ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2513 ชุมชนผู้ยากไร้ + ตอนที่ 2514 มีเบาะแสแล้ว

บทที่ 2513 ชุมชนผู้ยากไร้ + ตอนที่ 2514 มีเบาะแสแล้ว

ตอนที่ 2513 ชุมชนผู้ยากไร้

เหมยเหมยเครียดขึ้นมาในทันทีแล้วรีบถาม “ลักพาตัวพี่ชายคนนั้นไปหรือพี่ชายคนนั้นยินยอมจะไปกับเขาเอง?”

“ไม่เกิดความขัดแย้งกัน น่าจะยินยอมไปเอง อีกอย่างคุยกันด้วยสักพัก” เสี่ยวเป่าตอบ

เหมยเหมยชักจะไม่เข้าใจว่าเด็กที่ชื่ออิจิโร่นั่นดูไม่ใช่เด็กที่หลอกง่ายขนาดนั้นนี่นา ทำไมถึงไปกับคนแปลกหน้าง่ายดายนักล่ะ?

หรือว่ารู้จักกับชายชุดดำคนนั้น?

แต่ไม่นานเธอก็ปฏิเสธความคิดนี้ไป หากชายชุดดำเป็นคนรู้จักเขาต้องโทรบอกคุณแม่ก่อนอยู่แล้ว ไม่มีทางพาเด็กไปอย่างไร้เหตุผลโดยไม่แม้แต่จะบอกกล่าวสักคำแน่ ๆ!

ฉะนั้นชายชุดดำคนนี้ต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างแน่!

“เสี่ยวเป่า พอจะรู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้นพูดอะไรกับพี่ชาย?” เหมยเหมยถามด้วยความหวัง

“ไม่ได้…ผมยังไม่เก่งขนาดนั้น…” เสี่ยวเป่ายู่หน้าอย่างผิดหวังหน่อย ๆ

เขาใช้ไม่ได้เลย ช่วยอะไรคุณน้าไม่ได้เลย

เหมยเหมยลอบด่าตัวเองว่าโง่ก่อนจะยกนิ้วโป้งขึ้นเอ่ยชม “เสี่ยวเป่าเก่งที่สุดเลย เก่งกว่าคุณพ่อของเธออีก รอเธอโตกว่านี้จะยิ่งเก่งมากกว่านี้อีก!”

เสี่ยวเป่าฉีกยิ้มในฉับพลัน ดวงตาเป็นประกายและถามด้วยเสียงปนสงสัย “จริงเหรอ?”

“จริงอยู่แล้ว อนาคตเสี่ยวเป่าต้องเก่งกว่าอุลตร้าแมนแน่ ๆ!” เหมยเหมยเอ่ยชมจากใจจริง อุลตร้าแมนอะไรนั่นสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ด้วยหรือ?

เสี่ยวเป่ายิ้มกว้างอย่างรู้สึกขัดเขินเล็กน้อยแต่กลับดีใจมาก อุลตร้าแมนเป็นการ์ตูนที่ช่วงนี้เขาชอบดูเป็นพิเศษและเป็นไอดอลใหม่ของเขา คุณน้าพูดแบบนี้เขารู้สึกตกใจมากเชียวละ!

แต่ก็ดีใจมากอยู่ดี!

“คุณแม่…หนูล่ะ?” เล่อเล่อไม่พอใจที่ถูกเพิกเฉยเลยตะโกนเสียงดัง

“เล่อเล่อก็เก่งมากเหมือนกัน เก่งเหมือนพี่ชายเลย!” เหมยเหมยยกนิ้วโป้งให้เช่นกันเล่อเล่อถึงค่อยพอใจ แล้วอ้าปากทานพิซซ่าคำโตต่อไป

รอเด็กสองคนทานพิซซ่าจนหมดก็นั่งพักอีกสักพักค่อยพาเด็กสองคนมุ่งหน้าต่อไป เตรียมไปตามหาอิจิโร่

โชคดีที่ถนนเส้นนี้มีนกมากเป็นพิเศษเลยคอยโยนคุกกี้ไปถามทางไปได้ ไม่นานพวกเขาก็เดินออกจากซอยนี้มาถึงซอยเล็ก ๆแห่งหนึ่งที่เป็นซอยที่ทั้งลึกและแคบ มีเส้นทางเชื่อมกันทั่วทุกสารทิศราวกับใยแมงมุม

สิ่งที่น่าปวดศีรษะคือถนนเส้นนี้ไม่มีนกน้อย แม้แต่คนให้ถามทางยังไม่มีเลย

“มี…ผมจะลองหาดู!” เสี่ยวเป่าไม่รีบร้อนใด ๆ ไม่นานเขาก็ตามหาแมวจรจัดตัวหนึ่งพบ หลังจากป้อนพิซซ่าให้แมวจรจัดหนึ่งชิ้นก็ได้ข้อมูลใหม่มาว่า

“เดินไปทางนี้แล้ว!”

