ตอนที่ 2707 เก็บไว้ฉลองปีใหม่เหรอ
เหมยเหมยให้ป้าฟางส่งสามีของเฝิงอวี้กลับบ้าน จากนั้นก็ให้เฝิงอวี้เก็บกระเป๋าพาเสี่ยวจวินลูกชายที่เธอตัดใจทิ้งไม่ลงย้ายออกมาเลย
“เฝิงอวี้…คุณจะต้องเสียใจภายหลังแน่!” ผู้ชายร้องตะโกนอยู่ด้านหลัง แผ่นหลังของเขาปวดแสบปวดร้อนไปหมดแล้ว
เฝิงอวี้ชะงักไปแต่สุดท้ายก็กลับมามีท่าทีมุ่งมั่น ครั้งนี้…เธอจะลังเลไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!
“แม่…ทำไมพวกเราต้องย้ายออกไปด้วยล่ะครับ? ไม่ต้องการพ่อแล้วเหรอ?”
เสี่ยวจวินลูกชายวัยเก้าขวบไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในความทรงจำเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน!
“อืม…แม่จะแยกกันอยู่กับพ่อ ลูกอยากอยู่กับใครระหว่างแม่หรือพ่อ?” เฝิงอวี้ถามอย่างอ่อนโยน
“อยู่กับแม่ครับ…”
เสี่ยวจวินตอบโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเลยทำให้หัวใจของเฝิงอวี้ผ่อนคลายลงในทันที เธอยิ้มอย่างปลื้มใจแล้วกอดลูกชายแน่น
แค่ประโยคนี้ความทุกข์ทรมานสิบสองปีของเธอก็ไม่สูญเปล่าแล้ว!
เหมยเหมยจัดแจงให้เฝิงอวี้ไปพักอยู่ในห้องทำงานของมูลนิธิ ในอนาคตเธอวางแผนจะทำห้องชุดไว้เพื่อใช้รองรับผู้หญิงที่ไม่มีที่ไปอย่างเฝิงอวี้ ในเมื่อวางแผนที่จะช่วยเหลือคนแล้ว แน่นอนว่าจะต้องทำให้ครอบคลุมทุกด้านด้วย
“ที่นี่ไม่สะดวกเท่าไร เธออยู่อย่างลำบากไปก่อนสักพัก อีกสองสามวันฉันจะจัดให้เธอไปอยู่ห้องอื่นนะ!” เหมยเหมยรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง
ห้องทำงานมีแค่เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ มันเรียบง่ายเกินไปหน่อย
เฝิงอวี้กลับพอใจมากแล้ว เธอนึกว่าตัวเองต้องไปนอนข้างถนนเสียอีก หลายปีที่ผ่านมาผู้ชายไม่เพียงแต่ทำร้ายทารุณเธอแต่ยังควบคุมบัตรเงินเดือนของเธออีกด้วย เงินที่เธอใช้ทุกครั้งจะต้องได้รับการอนุมัติจากเขาก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่มีเงินติดตัวเลย หากพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ!
“สมองของเธอน้ำเข้าหรือไง” กระเป๋าเงินเป็นหลักประกันคุ้มครองที่ใหญ่ที่สุดของผู้หญิง แต่เธอก็ยังปกป้องไว้ไม่ได้? เธอนี่จริง ๆเลย…เฮ้อ…น่าโมโหจริง ๆ!“ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมีปฏิกิริยามากที่สุด แล้วมองเฝิงอวี้อย่างหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น
“เขาเอาเสี่ยวจวินมาข่มขู่ฉัน ฉันเลยไม่กล้าขัดขืน…” เฝิงอวี้งุดหน้าอย่างอับอาย ตอนนี้พอคิดขึ้นได้ก็พลันรู้สึกว่าเธอไม่ได้เรื่องเลย ในเมื่อแม้แต่ตัวเองยังดูถูกตัวเองขนาดนี้!
“วัวหายล้อมคอกก็ยังไม่สาย เปลี่ยนแปลงตอนนี้ก็ยังทัน พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ฉันมีเงินติดตัวอยู่บ้างเธอเอาไปไว้ใช้ก่อนเถอะ!”
เหมยเหมยหยิบเงินหลายร้อยหยวนออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้กับเฝิงอวี้
เฝิงอวี้รู้สึกไม่ดีนักพร้อมรับเงินมาด้วยความกระดากใจ เหมยเหมยยัดเงินให้เธอ “ไม่ได้ให้แต่ให้ยืมต่างหาก รอหย่าได้ทรัพย์สินที่ควรจะเป็นของเธอมาแล้วค่อยเอามาคืนฉัน!”
