ตอนที่ 2719 ประวัติที่เคยทารุณกรรมหมาแมว
“เงียบ ห้ามเสียงดัง!”
ผู้พิพากษาย่นคิ้วน้อย ๆไม่พอใจกับเสียงโวยวายของแม่สามีเฝิงอวี้อย่างมาก ศาลเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เสียงดังเอะอะโวยวายไม่เข้าท่าเอาเสียเลย มิน่าถึงได้มีลูกชายไม่เอาไหนแบบนี้
ความคิดของผู้พิพากษาเริ่มเอนเอียงไปเช่นนี้โดยไม่รู้ตัว
เขาเห็นใจกับเฝิงอวี้ที่อยู่ในสภาวะตกเป็นรองอย่างมาก คนที่ท่าทางอ่อนแอแบบนี้ผู้ชายคนนั้นทำได้ลงคอได้อย่างไร?
คนตระกูลหยางย่อมไม่ยอมไปตัวเปล่าและยิ่งไม่ยอมเสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกเด็ดขาด ส่วนค่าชดเชย…พวกเขายอมสิแปลก
“ผมไม่อยากหย่า…ผมยังรักเฝิงอวี้อยู่ แค่เข้าใจผิดกันเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้ลูกได้เติบโตในครอบครัวที่สมบูรณ์และไม่อยากให้ลูกต้องมีบาดแผลในใจ ผมยืนยันว่าจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด…”
สมแล้วที่หยางอันคังถูกขนานนามว่า ‘สิงสาราสัตว์’ ฝีมือแยบยลนัก หลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงเรื่องทารุณกรรมกับเรื่องนอกใจ เอาลูกมาเป็นข้ออ้างว่าเพื่อการเจริญเติบโตที่ดีของลูก เปลือกนอกอันจอมปลอมนี้ทำเอาคนอยากเขวี้ยงไข่เน่าใส่หน้าเขาเหลือเกิน
“มีบิดาที่ผิดปกติทางจิตและมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงอย่างคุณ ครอบครัวนี้ไม่มีทางปกติได้หรอก เด็กต้องได้รับบาดเจ็บในไม่ช้าก็เร็ว…ท่านผู้พิพากษา ดิฉันยังมีหลักฐานชิ้นใหม่ เป็นคลิปเสียงของเพื่อนบ้านเก่า ๆของจำเลยด้วย”
ทนายกัวมองหยางอันคังด้วยสายตาหยามเหยียดก่อนจะหยิบยกไพ่ไม้ตายของเธอขึ้นมา
โรคจิตที่ทารุณภรรยามาตั้งสิบสองปีต้องมีความผิดปกติทางจิตอย่างแน่นอน แถมยังเริ่มเป็นตั้งแต่เด็กด้วย ฉะนั้นเธอตั้งใจไปเยี่ยมหาบรรดาเพื่อนบ้านเก่า ๆของตระกูลหยาง และสุดท้ายก็เจอเรื่องใหญ่ตามคาด
‘หยางอันคังฉันรู้จัก เด็กคนนี้ดูท่าทางเรียบร้อยหน้าตาก็ดี แต่เด็กคนนี้ไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบเท่าไหร่…ฉันเห็นเขาเตะท้องอาหวงของฉันไปตั้งหลายครั้ง โอ๊ย…อาหวงของฉันน่ารักจะตายยังเตะได้ลงคอ…จิตใจโหดเหี้ยม อนาคตไม่แน่อาจจะฆ่าคนก็ได้นะ!’
‘สามีภรรยาคู่นั้นเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยสินะ ตอนนี้เป็นศาสตราจารย์ไปแล้วเหรอ? ถุย…ตอนนี้ศาสตราจารย์ไร้ค่าจริง ๆ ใคร ๆก็เป็นกันได้ทั้งนั้น ทำไมถึงได้เกลียดคนตระกูลหยางขนาดนี้นะ…’
‘เพราะพวกเขามีลูกชายโรคจิตคนหนึ่งแล้วยังไม่ยอมรับ วัน ๆเอาแต่พูดอวดคนนอกบ้านว่าลูกชายคนโตยอดเยี่ยมแบบนั้นแบบนี้ เป็นเด็กดีแค่ไหน…ถุย…แถวนี้ใครไม่รู้กันบ้างว่าลูกชายคนโตตระกูลหยางชอบทารุณหมาแมวน่ะ ฉันจะบอกให้นะ หมาแมวที่บ้านตระกูลหยางเลี้ยงไม่เกินหนึ่งเดือนต้องตายแหง!’
‘สุดท้ายหมาแมวที่ตายไปก็ถูกสามีภรรยาคู่นั้นต้มกินไปแล้ว โธ่…เวรกรรมจริง ๆ….’
