ตอนที่ 2535 เด็กผู้หญิงที่ลึกลับ
วิธีการพันผ้าของผ้าคลุมหน้านี้พิเศษมาก ๆเพราะเป็นวิธีที่กองทัพใช้ ถ้าพูดให้ถูกคือเป็นวิธีที่กองทัพในฮวาเซี่ยใช้กัน
เธอไม่รู้หรอกว่าเทคนิคการพันผ้าพันแผลของกองทหารประเทศอื่นใช้วิธีการใด แต่เหยียนหมิงซุ่นได้สอนความรู้เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเกี่ยวกับกองทหารฮวาเซี่ยกับเธอ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือวิธีการพันแผลฉุกเฉินซึ่งว่ากันว่าสามารถหยุดเลือดได้อย่างรวดเร็วและวิวัฒนาการมาจากสมัยโบราณ
ดังนั้นแล้ว…เด็กผู้หญิงตะวันออกกลางคนนี้รู้วิธีการพันแผลแบบนี้ได้อย่างไร?
สำหรับคนทั่วไปแล้ว การผูกเหมือนโบว์ธรรมดาน่าจะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ
เหมยเหมยชี้ไปที่เด็กผู้หญิงแล้วพูดกับเคย์โกะว่า “ถึงตอนนั้นคุณต้องถามน้องชายของคุณนะคะ ฉันสงสัยในตัวเธอจริง ๆ!”
เคย์โกะอุทาน “เป็นเธออีกแล้วนี่? ดูเหมือนกำลังวิ่งหนี…สงครามที่ชั่วร้าย…ไม่ใช่สิ…”
“ทำไมเหรอคะ? ตรงไหนที่ไม่ใช่คะ?” เหมยเหมยถามขึ้น
“เด็กผู้หญิงคนนี้เอาผ้าคลุมหน้ามาพันแผลได้อย่างไรกัน? สำหรับผู้หญิงที่นั่นผ้าคลุมหน้าถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณดูผู้หญิงคนอื่นสิ แม้กำลังจะวิ่งหนีเอาชีวิตรอดแต่ก็ไม่มีทางที่จะดึงผ้าคลุมหน้าออก มีแค่เธอเท่านั้น…”
เคย์โกะชี้ไปที่ผู้หญิงคนอื่นที่กำลังวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกอยู่ในขณะที่พูด เหมยเหมยก็สังเกตเห็นสิ่งนี้เช่นกัน เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ถึงแม้ว่าเด็กผู้หญิงเหล่านี้จะหวาดกลัวมากและกำลังตื่นตกใจแต่ผ้าคลุมหน้ากลับยังอยู่บนใบหน้าเช่นเดิม มีเพียงเด็กผู้หญิงสวยคนนี้ที่ไม่เพียงแค่ดึงเอาผ้าคลุมหน้าออก แล้วยังเอามาพันแผลด้วย…
ช่างน่าแปลกจริง ๆ!
“ฉันหวังที่จะให้น้องชายของฉันรีบกลับมาจริง ๆ อยากรู้เรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนนี้จังเลย!”
เคย์โกะและเหมยเหมยมองหน้าพลางส่งยิ้มให้กัน พวกเธอรู้สึกสนิทสนมกันมากขึ้น
เมื่อดูพวกภาพถ่ายเสร็จ โยโกยามะ คาวากุจิก็ขึ้นมาเรียกพวกเธอไปทานข้าว พวกเด็ก ๆสามคนได้ลงไปลิ้มรสเนื้อย่างชั้นเลิศนานแล้ว เล่อเล่อกินจนหน้าเธอมันแผล็บไปหมด หน้าจมอยู่ในจานข้าวไม่เงยขึ้นมาเลย
“อร่อยไหม?” อิจิโร่ยื่นจานให้เล่อเล่ออย่างกระตือรือร้น ตัวเองไม่ทันได้กินสักคำ
“อร่อยค่ะ พี่อิจิโร่ก็กินด้วยสิ”
เล่อเล่อพยักหน้าแรง ๆ เอาส้อมเสียบเนื้อชิ้นใหญ่ในจานขึ้นมาแล้วยื่นไปที่ปากของอิจิโร่ อิจิโร่กินเนื้อเข้าไปอย่างมีความสุข แววตาของเสี่ยวเป่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆหม่นขึ้นเล็กน้อย จิ้มเนื้อที่อยู่ในจานอย่างแรงแล้วเอาเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ
ต้องให้คุณป้ารีบออกจากที่นี่ ไม่อย่างนั้นน้องสาวคงถูกอิจิโร่น่ารำคาญนี่แย่งไปแน่ ๆ
เคย์โกะมองดูเด็ก ๆด้วยความโล่งอก ช่วงครึ่งเดือนมานี้ลูกชายไม่ค่อยจะยิ้มเท่าไร แต่วันนี้กลับยิ้มอย่างมีความสุข…ช่างดีจริง ๆ!
