ตอนที่ 2977 โชคดีอย่างไม่มีใครเทียม
พอเจสันเห็นเล่อเล่อมองมาที่เขาเลยส่งยิ้มไปให้พร้อมโบกมือ รอยยิ้มของเขาสดใสกว่าผมสีบลอนด์บนศีรษะของเขาเสียอีก ท่าทีดูซื่อบื้อเหมือนสุนัขพันธุ์ฮัสกี้อย่างไรอย่างนั้น บางทีแค่ซาลาเปาลูกเดียวอาจล่อเอาตัวไปได้แล้ว
“คาดไม่ถึงว่าคนโง่แบบนี้จะสามารถเป็นสายลับได้ FBI ไม่มีคนอื่นแล้วเหรอ?” เล่อเล่อพึมพำกับตัวเอง
ด้วยมาดการปฏิบัติภารกิจของเจสันและปิแอร์เป็นสไตล์ของ FBI อย่างสิ้นเชิง เล่อเล่อมองแค่แวบเดียวก็รู้แล้ว อีกทั้งเสี่ยวจูเห็นสัญลักษณ์เฉพาะตัวบนนาฬิกาข้อมือของพวกเขาเลยเอาไปเปิดค้นหาในคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็เด้งเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของ FBI โดยตรง เสี่ยวจูเลยเข้าไปจัดการเอาข้อมูลเกี่ยวกับเจสันและปิแอร์มาได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่ทำเอาทุกคนตกใจจนแทบฟันร่วงก็คือคาดไม่ถึงว่าสองคนนี้ยังเป็นสายลับระดับสูงอีกด้วย?
ปิแอร์ที่สุขุมเย็นชาถือว่าบุคลิกดูมีความเป็นสายลับระดับสูงอยู่บ้าง แต่เจสันที่พูดจ้อไม่หยุดปาก…หากว่ากันจากใจตั้งแต่หัวจรดเท้าดูไม่ออกเลยว่าเป็นสายลับระดับสูง แม้กระทั่งคุณสมบัติของการเป็นสายลับยังไม่พอด้วยซ้ำ
เล่อเล่อเดาว่าเจสันคงพึ่งพาใบบุญของปิแอร์ที่เป็นทั้งคู่หูและคนรักของเขาเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ภารกิจสำเร็จอย่างต่อเนื่องและรอดพ้นจากความตายกลายเป็นสายลับระดับสูงคู่เดียวที่เหลืออยู่
ใครใช้ให้ดวงของพวกฝีมือดี FBI เหล่านั้นไม่ดีกันล่ะ เดี๋ยวตาย เดี๋ยวพิการ จนสุดท้ายผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเหลือเพียงแค่คู่ของเจสันเท่านั้น!
เสี่ยวเป่าเหลือบมองเจสันและเอ่ยพลางอมยิ้มว่า “อย่าดูถูกเขา แม้จะดูซื่อบื้อไปบ้างแต่เขาก็มีข้อดีที่ไม่มีใครเทียบได้”
“อะไรเหรอ?” เล่อเล่อและสือเอ้อร์ถามเป็นเสียงเดียวกัน
เสี่ยวจูตอบกลับ “ดวงดี แถมสามารถพลิกชะตาได้ทีเดียว”
หลังจากเขาแฮ็กเว็บไซต์ของ FBI ดูประวัติการทำงานของเจสันที่เปลี่ยนแปลงขึ้น ๆลง ๆตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาคร่าว ๆ เจสันผ่านอันตรายที่โผล่มาจู่โจมเขาไม่หยุดจนเกือบกลับมาไม่ได้หลายครั้งหลายครา ทว่าเจ้าหมอนี่ก็กลับมาได้อย่างปลอดภัยทุกครั้ง ทั้งยังทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์ไม่มีเสียหายอีกด้วย
หนึ่งครั้งคือความบังเอิญ แต่ความบังเอิญครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมาเช่นนี้ งั้นก็มีเพียงคำอธิบายเดียวแล้วล่ะ——
โชคดีอย่างไม่มีใครเทียมจริง ๆ!
คนแบบนี้เป็นลูกรักของพระเจ้า เกรงว่าต่อให้ตกลงจากที่สูงนับหมื่นเมตรก็คงไม่ตายเพราะมีเมฆลอยมารับเขาไว้อย่างแน่นอน อันที่จริงมีครั้งหนึ่งเจสันเคยตกลงมาจากเครื่องบินแต่ไม่ได้สูงนับหมื่นเมตรทว่าก็หลายพันเมตรอยู่
ตอนนั้นเจสันไม่ได้ใส่ร่มชูชีพและกระโดดลงมาตัวเปล่า ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ความจริงช่างน่าประหลาดนัก ตอนเขาร่วงตกมากลางอากาศลมประหลาดก็พัดผ่านมาพาตัวเจสันไปหาศัตรูซึ่งประจวบกับศัตรูคนนี้กำลังจะกดใช้ร่มชูชีพพอดี และด้วยทักษะการเอาตัวรอดอันยอดเยี่ยมของเจสันเลยกอดศัตรูคนนี้ไว้แน่น
เพราะร่มชูชีพอันเดียวมีถึงสองคนเลยทำให้ดิ่งตกลงมาอย่างรวดเร็วและดันโชคร้ายดิ่งตกลงมาตรงเนินเขาที่เต็มไปด้วยโขดหิน และผลสุดท้ายก็คือ——
เจสันขี่อยู่บนตัวของศัตรูดิ่งตัวลงพื้นอย่างปลอดภัยไร้แผลไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น เดิมทีศัตรูที่สามารถเอาตัวรอดดิ่งลงพื้นได้อย่างสวยงาม แต่เพราะความเร็วที่ดิ่งลงมา รวมถึงแรงโน้มถ่วงบวกกับน้ำหนักที่ไม่น้อยของเจสัน…
ชายผู้โชคร้ายคนนี้เลยถูกเจสันทับตายอย่างน่าสลดใจ!