……
คลิปเสียงค่อนข้างวุ่นวาย ส่วนมากมีแต่เสียงคุณยายกับคุณตาแก่ ๆที่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจต่อคนตระกูลหยาง อีกทั้งยังชี้ชัดเป็นเสียงเดียวกันว่าหยางอันคังเคยมีประสบการณ์ทารุณหมาแมวในวัยเด็ก
พ่อแม่สามีเฝิงอวี้ได้ฟังคลิปเสียงหน้าก็ซีดลงทีละนิดจนสุดท้ายก็ไร้สีเลือดฝาด
พวกเขาหลงคิดว่าเรื่องที่ลูกชายคนโตทารุณหมาแมวจะไม่มีใครรู้ เพราะพวกเขาตามเช็ดล้างได้ทันท่วงทีตลอด พวกเขาเอาหมาแมวที่ตายไปมากินให้หมด ส่วนขนกับกระดูกที่เหลือก็นำไปฝังไว้ในเขตชานเมือง
ทำไมเหล่าเพื่อนบ้านถึงรู้กันหมดล่ะ?
สองสามีภรรยากลับไม่รู้ว่าความลับไม่มีบนโลกใบนี้ ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่อาจปกปิดได้
คิดจะเก็บความลับไปตลอดชีวิต มีเพียงวิธีเดียวนั่นก็คือหลอกตัวเอง
หยางอันคังหน้าซีดก้มหน้าลง จิตใจว้าวุ่น
ความลับที่เขาปกปิดมาตลอดสี่สิบกว่าปีถูกเปิดโปงต่อหน้าผู้คนเช่นนี้…มหาวิทยาลัยกับเพื่อนร่วมงานต่าง ๆก็จะรับรู้ แล้วเขาจะเอาหน้าที่ไหนไปทำงานอีก?
ทนายของหยางอันคังที่เป็นเพื่อนร่วมงานในสำนักทนายความของน้องชายเขาขณะนี้เองก็สีหน้าไม่สู้ดีนัก ชีวิตทนายความที่ชนะการว่าความมาตลอด…คงต้องจบลงเพียงเท่านี้แล้ว!
……………………………
ตอนที่ 2720 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
“เหลวไหล…พวกเขากำลังพูดเหลวไหลทั้งเพ ลูกชายของฉันปกติมาก ไม่เคยทารุณสัตว์มาก่อน…คลิปเสียงพวกนี้พวกเขาปลอมแปลงมันขึ้นมา…”
แม่สามีเฝิงอวี้สูญเสียสติไปแล้ว เธอพุ่งมาข้างหน้าคิดจะตบเฝิงอวี้แต่ถูกตำรวจในชั้นศาลควบคุมตัวออกไป คนตระกูลหยางก้มหน้างุดไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นอีก
พวกเขาเป็นครอบครัวที่มีหน้ามีตา ตอนนี้เกิดข่าวอื้อฉาวแบบนี้แล้วต่อจากนี้จะเหลือศักดิ์ศรีอะไรอีก?
น้องชายของหยางอันคังก็ฟังอยู่ด้านล่างเช่นกัน หน้าถมึงทึงยิ่งกว่าอะไร เรื่องที่พี่ชายแท้ ๆผิดปกติทางจิตส่งผลต่อเขามากที่สุด เพื่อนร่วมงานจะต้องเอาเรื่องนี้ไปแพร่งพรายต่อ ทั้งที่เขาเคยเตือนพี่ชายมาก่อนแล้วให้ระวังตัว ดีกับภรรยาสักหน่อย แต่หยางอันคังกลับทำเป็นหูทวนลม
ตอนนี้เป็นไงล่ะ เฝิงอวี้อารมณ์ปะทุออกมาแล้ว!
แล้วยังลำบากมาถึงเขา!
น้องชายหยางอันคังสีหน้าเปลี่ยนไปจนคาดเดาอารมณ์ได้ยาก เขาขอเวลาปรึกษากับทนายฝ่ายหยางอันคังครู่หนึ่ง ก่อนจะขอเสนอไกล่เกลี่ยนอกศาล น้องชายหยางอันคังมาหาเฝิงอวี้โดยคิดจะขอคุยกับเธอ
“ฉันไม่มีอะไรที่จะคุยกับคุณ มีอะไรก็ไว้คุยกับทนายความของฉันแล้วกัน” เฝิงอวี้เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา
น้องชายสามีคนนี้แม้ไม่ได้ทำร้ายเธอโดยตรงแต่ก็เป็นฆาตกรทางอ้อม หยางอันคังกล้าทารุณเธออย่างเหิมเกริมขนาดนี้ก็เพราะน้องชายเป็นทนายความคนเก่งนี่แหละ
อีกทั้งใช่ว่าน้องชายสามีจะไม่รู้เรื่องราวของเธอ แต่ในฐานะทนายความน้องชายสามีกลับแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอด เธอจะไม่แค้นใจได้อย่างไร?
