ตอนที่ 2727 เรียกแม่
“แต่ว่าเธอดีขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ? สีหน้าก็ดูดีขึ้น แล้วทำไมเซลล์มะเร็งยังกระจายไปทั่วอีกละคะ?” เหมยเหมยไม่อยากจะเชื่อเลย
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวอธิบาย “นี่เป็นแค่ความรู้สึกที่คิดไปเองเท่านั้น ถ้าจะพูดให้ถูกคืออาการดีขึ้นก่อนที่ร่างกายจะทรุดลงอีกต่างหาก แต่มีจุดหนึ่งที่มั่นใจได้ก็คือเยวี่ยเซียงจะอยู่ได้นานกว่าที่ฉันคาดการณ์ไว้ ถ้าเธอยังรักษาสภาพจิตใจสู้รักษาตัวต่อไปแบบนี้ บางทีเธออาจจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกครึ่งปีกระทั่งหนึ่งปีเลยนะ…”
“จะมากกว่าหนึ่งปีได้ไหมคะ?” เหมยเหมยเอ่ยถามอย่างมีความหวัง
“เป็นไปไม่ได้หรอก…มากสุดหนึ่งปี!” ผู้เชี่ยวชาญเอ่ยเสียงหนักแน่น หนึ่งปีถือว่าเป็นขีดจำกัดสูงสุดแล้ว
เหมยเหมยถอนหายใจ ฉิวฉิวเคยบอกนานแล้วว่ายาวิเศษแค่ช่วยยืดอายุให้นานขึ้นแต่ไม่อาจทำให้ฟื้นจากความตายได้ คนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดยมบาลอย่างเยวี่ยเซียงคงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ!
เธอบอกลาผู้เชี่ยวชาญแล้วไปห้องพักผู้ป่วยของเยวี่ยเซียง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพานันนันมาเยี่ยมเธอพร้อมด้วยผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวสามสิบกว่าปี สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดา ดูหน้าตาใสซื่อ เพียงแต่ไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย
“นี่เป็นพี่เลี้ยงของนันนันที่ฉันหามา พี่หนิวแนะนำมาอีกที เหมยเหมยเรียกเขาว่าพี่ฮวาก็พอ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแนะนำ
พี่ฮวาส่งยิ้มให้เหมยเหมยด้วยท่าทีอาย ๆไม่เป็นธรรมชาติ ดูท่าทางสุขุมนิ่งมาก เหมยเหมยพยักหน้าให้เล็กน้อย ในเมื่อเป็นคนที่พี่หนิวแนะนำมาก็น่าจะไว้ใจได้
“ขอบคุณพวกคุณด้วยนะ นันนันอยู่กับพวกคุณอ้วนขึ้นเป็นกองเลย แข็งแรงกว่าตอนอยู่กับฉันอีก ฉันขอคุกเข่าขอบคุณแทนนันนันด้วย!”
พอเยวี่ยเซียงเห็นลูกสาวทั้งขาวทั้งอ้วน น้ำตาก็เอ่อล้นออกมา เธอรู้อยู่แล้วว่าเธอเลือกคนไม่ผิด เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเหมาะที่จะเป็นแม่บุญธรรมของนันนันที่สุดแล้ว ลูกสาวอยู่กับเขายังดีกว่าอยู่กับแม่แท้ ๆที่ไร้ประโยชน์อย่างเธอเป็นร้อยเท่า แบบนี้เธอก็จากไปได้อย่างสบายใจแล้ว
ระยะนี้เธอมักไร้เรี่ยวแรงอยู่บ่อย ๆ แม้แต่หายใจยังลำบาก เธอรู้ว่าขีดจำกัดของเธอใกล้มาถึงแล้ว!
แต่เธอไม่กลัวเลยสักนิด ครั้นเห็นลูกสาวได้ไปอยู่กับครอบครัวดี ๆด้วยตาตัวเอง ต่อให้เธอตายไปก็ไม่เสียใจเลย!
“เฮ้…เธอรีบลุกขึ้นมานะ…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรีบปรี่เข้าไปประคองเยวี่ยเซียง จากนั้นก็เห็นสีหน้าเธอดูขาวซีดขึ้นมากเลยถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ฉันว่าสีหน้าเธอดูไม่ดีเลย”
“เปล่าเลย…ฉันสบายดี กินได้นอนได้ จะไม่สบายได้อย่างไรกัน?” เยวี่ยเซียงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งยังจงใจหยิกหน้าตัวเอง ใบหน้าที่ขาวซีดเลยมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้าง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นคนนิสัยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักเลยไม่ได้ซักไซ้ถามอะไรต่อ
แต่เหมยเหมยกลับรู้แก่ใจดี เธอรู้ว่าชีวิตของเยวี่ยเซียงเข้าสู่ช่วงเวลานับถอยหลังแล้ว ทุกนาทีทุกวินาที…รอนับวันตายอยู่!