“อืม…ขอบคุณพวกเธอนะ…ขอบคุณพวกเธอมากจริง ๆ…” เฝิงอวี้ซาบซึ้งใจมากแล้วโค้งคำนับไม่หยุด
“ขอแค่อนาคตเธอสามารถพึ่งพาตนเองได้ก็เป็นการขอบคุณพวกฉันที่ดีที่สุดแล้ว!” เหมยเหมยอ่ยแฝงความหมายลึกซึ้ง
เธอหวังว่าผู้หญิงทุกคนในโลกจะสามารถใช้ชีวิตเป็นของตัวเองได้ ผู้ชายไม่ใช่ผู้บงการชีวิตของผู้หญิงอีกต่อไปแต่เป็นผู้หญิงเท่านั้นที่จะเติมเต็มชีวิตตัวเองได้
ถ้าการแต่งงานทำให้ผู้หญิงมีความสุขก็ใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายต่อไป แต่ถ้าแต่งงานแล้วชีวิตต้องขมขื่นและเหน็ดเหนื่อย ทั้งเจอคำตำหนินับไม่ถ้วน…
ถ้าอย่างนั้น…ผู้ชายแบบนี้จะมีไว้ทำไม?
เก็บไว้ฉลองปีใหม่เหรอ?
สิ่งที่เหมยเหมยหวังก็คือเมื่อผู้หญิงต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายต่ำช้าเลวทรามแบบนี้ต้องดึงความมั่นใจและกล้าที่จะทิ้งเขาไปแล้วกลับมาเป็นราชินีสาวโสดอีกครั้ง!
วันต่อมาหลังจากเฝิงอวี้สอนเสร็จ เหมยเหมยก็พาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย
เฝิงอวี้ถอดเสื้อผ้าออกเผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นแต่ไม่ใช่บาดแผลที่สาหัสอะไร ทั้งยังถูกซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้าซึ่งต่อให้เป็นฤดูร้อนก็มองไม่เห็น ทว่ารอยแผลที่เรียงรายเต็มไปหมดนั้นกลับชวนให้คนที่เห็นต่างตกตะลึงไม่น้อย!
………………………………………….
ตอนที่ 2708 แม่ที่ดี
“นี่มันเป็นการทารุณกรรมแล้ว…ใครกันที่ชั่วช้าได้ขนาดนี้?”
คุณหมอยังตกใจยกใหญ่เพราะในเมื่อก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอเห็นใจเฝิงอวี้จับใจ อายุขนาดนี้แล้วยังถูกทำร้ายทารุณอย่างรุนแรงอีก
“ฝีมือของสามีเธอค่ะ คุณหมอ คุณหมอเขียนอาการบาดเจ็บทั้งหมดเอาไว้เลยนะคะ พวกเราต้องนำไปต่อสู้ในคดีหย่าในชั้นศาล” เหมยเหมยกล่าว
“วางใจเถอะ ฉันต้องเขียนลงไปทุกอย่างแน่นอน ผู้ชายแบบนี้ต้องรีบหย่าโดยเร็ว คนแบบนี้มีอาการทางจิตแน่ ๆ…” คุณหมอโมโหมาก หลังจากตรวจร่างกายของเฝิงอวี้อย่างละเอียดแล้วก็เขียนสรุปรายงานผลการตรวจลงไป
“โอ๊ย…แม้แต่ส่วนล่างก็มีบาดแผล ไม่ได้การล่ะ…คุณมีอาการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ด้วย เธอต้องไปตรวจที่แผนกนรีเวชอย่างละเอียดอีกที!”
พอคุณหมอตรวจดูส่วนล่างของเฝิงอวี้ก็ตกใจจนหน้าถอดสี สีหน้าดูจริงจังมาก
เหมยเหมยพาเฝิงอวี้ไปแผนกนรีเวช เธออาการหนักมากจริง ๆ เจ้าบ้านั่นทรมานส่วนล่างของเฝิงอวี้นับครั้งไม่ถ้วนด้วยก้นบุหรี่และตัวหนีบ พอสะสมนานวันเข้าบาดแผลเหล่านี้ก็อักเสบจนติดเชื้อ นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดโรคทางระบบสืบพันธุ์หลายอย่าง
“สถานการณ์ค่อนข้างเลวร้ายต้องรักษาให้ดี คุณต้องพยายามดูแลสภาวะจิตใจให้มีความสุขอยู่เสมอ และทางที่ดีภายในหนึ่งปีนี้ห้ามมีเพศสัมพันธ์เลย ในอนาคตก็พยายามทำให้น้อยที่สุดเพราะมันไม่ดีต่อร่างกายของคุณ!” คุณหมอกำชับ
เฝิงอวี้หัวเราะเยาะตัวเอง “จะไม่มีทางหาผู้ชายอีกต่อไป ตลอดชีวิตนี้แค่เจอคนนี้ก็มากพอแล้ว!”
