ตอนที่ 2451 ฉลามเยอะไปหมด
เหยียนหมิงซุ่นไม่กล้าบอกความจริงกับเหมยเหมย ถ้าบอกไปรับรองต้องโดนสองชราและเหมยเหมยรุมเละแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงรับประกันได้แค่ว่าเล่อเล่อจะไม่เป็นอะไรแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นเขาปิดปากเงียบไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น
พอเหมยเหมยเห็นเขาทำท่าสาบานให้คำมั่นสัญญาก็วางใจอยู่บ้าง ขอแค่ปลอดภัยไม่มีปัญหาก็พอแล้ว แต่พอไม่ได้เห็นลูกสาวเหมยเหมยก็ใจหาย ทำอะไรก็ไร้เรี่ยวแรงไปเสียทุกอย่าง
อันที่จริงเหยียนหมิงซุ่นเองก็เป็นกังวลเหมือนกัน ถึงอย่างไรเสียก็เป็นลูกสาวสุดที่รัก กลัวก็แต่จะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น
ดังนั้นเขาจึงโทรเรียกเหยียนหมิงต๋ากลับมาเพื่อตามไปแอบปกป้องอย่างลับ ๆ ช่วงเวลาหลายปีมานี้เหยียนหมิงต๋าได้ทำการฝึกซ้อมกับหน่วยงานตำรวจ เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก มีเขาคอยติดตามเล่อเล่อถึงจะวางใจลงได้
เมื่อเหยียนหมิงต๋ารู้แผนการของเหยียนหมิงซุ่นก็ก่นด่ายกใหญ่เป็นครั้งแรก
เมื่อก่อนมักเป็นเหยียนหมิงซุ่นสั่งสอนน้องชายแต่ครั้งนี้กลับกันซะอย่างนั้น
“เล่อเล่อเพิ่งสามขวบเอง พี่ให้หลานไปช่วยสืบคดีแล้วเหรอ? พี่รู้ไหมว่ากลุ่มหัตถ์พระเจ้าโหดเหี้ยมแค่ไหน? พี่…พี่…พี่นี่ช่าง…โง่เง่าจริง ๆ ถ้าเล่อเล่อเป็นอะไรขึ้นมาผมจะรอดูว่าพี่จะอธิบายให้พี่สะใภ้ฟังอย่างไร?”
เหยียนหมิงต๋าโมโหจนควันออกหู พี่ใหญ่ทำเรื่องอะไรมักเชื่อถือได้เสมอ แต่ครั้งนี้ทำไมถึงได้เสี่ยงขนาดนี้?
หลานสาวน่ารักขนาดนั้น หากว่าเป็นอะไรขึ้นมา…เหยียนหมิงต๋าไม่กล้าจินตนาการต่อเลย เขาคร้านจะอบรมสั่งสอนเหยียนหมิงซุ่นแล้วและรีบตามเฮ่อเหลียนเช่อไปติด ๆ เขาหวังว่าจะสามารถพาหลานสาวกลับมาได้
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจ เขาก็ไม่รู้ว่าที่ตัวเองตัดสินใจมันผิดหรือถูกเหมือนกัน
แต่ที่เฮ่อเหลียนเช่อพูดก็ไม่ผิด ทั้งเสี่ยวเป่าและเล่อเล่อต่างก็ไม่ใช่เด็กธรรมดา ดังนั้นตั้งแต่พวกเขาเกิดมาก็ถูกลิขิตให้ใช้ชีวิตไม่ปกติสุขอยู่แล้ว แทนที่จะรอให้โตก่อนแล้วค่อยเผชิญกับมันสู้ให้พวกเขาได้สัมผัสประสบการณ์ตั้งแต่ยังเด็กยังจะดีเสียกว่า!
ตอนเล่อเล่อเพิ่งครบหนึ่งเดือนก็สามารถจัดการนักฆ่าทั้งสามคนจนอยู่หมัด ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ต้องไม่มีปัญหาแน่นอนสิ
เหยียนหมิงซุ่นมั่นใจในตัวลูกสาวมาก!