เสี่ยวเป่าเดินนำทางอยู่ด้านหน้าสุดพาพวกเขาเดินทะลุผ่านไปซอยใหม่ ก่อนจะเดินไปคอยถามทางไปเช่นนี้จนไม่รู้เดินไปไกลเท่าไรแล้ว พวกเหมยเหมยเดินออกจากซอกซอยที่เชื่อมกันราวกับใยแมงมุมนี้มายังเขตชุมชนคนยากไร้แห่งหนึ่ง

ดูจากสภาพบ้านเรือนเหมือนจะเป็นชุมชนคนยากไร้จนเกิดเป็นภาพคู่ขนานเมื่อเปรียบกับทางเดินเท้าที่แสนหรูหรา หากไม่ได้เห็นเองกับตาใครจะรู้ได้ว่าเมืองหลวงแสนหรูหราแห่งนี้จะมีเขตผู้อยู่อาศัยที่ยากจนข้นแค้นแบบนี้ด้วย!

เด็กกลุ่มหนึ่งที่กำลังเล่นกันอยู่ริมทางต่างหันมามองพวกเหมยเหมยด้วยสายตาแปลกใจ คล้ายกำลังฉงนว่าทำไมถึงมีนักท่องเที่ยวมาทางนี้ได้

ขณะนี้น่าจะเป็นเวลาบ่ายสองโมง แดดไม่เจิดจ้าเท่าช่วงเช้าแต่เริ่มมืดครึ้มและเริ่มมีความกดอากาศต่ำ ดูท่าทางใกล้จะฝนตกแล้ว

“คุณน้า…ผมจะลองไปถามดู”

เสี่ยวเป่าหยิบเอาขนมจากกระเป๋าออกมาแล้วเดินไปหาเด็กกลุ่มนั้น เขาสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานได้จึงไม่มีปัญหาด้านการสื่อสาร

เหล่าเด็ก ๆชอบขนมของเสี่ยวเป่ามากเลยตอบทุกคำถาม แต่พวกเขาก็รู้ไม่มากและไม่เห็นอิจิโร่กับชายชุดดำ เสี่ยวเป่าจำต้องเดินกลับมาด้วยความผิดหวัง

“ไม่เห็น แต่ชุมชนคนยากไร้นี้ใหญ่มาก คนที่อาศัยอยู่แถวนี้ก็ไม่เหมือนกันเลยค่อนข้างตามหาลำบาก” เสี่ยวเป่าวิเคราะห์อย่างมีสติ

เหมยเหมยเริ่มเครียด เธอมั่นใจได้ว่าอิจิโร่กับชายชุดดำต้องอยู่ในชุมชนคนยากไร้แห่งนี้ แต่ถ้าเธอบอกกับทางตำรวจไปแบบนี้ตำรวจต้องไม่เชื่อแน่ ๆ

จะให้เธอบอกกับทางตำรวจว่านกน้อยกับแมวจรจัดเป็นคนบอกเธอก็ไม่ได้มั้ง?

ตำรวจต้องคิดว่าเธอเป็นคนบ้าแหง!

……………………….

ตอนที่ 2514 มีเบาะแสแล้ว

ในห้องใต้หลังคามืดมนแห่งหนึ่งในชุมชนยากไร้นี้ อิจิโร่กำลังนั่งหดตัวอยู่ตรงมุมกำแพงอย่างหวาดกลัว ร้องไห้จนเสียงแหบไปหมดแล้วแต่สิ่งที่แลกมานอกจากการเตะต่อยก็คือเสียงด่าทอจนเขาไม่กล้าร้องไห้อีก ได้แต่หดตัวอันบอบบางพร้อมร่างกายที่สั่นเทา

‘คุณพ่อ…คุณแม่…พ่อแม่อยู่ที่ไหน?’

อิจิโร่ร้องคร่ำครวญในใจและนึกเสียใจภายหลังว่าทำไมเขาถึงเชื่อสิ่งที่ชายคนนี้พูดให้ตามไปทานเคเอฟซีกับเขานะ…

ใต้ตึกชายชุดดำถอดเสื้อฮู้ดสีดำออกเหลือแค่เสื้อกล้ามตัวเดียวเผยให้เห็นหมัดกล้ามแน่น บนแขนเต็มไปด้วยลายสัก ชายคนนี้อายุราวสามสิบปีมีรูปร่างสูงใหญ่หน้าเหลี่ยมและสุขุม แต่ระหว่างคิ้วชิดติดกันทำให้ดูเป็นคนหน้าขรึม

แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร!

ชายหนุ่มเอาเบียร์จากตู้เย็นออกมาหนึ่งกระป๋องแล้วดื่มรวดเดียวไปครึ่งกระป๋องแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน อิจิโร่ได้ยินเสียงฝีเท้าก็ตัวสั่นหนักกว่าเดิม มองชายหนุ่มที่เข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อย ๆด้วยความหวาดผวา

……

เหมยเหมยตัดสินใจแล้วว่าเตรียมจะค้นทีละบ้าน ๆ อีกอย่างเธอคิดว่าชุมชนคนยากไร้กว้างใหญ่ขนาดนี้ต้องมีสัตว์เล็ก ๆประเภทแมวจรจัดหรือสุนัขจรจัดแน่ บางทีอาจจะได้เบาะแสก็ได้!

