ตอนที่ 2387 ในยามคับขันต้องงัดไม้แข็งมาใช้
“ฉันเจ็บขา…โอ๊ย…เจ็บจะตายอยู่แล้ว จะหักแล้ว…”
ยายแก่ปีศาจไม่ได้เสแสร้งเพราะเธอเป็นโรคข้อกระดูกอักเสบเพราะความชื้น แต่เดิมข้อกระดูกก็ไม่แข็งแรงเท่าไรอยู่แล้ว พอถูกเหมยเหมยเตะเข้าแบบนี้ก็แทบยืนทรงตัวไม่ไหว เหงื่อผุดขึ้นเต็มร่างกาย
“เซ็นเป็นหรือยัง?” เหมยเหมยสายตาเยือกเย็น
“ไม่เป็น…ฉันไม่เคยเรียนหนังสือ เธอบังคับฉันไปก็เปล่าประโยชน์!”
ยายแก่ปีศาจเจ็บปวดจนยากจะทนไหวแต่ยังพยายามอดกลั้นไว้ไม่ยอมทำตามง่าย ๆ ขอแค่ทนต่ออีกไม่กี่นาทีเลือดบนตัวฉีฉีเก๋อก็ไหลออกมามากพอสมควรแล้ว
อย่างไรเสียนังแพศยาคนนี้ก็เอาเธอถึงตายไม่ได้ อย่างมากก็แค่เจ็บเนื้อเจ็บตัวนิดหน่อยเท่านั้น!
เพื่อให้ได้ลูกสาวผู้ว่าการมาเป็นลูกสะใภ้ มันคุ้ม!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรีบถามคุณหมอ “เราเป็นเพื่อนสนิทของคนไข้ เพื่อนที่สนิทที่สุด เราเป็นคนเซ็นได้ไหมคะ?”
คุณหมอส่ายหน้า “ไม่ได้ กฎของโรงพยาบาลต้องให้ญาติเซ็นเท่านั้น”
“กฎมันตายตัวแต่ชีวิตคนเรามันไม่ตายตัวหรอกนะคะ เราจะปล่อยให้คนไข้ตายต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอกใช่ไหมคะ ฉันเซ็นชื่อแล้วจะรับผิดชอบทุกอย่างเองค่ะ!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตบอกรับปาก แม้เธอไม่เคยคลอดลูกแต่ก็รู้ว่าอาการตกเลือดอันตรายมาก จะเสียเวลาต่อไปไม่ได้แล้ว!
คุณหมอมองด้วยสายตาอบอุ่นเล็กน้อย เดิมทีเธอไม่ประทับใจในตัวเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเท่าไร และพาลรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้ดูหัวหมอเจ้าเล่ห์ไม่เหมือนคนมีคุณธรรม
พอมาดูตอนนี้ความประทับใจแรกไม่ถูกต้องเลยจริง ๆ
“ขอโทษด้วย กฎเปลี่ยนไม่ได้ สามีของคนไข้อยู่ไหม? หรือว่าพ่อแม่ของเธอก็ได้” คุณหมอออกความเห็น
“สามีของเธอไปดูงานต่างเมือง พ่อแม่อยู่ต่างถิ่นนั่งเครื่องบินมายังไม่ทันเลยค่ะ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนร้อนใจ นี่ก็ไม่ได้นั่นก็ไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไรต่อล่ะ?
ยายแก่ปีศาจที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเผยรอยยิ้มดีใจออกมา เหมยเหมยเห็นแล้วไฟโทสะก็พุ่งกระฉูดจึงเตะเข้าอีกที
“จะเซ็นไหม? ฉันจะบอกให้นะ ถ้าฉีฉีเก๋อเป็นอะไรไป คุณก็อย่าคิดจะมีชีวิตต่อไปเลย!”
เหมยเหมยกระชากยายแก่ปีศาจขึ้นทีเดียวแล้วบีบคอของเธอโดยใช้แรงพอตัว ในยามคับขันต้องงัดไม้แข็งมาใช้ ยายแก่ปีศาจนี่จิตใจโหดเหี้ยมก็อย่าหาว่าเธอไม่ปรานีแล้วกัน!
“อ๊าก…”
ยายแก่ปีศาจตาเหลือกลิ้นปลิ้นออกมา ไม่นานหน้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสะดุ้ง ไม่คิดว่าเหมยเหมยจะลงมือทันทีแถมยังใช้วิธีโหด ๆแบบนี้อีก หรือว่าเธอจะบีบคอยายแก่ปีศาจนี่ให้ตายจริง ๆ?