เพราะว่าเสี่ยวเป่าและเล่อเล่อน่ารักน่าเอ็นดูไม่ขี้แยเหมือนเด็กคนอื่น ๆ พวกค้ามนุษย์สองสามคนในกลุ่มก็เลยชอบทั้งคู่พอสมควร ทั้งยังไม่ได้มัดพวกเขาเอาไว้และปล่อยให้ทั้งคู่เดินไปมาในห้องโดยสารได้ตามใจชอบ
“คุณอาครับ เมื่อไรถึงจะได้เจอมิกกี้เมาส์เหรอครับ?” เสี่ยวเป่าถามผู้ชายที่เป็นคนพามา
“ใกล้แล้ว พอถึงฝั่งก็จะได้เห็นแล้ว”
“เมื่อไรจะถึงฝั่งเหรอครับ? ผมอยากดูมิกกี้เมาส์แล้ว!” เสี่ยวเป่าพูดอย่างอดทนรอไม่ไหว รูปลักษณ์ที่แสนน่ารักน่าเอ็นดูทำให้หัวใจอำมหิตของพวกค้ามนุษย์ต่างอ่อนยวบ ลดความระแวดระวังต่อเขาลง
“อีกหนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ไม่ต้องใจร้อนไปหรอก!”
เสี่ยวเป่ากลับไปนั่งที่อย่างเชื่อฟัง หนึ่งชั่วโมง…เขามีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงที่จะช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ เขาต้องรีบคิดหาทางแล้ว
“พี่ชาย…มีพี่ชายคนหนึ่งป่วยหนักมาก…คนไม่ดีพวกนี้จะโยนเขาทิ้ง!” เล่อเล่อกระซิบพูดเสียงเบา
เด็กที่ถูกลักพาตัวส่วนใหญ่มีอายุหกหรือเจ็ดขวบไปจนถึงสิบกว่าขวบ พวกเขาทั้งหมดหน้าตาดีทั้งนั้น ในเวลานี้พวกเขาถึงตระหนักได้ถึงสถานการณ์อันตราย ทุกคนต่างพากันหวาดกลัว เด็กบางคนเริ่มตื่นตระหนก แถมมีเด็กบางส่วนเริ่มมีไข้ขึ้น คนพวกนี้ทำเพียงป้อนยาลดไข้ให้แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องจริงจังอะไร
เด็กส่วนใหญ่ไข้เริ่มลดลงแล้วแต่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อาการแย่ลงเรื่อย ๆ ไข้ขึ้นสูงจนเริ่มไม่ได้สติ พวกค้ามนุษย์ปรึกษากันว่าถ้ายังไม่ดีขึ้นก็จะโยนลงทะเลให้เป็นอาหารฉลามไปเสียเพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วงของพวกเขา
เสี่ยวเป่าใจหล่นไปถึงตาตุ่ม ยามคับขันแบบนี้ต้องรีบช่วยเหลือคนอื่น
อยู่ดี ๆดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเฮ่อเหลียนเช่ออยู่ในทะเล พ่อมาแล้ว ทันใดนั้นเสี่ยวเป่าก็คิดอะไรออก ยังมีหนทางอยู่นี่นา
เขากระซิบข้างหูของเล่อเล่ออยู่สองสามประโยค เล่อเล่อพยักหน้าอย่างแรง “อืม…ยกให้เล่อเล่อจัดการได้เลย!”
เจ้าเด็กน้อยทั้งสองแตะขากันด้วยท่าทีจริงจังแล้วแยกย้ายกันไปปฏิบัติภารกิจ เสวี่ยเอ๋อร์และฉิวฉิวตามเล่อเล่อไปติด ๆไม่ยอมห่าง
เสี่ยวเป่าเดินไปตามระเบียงทางเดินโดยสารแล้วยืนนิ่งเงียบราวกับทำสมาธิโดยไม่มีใครสนใจเขา แต่ทว่า——
“แย่แล้ว…ทำไมฉลามเยอะขนาดนี้…ผีหลอกแล้ว โผล่มาจากไหนกันเนี่ย ฉันเดินเรือมาสิบกว่าปียังไม่เคยเห็นฉลามมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย…” มีคนบนดาดฟ้าตะโกนด้วยท่าทีตื่นตระหนกแล้ววิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้ามา
…………………………………………..
