ตอนที่ 3003 น้ำท่วม
“หรือว่านี่เป็นฐานใหญ่ของสัตว์ประหลาดพวกนั้น?” เล่อเล่อถาม
เสี่ยวจูพยักหน้า “น่าจะใช่ ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้ำนี้ลึกแค่ไหน แต่เดาว่าคงไม่เล็กและพอจะรองรับสัตว์ประหลาดหลายหมื่นตัวหรืออาจจะมากกว่านั้นได้”
“ไม่สิ…ก่อนหน้านี้มีสัตว์ประหลาดที่เข้ามาจากข้างนอกด้วยอีกเยอะซึ่งไม่ได้ออกจากถ้ำนี้เสียทั้งหมด ไม่แน่สัตว์ประหลาดอาจมีฐานใหญ่สองที่!” เจสันเสนอความคิดเห็นที่ต่างออกไป
เสี่ยวเป่าหยุดเดินกวาดตาสังเกตรอบตัวทีหนึ่ง “ถ้ำนี้เชื่อมไปได้ทุกทิศทางแถมมีลม บ่งบอกว่าไม่ได้มีทางออกแค่ทางเดียว บางทีอีกทางออกหนึ่งอาจจะอยู่นอกหุบเขา”
“เป็นไปได้ สัตว์ประหลาดพวกนั้นไม่สามารถปรากฏตัวใต้แสงอาทิตย์เป็นเวลานานได้ พวกมันเหมาะกับการใช้ชีวิตอยู่ในที่มืดอับชื้น มีความเป็นไปได้สูงว่าช่วงกลางวันจะซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ ส่วนกลางคืนจะออกไปหาอาหาร!” เสี่ยวจูอธิบาย
สองวันนี้เขาสังเกตเห็นว่าสัตว์ประหลาดนั้นกลัวแสง แถมอาหารของพวกมันก็เป็นเลือดเหมือนผีดูดเลือดแต่ไม่ใช่ผีดูดเลือดแน่นอน ผีดูดเลือดถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต สัตว์ประหลาดพวกนี้เป็นร่างที่ตายไปแล้ว พวกมันเป็นแค่เจ้าของร่างกายที่พิษกู่อาศัยอยู่เท่านั้น อีกทั้งไม่มีสติสัมปชัญญะเป็นของตัวเองด้วย
เสี่ยวจูพูดต่อ “งั้นแบบนี้ก็ถูกละ ฉันได้ยินมาว่าสัตว์ประหลาดเคลื่อนไหวตอนกลางคืน หลายวันนี้จู่โจมเราตอนกลางวันน่าจะมีสาเหตุบางอย่าง”
“เดาว่าคงเป็นเหตุผลที่หนิงเฉินเซวียนพยายามใช้แผนหลอกล่อเรามาที่นี่สินะ!” เสี่ยวจูยิ้มจาง ๆ
เล่อเล่อไม่เข้าใจ “สาเหตุอะไร? ความหมายคือหนิงเฉินเซวียนวางกับดักใส่เราเหรอ?”
“ใช่แล้ว ที่นี่ไม่มีสมบัติอะไรหรอก และไม่มีภาพร่างอาวุธใหม่อะไรทั้งนั้น ที่นี่มีแต่สัตว์ประหลาดที่เขาสร้างขึ้นมา แล้วก็แผนลับของเขา” น้ำเสียงของเสี่ยวจูนานทีจะฟังดูเคร่งเครียดสักที
“เขาตัวสลายกลายเป็นเศษขี้เถ้าไปแล้วยังจะมีแผนลับอะไรได้อีก?” เล่อเล่องุนงงกว่าเดิม
เหตุผลที่คนเลววางแผนย่อมหวังในผลประโยชน์ น้อยคนนักที่จะทำในสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อทั้งผู้อื่นและตัวเอง คนที่ตายไปแล้วอย่างหนิงเฉินเซวียนยังจะสร้างผลประโยชน์อะไรแก่ตนได้อีกล่ะ?
เสี่ยวจูหยักไหล่ “ตอนนี้ยังไม่รู้ ค่อย ๆดูไปแล้วกัน”
“ไม่สิ…พวกนายได้ยินเสียงน้ำไหลไหม?” เน่าเน่าเงี่ยหูฟัง
ทุกคนหยุดเคลื่อนไหวทุกอย่างแล้วกลั้นหายใจ เป็นไปตามคาดเมื่อได้ยินเสียงน้ำหลากที่ไหลดังขึ้นเรื่อย ๆ
พลันเน่าเน่าก็สีหน้าเปลี่ยนไปแล้วร้องขึ้น “แย่แล้ว น้ำไหลมาทางเรา!”
