ตอนที่ 2813 งดเนื้อครึ่งปี
เล่อเล่อหดคอแล้วถามเสียงเบาว่า “มีอะไรแตกต่างกันไหมคะ?”
“ถ้าให้พ่อถามจะงดเนื้อเราหนึ่งปี แต่ถ้าเราบอกเองก็จะลงโทษสถานเบา” เหยียนหมิงซุ่นแค่นเสียงเบา อุบไว้โดยไม่ได้บอกวิธีการลงโทษไป
“พ่อ…เบาแค่ไหนเหรอ?” เล่อเล่อมองเขาอย่างมีความหวัง
“ก็ต้องดูว่าเราสารภาพออกมามากขนาดไหน ขอแค่ทำให้พ่อพอใจ อาจจะไม่ลงโทษเลยก็ได้”
เล่อเล่อดวงตาเป็นประกาย บิดข้อมืออวบอ้วนของเธอไปมาพลางครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจมองไปที่เหยียนหมิงซุ่นด้วยท่าทีซื่อสัตย์แล้วเอ่ย “พ่อ…อยากจะรู้อะไรคะ?”
ฉับพลันพ่อของเธอก็มีท่าทีแบบนี้แต่เธอไม่รู้ว่าเธอทำผิดอะไร เมื่อสักครู่เธอพยายามคิดทบทวนเงียบ ๆ ช่วงนี้เธอค่อนข้างเชื่อฟัง อย่างมากก็แค่เตะเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายที่อยู่ไม่สุขไปสองสามคน แล้วยังทำให้เพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงที่ตกใจหยุดร้องไห้ด้วย…
หรือว่าพ่อจะรู้เรื่องพวกนี้?
เหยียนหมิงซุ่นจุกอยู่ในอก เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าลูกสาวของเขายังคงเป็นเด็กน้อยวัยสี่ขวบอยู่ แม้ว่าความสามารถจะไม่ธรรมดาแต่ด้านไอคิวและอีคิวยังคงต่ำมาก ฉะนั้นเขาต้องถามออกไปตรง ๆ
“ในท้องแม่ของเราเป็นเด็กผู้ชายสองคนงั้นเหรอ?”
“อืมใช่…สองตัวเล่นสนุก ๆ” เล่อเล่อถอนหายใจอย่างโล่งอก เฮ้อ…ไม่ใช่เรื่องที่โรงเรียนก็แล้วไป
เหยียนหมิงซุ่นขยี้เปลือกตาเพราะหนังตาเริ่มกระตุก เขาถามต่อว่า “ฉิวฉิวเป็นคนบอกเราเหรอ?”
“อืม…ฉิวฉิวบอกว่าสองตัวเล่นสนุก ๆ” เล่อเล่อบอกเรื่องของฉิวฉิวอย่างไม่ลังเล ฉิวฉิวก็ไม่ได้บอกให้เธอเก็บเป็นความลับนี่นา!
ฟันกรามของเหยียนหมิงซุ่นรู้สึกคันยุบยิบจึงขบฟันอย่างแรง เส้นประสาทตรงหน้าผากเต้นตุบ ๆ เขารู้อยู่แล้วว่า…เจ้ากระรอกบ้านี่ต้องมีจุดประสงค์ไม่ดีแน่!
เล่อเล่อที่ใสซื่อโดนหลอกง่าย ครั้นถูกทำให้ตกใจจึงโดนเหยียนหมิงซุ่นหลอกถามออกมาหมด แม้แต่เรื่องยาลูกแฝดก็บอกออกมาด้วย เหยียนหมิงซุ่นโกรธจนควันออกหูจึงเอานมที่คุณย่าหยางเตรียมไว้ให้หลานสาวด้วยความตั้งใจดื่มจนเกลี้ยง
เล่อเล่อปวดใจจนอ้าปากค้าง นมของเธอหมดแล้ว…
ปวดใจเหลือเกิน…แต่คนที่ดื่มนมคือพ่อของเธอ แล้วเธอจะพูดอะไรได้?