“เธอควรดูแลร่างกายของเธอให้ดีก่อน ถ้าเจอคนดีจริง ๆก็อย่ารั้นปฏิเสธท่าเดียวเลย เธออายุยังน้อยนะ!” เหมยเหมยไม่เห็นด้วย
ถึงอย่างไรผู้ชายเลว ๆก็มีเป็นส่วนน้อย ผู้ชายดี ๆยังมีอีกเยอะเหมือนกับสามีของเธอ อิงจวี้กัง และพ่อของเธอ…พวกเขาล้วนเป็นคนดีทั้งนั้น!
เฝิงอวี้ไม่ได้ปฏิเสธแต่ในใจกลับตัดสินใจแล้วว่าชีวิตในวันข้างหน้าจะเลี้ยงลูกอย่างสงบสุข พอลูกชายโตขึ้นเธอก็จะใช้ชีวิตเรียบง่ายเพียงลำพัง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้ชายน่ากลัวเกินไป แถมยังปลิ้นปล้อนเก่งด้วย เธอกลัวว่าจะเจอผู้ชายเลว ๆอีก!
เหมยเหมยไปส่งเฝิงอวี้กลับตึกทำงานมูลนิธิ ก่อนไปเธอเอ่ยว่า “ฉันหาทนายไว้แล้ว ตอนนี้กำลังเตรียมฟ้องร้องอยู่ ถ้าทุกอย่างราบรื่นดีในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าก็ขึ้นศาลได้เลย”
“อืม…ฉันจะให้ความร่วมมือกับทนายเต็มที่เลย!” เฝิงอวี้พยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวัง ในที่สุดเธอก็จะหลุดพ้นจากการควบคุมของผู้ชายแล้ว!
“ติ๊ด ๆ…”
เพจเจอร์ในกระเป๋าของเฝิงอวี้ดังขึ้น ถึงแม้เธอจะไม่มีเงินเลยแต่ผู้ชายก็ใจกว้างซื้อของแบบนี้ให้อยู่บ้าง เพราะผู้ชายคนนี้รักหน้าตาจึงไม่อนุญาตให้ภรรยาทำตัวเหมือนคนขายผักในตลาด
“แม่ของฉันส่งข้อความมาหา…” เฝิงอวี้สีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ ไร้ซึ่งความดีใจเมื่อได้รับการติดต่อจากทางบ้าน
“ในห้องทำงานมีโทรศัพท์อยู่ เรื่องหย่าเธอควรบอกครอบครัวสักหน่อย”
เหมยเหมยให้เฝิงอวี้ใช้โทรศัพท์ในห้องทำงาน อันที่จริงเธอรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง ตั้งแต่เฝิงอวี้ย้ายออกมาจนถึงตอนนี้ไม่เคยบอกให้แม่รู้เลย ทั้ง ๆที่เธอเป็นคนในท้องที่ บ้านครอบครัวน่าจะอยู่ไม่ไกลนัก ในเมื่อต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมขนาดนี้กลับไม่ร้องไห้หาพ่อแม่ มันช่างน่าแปลกจริง ๆ!
เฝิงอวี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอกัดฟันแล้วกดโทรหาที่บ้าน “แม่คะ หนูเอง อาอวี้…”
เธอยังพูดไม่จบแต่กลับถูกอีกฝ่ายขัดขึ้นเสียก่อน เหมยเหมยได้ยินราง ๆเหมือนว่าแม่ของเฝิงอวี้กำลังดุด่าเธออยู่ เฝิงอวี้น้ำตาคลอเบ้าและไม่พูดอะไรสักคำ
“แม่…เขาตบตีหนู แถมมีเมียน้อยด้วย…” เฝิงอวี้อดบอกไม่ได้
“เรื่องนี้ลูกเขยอธิบายให้ฉันฟังแล้ว เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเลยตบตีแกไปไม่กี่ทีเท่านั้น ลูกเขยงานยุ่ง แรงกดดันมาก อารมณ์ไม่ดีแกก็ต้องเข้าใจและอยู่เคียงข้างเขาสิ อย่าหย่าเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เลย อีกอย่างเรื่องเมียน้อยลูกเขยยังบอกอีกว่าเป็นแค่นักศึกษาเท่านั้น แกเองก็ไม่คิดบ้างว่าลูกเขยเป็นศาสตราจารย์ เขาจะทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร? แกอย่าขี้ระแวงซี้ซั้วสิ…”
แม่ของเฝิงอวี้พยายามเกลี้ยกล่อมเธออย่างยากลำบาก ทุกคำพูดเหมือนคมมีดที่ทิ่มแทงหัวใจของเฝิงอวี้อย่างหนัก
…………………………