หลังจากทานอาหารกลางวันเต็มโต๊ะที่บ้านเคย์โกะเรียบร้อย เหมยเหมยก็กล่าวลาพร้อมกับบอกแผนการเดินทางของเธอ
“ช่วงปลายปีฉันน่าจะกลับฮวาเซี่ย วันหลังถ้าพวกคุณไปเที่ยวที่ฮวาเซี่ยก็ให้ฉันได้ทำหน้าที่เจ้าของบ้านอย่างเต็มที่นะคะ”
เหมยเหมยประทับใจในตัวเคย์โกะไม่น้อย นอกจากมารยาทที่มากไปหน่อย นิสัยใจคอก็เข้ากับเธอได้ดี และก็เหมือนกับเธอตรงที่รู้สึกเกลียดชังสงครามอย่างมาก
“ได้เลยค่ะ ถึงตอนนั้นคงต้องรบกวนหน่อยนะคะ!”
โยโกยามะ คาวากุจิให้คนขับรถส่งพวกเธอสามคนกลับโรงแรม อิจิโร่รู้สึกเสียใจที่เล่อเล่อต้องจากไป มีแค่เสี่ยวเป่าที่พยายามฝืนยิ้ม ในที่สุดก็สามารถออกห่างจากเจ้าน่ารำคาญนี้ได้สักที!
“ฉันสงสัยว่าซูซานชื่อนี้น่าจะเป็นชื่อปลอม แล้วเธอก็ไม่น่าจะเป็นคนอเมริกันเชื้อสายจีนแน่ ๆ แต่น่าจะเป็นชาวฮวาเซี่ยแท้ ๆ” เคย์โกะพูดกับสามีของเธอ [1]
เธอเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกาและรู้จักอเมริกาดี เมื่อสักครู่ที่พูดคุยกับเหมยเหมย เธอพูดถึงประเพณีพื้นเมืองของอเมริกา แต่เหมยเหมยกลับไม่สามารถโต้ตอบเรื่องนั้นต่อได้เลยจึงเห็นได้ชัดว่าไม่เคยอาศัยอยู่ที่อเมริกา
“ตัวตนของผู้หญิงแซ่จ้าวคนนี้น่าจะไม่ธรรมดา เธอยังจำบ้านที่ถูกไฟไหม้ได้ไหม? ฉันไปสืบมาแล้ว ไม่ใช่คุณจ้าวที่เป็นคนเผา แต่มีคนเก็บกวาดแทนเธอหลังจากนั้น ฉันเดาว่าน่าจะเป็นบอดี้การ์ดที่คอยปกป้องเธออยู่ลับ ๆ” ยิ่งโยโกยามะ คาวากุจิตรวจสอบลึกลงไปเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกสงสัย ทว่าพวกเขาต่างคิดว่าเหมยเหมยน่าจะมีฐานะที่ไม่ธรรมดาถึงได้ใช้สถานะปลอมเช่นนี้
โทรศัพท์ของเคย์โกะดังขึ้น สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนหลังจากรับโทรศัพท์ แล้วพูดกับสามีว่า “ยูเกิดเรื่องแล้ว พวกเราต้องรีบกลับแล้วล่ะ!”