ตอนที่ 2452 ร้องไห้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้
“พูดบ้าอะไรกัน…ตาบอดไปแล้วมั้ง…”
ผู้ชายคนหนึ่งตะคอกใส่ลูกน้องที่ส่งเสียงร้องเอะอะโวยวาย เขาเป็นเจ้านายของพวกค้ามนุษย์แปดคนนี้ ตอนนี้กำลังจะโทรหาใครบางคนทางฝั่งฮ่องกงแต่ดันถูกลูกน้องขัดจังหวะจึงโมโหขึ้นมาในทันที
“หัวหน้า…มีฉลามจริง ๆ…ฉลามหลายตัวเลย…อยู่ด้านหลังเรือของเรา ใกล้ตามเรามาทันแล้วด้วย” ลูกน้องอีกคนรีบวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีสะพรึงกลัว
คนอื่น ๆรีบวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า ถึงแม้ว่าจะดึกมากแล้วแต่กลับเห็นฟันขาวเหมือนคมดาบที่น่าขนลุกในความมืดกำลังแสยะยิ้มมาทางพวกเขา
ฉลามล้อมรอบเรืออย่างหนาแน่นและขนาดแต่ละตัวก็ไม่เล็กเลย พวกมันสามารถเขมือบกินพวกเขาได้ในคำเดียวโดยไม่มีปัญหาเลย
“โธ่เอ้ย…เร่งความเร็วหน่อยสิ!”
พอหัวหน้าเห็นราชาแห่งท้องทะเลเหล่านี้ก็ตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นไหลอาบ แข้งขาอ่อนแรง เขาทำการคำนวณคร่าว ๆอย่างน้อยมีฉลามสามสิบตัวกำลังไล่ตามหลังมาอยู่ คนบนเรือของพวกเขายังไม่เพียงพอให้ฉลามกินอิ่มเลยด้วยซ้ำไป!
“ลูกพี่…นี่ก็เร็วที่สุดแล้ว เร็วกว่านี้ไม่ได้แล้ว!” ลูกน้องที่ขับเรืออยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาเห็นฉลามตัวใหญ่ว่ายอยู่หน้าเรือเต็มสองตาแล้วยังหันมาส่งยิ้มอ่อนให้เขาอีกต่างหาก
เสียววาบไปถึงไข่เลยทีเดียว!
“ลูกพี่…ทำอย่างไรต่อดี…” ลูกน้องหลายคนตัวสั่นด้วยความตกใจ ณ เวลานี้พวกเขายอมเจอตำรวจทางน้ำดีกว่า!
ถึงอย่างไรการค้ามนุษย์คงไม่ถูกประหารชีวิตแค่ติดคุกสักสามถึงห้าปีออกมาก็ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมได้!
แต่พอเจอฉลามพวกเขาคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย แม้กระทั่งร่างกายยังเหลือไม่ครบสามสิบสองด้วยซ้ำ!
ตัวหัวหน้าเองก็ตกใจจนขวัญกระเจิงไปแล้ว เขาไหนเลยจะรู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป?
ตั้งแต่เดินเรือบนท้องทะเลแห่งนี้มานานนับสิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นฉลามมากขนาดนี้ ใครจะรู้ว่าต้องรับมือกับฉลามเช่นไร!