“เราไปตามหาพี่ชายกันเถอะ เล่อเล่อ ให้แม่แบกขึ้นหลังไหม?” เหมยเหมยกลัวลูกสาวจะเหนื่อย

เล่อเล่อส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด “ไม่เหนื่อย จะเดินเอง!”

เธอตัวหนักขนาดนี้เดี๋ยวก็ทับแม่หรอก!

เหมยเหมยเอานิ้วเกลี่ยจมูกลูกสาวเบา ๆทีหนึ่งแล้วจูงมือเด็กสองคนตามหาต่อไป ตอนนี้เธอก็ไม่มั่นใจว่าชายชุดดำคนนั้นคือผู้ต้องสงสัยสามคดีนั่นหรือเปล่า แต่สิ่งที่มั่นใจได้ก็คือชายชุดดำคนนี้ไม่ใช่คนดี เขาพาอิจิโร่ไปต้องมีเจตนาร้ายแน่นอน!

บางทีอาจจะเป็นพวกค้ามนุษย์ก็ได้!

ฉะนั้นในเมื่อเธอมาเจอเรื่องนี้ก็ต้องยุ่งให้ถึงที่สุด!

เมื่อระหว่างทางเจอใครโดนรังแกก็ต้องให้ความช่วยเหลือสิ!

โดยเฉพาะคนร้ายที่ทำร้ายเด็ก หากเจอคนหนึ่งก็จะฆ่าทิ้งคนหนึ่ง ไม่ปรานีเด็ดขาด!

ลูกน้องสองคนคอยตามมาตลอดทางก็พอจะเดาได้ว่าเหมยเหมยกำลังตามหาเด็กคนนั้น พวกเขามองชุมชนคนยากไร้ที่ยุ่งเหยิงนี้แวบหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพลางโทรหาเหยียนหมิงซุ่นเพื่อรายงานเรื่องนี้

“คุณนายอยากทำอะไรก็ปล่อยเธอทำไป ขอแค่เธอพอใจก็พอ หน้าที่ของพวกนายก็คือปกป้องคุณนายกับเด็กให้ดี เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ!” เหยียนหมิงซุ่นสั่งเสียงนิ่ง

“ครับ!”

ลูกน้องสองคนตัดสายพลางมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มขมขื่น

พวกเขาไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นแต่คุณนายชอบยุ่งนี่นา!

บอดี้การ์ดชาวตะวันตกสองคนก็ตามมาเช่นกัน เพราะกลัวตกเป็นเป้าสายตาเลยซื้อหมวกมาโดยเฉพาะ แต่ก็ถูกลูกน้องสองคนสังเกตเห็น ทุกคนต่างรู้ใจกันดีเลยมองประเมินแวบเดียวก็แยกย้ายกันไป

เหมยเหมยใช้วิธีที่โง่ที่สุดด้วยการตามหาไปกว่ายี่สิบกว่าครัวเรือน มีบางครอบครัวค่อนข้างให้การต้อนรับอย่างดี หลังจากรู้ว่าเธอกำลังหาตามหาเด็กเลยไม่โกรธแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังช่วยเธอสืบหาถามอีกต่างหาก แต่มีบางครอบครัวไม่ได้พอใจนักก่อนจะไล่เธอกับเด็กออกไป

สามแม่ลูกเดินคอตกอยู่ริมทาง ครอบครัวเมื่อกี้น่าโมโหจริง ๆถึงขนาดปล่อยสุนัขออกมากัดพวกเขา แต่พอสุนัขตัวนั้นเห็นเสวี่ยเอ๋อร์ก็หดคอถอยกลับไปไม่กล้าปริเสียงสักนิด!

“คุณน้า…รอผมหาทางก่อน!”

เสี่ยวเป่าถอนหายใจ จะทำแบบนี้ต่อไปก็ใช่เรื่อง ชุมชนคนยากไร้มีตั้งหลายครัวเรือน ถ้าให้ไล่หาทีละบ้านไม่รู้ต้องหาไปจนถึงปีไหนชาติไหน!

เหมยเหมยมองพวกเด็ก ๆอย่างรู้สึกผิด เธอโง่เกินไปจึงคิดหาวิธีดี ๆอะไรไม่ได้ เฮ้อ!

เสี่ยวเป่านั่งพักครู่หนึ่ง ไม่นานสุนัขตัวดุที่คิดจะกัดพวกเขาเมื่อครู่กลับวิ่งออกมาส่ายหางให้เสี่ยวเป่า ดูแล้วก็แอบน่ารักอยู่บ้าง!

เหมยเหมยหยิบไส้กรอกอันหนึ่งจากกระเป๋ามาแกะซองป้อนให้สุนัขตัวดุตัวนี้กิน ผลประโยชน์ก็ยังต้องให้อยู่ดี!

“มันบอกว่าเห็นพี่ชายคนหนึ่งแต่เป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน” เสี่ยวเป่ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

……………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท