ตอนที่ 2359 เจอเขี้ยวสัตว์อีกแล้ว
เหยียนซินหย่าเองก็คิดว่าเหมยเหมยกังวลมากเกินไป “ตอนเด็กทานมากหน่อยไม่เป็นไร รอลูกเดินได้ก็จะออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ทานมากแค่ไหนก็ย่อยหมด”
“ใช่ อนาคตเหลนสาวของฉันต้องเป็นสาวงามแน่ ๆ หน้าตาต้องเหมือนเหมยเหมยแหงเลย” คุณย่าหยางยิ้มตาหยีอย่างอิ่มเอมใจ
ก่อนจะคลอดเธอก็หวังอยากได้เหลนสาวหน้าตาคล้ายเหมยเหมยสักคน พระเจ้าเมตตาส่งเหลนสาวมาให้เธอคนหนึ่งจริง ๆ
“ก็ไม่เหมือนหนูทั้งหมด หว่างคิ้วหนูมีไฝแต่ลูกไม่มี อีกอย่างตอนเด็กหนูไม่ได้ทานเก่งเหมือนลูกนี่นา”
เจ้าตัวเล็กดื่มนมหมดขวดและกำลังเล่นกับขวดเปล่าอย่างสนุกสนาน เหมยเหมยอุ้มเธอขึ้นมาลูบหลังเบา ๆก่อนจะเรอออกมาหลายทีถึงปล่อยให้เจ้าตัวเล็กนอนราบลงกับที่นอน
“แอ๊…แอ๊…”
เจ้าตัวเล็กเริ่มส่งเสียงร้องอีกครั้ง เหมยเหมยขมวดคิ้วก่อนที่กลิ่นหอมบางอย่างจะลอยออกมา เหมยเหมยอดขำไม่ได้ “กินแล้วถ่าย ถ่ายแล้วกิน พูดสิว่าต่างจากหมูน้อยตรงไหน?”
“แอ๊…แอ๊…”
เจ้าตัวเล็กส่งเสียงร้องตามหลายทีเหมือนกำลังตอบรับว่าตัวเองก็คือเจ้าหมูตัวน้อย เหมยเหมยหัวเราะจนหงายหลังพลางบีบจมูกเล็กของเจ้าตัวเล็กเบา ๆพูดตำหนิ “เธอก็รู้ตัวหรือว่าเป็นหมูน้อยน่ะ…แต่ละวันกินเยอะแล้วถ่ายเยอะขนาดนี้อีก…”
“แอ๊…”
สองแม่ลูกไม่ได้คุยภาษาเดียวกันราวกับเป็ดคุยกับไก่แต่กลับดูกลมเกลียวกันอย่างน่าประหลาด สลับตอบโต้กันไปมาคนละประโยคสองประโยคจนสามารถคุยกันได้เกือบครึ่งชั่วโมง
คุณย่าหยางเอาผ้าอ้อมซักสะอาดพร้อมน้ำอุ่นมาล้างก้นให้เจ้าตัวเล็ก ปะแป้งหอมแล้วเปลี่ยนเป็นผ้าอ้อมนุ่มมือ ก่อนจะเอาผ้าอ้อมสกปรกที่เต็มไปด้วย ‘ทอง’ ออกไปซักข้างนอก
เจ้าตัวเล็กทานเยอะถ่ายเยอะอย่างว่าจริง ๆ ผ้าอ้อมที่เปลี่ยนในแต่ละวันกองเป็นภูเขาเล็ก ๆ โชคดีที่คุณย่าหยางเตรียมผ้าอ้อมไว้มากพอ ไม่อย่างนั้นคงไม่พอใช้!
เหยียนซินหย่าอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวในห้อง เธอล้วงเอาถุงสีแดงถุงหนึ่งจากกระเป๋ายื่นให้เหมยเหมย “นี่พี่ชายของลูกส่งกลับมาให้โดยเฉพาะบอกว่าเป็นของขวัญของหลานสาว ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน”
เหมยเหมยรับถุงมาอย่างดีใจแล้วแกะปมเชือกออก เทออกมาเป็นด้ายแดงที่เหมยเหมยใจกระตุก ช่วงนี้เธอเห็นด้ายแดงมากไปหน่อยแล้วจริง ๆ
“แม่ แม่บอกพี่ด้วยเหรอว่าหนูคลอดลูกสาว?”