สีหน้าของโยโกยามะ คาวากุจิก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ยูทากาฮาชิเป็นน้องเขยของเขา หากเกิดเรื่องอะไรที่สนามรบย่อมไม่ใช่เรื่องตลกแน่!
……………………………………….
ตอนที่ 2536 อัจฉริยะทางภาษา
เหมยเหมยพาพวกเด็ก ๆไปกินเนื้อย่างที่ตุรกี รสชาติเนื้อย่างที่นั่นไม่เหมือนที่อื่นจริง ๆ ที่อื่นจะเป็นไม้ ๆหรือย่างอยู่บนกระทะจานร้อน แต่ที่นี่กลับเป็นเหมือนเสาที่ใหญ่มาก ๆ เสาจะหมุนไปช้า ๆแผ่กลิ่นหอมกระจายฟุ้งออกมา กลิ่นหอมของเนื้อย่างอบอวลไปทั่วทั้งถนน
“อร่อย…เนื้ออร่อยมาก…”
เล่อเล่อถือเนื้อย่างเต็มมือกินจนปากมันแผล็บไปหมด เธอเริ่มมีเหนียงที่คางเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั้น หลังจากมาถึงตุรกี เจ้าเด็กน้อยนี่วัน ๆก็ร้องเรียกแต่จะกินเนื้อย่างจนแทบอยากจะนอนบนเนื้อย่างอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเหมยเหมยจะอยากตั้งกฎเกณฑ์เหมือนเคย์โกะบ้าง แต่ทุกครั้งที่เห็นสายตาไร้เดียงสาของเจ้าตัวน้อยก็ใจอ่อนทุกที…
ผลของการใจอ่อนก็คือ…
เล่อเล่ออ้วนขึ้น มือของเล่อเล่อมีแต่เนื้อแน่น ๆ น่ารักจนอยากกัดเหลือเกิน
“ดื่มน้ำผลไม้นี่นะ ไม่อย่างนั้นจะไม่ให้เรากินเนื้อแล้ว!”
น้ำผลไม้ที่เหมยเหมยคั้นออกมาสด ๆถูกยื่นให้เล่อเล่อ เจ้าตัวน้อยไม่ชอบทานผักแต่กลับชอบน้ำผลไม้ไม่หยอก ฉะนั้นทุกวันจึงคิดหาวิธีทำให้เธอดื่มน้ำผลไม้เข้าไปเพื่อเสริมวิตามินซี!
แต่เหมยเหมยกังวลมากเกินไป เล่อเล่อมักจะกินยาวิเศษที่เธอเตรียมให้ไว้เป็นประจำ ต่อให้กินเนื้อย่างทุกวัน ร่างกายก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
“ดื่มแล้วค่ะ…แม่!”
เล่อเล่อดื่มน้ำผลไม้เข้าไปรวดเดียว น้ำผลไม้ถูกบรรจุลงในเหยือกอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวน้อย เหมยเหมยไม่ได้ให้ร้านใช้แก้วพลาสติกและหลอด เพราะก่อนหน้านี้มักจะเห็นในข่าวว่าของที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งหรือพวกหลอดจะทำร้ายสัตว์ทะเลเกือบตายได้ แค่นี้ก็รู้สึกทรมานใจแล้ว
เธอไม่สามารถโน้มน้าวความคิดของคนอื่นได้แต่เธอสามารถสอนลูกตั้งแต่เด็ก ๆให้พวกเขารักในการดูแลสิ่งแวดล้อมได้นี่นา
“ดีมาก…จะเอาอีกแก้วไหม?” เหมยเหมยถามขึ้น
“น้ำแตงโม…” เล่อเล่อตะโกนบอกเสียงเริงร่าพร้อมมือที่มันเยิ้ม
“แล้วเสี่ยวเป่าล่ะ?”