“เราไม่ยอมไกล่เกลี่ย พฤติกรรมของหยางอันคังเข้าข่ายผิดกฎหมายแล้ว พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายแบบนี้ต้องมีบทลงโทษอย่างจริงจัง!” ทนายกัวพูดเสียงหนักแน่นพลางมองน้องชายหยางอันคังด้วยสายตาหยามเหยียด
ทนายหยางผู้นี้เป็นเพื่อนสายงานเดียวกันที่ขัดตาเธอที่สุด บอกได้ว่าเป็นเศษสวะในวงการทนายความเลยล่ะ!
เนื่องจากน้องชายหยางอันคังไม่มีหัวใจที่จะผดุงความยุติธรรมสักนิดแต่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ขอเพียงมีเงินเขาก็สามารถเปลี่ยนของตายให้เป็นของมีชีวิตได้ สีดำให้เป็นสีขาวได้ ฆาตกรก็สามารถว่าความให้เป็นผู้บริสุทธิ์ได้
แต่หมอนี่ดันฉลาดที่จะเลือกฝั่งกับการซื้อตัวผู้พิพากษา ซื้อตัวพยานบุคคลแล้วปลอมแปลงหลักฐานขึ้นมา…ทำทุกอย่างที่ผิดศีลธรรมคุณธรรมยกเว้นสิ่งที่ดีงาม คนตระกูลนี้ก็เหมือนรังงูรังหนูที่ไม่มีคนดีสักคน
“พี่สะใภ้…เงื่อนไขที่พี่ขอเราตกลงทุกอย่าง เราหวังแค่ว่าพี่จะถอนคำฟ้อง”
น้องชายหยางอันคังยังไม่ยอมแพ้ เขายังอยากเกลี้ยกล่อมเฝิงอวี้ต่อ เรื่องอื้อฉาวภายในครอบครัวจะแพร่งพรายไปข้างนอกไม่ได้ ฉะนั้นยอมทุ่มเงินอีกสักหน่อยเพื่อจบมันดีกว่า
“ทนายฉันว่ายังไงฉันก็ว่าตามนั้น ไม่จำเป็นต้องพูดให้เปลืองน้ำลายอีกแล้ว” เฝิงอวี้ไม่หวั่นไหวสักนิด
“พี่สะใภ้ จำเป็นต้องเด็ดขาดขนาดนี้เชียวเหรอ? เอางี้แล้วกัน ขอแค่พี่สะใภ้ยอมถอนฟ้องผมจะช่วยหางานในสำนักการเงินให้น้องชายพี่เอง” น้องชายหยางอันคังสีหน้าดูไม่สู้ดีนักก่อนจะเพิ่มข้อต่อรองอีกหนึ่งอย่าง คุณแม่เฝิงอวี้ที่หูตั้งฟังมาตั้งแต่ต้นยิ้มหน้าระรื่น คุณพ่อเฝิงอวี้เองก็หวั่นไหวตามไปด้วยอีกคน
ในเมื่อลูกสาวทั้งได้หย่ากับไอ้สัตว์เดรัจฉานแล้วยังได้มรดกก้อนใหญ่ ทั้งยังหางานให้ลูกชายได้…นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวเลยนะ!
“อาอวี้…ตอบตกลงไปสิ น้องชายลูกเขยพูดถึงขนาดนี้แล้วถ้าแกยังไม่ยอมตกลงก็โง่แล้ว!” คุณแม่เฝิงอวี้ร้อนใจแทบแย่ นึกเสียดายที่เธอไม่มีสิทธิ์ในการถอนฟ้อง
เฝิงอวี้หัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วมองไปทางคุณพ่อ ถามออกเสียง “พ่อก็หวังให้หนูตอบตกลงสินะคะ?”
คุณพ่อเฝิงอวี้ทำหน้าอึดอัด อ้าปากแต่พูดอะไรไม่ออก สุดท้ายก็เค้นเสียงออกมาว่า “น้องชายของลูกอายุสามสิบแล้วยังไม่ได้แต่งงานเลย…อาอวี้ลูก…”
“หนูเข้าใจความหมายของพ่อแล้ว…หึหึ…ลูกชายคือลูกรักของพ่อแม่ตามคาดจริง ๆด้วย!”
เฝิงอวี้แค่นหัวเราะทีหนึ่ง การกระทำของคุณพ่อก่อนหน้านี้ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาบ้าง เดิมทีคิดว่าอนาคตเธอจะต้องกตัญญูต่อคุณพ่อให้มาก แต่ตอนนี้…หัวใจของเธอทั้งหนักอึ้งทั้งเยือกเย็น
ขอแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงถึงลูกชายสุดรัก ลูกสาวอย่างเธอต้องเป็นฝ่ายเสียสละเสมอ!
เธอควรตื่นจากฝันได้แล้วเช่นกัน!
…………………