“ถ้านันนันเรียกแม่ได้ก็ดีสิ” เหมยเหมยเห็นเจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงก็ผุดคิดขึ้นได้ นันนันเก้าเดือนแล้ว ตามหลักน่าจะเรียกคนได้แล้วแต่เด็กคนนี้ยิ้มหัวเราะเป็นอย่างเดียว
เยวี่ยเซียงมองลูกสาวอย่างรู้สึกผิดเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก “นันนันจะเป็นใบ้ไหม?”
“เป็นไปไม่ได้หรอก เจ้าหนูหัวเราะออกมาเสียงเพราะไม่เบาเลย แม่ฉันบอกว่าตอนเล็ก ๆบำรุงไม่เพียงพอเลยเปิดปากพูดช้าไปบ้าง ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก อีกไม่กี่เดือนก็พูดได้แล้ว!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกล่าว
เยวี่ยเซียงพรูลมหายใจมองลูกสาวตนด้วยท่าทีปลื้มอกปลื้มใจ ขอแค่ไม่เป็นใบ้ แบบนี้ถึงจะไม่ถูกใครรังเกียจ!
“แม่…แม่…”
สิ่งที่ทำให้ทุกคนนึกไม่ถึงก็คือจู่ ๆนันนันที่นอนอยู่บนเตียงก็เปิดปากพูด ถึงแม้เสียงจะเบามากแต่กลับชัดเจน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเรียกแม่ ทุกคนต่างนิ่งชะงักไป พี่ฮวาเดินมาพลางเอ่ยยิ้ม ๆว่า “นันนันเรียกแม่แล้ว!”
“โฮ้…ทำไมหนูฉลาดขนาดนี้นะ? รู้ด้วยว่าต้องเรียกแม่ เรียกแม่อีกเร็วสิ นี่คือแม่ของหนูนะ…เรียกแม่สิ!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มอย่างดีใจแล้วชี้ไปที่เยวี่ยเซียงให้เจ้าหนูเอ่ยปากเรียกอีกครั้ง แต่ว่า——
“อย่าเรียกฉันว่าแม่เลย…ฉันไม่คู่ควรหรอก คุณหนูเหริ่น ถ้าคุณไม่รังเกียจละก็ให้เขาเรียกคุณว่าแม่เถอะ!”
เยวี่ยเซียงกลับกล่าวปฏิเสธ ทั้งยังให้ลูกสาวเรียกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนว่าแม่อีกด้วย
………………………………………..
ตอนที่ 2728 อย่าเรียกฉันว่าแม่
“มะ…แม่…แม่…” ไม่รู้ว่าเจ้าหนูน้อยดีใจเรื่องอะไรเอาแต่เรียกชื่อแม่พร้อมหัวเราะคิกคักไม่หยุด
“เอ๊ะ…เธอเป็นอะไรไป นันนันเป็นลูกของเธอ เรียกเธอว่าแม่ก็ถูกแล้ว คำว่าแม่จะเรียกเรื่อยเปื่อยได้อย่างไรกัน!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเริ่มไม่ชอบใจขึ้นมาแล้ว ถึงแม้เธอจะชอบเจ้าหนูน้อยมาก ถ้าเยวี่ยเซียงไม่ไหวจริง ๆเธอย่อมรับเลี้ยงเด็กคนนี้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เยวี่ยเซียงดีขึ้นเรื่อย ๆ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนนึกว่าเยวี่ยเซียงฟื้นตัวอาการดีขึ้นเลยหยุดความคิดที่จะรับเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้ก่อน
ดังนั้น…คำว่าแม่จะเรียกซี้ซั้วไม่ได้
เจ้าหนูน้อยยังไม่รู้ความอะไร ถ้าวันหลังแก้ไม่ได้จะทำอย่างไรล่ะ!
เยวี่ยเซียงยิ้มขมขื่นเอ่ย “ฉันไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของนันนันหรอก คุณหนูเหริ่น โปรดรับเลี้ยงนันนันด้วยเถอะ วันหลังคุณก็คือแม่ของนันนัน ส่วนฉันเป็นเพียงคนแปลกหน้าเท่านั้น”
ถึงคุณหนูเหริ่นจะเป็นคนปากคอเราะรายแต่ก็เป็นคนมีจิตใจดี สิ่งสำคัญเลยก็คือเพียบพร้อมทุกอย่าง ถ้าลูกสาวเธออยู่กับคุณหนูเหริ่นต้องมีชีวิตที่ดีแน่ คนที่ไร้ประโยชน์ไร้อนาคตอย่างเธอไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของลูกด้วยซ้ำ
อีกอย่างเวลาของเธอเหลือไม่มากแล้ว ต่อให้อยากได้ยินลูกสาวเรียกว่าแม่แต่เธอก็ต้องอดกลั้นไว้ เธอจะทำลายความสุขชั่วชีวิตของลูกไม่ได้!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนใจร้อนขึ้นมา “เธอก็อาการดีขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ? รอเธอหายแล้วฉันค่อยหางานเบา ๆให้ทำก็ได้ เธอหาเงินเลี้ยงลูกเองแล้วทำไมจะใช้ชีวิตไม่มีความสุขล่ะ? ลูกอยู่กับแม่แท้ ๆของตัวเองถึงจะดี เธออย่ามองแค่ว่าฉันดีกับลูกของคุณสิ วันหน้าฉันยังต้องมีลูกเป็นของตัวเองอีกนะ ขนาดตัวฉันเองยังรับประกันไม่ได้เลยว่าจะดีกับนันนันไปตลอดชีวิต!”