“น้ำแตงโมเหมือนกันครับ” เสี่ยวเป่ายิ้มหวาน ในใจก็รู้สึกชื่นมื่น
เหตุเพราะอิจิโร่ที่น่ารำคาญต้องบายบายแล้วนะ
เหมยเหมยถือเหยือกสองอันวิ่งไปร้านข้าง ๆเพื่อคั้นน้ำผลไม้ ตัวเธอเองดื่มน้ำมะพร้าวเพราะสามารถแก้กระหายและเสริมกำลังได้
ตะลอนเที่ยวในตุรกีได้สิบกว่าวัน สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนุกก็ไปจนครบหมดแล้ว ควรจะไปที่ไหนต่อดีล่ะ?
ไม่งั้นไปยุโรปดีกว่า แม้ว่าตุรกีอยู่ในทวีปเอเชียแต่ก็ห่างจากยุโรปนิดเดียว พวกเขาสามารถแวะเที่ยวต่อได้เลย เที่ยวฝั่งยุโรปอย่างน้อยต้องใช้เวลาครึ่งปีได้!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกโทรมา เหมยเหมยขมวดคิ้วแล้วกดรับสาย
“ฉันคือเคย์โกะนะคะ…คุณอยู่ที่ไหนคะ?” คนที่โทรมาคือเคย์โกะนี่เอง เหมยเหมยรู้สึกตกใจเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเพิ่งแยกกันหรอกเหรอ?
“ฉันกินเนื้อย่างอยู่ที่ตุรกีค่ะ มีธุระอะไรเหรอคะ?”
“คือแบบนี้นะคะ ครั้งที่แล้วคุณบอกว่าอยากจะรู้เรื่องราวของเด็กผู้หญิงตะวันออกกลางคนนั้นใช่ไหมคะ? น้องชายของฉันกลับมาแล้วฉันจึงถามเขา เรื่องของเธอน่าสนใจจริง ๆค่ะ ตอนนี้คุณสะดวกที่จะฟังไหมคะ?”
“น้องชายของคุณกลับมาแล้วเหรอคะ? คุณบอกว่าเขาเพิ่งไปไม่ใช่เหรอ?” เหมยเหมยรู้สึกแปลกใจ
เคย์โกะทอดถอนใจ น้ำเสียงปนเศร้าอยู่บ้าง “เขาได้รับบาดเจ็บจากกระสุนค่ะ ครั้งที่แล้วที่พวกเราเพิ่งแยกย้ายกัน ฉันก็ได้รับข่าวว่าเขาบาดเจ็บทางโทรศัพท์”
“พระเจ้า…น้องชายคุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ? บาดเจ็บหนักไหมคะ?” เหมยเหมยถามด้วยความเป็นห่วง
“โชคดีในความโชคร้ายค่ะ รักษาชีวิตเอาไว้ได้แต่ว่าจากนี้ไปเขาจะไม่สามารถผ่าตัดได้อีก แขนขวาของเขาถูกกระสุนฝังลึกเข้าไปถึงเส้นประสาท จริง ๆแล้ว…” เคย์โกะชะงักไปพักหนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “จริง ๆฉันดีใจมากเลยค่ะเพราะน้องชายของฉันจะได้อยู่บ้านอย่างสงบสักที ฉันก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไป”
เหมยเหมยก็ลอบถอนใจเช่นกัน เหมยเหมยเข้าใจความรู้สึกของเคย์โกะทุกอย่าง เรื่องที่คุณทากาฮาชิทำ แม้จะยิ่งใหญ่และน่าชื่นชม แต่ในฐานะที่เป็นคนในครอบครัวเขากลับต้องแบกภาระที่หนักอึ้งยิ่งกว่า หากเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้น คนในครอบครัวย่อมรับไม่ไหวแน่นอน!
“แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไรเหรอคะ?” เหมยเหมยถามขึ้น
“น่าสนใจจริง ๆค่ะ น้องชายของฉันบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นอัจฉริยะทางภาษา แค่ระยะเวลาเดือนเดียวก็สามารถพูดภาษาฮวาเซี่ยได้อย่างคล่องแคล่ว คล่องแคล่วยิ่งกว่าน้องชายของฉันที่เรียนมาหลายปีเสียอีก” เคย์โกะพูดพลางยิ้ม
……………………………………….
[1] ฮวาเซี่ย ก็คือประเทศจีน