เพิ่งสิ้นเสียงของเขาก็มีกระแสน้ำเชี่ยวพัดพามาทางพวกเขาทันทีราวกับคลื่นกระทบฝั่ง ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัวดีก็จมอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำหลาก ดีที่ถ้ำนี้ลึกพอเลยมีช่องว่างราวหนึ่งเมตร
“ให้ตาย…น้ำนี้เย็นมาก เย็นจัดยิ่งกว่าน้ำที่ขั้วโลกเหนือซะอีก!” เน่าเน่าสำลักน้ำทีหนึ่งอย่างไม่ทันระวังตัว ทำเอาตัวเองเกือบแข็งไปทั้งปาก
เล่อเล่อรีบยกเสวี่ยเอ๋อร์ขึ้นเหนือศีรษะ เสวี่ยเอ๋อร์ไม่กลัวหนาวแต่มันอยู่ในน้ำเป็นเวลานานไม่ได้ ฉิวฉิวเองก็กระโดดขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะของเน่าเน่าตั้งแต่แรกแล้ว ท่าทางใจเย็นไม่ลนลานสักนิด
เสี่ยวจูก็ใจเย็นไม่แพ้กัน เขาหยิบแพที่ทำเองกับมือออกมาจากกระเป๋าวิเศษของเขาขนาดเท่าลูกเป็ดตัวหนึ่ง แต่สะบัดทีก็จะพบว่าขนาดแพไม่ได้เล็กเลย
“เติมลมอย่างไร? สลับกันเป่าเหรอ?” ทุกคนมองแพเหี่ยวด้วยความสงสัย นี่ต้องเสียเวลามากแค่ไหนกว่าจะเติมลมให้เต็มได้?
“น้ำลายจะเปื้อนแพของฉันเอาได้”
เสี่ยวจูเบะปากน้อย ๆอย่างนึกรังเกียจแล้วหยิบกล่องเล็กอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าซึ่งมีทรงสี่เหลี่ยมรูปร่างไม่ใหญ่มากลักษณะคล้ายพาวเวอร์แบงก์ เสี่ยวจูหยิบหลอดเล็กอันหนึ่งออกจากกล่องแล้วเสียบเข้ารูของแพ จากนั้นก็กดปุ่มเปิดปิดปุ่มหนึ่งบนหน้ากล่อง
“ฟู่ว…”
เพียงชั่วอึดใจเดียวแพยางเหี่ยวย่นในทีแรกก็เด้งขยายพองตัวออกอย่างแรงและเต็มไปด้วยลม เสี่ยวจูกดแพทีหนึ่งอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ดึงหลอดออกแล้วปิดรูอย่างดี
……………………………
ตอนที่ 3004 ตัวอยู่ในชีพจรมังกร
“ขึ้นไปเถอะ!”
เสี่ยวจูปีนขึ้นแพอย่างทุลักทุเลก่อนจะตามด้วยคนอื่น ๆ แพของเขารองรับได้ถึงสิบคนราวกับเรือลำเล็กก็ไม่ปาน พวกเขามีกันเจ็ดคนบวกเสวี่ยเอ๋อร์ก็ยังมีที่เหลือเฟือ
“ให้ตาย…ด้านหลังมีสัตว์ประหลาด!” เจสันมองไปด้านหลังอย่างหวาดกลัว
ในน้ำมีสองชีวิตที่กำลังกระเสือกกระสนอยู่ ดูท่าทางจะเหนื่อยน่าดู
เสี่ยวเป่ามองไปยังเสี่ยวจูแวบหนึ่ง เรือเป็นของเขา ฉะนั้นต้องให้เสี่ยวจูตัดสินใจเอง
เสี่ยวจูยักไหล่ “พวกพี่ตัดสินใจเถอะ อย่างไรเสียก็ยังมีที่ว่างเหลือ”
เสี่ยวเป่าอมยิ้ม พอพวกหลงเฟิงว่ายมาก็ช่วยดึงพวกเขาขึ้นเรือ
“ขอบคุณ…” ทั้งคู่กล่าวขอบคุณ คุณสมบัติด้านการรักษาความอุ่นของเนื้อผ้าพวกเขาไม่ดีเท่าของพวกเสี่ยวเป่า ตอนอยู่ในน้ำหนาวเอาเรื่องเลยทีเดียว
เน่าเน่าพูดประชด “ในที่สุดก็ยอมเปิดเผยโฉมหน้าสักทีนะ ฉันนึกว่าพวกนายจะหลบไปจนวันที่ฟ้าดินสลายซะอีก!”
พวกหลงเฟิงก้มหน้างุดอย่างลำบากใจ ไม่คิดว่าความเคลื่อนไหวของพวกเขาจะถูกจับได้ตั้งแต่เริ่มแล้ว
เสี่ยวเป่าส่งสายตาให้เน่าเน่าทีหนึ่ง เน่าเน่าได้แต่ปิดปากเงียบแต่โดยดี เขาเกลียดคนที่ทำตัวลับ ๆล่อ ๆอยู่ลับหลังที่สุด ไม่ตรงไปตรงมาสักนิด ถ้าไม่เห็นแก่ลี่จิ่วเขาคงลงมือแต่แรกแล้ว!