“เหมยเหมย…กับยายแก่ปีศาจนี่ไม่คุ้มนะ…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเกลี้ยกล่อมเสียงเบาเพราะเธอกลัวเหมยเหมยจะเผลอทำเรื่องโง่ ๆภายใต้อารมณ์ชั่ววูบ
“เธออย่ายุ่ง ถอยไป!”
เหมยเหมยถลึงตาแล้วเพิ่มแรงมากกว่าเดิม ยายแก่ปีศาจแลบลิ้นออกมายาวขึ้นเรื่อย ๆและแทบไม่เห็นลูกตาดำ ดูเหมือนผีแขวนคอตายก็ไม่ปาน
คุณหมอก็ตกใจแทบแย่ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี แม้เธอจะชินชากับความเป็นความตายแต่ไม่เคยเห็นการฆาตกรรมต่อหน้าแบบนี้นะ!
“ฉัน…เซ็น…”
ยายแก่ปีศาจไม่กล้ารอช้า ในที่สุดก็ยอมแพ้
ไม่เซ็นเธอก็ต้องตาย นังแพศยานี่ใจเหี้ยมเหลือเกิน!
เหมยเหมยผละมือออกแล้วมองเธอด้วยใบหน้าเย็นชา ยายแก่ปีศาจไม่กล้ารอช้ารีบหยิบปากกาเซ็นไปพร้อมไอไป แม้ตัวหนังสือที่เขียนออกมาจะบิด ๆเบี้ยว ๆบ้างแต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนไม่รู้หนังสือ
ยายแก่ปีศาจนี่โกหกตั้งแต่แรก เหมยเหมยลอบแค่นหัวเราะ ไว้จะจัดการเธอทีหลังแล้วกัน!
คุณหมอโล่งอกไปทีแล้วรีบเข้าไปทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ดีที่ช่วยได้ทันเวลาจึงทำให้ฉีฉีเก๋อไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่ร่างกายอ่อนแอเกินไปอาจจะส่งผลต่อมดลูกได้
“ทางที่ดีที่สุดอย่าท้องอีกภายในห้าปี สภาพร่างกายของคนไข้คงรับไม่ไหว” คุณหมอเตือนเสียงหนักแน่น
“ค่ะ เราจะจำเอาไว้ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ” เหมยเหมยพยักศีรษะรับ รู้สึกขอบคุณคุณหมอหน้านิ่งแต่ชอบช่วยเหลือคนอื่นคนนี้มาก
……………………….
ตอนที่ 2388 ขโมยไต
แม้ว่าฉีฉีเก๋อจะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่ยังอยู่ในสภาวะหมดสติไม่ยอมฟื้น เหมยเหมยย้ายเธอไปอยู่ห้องพักผู้ป่วยส่วนตัวที่มีเธอกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคอยจัดการทุกอย่างให้ ยายแก่ปีศาจเหมือนคนนอกที่ไม่ยอมแม้แต่จะช่วยหยิบยื่นเสื้อผ้าให้ด้วยซ้ำ
แต่ยายแก่ปีศาจก็ไม่ยอมกลับบ้านตามติดพวกเธอตลอดเวลา ทั้งที่ก็ดูยุ่งมากเหมือนกันแต่ก็ไม่ยอมทำอะไร
“สงสัยยายแก่ปีศาจนั่นกลัวฉางชิงซงกลับมาแล้วจะต่อว่าเธอถึงได้อยู่ต่อ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดเสียงเคียดแค้น
“ไม่ต้องไปสนใจ ฉันจะโทรหาป้าฟางให้ช่วยตุ๋นน้ำซุปไก่มา” เหมยเหมยมองยายแก่ปีศาจตรงมุมกำแพงด้วยสายตาเย็นชา
ยังมีโอกาสจัดการแต่ตอนนี้ฉีฉีเก๋อสำคัญกว่า
เหมยเหมยเดินไปโทรหาป้าฟางที่ระเบียงทางเดินให้เธอตุ๋นน้ำซุปไก่แล้วส่งมาให้ อีกเดี๋ยวฉีฉีเก๋อก็ฟื้นจะได้ทานน้ำซุปพอดี
“ลูกของฉัน…อนาคตจะทำอย่างไร…ไอ้พวกคนไร้คุณธรรม ไม่ได้ตายดีแน่…”
มีเสียงร้องไห้โหยหวนดังแว่วมาจากสุดปลายทางเดินที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฟังดูเหมือจะเป็นเสียงผู้หญิงคนหนึ่ง
เหมยเหมยมองไปทางต้นเสียงก็เห็นหญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบกว่านั่งร้องห่มร้องไห้บนพื้น สีหน้าเศร้าเสียใจอย่างมาก
“แม่ แม่เบาเสียงหน่อย…อย่าไปรบกวนคนอื่นเขาสิ!” หญิงสาวอายุราวยี่สิบกว่าปีพูดเกลี้ยกล่อมแต่ก็ดูเสียใจไม่แพ้กัน
“ไตของลูกชายฉันหายไปแล้วจะไม่ให้ฉันร้องไห้หน่อยเหรอ โลกนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่หรือเปล่า…เคยได้ยินโจรขโมยเงินขโมยเด็ก ทำไมถึงมีขโมยไตด้วยล่ะ…นี่มันโลกอะไรกัน…”
หญิงวัยกลางคนไม่เพียงแต่จะไม่หยุดร้อง ทว่ากลับเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆจนหญิงสาวก็พลอยเริ่มร้องไห้ตามไปด้วย
เหมยเหมยฟังแล้วก็นึกแปลกใจ ดูเหมือนว่าลูกชายของหญิงวัยกลางคนผู้นี้จะถูกขโมยไตแล้วสิ!
การขโมยอวัยวะไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเคยได้ฟังจากข่าวเมื่อชาติที่แล้วมาบ้าง ได้ข่าวว่ามีองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อขโมยอวัยวะมนุษย์โดยเฉพาะ พวกเขาจะจ้องหาหญิงสาวหน้าตาสะสวยหรือชายหนุ่มอ่อนต่อโลก หลังขโมยอวัยวะเสร็จก็เอาไปขายต่อที่ต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย
อย่างลูกชายของหญิงวัยกลางคนผู้นี้แค่ถูกขโมยไตไปข้างเดียว โชคดีที่รอดชีวิตมาได้ ถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายแล้วกัน
เคยได้ยินมาว่าบางคนแย่กว่านี้อีก ถูกขโมยหัวใจไปจนเอาชีวิตไม่รอดด้วยซ้ำ
แต่…ตอนนี้มีคนขโมยอวัยวะกันในเมืองหลวงแล้วหรือ?
เหมยเหมยเกิดข้อสงสัยเลยเดินไปทางสองแม่ลูกที่กำลังเศร้าเสียใจพลางยื่นกระดาษทิชชูให้
“เช็ดน้ำตาหน่อยเถอะค่ะ เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายคุณอย่างนั้นเหรอคะ?”
หญิงวัยกลางคนเงยหน้ามองเหมยเหมยด้วยสองดวงตาพร่ามัว บางทีอาจจะต้องการระบายความในใจให้ใครสักคนฟังหรือเห็นเหมยเหมยดูหน้าตาน่าไว้วางใจเลยเล่าเหตุการณ์โชคร้ายที่ลูกชายเธอประสบพบเจอมาไปจนหมด
ไม่เหนือความคาดหมายของเหมยเหมยสักเท่าไรนัก ลูกชายของหญิงวัยกลางคนถูกขโมยไตไปข้างหนึ่งจริง ๆด้วย
“แม่หนู ทำไมโลกนี้ถึงมีคนโหดเหี้ยมขนาดนี้ ดูสิขโมยเงินยังพอว่า ทำไมต้องขโมยไตของลูกชายฉันไปด้วย? ลูกชายฉันยังไม่แต่งงานเลย…อนาคตเขาจะทำอย่างไรล่ะ…”
หญิงวัยกลางคนเอามือปิดหน้าร้องไห้ปานใจจะขาด เงินหมดยังหาใหม่ได้ ไม่มีไตแล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ?
เหมยเหมยมุ่นคิ้ว ท่าทางหญิงวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่คนเมืองหลวง ดูท่าบ้านเกิดจะอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ลูกชายทำงานที่เมืองหลวง พอเกิดเรื่องถึงได้รีบเดินทางมา
ฉะนั้นหญิงวัยกลางคนถึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกชายเธอนัก เพราะยังมีหลายอย่างที่ยังไม่เข้าใจ
“ตอนลูกชายคุณเกิดเรื่องกำลังทำอะไรอยู่คะ?” เหมยเหมยถาม
หญิงวัยกลางคนทำหน้าสับสน หญิงสาวข้างกายรีบพูดขึ้น “พี่ชายฉันไปดูหนังกับแฟนใหม่เขา ใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นได้…”
เหมยเหมยใจกระตุกวูบแล้วถามต่อ “แล้วแฟนของเขาล่ะ? มาโรงพยาบาลด้วยไหม?”
“ไม่เลย…พอเกิดเรื่องเธอก็หนีไปเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชื่ออะไรหน้าตาเป็นอย่างไร…” หญิงวัยกลางคนบ่นอุบอิบแล้วเริ่มน้ำตาไหลอีกครั้ง
………………