เล่อเล่อหันไปมองเจสันอีกครั้งอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หรือว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นผู้รวยโชคในตำนาน?
หลังจากนั้นไม่นานเล่อเล่อก็สัมผัสได้ถึงความโชคดีที่ไร้ใครเทียมของเจสันด้วยตัวเอง เขาเป็นลูกรักของพระเจ้าอย่างแท้จริงและเป็นคนที่โปรดปราณที่สุดเพียงหนึ่งเดียวซึ่งไม่ใช่หนึ่งในบรรดาใครทั้งสิ้นอีกต่างหาก
พวกเขาจัดกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยเพื่อเตรียมพร้อมเดินทางต่อไป
ขบวนยาวเหยียดในเดิมทีทว่าตอนนี้สั้นลงไปมาก สี่คนที่เหลือยกเว้นเจสันและปิแอร์ก็มีผู้หญิงที่ตกใจกลัวจนประสาทหลอนและผู้ชายที่หน้าตาดูธรรมดาคนหนึ่ง
“น่าจะอีกประมาณสองวัน พวกพี่คิดว่าชีพจรมังกรหน้าตาเป็นอย่างไร? แล้วมีมังกรตัวหนึ่งอยู่ในนั้นจริง ๆเหรอ?” เน่าเน่าอดถามไม่ได้
……………………………………………
ตอนที่ 2978 ไม่ได้หวังดี
เล่อเล่อได้ฟังก็นึกแปลกใจ “ชีพจรมังกรอะไรกัน?”
เน่าเน่าตบหน้าผากทีหนึ่ง “ลืมบอกพวกพี่ไปเลย สือเอ้อร์บอกว่าเธอได้ยินคุณอาลี่โทรคุยกับคนอื่น ขุมสมบัตินั้นมีโอกาสมากที่จะเป็นชีพจรมังกร ดังนั้นผู้ชายสองคนที่อยู่ด้านหลังถึงสะกดรอยตามมาอย่างไม่ลดละไงล่ะ!”
เสี่ยวเป่าเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เขานึกถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่สิ่งเดียวที่นึกไม่ถึงคือชีพจรมังกร
ถ้าหากเป็นชีพจรมังกรจริง ๆ งั้นก็อธิบายพฤติกรรมของกลุ่มมังกรได้แล้ว
ชีพจรมังกรไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ กลุ่มมังกรน่าจะมาตามสืบดูว่าเขาจะไปตามหาที่ซ่อนสมบัติหรือเปล่า หากชั่วชีวิตนี้เขาไม่ไปตามหาขุมสมบัติ กลุ่มมังกรก็จะแค่จับตาดูแต่ไม่ทำอะไรเขาทั้งนั้น
ส่วนรูปอาวุธรุ่นใหม่ที่ถูกเล่าลือจนแพร่หลายในวงกว้างพวกกลุ่มมังกรไม่ได้สนใจเลยสักนิด หรือเดิมทีขุมสมบัติอาจจะไม่มีอาวุธใหม่อะไรทั้งนั้น แต่แค่มีคนจงใจกุข่าวขึ้นมาเท่านั้น
แต่ใครกันที่จงใจปล่อยข่าวแบบนี้?
เสี่ยวเป่ายังไม่เข้าใจในชั่วขณะ เขาอดหันไปมองเสี่ยวจูไม่ได้เพราะในกลุ่มของพวกเขามีเพียงเสี่ยวจูเท่านั้นที่ไอคิวเทียบกับเขาได้
เสี่ยวจูยักไหล่ “ตอนนี้ฉันก็ยังคิดไม่ออก รอถึงปลายทางคงรู้แล้วล่ะ”
เสี่ยวเป่าอมยิ้ม ก็ใช่ ตอนนี้คิดไปก็ไม่มีประโยชน์ พอไปถึงขุมซ่อนสมบัติก็รู้เองว่ามันอย่างไรกันแน่
สือเอ้อร์เขกศีรษะของเน่าเน่าทีหนึ่งแล้วพูดเยาะเย้ยว่า “มันจะเป็นแค่มังกรตัวเดียวได้อย่างไร อันที่จริงชีพจรมังกรคือจุดรวบรวมจิตวิญญาณ ชีพจรมังกรสำคัญของฮวาเซี่ยอยู่ที่เมืองหลวง ส่วนรายละเอียดเป็นความลับระดับสูง AAA พ่อของฉันรู้แต่ว่าแม้กระทั่งแม่เขาก็ยังไม่บอกด้วยซ้ำ ปากปิดแน่นเชียวล่ะ”
เน่าเน่าไม่เข้าใจ “เธอหมายถึงประเทศของเราไม่ได้มีชีพจรมังกรเส้นเดียวแต่มีหลายเส้นงั้นเหรอ? งั้นหมายความว่ามีจักรพรรดิหลายองค์หรือไง?”