เรือลำเล็กไม่จำเป็นต้องมีคนคอยพายเพราะมันไหลไปตามกระแสน้ำอัตโนมัติด้วยความเร็วที่ไม่ช้ามากไปในถ้ำที่มืดมน เหนือศีรษะเป็นหินงอกหินย้อยที่ประกายแสงแพราวพราว
“ไม่สิ…ตอนนี้เรากำลังไหลจากบนไปล่างตามกระแสน้ำ บ่งบอกว่าน้ำพวกนี้มีคนจงใจปล่อยมันลงมา” เล่อเล่อตบหน้าขาทีหนึ่ง เสียงดังก้องเป็นพิศษเมื่ออยู่ชั้นใต้ดิน
“ต้องเป็นสัตว์ประหลาดพวกนั้นแน่!” เน่าเน่าแค่นเสียงทีหนึ่ง
“ไหนว่าสัตว์ประหลาดไม่มีสติสัมปชัญญะไง? ทำไมพวกมันถึงคิดจะปล่อยน้ำมาฆ่าเราได้ล่ะ?” เล่อเล่อเอ่ยท้วง
เน่าเน่าไร้คำตอบโต้ในฉับพลัน
เสี่ยวเป่ากล่าว “มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นคำสั่งจากหัวหน้าของพวกมัน ฉันสงสัยว่าหัวหน้าคนนี้ต้องมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน สัตว์ประหลาดพวกนี้เคลื่อนไหวกันเป็นกลุ่ม ฉะนั้นน่าจะแอบบงการอยู่ลับ ๆ”
ทุกคนเงียบจนบรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงกระแสน้ำไหล
สัตว์ประหลาดในยามไร้สติยังน่ากลัวขนาดนี้ ถ้ามีสติจะรับมือยากขนาดไหน!
เสี่ยวเป่ามองไปยังพวกหลงเฟิง “ตอนนี้เราอยู่ในแอ่งชีพจรมังกรแล้วใช่ไหม?”
พวกหลงเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไป แม้ไม่ได้ตอบคำถามแต่ก็บ่งบอกทุกอย่างแล้ว เสี่ยวเป่ายิ้มอย่างดีใจ เขาไม่ได้เดาผิดจากที่คาดจริง ๆด้วย
สมบัติที่ว่าเป็นแค่คำหลอกลวงทั้งเพ เส้นทางแผนที่ในหยกเจ้าแม่กวนอิมที่หนิงเฉินเซวียนทิ้งไว้ให้ความจริงเป็นเส้นทางของชีพจรมังกร รวมถึงสัตว์ประหลาดเหล่านั้น สิ่งที่เสี่ยวเป่าคิดไม่ตกคือเหตุใดหนิงเฉินเซวียนต้องให้เขามาที่นี่ด้วย?
บางทีเมื่อไปถึงปลายทางอาจจะรู้สักทีสินะ!
“ชีพจรมังกรเป็นแบบนี้เหรอ? นี่มันแค่แม่น้ำชั้นใต้ดินเฉย ๆไม่ใช่หรือไง?” เล่อเล่อมองผิวน้ำท่ามกลางความมืดอย่างไม่เชื่อหู นี่มันเกินความคาดหมายของเธอไปแล้ว
หลงถูขมวดคิ้วแน่นพลางกล่าวปฏิเสธ “ชีพจรมังกรที่นี่ค่อนข้างแปลก ชีพจรมังกรเป็นแดนมงคลของโลกมนุษย์ เดิมทีควรเต็มไปด้วยพลังดั่งอากาศอบอุ่นวันในฤดูใบไม้ผลิ แต่ตอนนี้กลับมืดมนเย็นยะเยือกมีแต่ความอับชื้นไปทั่วทุกหนแห่ง”
“เพราะชีพจรมังกรถูกทำลายแล้ว!” เสี่ยวเป่าเอ่ยเสียงนิ่ง
หลงเฟิงกับหลงถูสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากเอ่ยขึ้นเป็นเสียงเดียวกันว่า “ชีพจรมังกรเกี่ยวโยงถึงความเป็นความตายของประเทศ ต่อให้เป็นแค่ชีพจรมังกรที่เดียวก็จะสร้างผลกระทบไม่น้อยเหมือนกัน หนิงเฉินเซวียนจิตใจช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ นี่เขาคิดจะให้คนทั้งประเทศตายไปพร้อมกับเขางั้นเหรอ!”
“รีบร้อนอะไร จัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้ไปซะก็ไม่เป็นไรแล้ว!” เน่าเน่ายอกย้อนกลับไปประโยคหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์
แค่ชีพจรมังกรเดียวเอง หากจะลามไปทั่วทั้งประเทศคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสักปีหนึ่ง มันจะเร็วขนาดนั้นได้อย่างไรกัน ในเวลาหนึ่งปีนี้พอสำหรับให้พวกเขากำจัดสัตว์ประหลาดแล้วล่ะ
“ตู้ม…กรรซ์…”
เสียงน้ำดังขึ้นปนเสียงคำรามแหบพร่า เรียกให้ทุกคนระวังตัวแล้วหยิบเอาอาวุธออกมากันถ้วนหน้า
……………………