลับบ้านไปจึงดุด่าภรรยาชุดใหญ่ และรีบโทรมาอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง
………………………………………….
ตอนที่ 2334 โลกเอาไม่อยู่แล้ว
“ป้าสะใภ้ใหญ่โม่อยากแนะนำโม่เฉียวหลิงให้รู้จักกับหลานชายของเธอ หลานชายของเธอก็ทำงานอยู่ในบริษัทเหมือนกัน” เหยียนหมิงซุ่นอธิบาย
เหมยเหมยถอนหายใจแผ่วเบา ไม่ได้แนะนำให้เหยียนหมิงซุ่นก็แล้วไป แต่ว่า——
“ป้าสะใภ้ใหญ่ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว คนอย่างโม่เฉียวหลิงจะเห็นหลานชายของป้าสะใภ้ใหญ่อยู่ในสายตาเหรอ? ในเมื่อมีพ่อแม่ที่โลภมากขนาดนั้น ฉันคิดว่าโม่เฉียวหลิงจะต้องอยากเป็นหนูตกถังข้าวสารแน่ ๆ”
แม้จะไม่เคยคบค้าสมาคมด้วยแต่เหมยเหมยก็มีความประทับใจที่ไม่ดีต่อโม่เฉียวหลิง
“ไปเถอะ ไปกินข้าวกัน อย่าเสียเวลากับเรื่องคนอื่นเลย”
เหยียนหมิงซุ่นไม่อยากคุยเรื่องโม่เฉียวหลิงต่อเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะมันส่งผลต่ออารมณ์ของเขา
เหมยเหมยก็ไม่อยากจะนึกถึงผู้หญิงคนนี้แล้วเหมือนกัน อันที่จริงเธอวางใจในตัวของเหยียนหมิงซุ่นเกินร้อย เมื่อครู่ก็แค่จงใจพูดแหย่เล่นเท่านั้นเอง
เพราะเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดแล้วว่าต่อให้ผู้ชายดีแค่ไหนก็ต้องตักเตือนบ้างเป็นครั้งคราว อย่าหละหลวมจนเกินไป เหมือนกับรถนั้นแหละ ขนาดรถยังต้องหมั่นขันน็อตให้แน่นเลย!
เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้!
เหมยเหมยคิดว่าโม่เฉียวหลิงเป็นเพียงคนแปลกหน้าซึ่งไม่นับว่าเป็นคนสัญจรบนท้องถนนด้วยซ้ำจึงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจนัก วันเวลาผ่านไปอย่างราบรื่นสงบสุขดี ส่วนหน้าท้องของเธอก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆด้วย
ตอนนี้อายุครรภ์ได้แปดเดือนครึ่งแล้ว วันครบกำหนดคลอดคือวันที่สิบแปดเดือนหนึ่งตามปฏิทินจีน ซึ่งถือว่าเป็นวันมงคล
อีกไม่นานก็ใกล้จะวันปีใหม่แล้ว คุณย่าหยางเตรียมซื้อของปีใหม่ล่วงหน้าก่อนหนึ่งเดือน และยังทำผ้าอ้อมสำหรับเด็กกับเสื้อผ้าตัวเล็กไว้มากมายซึ่งมีทั้งของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง
เหลือเวลาอีกครึ่งเดือนก็จะถึงวันส่งท้ายปีเก่าแล้ว คนหนุ่มสาววัยทำงานต่างก็เตรียมตัวกลับบ้านในช่วงปีใหม่
โม่ซิวหย่วนก็มาด้วย แถมยังพาคนคุ้นเคยมาด้วย แต่สิ่งที่ทำให้เหมยเหมยประหลาดใจที่สุดคือความสัมพันธ์ระหว่างโม่ซิวหย่วนกับคนคุ้นเคยคนนี้ต่างหาก
“เซียวเซียงแฟนของฉันเอง พวกเธอน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?” โม่ซิวหย่วนแนะนำอย่างง่าย ๆ สายตาที่จับจ้องเซียวเซียงเต็มไปด้วยความรัก
เซียวเซียงยิ้มพลางพูดว่า “เหมยเหมยยังจำฉันได้ไหม?”
เหมยเหมยใช้เวลาอยู่นานกว่าจะได้สติกลับมาจากคำว่า ‘แฟนของฉัน’ สามคำนี้ เธอพูดติดอ่างว่า “จำ…จำได้อยู่แล้วสิ พี่เซียวเซียงกลับมาตั้งแต่เมื่อไรคะ?”
อันที่จริงสิ่งที่เธออยากถามมากกว่าก็คือทำไมจู่ ๆพี่ถึงไปเป็นแฟนของโม่ซิวหย่วนได้ล่ะ?
จ้าวเสวียเอ๋อร์พี่สามของเธอรอผู้หญิงคนนี้มาตลอดเลยนะ!
หรือว่าพี่สามของเธอจะรักเขาข้างเดียวกัน?
“ฉันกลับมาเมื่อครึ่งปีก่อน ตอนนี้ฉันเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าให้กับดิออร์” เซียวเซียงยังสวยเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับดูกระฉับบกระเฉงตามแบบฉบับสาววัยทำงานมากขึ้นและดูมีราศีขึ้นด้วย
เหมยเหมยตกตะลึง แบรนด์ดิออร์เป็นที่รู้จักระดับโลก เพิ่งย่างกรายเข้าฮวาเซี่ยมาได้ไม่นาน เซียวเซียงก็สามารถเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าของดิออร์ได้แล้ว นี่ก็เพียงพอที่จะอธิบายถึงความสามารถของเธอแล้วล่ะ
ดูเหมือนว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาในต่างประเทศ เซียวเซียงจะประสบความสำเร็จไม่เบาทีเดียว!
“ยินดีด้วยนะคะพี่เซียวเซียง พี่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาแล้ว” เหมยเหมยแสดงความยินดีจากใจจริง
นี่เป็นเหตุผลที่เซียวเซียงเลือกไปต่างประเทศ เพราะเธอไม่เต็มใจที่จะเรียนรู้การวาดภาพตามแผนของคุณปู่เซียวเหยียน เธออยากเดินตามเส้นทางของตัวเองแม้จะเต็มไปด้วยขวากหนามก็ตาม
“ขอบคุณนะ แต่ยังไกลจากเป้าหมายของฉันอีกเยอะ ฉันก็ขอแสดงความยินดีกับเธอด้วยนะที่มีลูกแล้ว” เซียวเซียงเองก็ดีใจกับเหมยเหมยด้วยเช่นกัน
เธอและเซียวเซ่อลูกพี่ลูกน้องของเธอยังลอยไปลอยมาไม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักทีแต่สาวน้อยเหมยเหมยกำลังจะเป็นแม่คนแล้ว แถมหน้าที่การงานก็ไม่แย่ ช่างเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริง ๆ สมบูรณ์แบบที่สุดเลย!
“เซ่อเซ่อกลับมาหรือยัง? ยัยตัวดีกว่าจะโทรศัพท์หาฉันแต่ละทีก็นานหลายเดือนเชียว ทำตัวลึกลับซับซ้อน ฉันยังหาตัวไม่เจอเลย” เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะบ่น
เซียวเซ่อเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอแต่อยู่ห่างกันไกลเหลือเกิน อีกอย่างจิตใจของผู้หญิงคนนี้ก็ป่าเถื่อนเกินไป ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาดันตกหลุมรักการผจญภัยจนท่องผจญภัยไปรอบโลกแล้ว แถมได้ยินมาว่ากำลังคิดจะไปท่องแดนอวกาศอีกต่างหาก
โลกนี้มันเล็กเกินไปจนเอาเธอไม่อยู่แล้ว!
…………………………………….