และไม่กล้าพูดด้วย!
เล่อเล่อจ้องไปที่นมที่เหยียนหมิงซุ่นดื่มจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้สักหยดพลางกะพริบตาปริบ ๆอย่างน่าสงสาร ไม่เพียงเท่านั้น…เมื่อเหยียนหมิงซุ่นเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างอย่างชัดเจนแล้วก็รู้ว่าตนเองได้ปรักปรำบริษัทถุงยางอนามัย ทว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของเจ้ากระรอกบ้ากับลูกสาวตัวเองทั้งนั้น
“งดเนื้อครึ่งปี กินผักไปครึ่งปีเลย!”
เหยียนหมิงซุ่นประกาศบทลงโทษด้วยความโมโห เล่อเล่อผวาจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง ครึ่งปีไม่กินเนื้อ เธอจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร?
“พ่อ ไหนพ่อบอกว่าจะลงโทษสถานเบา พูดแล้วไม่ทำตามที่พูด” เล่อเล่อพยายามรักษาสิทธิตัวเองเต็มที่
“ถ้าอย่างนั้นก็ลดไปหนึ่งวันจากครึ่งปี”
เหยียนหมิงซุ่นแค่นเสียงฮึอย่างเย็นชาเอามือไขว้หลังแล้วเดินจากไปเพราะเตรียมไปคิดบัญชีกับเจ้ากระรอกบ้านั่นต่อ
เล่อเล่อนั่งลงบนพื้นอยากจะร้องไห้ เธอนั่งนับนิ้วอ้วนสิบนิ้วอยู่นาน จนในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่แสนเศร้า
ครึ่งปีลดไปหนึ่งวันก็พอ ๆกับครึ่งปีนั่นแหละ เธอโดนพ่อของตัวเองหลอกเข้าให้แล้ว!
คุณย่าทวดอยู่ไหน เธอโดนรังแกแล้ว!
ฉิวฉิวที่ดูเรื่องสนุกอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นเหยียนหมิงซุ่นเดินออกไปก็รีบกระโดดออกทางหน้าต่างอย่างคล่องแคล่ว หางสะบัดไปมาอย่างมีความสุข เขาไปหลบภัยที่สวนหลังบ้านก่อน รอให้ผ่านไปสักพักแล้วค่อยกลับมาบ้านแล้วกัน
เหยียนหมิงซุ่นมองฉิวฉิวที่กระโดดโลดเต้นไปมาบนต้นไม้หลังบ้านอย่างสบายใจด้วยความโกรธแค้น รอบข้างยังมีกระรอกเพศเมียสาวสวยหลายตัวตามติดไปด้วยซึ่งล้วนเป็นสาวที่ฉิวฉิวเอากลับมาด้วยจากด้านนอก สวนหลังบ้านจะกลายเป็นประเทศกระรอกอยู่แล้ว มีแค่ฉิวฉิวตัวเดียวที่เป็นเพศผู้ นอกนั้นเป็นเพศเมียหมด แต่ไม่ว่าจะเป็นเมียใหญ่เมียเล็กต่างก็กลมเกลียวกันดีไม่เคยเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเลย
เจ้ากระรอกบ้านี่ยังมีเสน่ห์เหลือล้นสินะ ไม่ได้การล่ะ เขาต้องคิดหาวิธีจัดการเจ้ากระรอกบ้านี่เข้าสักวันแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงกำจัดความโกรธนี้ไปไม่ได้แน่!
วันรุ่งขึ้นเหมยเหมยจงใจตื่นให้เร็วขึ้นหน่อย เธอจะต้องไปให้กำลังใจลูกสาวตัวน้อยที่โรงเรียนอนุบาล แต่เจ้าเห็ดตัวน้อยกลับห่อเหี่ยวหมดอาลัยตายอยากราวกับมะเขือเหี่ยวก็ไม่ปาน
……………………………………….