สือเอ้อร์เขกศีรษะเขาไปอีกที “จะเป็นไปได้อย่างไร จักรพรรดิมีได้เพียงองค์เดียว ชีพจรมังกรแต่ละเส้นใช่ว่าจะเข้ากับจักรพรรดิได้เพียงองค์เดียวสักหน่อย ความจริงแล้วในสมัยโบราณชีพจรมังกรเหล่านั้นจะคอยปกป้องคุ้มครองเหล่าอ๋องทั้งหลาย ตัวอย่างเช่นมีชีพจรเส้นหนึ่งในจวนจิ้งอ๋องแห่งเมืองกุ้ย ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสิ้นราชวงศ์อ๋องนี้ไปแล้ว แต่ชีพจรมังกรจะดีหรือร้ายย่อมส่งผลต่อชีพจรมังกรหลักด้วย”
เธอชะงักไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “เปรียบเหมือนแม่น้ำแยงซีเกียงเป็นสายหลักแตกแขนงเป็นแม่น้ำสายย่อยมากมาย น้ำจากแม่น้ำสายย่อยจะไหลลงสู่แม่น้ำแยงซีเกียงสายหลัก หากวางยาพิษในแม่น้ำสายย่อย นานวันเข้าก็จะส่งผลต่อคุณภาพของน้ำในสายหลักอย่างแน่นอนซึ่งเหตุผลเดียวกับชีพจรมังกร หากชีพจรมังกรย่อยเสียหาย ชีพจรมังกรหลักก็จะได้รับผลกระทบและส่งผลต่อโชคของประเทศ”
หลังจากที่พูดยาวเหยียดสือเอ้อร์ก็คอแห้งผากกระหายน้ำ เธอรีบกรอกน้ำเข้าปากหลายอึกใหญ่ถึงรู้สึกชุ่มชื่นและสบายขึ้นเยอะ
“ฉันเข้าใจแล้ว หมายความว่าไม่ว่าชีพจรมังกรเส้นไหนก็ต้องปกป้องมันให้ดี อย่าทำให้เสียหายเป็นอันขาดถูกต้องไหม?” เน่าเน่าเองก็ถึงบางอ้อในฉับพลัน
“ใช่ ความหมายประมาณนั้นแหละ” สือเอ้อร์ลูบศีรษะเน่าเน่าเหมือนลูบหัวลูกสุนัขก็ไม่ปานเลยถูกเน่าเน่ามองบนใส่
เล่อเล่อกลับยังคงมีคำถาม ”ทำไมหนิงเฉินเซวียนถึงต้องสร้างชีพจรมังกรขึ้นมา? ต่อให้เขาสร้างขึ้นมาก็ใช่ว่าจะเป็นจักรพรรดิได้สักหน่อย!”
ถ้าจะสร้างก็ต้องสร้างชีพจรมังกรหลักอย่างในเมืองหลวงสิ ชีพจรมังกรในที่ห่างไกลอย่างภูเขาสือว่าน นอกจากซับพลังจิตวิญญาณแล้วยังทำอะไรอีกได้?
เสี่ยวเป่าที่คิดไตร่ตรองอย่างเงียบ ๆโดยไม่พูดอะไร ทว่าจู่ ๆก็สีหน้าเปลี่ยน “พวกเราต้องเร่งเดินทางแล้ว!”
“ทำไมล่ะ?”
เสี่ยวเป่าขมวดคิ้วแน่น เมื่อครู่เขารู้สึกใจหวิวขึ้นมาฉับพลันและรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีนักซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับชีพจรมังกร
“มีความเป็นไปได้มากที่หนิงเฉินซวนต้องการทำลาย!” เสี่ยวเป่าคาดเดา
ในเมื่อสามารถสร้างฐานระเบิดขนาดใหญ่ได้อย่างลับ ๆ อีกอย่างแม้แต่ชีวิตของลูกชายแท้ ๆยังไม่แยแส หนิงเฉินเซวียนที่ต้องการทำลายทางตะวันตกเฉียงใต้ให้พังพินาศย่อยยับแบบนี้ไม่ใช่คนปกติเลยสักนิด
ความคิดของคนบ้าจะเอามาเปรียบเทียบกับคนปกติไม่ได้ เสี่ยวเป่ารู้สึกว่าหยกแขวนที่หนิงเฉินเซวียนทิ้งไว้ไม่ใช่เรื่องดีเลย
………………………………………….