“มีโอกาสบอกที่ไหนล่ะ พี่ชายของลูกไม่โผล่หัวมาให้เห็น แม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ไหน ของขวัญชิ้นนี้ส่งมาก็ไม่ระบุที่อยู่ผู้ส่ง” เหยียนซินหย่าบ่นอุบอิบ
เหมยเหมยพอจะเดาได้แล้วว่าจ้าวเสวียหลินต้องคิดว่าเธอคลอดลูกชายแหง ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งเธอและเหยียนหมิงซุ่นก็คิดว่าเป็นลูกชายเช่นกัน
ฉะนั้น–
ด้ายแดงนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็น…
เหมยเหมยเทของออกมาจนหมด เป็นไปตามคาดเพราะมีเขี้ยวสามซี่นอนแน่นิ่งอยู่บนฝ่ามือเธอ เห็นได้ชัดว่าเป็นเขี้ยวสัตว์ตัวใหญ่ แค่ไม่รู้ว่าเป็นเขี้ยวสัตว์อะไร
ในถุงยังมีกระดาษอีกใบที่ถูกเขียนด้วยลายมือของจ้าวเสวียหลินอยู่ด้วย–
“เหมยเหมย นี่เป็นเขี้ยวหมาทิเบตันที่ถูกปลุกเสกมาแล้ว สามารถไล่ผีหรือสิ่งไม่ดีได้ ไว้ใส่ให้หลานชายฉันนะ!”
“แอ๊…แอ๊…”
นังหนูอวบอ้วนเหมือนรู้สึกได้ถึงเขี้ยวสุนัขพันธุ์ทิเบตันก็โบกมือมาทางเหมยเหมยไม่หยุด คล้ายต้องการให้เหมยเหมยเอาเขี้ยวให้เธอ แต่แล้วทั้งคอทั้งขาและแขนต่างสวมสร้อยร้อยเขี้ยวไว้หมดแล้ว
หมาป่า จระเข้ หมี สุนัขทิเบตัน…
ลำพังแค่นังหนูนี่คนเดียวก็เปิดงานแสดงสัตว์ได้แล้ว!
ใครจะรู้เล่าว่าพวกเขาจะให้เขี้ยวสัตว์เหมือนปรึกษาหารือกันมาแบบนี้!
แล้วใครจะรู้เล่าว่าเจ้าตัวเล็กที่ซนตั้งแต่อยู่ในครรภ์คลอดออกมากลับเป็นนังหนู!
เหมยเหมยทั้งรู้สึกขำทั้งระอา สวมที่แขนก็ไม่ได้ ลูกสาวเธอมีขาแค่สองข้างแล้วจะสวมไว้ไหนดีล่ะ?
……………………….
ตอนที่ 2360 โตมาเป็นยัยอ้วนล่ะทำอย่างไร
เหยียนซินหย่าเห็นเขี้ยวสัตว์บนตัวเจ้าตัวเล็กก็หลุดขำออกมา “ทำไมถึงได้เยอะขนาดนี้?”
เหมยเหมยพูดกลั้วหัวเราะ “เขี้ยวหมาป่าเซียวเซ่อเป็นคนให้ เขี้ยวจระเข้ของสยงมู่มู่ เขี้ยวหมีของเหยียนหมิงต๋า บวกกับที่พี่ของหนูให้อีก พอเลย เปิดคณะแสดงสัตว์ได้แล้ว!”
“งั้นก็อย่าสวมเลย เราเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยเชียวนะ สวมเขี้ยวสัตว์ไปทำไมกัน ต้องสวมสร้อยทองกำไลหยกสิ” เหยียนซินหย่ากล่าว
คุณย่าหยางเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้นว่า “นั่นสิ เดี๋ยวย่าหาวันไปขอกำไลหยกพระที่วัดอวี้หลงแล้วกัน ผู้ชายสวมสร้อยกวนอิมผู้หญิงสวมสร้อยพระ ครั้งก่อนย่าขอมาผิด ครั้งนี้ไม่มีทางผิดแน่นอน”
เหยียนซินหย่าพยักหน้าตอบ “ฉันก็พอจะรู้จักกับพระอาจารย์เจ้าอาวาสวัดอวี้หลงเหมือนกัน คุณย่าไม่ต้องกังวลไป ฉันจะไปบอกพระอาจารย์ให้ท่านช่วยปลุกเสกด้วยตัวเองเลย”
“งั้นก็ดีเลย หากพระอาจารย์เจ้าอาวาสปลุกเสกใครขอก็ยังขอไม่ได้เลย!” คุณย่าหยางดีใจอย่างมาก
พระอาจารย์เจ้าอาวาสของวัดอวี้หลงเป็นพระอาจารย์ทางพระพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงระดับโลก ปกติพระอาจารย์จะเก็บตัวฝึกวิชา น้อยครั้งที่จะรับแขก คนที่ให้ท่านปลุกเสกได้นั้นช่างมีเกียรติยิ่งนัก เป็นบุญวาสนาที่มีเงินเท่าไรก็หาซื้อไม่ได้!
เจ้าตัวเล็กคว้าเอาเขี้ยวสุนัขทิเบตันไปแล้วกำลังจะยัดเข้าปาก เหมยเหมยสะดุ้งรีบกระชากเอาเขี้ยวออกมา
“อันนี้ทานไม่ได้ ทำไมเห็นอะไรก็จะเอาของปากหมดเลยเนี่ย ยัยลูกหมูจอมบื้อ…”
เหมยเหมยทั้งโมโหทั้งอยากขำ ช่างเป็นจอมตะกละคนหนึ่งจริง ๆ ไม่ว่าจะถือจับอะไรก็จะเอาเข้าปากอย่างเดียว ท้องเหมือนหลุมดำที่ทานอย่างไรก็ทานไม่อิ่ม
“ชงนมให้เด็กอีกสักขวดดีไหม?” คุณย่าหยางทนมองเจ้าตัวเล็กหิวไม่ได้
“อย่าเลย เมื่อกี้เพิ่งดื่มไปขวดใหญ่ อย่าทานจนแน่นท้องเกินไปเลย”
เหมยเหมยกังวลเหลือเกินว่าเจ้าตัวเล็กจะทานจนกระเพาะขยายตั้งแต่เด็ก อนาคตหากกลายเป็นราชากินจุเข้าจริงๆ ก็น่ากังวลแย่!
บนโลกนี้จะเป็นไปได้อย่างไรที่มีคนทานเยอะแล้วไม่อ้วน?
ไม่สอดคล้องกับหลักสมดุลของพลังงานเลย ราชากินจุที่ว่าเหล่านั้นความจริงคงทานแล้วอาเจียนออกมา ราชากินจุที่กลืนลงท้องไปจริง ๆมีคนไหนบ้างที่ไม่อ้วนเหมือนหมู เหมยเหมยไม่อยากให้ลูกรักตัวเองเป็นหมูน้อยในอนาคตหรอกนะ!
ตอนเด็กอ้วนหน่อยดูน่ารักแต่ตอนโตถ้ายังอ้วนก็ไม่ได้น่ารักน่าชังขนาดนั้นแล้ว!
“แอ๊…แอ๊…”
เจ้าตัวเล็กเหมือนเข้าใจความหมายของเหมยเหมยก็เริ่มประท้วง เหยียดแขนเหยียดขาไม่หยุดใช้แรงอย่างมาก
“ไว้เดี๋ยวค่อยดื่ม ดีไหม?” เหมยเหมยถามอย่างใจเย็น
“แอ๊…” ยายหนูอ้วนร้องดังกว่าเดิม สีหน้าจริงจังที่คำตอบชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย
“ถ้าดื่มอีกก็กลายเป็นเจ้าหมูน้อยแล้วนะ” เหมยเหมยเอือมระอาและลังเลใจสุดขีด
ไม่อยากให้ลูกรักทนหิวแต่ก็กลัวอ้วน เครียดจังเลย!
“ในเมื่อเด็กเขาหิวก็ให้ดื่มเถอะ ทนหิวน่าสงสารแย่เลย!” เหยียนซินหย่ากล่าว
“นั่นน่ะสิ ฉันจะไปชงนมให้เดี๋ยวนี้เลย”
คุณย่าหยางรีบวิ่งไปชงนม ไม่นานก็มาพร้อมกับนมเต็มขวด เจ้าตัวเล็กดวงตาเป็นประกายพลางโบกไม้โบกมือไม่หยุด ราวกับเจ้าหมูน้อยที่กำลังรออาหารจากเจ้าของก็ไม่ปาน
“อึกอึกอึก…”
เจ้าตัวเล็กกอดขวดนมเริ่มดื่มอีกครั้ง
เหมยเหมย “…”
ตกดึกเหยียนหมิงซุ่นกลับมาเหมยเหมยก็ได้ระบายความกังวลของเธอให้ฟัง
“อนาคตถ้ากลายเป็นยัยหนูอ้วน พี่ว่าจะทำอย่างไรดี?”
“ไม่เป็นไร อ้วนหน่อยก็อ้วนสิ อย่างมากก็ให้เธอไปเกณฑ์ทหาร”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้เก็บมาคิดมากเลย ต่อให้คนที่อ้วนแค่ไหนถ้าได้ไปเกณฑ์ทหารก็สามารถฝึกฝนจนผอมได้ มีอะไรน่าเครียดกัน?
เหมยเหมยถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ “พี่อย่ามาคิดวางแผนใส่ลูกสาวของฉันนะ ลูกสาวของฉันไม่มีทางเกณฑ์ทหารแน่”
เธอตัดสินใจแล้วว่าจะปลูกฝังให้ลูกสาวเต้นรำวาดรูป เลี้ยงดูให้เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่ใครเห็นใครก็รัก
…………………….