ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2401 จอมพลังเล่อเล่อ + ตอนที่ 2402 ทาสขายเลือด

บทที่ 2401 จอมพลังเล่อเล่อ + ตอนที่ 2402 ทาสขายเลือด

ตอนที่ 2401 จอมพลังเล่อเล่อ

“แกยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม เด็กทารกคนเดียวจะแรงเยอะได้มากแค่ไหนเชียว…ขายขี้หน้าชะมัด!” ชายหนุ่มที่อุ้มเล่อเล่อมองเหยียดเพื่อนตัวเองอย่างดูถูก

“แต่เจ็บมากจริง ๆนะ…เด็กคนนี้เป็นเด็กจอมพลังเชียวล่ะ!” เดวิดแก้ตัว

ชายหนุ่มแค่นเสียงใส่ทีหนึ่งอย่างไม่คิดจะเชื่อสักนิด

“แอ๊ะ…”

เล่อเล่อดีใจสุดฤทธิ์ ขาน้อยยกขึ้นกระทืบโดนกลางลำตัวจนชายที่อุ้มเธออยู่หน้าเปลี่ยนสีในฉับพลันพลางครางฮึมฮัมในลำคอทีหนึ่งแล้วโก่งตัวด้วยความเจ็บปวด

เดวิดหัวเราะอย่างสมน้ำหน้า “ตอนนี้เชื่อที่ฉันพูดแล้วสินะ…เด็กคนนี้แรงเยอะกว่าเด็กอายุเจ็ดแปดขวบด้วยซ้ำ หรือเป็นเพราะมีกรุ๊ปเลือดหายากงั้นเหรอ?”

“ใครจะไปรู้กันล่ะ…ให้ตายเถอะ แกรีบอุ้มเจ้าเด็กนี่ไปเลย เจ็บจะตายอยู่แล้ว…”

ชายหนุ่มเจ็บจนหายใจไม่ทั่วท้อง เจ้าเด็กตัวแสบเตะโดนลูกรักของเขา ไม่รู้ว่าหักหรือยัง?

“คิก ๆ…”

เสียงหัวเราะสดใสของเล่อเล่อดังขึ้นภายในตัวรถอันคับแคบ ใบหน้ากลมกลึงใสบริสุทธิ์ดั่งนางฟ้าตัวน้อยทำให้ชายทั้งสามหนุ่มโล่งใจไปที

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว เราต้องรีบไปที่ท่าเรือ หากไปถึงฮ่องกงเราก็จะปลอดภัยแล้ว” ชายที่เป็นหัวหน้าพูดเสียงนิ่งแล้วเหยียบคันเร่งจนมิดก่อนที่ตัวรถจะพุ่งตัวออกไปเหมือนลอยกลางอากาศแทบจะบินเลยทีเดียว

เหยียนหมิงซุ่นรีบมาถึงโรงพยาบาลหลังจากนั้นไม่นาน ป้าฟางใจร้อนรุ่มดั่งไฟเผาจับจ้องเหมยเหมยที่หมดสติไปอย่างไม่กล้าละสายตา พอเห็นเหยียนหมิงซุ่นถึงถอนหายใจโล่งอก

“เสวี่ยเอ๋อร์ตามไปแล้ว” ป้าฟางรายงาน

เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจทีหนึ่ง เสวี่ยเอ๋อร์เฉลียดฉลาดไม่มีทางทำให้ศัตรูสังเกตเห็นว่ามันกำลังสะกดรอยตามแน่นอน มีมันคอยติดตามเล่อเล่อเขาก็พอจะเบาใจลงบ้าง

เขาตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวแล้วทำการคาดคะเนเบื้องต้น จากนั้นก็ให้ลูกน้องตามหาทั่วทั้งโรงพยาบาลพร้อมแยกย้ายกันไปตามหาทั่วทุกสารทิศ ณ เวลานี้รถยนต์ที่ลักพาตัวเล่อเล่อก็ขับออกจากโรงพยาบาลพอดี