พอร้อนใจขึ้นมา แม้แต่คำพูดทิ่มแทงใจก็เอ่ยออกมาได้
เยวี่ยเซียงกลับยิ้มอย่างไม่ยี่หระอะไร คนเลวมักบอกว่าตนเองเป็นคนดีอยู่ตลอด มีเพียงคนจิตใจดีเท่านั้นที่จะถ่อมตน เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ่งพูดแบบนี้ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีทางปฏิบัติแย่กับนันนันแน่นอน
“ขอแค่คุณให้นันนันกินข้าวอิ่มท้อง ใส่เสื้อผ้าอุ่น ๆก็พอ อย่างอื่นเทียบกับลูกแท้ ๆที่คุณคลอดออกมาไม่ได้อยู่แล้ว รอนันนันโตขึ้นเขายังช่วยดูแลน้องชายน้องสาวได้อีกนะ!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดโต้กลับไม่ได้ไปชั่วขณะแล้วมองไปทางเหมยเหมยอย่างจนใจ “เธอคุยกับหล่อนต่อเลย ฉันพูดไม่ออกแล้ว ทำเอาร้อนใจจะตายแล้วจริง ๆ เธอว่าจะมีแม่ที่ไหนเป็นแบบนี้บ้าง!”
เหมยเหมยรู้แก่ใจดีว่าเยวี่ยเซียงกำลังเอ่ยคำสั่งเสียอยู่ ต่างบอกกันว่าคนใกล้ตายมักจะรู้แก่ใจดี เยวี่ยเซียงน่าจะรู้สึกได้แล้วล่ะ!
“เธอรักษาตัวให้ดี ๆ เรื่องนันนันวางใจได้ ต่อให้เธอจะไม่อยู่แล้วจริง ๆ พวกเราก็ต้องปฏิบัติต่อนันนันดีอยู่แล้ว แน่นอนว่าถ้าเธอรักษาตัวหายแล้วมาเลี้ยงนันนันเองจะดีที่สุด ใครก็สู้แม่แท้ ๆไม่ได้หรอก!” เหมยเหมยเอ่ยโน้มน้าวเสียงอ่อนโยน
พอเยวี่ยเซียงได้ฟังคำพูดของเหมยเหมยแล้วถึงได้วางใจแล้วมองลูกสาวด้วยความรัก พยักหน้าเอ่ย “ฉันจะพยายามรักษาตัวให้หาย ถ้าได้…ฉันก็อยากเลี้ยงนันนันเองจนกว่าจะเติบใหญ่เหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นก็สู้ ๆล่ะ ไม่แน่อาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ได้!” เหมยเหมยยิ้มให้กำลังใจ
ในใจของเยวี่ยเซียงผุดความหวังขึ้นมาเล็กน้อย นั่นสิ…บางทีอาจจะมีปาฏิหาริย์ขึ้นมาจริง ๆก็ได้!
เธอจะยอมแพ้เร็วขนาดนี้ไม่ได้!
สุขภาพของเยวี่ยเซียงทรุดลงมาก ได้สติเพียงแค่ครู่เดียวก็ล้มลงหมดสติไปอีก เหมยเหมยให้พี่ฮวาพานันนันไปเที่ยวเล่นในสวนดอกไม้ก่อน
“เยวี่ยเซียงอยู่ได้นานสุดแค่หนึ่งปีหรือครึ่งปีเท่านั้น ตัวหล่อนเองคงรู้สึกได้แล้วล่ะ” เหมยเหมยถอนหายใจ
“อะไรนะ…ผู้เชี่ยวชาญบอกเหรอ?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตกใจยกใหญ่ เบิกตากว้าง ทั้ง ๆที่ใกล้ดีขึ้นแล้วแท้ ๆ
“ใช่แล้ว…ฉะนั้นเธอต้องคิดให้ดีว่าเธอจะรับเลี้ยงนันนันจริงไหม? ถ้าเธอไม่รับเลี้ยงฉันก็จะไปหาครอบครัวอื่นที่เหมาะสม” เหมยเหมยถาม
……………………………..