ครั้นพวกเด็กในห้องโดยสารได้ยินเสียงฉลามก็ยิ่งหวาดกลัว พวกเขาเลิกร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงเบาแต่กลับปล่อยโฮร้องเสียงดังสนั่นยิ่งกว่าเดิม พร้อมทั้งร้องเรียกหา ‘พ่อกับแม่’ ซึ่งนับว่าชุลมุนวุ่นวายมากทีเดียว
เสี่ยวเป่าขมวดคิ้วเล็กน้อย ช่างน่าแปลกใจจริง ๆ…
เขาไม่เข้าใจจริง ๆว่าทำไมเด็กโตเหล่านี้ถึงร้องไห้ ในเมื่อเห็นได้ชัดว่าการร้องไห้จะทำให้เสียน้ำและพลังงาน ทั้งยังก่อความรำคาญให้พวกคนเลวเหล่านี้ด้วยซึ่งไม่ก่อผลดีต่อตัวเองเลยแม้แต่น้อย!
พ่อของพวกเด็กเหล่านี้คงไม่เคยสอนพวกเขาว่าเวลาเจอเรื่องอะไรต้องใจเย็น ๆ…อืม…นับว่าพ่อของเขาดี สอนเขาหลายอย่างเลย!
เสี่ยวเป่าก้มลงมองเล่อเล่อที่แสดงสีหน้าตื่นเต้นพลันแอบพูดอีกประโยคในใจว่าพ่อของน้องสาวก็ถือว่าดีเช่นกัน เพียงแต่แย่กว่าพ่อเขานิดหน่อย!
“พี่ชาย…พวกเราไปจับฉลามกัน…กินเนื้อ ๆ!” เล่อเล่อกระซิบเสียงเบา น้ำลายไหลย้อย เธออยากกินจะตายแล้ว
“ชู่…”
เสี่ยวเป่าพาเล่อเล่อไปยังห้องโดยสารที่ขังพวกเด็ก ๆซึ่งอยู่ด้านในสุด ทั้งร้อนทั้งอบอ้าว และยังมีกลิ่นเปรี้ยวน่าสะอิดสะเอียนด้วยเพราะอากาศไม่ถ่ายเท ทุกคนต่างรวมตัวกันอยู่ในห้องนั้น
“เหม็น ๆ…” เล่อเล่อเอามือปิดจมูกไว้
“พวกเราไปแก้เชือกให้พวกเขาดีไหม?” เสี่ยวเป่ากระซิบ
“ดี!”
เล่อเล่อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมเสี่ยวเป่าถึงอยากแก้มัดให้เพื่อน ๆเหล่านี้ แต่เธอต้องเชื่อฟังคำพูดของพี่ชายโดยไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอะไรทั้งนั้น!
ฉิวฉิวหยิบมีดสั้นสองเล่มคมกริบออกมา และห้ามเสวี่ยเอ๋อร์ที่ต้องการจะเข้าไปช่วยเอาไว้ มันฟลุบตัวอยู่บนศีรษะของเสวี่ยเอ๋อร์แล้วถอยเข้ามุมเพื่อชมความวุ่นวาย
“ให้เจ้าเด็กสองคนนั้นจัดการไป มา มากินเนื้อตากแห้งกัน!”
ฉิวฉิวหยิบเนื้อตากแห้งออกมาและจัดการแบ่งกินกับเสวี่ยเอ๋อร์ เสี่ยวเป่าและเล่อเล่อไม่ใช่เด็กธรรมดา การออกมาครั้งนี้ก็เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ดังนั้นหากไม่ใช่ช่วงเวลาคับขันถึงชีวิต คุณชายฉิวอย่างมันก็จะไม่มีวันลงมือเด็ดขาด!
เสี่ยวเป่าและเล่อเล่อตัดเชือกบนมือของเด็กพวกนั้นหมดแล้วแต่กลับไม่ได้แก้ออกให้เพื่อแสร้งทำเป็นว่ายังถูกมัดไว้อยู่ แต่เสี่ยวเป่ากลับลืมไปว่าเด็กพวกนี้เป็นแค่เด็กธรรมดา เมื่อมีอิสระในการเคลื่อนไหวไหนเลยจะทนได้ต่างก็รีบหยัดกายลุกขึ้นวิ่งหนีกันใหญ่
…………………………