“…เล่อเล่อ…เล่อเล่อของฉัน…”

เหมยเหมยฟื้นขึ้นมาพลันนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนจะหมดสติได้อย่างรวดเร็ว พอเห็นอ้อมแขนว่างเปล่าก็รู้แล้วว่าลูกสาวของเธอหายตัวไปแล้วจริง ๆ

เธอหน้ามืดจนเกือบจะเป็นลมล้มไปอีกรอบ เหยียนหมิงซุ่นประคองตัวเธอไว้แล้วพูดเสียงนิ่ง “อย่าร้อนใจไป ฉันส่งคนไปตามหาแล้ว เล่อเล่อจะไม่เป็นไร”

“ฉันผิดเอง…ฉันไม่ใช่แม่ที่ดี…ฉันมันใช้ไม่ได้เลย…”

เหมยเหมยปล่อยโฮอยู่ในอ้อมกอดของเหยียนหมิงซุ่น หากเธอมีทักษะการต่อสู้ที่ดีกว่านี้สักนิดหรือไปเอารถพร้อมกับป้าฟาง เล่อเล่ออาจจะไม่ถูกคนช่วงชิงไป…

แม้แต่ลูกตัวเองยังปกป้องไม่ได้ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรจะเป็นแม่คน?

“อย่าร้องไปเลย…เธอเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังหน่อยสิ” เหยียนหมิงซุ่นปลอบเสียงอ่อนโยนพลางเช็ดน้ำตาให้เธอ

เหมยเหมยหยุดร้องไห้ทันทีแล้วเล่าเรื่องในความทรงจำ “เล่อเล่อกับเสวี่ยเอ๋อร์เหมือนรู้สึกถึงความผิดปกติ ฉันสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอยู่ก็มีคนมาแย่งเล่อเล่อไปเลย ฉันทันแค่ฟาดแส้ไปรอบเดียว หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีก”

“ศัตรูมีอย่างน้อยสองคน คนหนึ่งแย่งเล่อเล่อไป ส่วนอีกคนลอบจู่โจมจากข้างหลัง” เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่น คิดไม่ออกจริง ๆว่าในเมืองหลวงจะมีใครกล้าต่อกรกับเขา?

ป้าฟางกล่าว “มีคนหนึ่งดูประหลาดพิกล เขาเป็นผู้ชายชาวต่างชาติ ตอนฉันไปเอารถก็วิ่งมาถามทาง เล่อเล่อยังซัดหน้าเขาไปทีหนึ่งด้วย”

“ใช่ มีคนแบบนั้นอยู่คนหนึ่ง…ฉันจำได้แล้ว คนที่แย่งเล่อเล่อไปก็เป็นชาวต่างชาติเหมือนกัน กลิ่นน้ำหอมบนตัวเขาฉุนมาก ผู้ชายในประเทศเราไม่มีทางฉีดน้ำหอมกลิ่นฉุนขนาดนั้นแน่…” เหมยเหมยเจอข้อสังเกตใหม่

“คุณชายหมิง หรือว่าพวกเขาจะเป็นพวกเดียวกัน?” ป้าฟางถาม

เหยียนหมิงซุ่นไม่เข้าใจยิ่งกว่าเดิมว่าชาวต่างชาติจะจับตัวลูกสาวเขาไปทำไม?

หรือเพราะช่วงนี้เขาใช้กองกำลังทหารจัดการกับประเทศใกล้เคียงอยู่หลายครั้ง กลุ่มอิทธิพลเหล่านั้นจึงอยากแก้แค้นเขางั้นหรือ?