ตอนที่ 2814 งดเนื้อไม่ได้
อาหารมื้อเช้าในวันนี้ครึกครื้นเป็นพิเศษ ทุกคนนั่งเต็มโต๊ะอยู่กันพร้อมหน้า ป้าฟางเตรียมอาหารมื้อเช้าไว้มากมายอย่างพิถีพิถัน แล้วยังทำซุปเปรี้ยวเผ็ดสำหรับเหมยเหมยเพื่อเรียกน้ำย่อยด้วย แถมมีเสี่ยวหลงเปารสเลิศ แค่มองก็เรียกน้ำย่อยได้มากแล้ว
“อร่อยมากเลย ๆค่ะ…ทำไมฉันถึงอยากกินเผ็ดอีกนะ? เหมือนกับตอนที่ตั้งท้องเล่อเล่อเลย เดี๋ยวก็อยากกินเปรี้ยว เดี๋ยวก็อยากกินเผ็ด ครั้งนี้คงไม่ได้เป็นลูกสาวเหมือนกันหรอกใช่ไหม!”
เหมยเหมยซดซุปไปหลายอึก ความอยากอาหารมีมหาศาลเชียว
“ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่สำคัญก็คือร่างกายต้องแข็งแรง เราต้องกินให้ดี ๆ เมื่อผู้ใหญ่ได้รับการบำรุงอย่างเพียงพอ ลูกในท้องถึงจะเติบโตอย่างแข็งแรง” คุณย่าหยางเตรียมอาหารเช้าให้เล่อเล่อแล้วเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า
แน่นอนว่าเธอหวังอยากจะมีหลานเพิ่มอีกคนแต่จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงนั้นไม่มีใครบอกได้ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับพระเจ้าแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ในเมื่อมาที่บ้านของพวกเขาแล้วก็ถือว่าเป็นเทวดาตัวน้อยอันเป็นที่รักของพวกเขา
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเล่อเล่อจะกินมังสวิรัติเป็นเวลาครึ่งปี” เหยียนหมิงซุ่นประกาศคำตัดสินครั้งใหญ่ ใบหน้าของเล่อเล่อที่บูดบึ้งอยู่แล้วยิ่งดูแย่ลงไปอีก พอเห็นซาลาเปาไส้หมูในมือก็ชั่งใจว่าจะกัดหรือวางลงดี?
“แกเป็นบ้าอะไรอีก ดีแต่จะทรมานเล่อเล่อ เหลนตัวเล็กแค่นี้ถ้าไม่กินเนื้อจะโตได้อย่างไร? ช่วงนี้หลานเพี้ยนไปแล้วหรือไง?” คุณย่าหยางไม่เห็นด้วย ถ้าจะลงโทษให้ยืนกระต่ายขาเดียวหรือวิ่งเธอไม่มีข้อโต้แย้งอะไรทั้งนั้น แต่ไม่ควรลงโทษเด็กเรื่องอาหาร ไม่ใช่แม่เลี้ยงเป็นคนเลี้ยงสักหน่อย
เล่อเล่อมองคุณย่าหยางด้วยความซาบซึ้งใจพร้อมน้ำตาคลอเบ้า อย่างไรคุณย่าทวดก็ดีที่สุด!
“คุณย่าครับ เล่อเล่อทำผิดครั้งใหญ่ต้องได้รับโทษ คุณย่าอย่าขัดคำสั่งสอนของผมสิครับ!” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย
“จะสั่งสอนเด็กก็ไม่ควรงดเรื่องอาหาร ตอนแกยังเด็กฉันเคยงดอาหารแกหรือไง? แกเปลี่ยนวิธีสิจะยืนบนตอไม้หรือต่อยมวยอะไรก็ได้แต่จะงดเนื้อไม่ได้!” คุณปู่เหยียนที่ไม่ค่อยพูดอะไรก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา ไม่ให้เหลนทานเนื้อครึ่งปี นี่เป็นการเอาชีวิตเล่อเล่อชัด ๆ!