“ป้าพาคุณหนูกลับบ้าน ทางนี้ฉันจัดการเอง” เหยียนหมิงซุ่นให้ป้าฟางพาเหมยเหมยกลับบ้าน ไม่รู้ว่ายังมีคนของศัตรูหลงเหลืออยู่ในโรงพยาบาลหรือเปล่า เขาไม่ไว้วางใจ

แม้เหมยเหมยจะอยากอยู่ต่อมากแต่เธอกลัวตัวเองที่ไร้ความสามารถจะกลายเป็นตัวถ่วงของเหยียนหมิงซุ่น เธอจึงกลับบ้านไปพร้อมกับป้าฟางแต่โดยดี

…………………………

ตอนที่ 2402 ทาสขายเลือด

รถยนต์ของชายทั้งสามคนห่างออกจากเมืองหลวงไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ อารมณ์ของพวกเขาก็ผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อย ๆเช่นกัน เดวิดถึงขั้นเริ่มผิวปาก

“ครั้งนี้เราได้เงินมาไม่น้อย ฉันจะขอลาพักร้อนไปเที่ยวประเทศสวิสแล้วพักผ่อนหย่อนใจให้หนำใจไปเลย”

“ฉันก็จะขอลาพักร้อนด้วย ฉันอยากไปเทือกเขาแอลป์” อีกคนพูดขึ้น

“ปิดงานนี้ก่อนค่อยว่ากันเถอะ” ชายที่เป็นหัวหน้าไม่อยากวาดฝันไว้สวยหรูเกินไป เขาเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายก่อนเสมอ หากภารกิจยังไม่สำเร็จเขาไม่มีทางวางแผนอะไรล่วงหน้าทั้งนั้น

“แกมองโลกในแง่ร้ายเกินไป ฉันว่าภารกิจคราวนี้ง่ายมากแต่ค่าตอบแทนกลับสูงลิ่ว เยี่ยมไปเลย!” เดวิดมองเล่อเล่อที่หลับปุ๋ยไปแล้วอย่างพึงพอใจ ช่างเป็นเทพเรียกความมั่งคั่งตัวน้อยที่ดีเสียจริง!

“ใครใช้ให้เจ้าเด็กนี่อยู่ในหมู่เลือดโอบอมเบย์หายากกันล่ะ ครั้งนี้ลูกค้าเป็นถึงมหาเศรษฐียุโรปเชียว ได้ยินมาว่าลูกสาวของพวกเขาที่เพิ่งคลอดก็หมู่เลือดโอบอมเบย์เหมือนกัน” ชายอีกคนสายข่าวค่อนข้างไว

เดวิดถามด้วยความสนใจ “หรือว่าเศรษฐีนั่นคิดจะหาคลังเลือดเคลื่อนที่ให้ลูกสาวงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว ซึ่งก็คือคลังเลือดเคลื่อนที่เผื่อลูกสาวจำเป็นต้องใช้ในยามฉุกเฉิน อีกอย่างลูกค้าตั้งเงื่อนไขว่าต้องเป็นเด็กทารกที่เพิ่งคลอดเพราะจะได้โตไปพร้อมกับลูกสาวของพวกเขา แล้วจะได้เป็นทาสขายเลือดให้ลูกสาวเขาไง”

เดวิดสะดุ้งโหยง “ความคิดของคนมีเงินไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ เจ้าตัวเล็กที่น่าสงสารนี่ไม่นานก็จะกลายเป็นทาสขายเลือดแล้ว…จุ๊ ๆ!”

“นั่นเป็นชะตากรรมของเธอ ใครใช้ให้เธอไม่มีพ่อแม่เป็นมหาเศรษฐีกันล่ะ!” ชายที่เป็นหัวหน้าแสดงสีหน้าเย็นชา

เดวิดยักไหล่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งเป็นสายโทรมาจากสาขาทางเมืองหลวง

“พวกแกอย่าเพิ่งไปที่ท่าเรือ ที่นั่นคุมเข้ม ไปหลบในภูเขาก่อน”

“ไอ้บ้าเอ้ย…ทำไมท่าเรือถึงได้คุมเข้มขึ้นล่ะ?”