มิน่าตอนเช้าเจ้าตัวน้อยถึงได้ดูห่อเหี่ยวขนาดนั้น ช่างน่าสงสารจริง ๆ
เหมยเหมยมองเหยียนหมิงซุ่นอย่างไม่เห็นด้วย “ทำไมพี่ถึงไม่คิดให้ดีก่อน เล่อเล่อทำอะไรผิดเหรอ?”
“นั่นสิ เล่อเล่อทำอะไรผิดล่ะ?” คุณย่าหยางตะโกนถาม
สีหน้าของเหยียนหมิงซุ่นดูลำบากใจ เรื่องท้องแฝดจะพูดออกไปไม่ได้ แถมยังต้องปิดบังเหมยเหมยอีก เขาจะทำให้เธอรู้สึกเป็นตัวภาระไม่ได้ ดังนั้น…เขาจึงพูดไม่ออก
“ก็คือทำผิด เล่อเล่อ เราบอกมาสิว่าเราทำผิดไหม?” เหยียนหมิงซุ่นตะโกนถาม
เล่อเล่อพยักหน้า “ทำผิดแล้ว พ่อคะ…เปลี่ยนเป็นยืนบนตอไม้แทนได้ไหมคะ?”
เธอยินดีที่จะยืนบนตอไม้ปีหนึ่ง ยังดีเสียกว่าต้องกินผักครึ่งปี!
“ก็ตัดสินตามนี้ละกัน ต่อจากนี้ทุกวันยืนบนตอไม้วันละหนึ่งชั่วโมง เนื้ออย่างไรก็ยังต้องกิน ในเมื่อทำผิดก็ต้องรับโทษ” คุณย่าหยางตัดสินใจเรียบร้อย เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่กล้าคัดค้านอะไรเธอจึงทำได้เพียงเห็นด้วย
เล่อเล่อร้องดีใจแล้วกัดเนื้อคำโต ยืนบนตอไม้หนึ่งชั่วโมงสำหรับเธอถือว่าเล็กน้อยมาก ขอแค่มีเนื้อทานก็พอใจแล้ว!
“เหมยเหมย เราไม่ต้องไปดูการแสดงแล้วมั้ง อยู่บ้านพักผ่อนดีกว่า” คุณย่าหยางกังวลสุขภาพของเหมยเหมย
“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้หนูแข็งแรงมาก กินอิ่มนอนหลับดีค่ะ” เหมยเหมยไม่ได้คิดว่าหนักหนาอะไร แค่ตั้งครรภ์เองไม่ต้องทะนุถนอมขนาดนั้นหรอก
“สบายใจได้ครับ พวกเราก็ไปด้วย แล้วจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้!” สยงมู่มู่รับประกัน วันนี้พวกเขาทุกคนต่างไปเป็นกำลังใจให้เล่อเล่อซึ่งถือว่าเป็นวันพักผ่อนไป
แต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าพวกนักข่าวนิตยสารที่อยากรู้อยากเห็นเดินว่อนไปมาอยู่ด้านนอกเต็มไปหมด
การออกจากบ้านครั้งนี้สยงมู่มู่ปลอมตัวอย่างแนบเนียนโดยใส่ทั้งหน้ากากและแว่นดำ พวกเขาเดินทางมาถึงโรงเรียนอนุบาลด้วยมาดอันทรงพลัง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนและฉีฉีเก๋อต่างก็มาถึงเรียบร้อยแล้ว ส่วนเป่ารื่อน่าก็เปลี่ยนไปใส่ประโปรงเจ้าหญิงราวกับนางฟ้าตัวน้อยเรียบร้อย
……………………