ชายที่เป็นหัวหน้าสบถหยาบและทำได้แค่เลี้ยวรถกลับไปสู่ถนนอีกสายมุ่งหน้าไปยังภูเขาลูกใหญ่ ที่นั่นมีแหล่งกบดานที่ทางองค์กรได้สร้างเอาไว้ เพียงแต่ไม่มีเสบียงอาหาร แต่พวกเขาเคยผ่านการฝึกเอาตัวรอดในป่ามาแล้ว การล่าสัตว์จึงไม่ใช่ปัญหา

“แอ๊ะ…”

เล่อเล่อตื่นแล้ว ลูกตากลอกกลิ้งพร้อมมือไม้ที่โบกไปมา

เธอปวดฉี่…

“ให้ตาย…เจ้าเด็กนี่กำลังจะทำอะไรเนี่ย…”

ชายที่อุ้มเธออยู่จะรู้ได้อย่างไรว่าเล่อเล่อต้องการจะทำอะไร เพิ่งสิ้นคำไปก็รู้สึกอุ่นไปทั้งมือ…

“ให้ตาย…เธอฉี่ราด…เหม็นมาก…”

ชายหนุ่มทำหน้าอาลัยตายอยากเพราะเขาเป็นโรครักความสะอาดขั้นรุนแรง ตอนนี้เขาแค่อยากฆ่าเจ้าเด็กสมควรตายนี่เสีย

“อย่าวู่วามไป…นึกถึงค่าตอบแทนของเราสิ…” เดวิดกลั้นขำพร้อมทำหน้าเหมือนรอดูเรื่องสนุก ๆ

“แอ๊ะ…”

เล่อเล่อร้องขึ้นอีกหน เมื่อปัสสาวะเสร็จก็อยากดื่มนม เธอหิวแล้ว…

ชายหนุ่มทั้งสามเริ่มหงุดหงิดเพราะเสียงร้องของเล่อเล่อ หากไม่ใช่ลูกค้าที่ต้องการเด็กทารกร่างกายแข็งแรงกลับไปพวกเขาก็นึกอยากบีบคอเล่อเล่อให้ตายไปเสีย

“น่าจะหิวแล้ว เดวิดแกไปต้มน้ำชงนม” ชายคนนำเอ่ยสั่ง

พวกเขามาถึงภูเขาลูกใหญ่แล้วและกำลังหลบอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ข้างในยังถือว่ามีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบครันพอสมควร อีกทั้งพวกเขายังพกขวดนมกับนมผงมาด้วย พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้เล่อเล่อหิวอยู่แล้ว

ขณะที่รถกำลังเทียบจอดเสวี่ยเอ๋อร์ก็วิ่งหลบเข้าไปในป่าอย่างเงียบเชียบโดยไม่มีใครทันสังเกต

ผู้ชายสามคนคอยปรนนิบัติเล่อเล่ออย่างระมัดระวัง พวกเขากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอแล้วภารกิจไม่สำเร็จ

เล่อเล่อดื่มนมดังอึก ๆพลางจับจ้องชายทั้งสามตรงหน้า เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมบางอย่าง แถมยังมีกลิ่นคล้ายเสวี่ยเอ๋อร์มากด้วย คงจะสนุกน่าดูเลย!

อืม…ดื่มนมก่อน อิ่มท้องแล้วค่อยเล่น!

“ให้ตายสิ…ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงกินเยอะขนาดนี้นะ…” เดวิดชงนมขวดที่สามแล้ว

“เราเอานมมาแค่กระปุกเดียว กินได้แค่ไม่กี่วันแน่” อีกคนเอ่ยขึ้นด้วยความกังวลใจ

ชายหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “รอข่าวจากทางนั้นก่อนแล้วกัน ไม่แน่ทางท่าเรืออาจคลายความเข้มงวดลงในเร็ว ๆนี้ก็ได้!”

เหยียนหมิงซุ่นได้รับสายจากลูกน้องที่เฝ้าอยู่ตรงท่าเรือ “คุณชายหมิง ไม่พบบุคคลต้องสงสัย”

“เฝ้าต่อไป อย่าได้ประมาทแม้แต่น้อย” เหยียนหมิงซุ่นสั่ง

“ครับ!”

………………………..

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท