ตอนที่ 3029 เดาถูกแล้ว
มนุษย์โคลนนิ่งยิ้มแปลก ๆ ใบหน้าครึ่งซีกบวมเป่งแต่เขาเหมือนไม่รู้สึกอะไร ความบ้าคลั่งประกายวาบในแววตา
เสี่ยวจูพูดแทรก “เลือดของเขาใช้ไม่ได้ผล!”
“ทำไมล่ะ? เขาโคลนนิ่งมาไม่ใช่เหรอ?”
“เขาไม่ได้ก็อบปี้ดีเอ็นเอของหนิงเฉินเซวียนมาทั้งหมด เมื่อกี้ฉันเพิ่งวินิจฉัยเลือดของเขาพบว่าดีเอ็นดีของเขามีจุดบกพร่องอย่างเห็นได้ชัด พูดง่าย ๆก็คือหมอนี่ไม่ใช่มนุษย์ ดีเอ็นเอของเขาไม่ได้อยู่ในขอบเขตของมนุษย์เลย” เสี่ยวจูอธิบาย
“แล้วเขาเป็นอะไร?” ทุกคนนิ่ง ทั้งที่ดูเหมือนมนุษย์แต่ทำไมไม่ใช่มนุษย์ล่ะ?
เสี่ยวจูยักไหล่ “พูดยาก น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่อยู่ระหว่างสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกับมนุษย์ละมั้ง ไว้ค่อยอธิบายวันหลัง ตอนนี้คงอธิบายให้รู้เรื่องยาก”
“แล้วที่มันพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?ต้องเป็นเลือดของหนิงเฉินเซวียนถึงจะถอนพิษได้ใช่ไหม?” เสี่ยวเป่าถามด้วยสีหน้าร้อนใจ
ถ้ามีวิธีนี้เพียงวิธีเดียวละก็ หรือว่าพวกเขาต้องปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าต่อหน้าโดยทำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรือ?
“ตามหลักการคงเป็นแบบนั้น เมื่อกี้ฉันลองวินิจฉัยดูแล้วจุลินทรีย์ในน้ำเกิดการแตกตัวไวจนน่าตกใจ ต่อให้ใช้ความร้อนอุณหภูมิสูงก็ฆ่าพวกมันไม่ได้ มันแข็งแกร่งมาก” เสี่ยวจูบอก
“ไม่มีวิธีฆ่าพวกมันสักนิดเลยเหรอ?”
“มีสิ ก็เซรุ่มเลือดของหนิงเฉินเซวียนไง มันเป็นคู่ปรับของเจ้าเชื้อไวรัสล่ะ”
เล่อเล่อถลึงตาใส่เสี่ยวจูแวบหนึ่ง “นายพูดหรือไม่พูดก็ไม่ได้ต่างกันเลย หนิงเฉินเซวียนสลายเป็นขี้เถ้าไปแล้วจะเอาเซรุ่มเลือดมาจากไหน? นายรีบหาวิธีอื่นสิ!”
เธอมั่นใจในตัวเสี่ยวจูว่าจะต้องหาวิธีอื่นได้แน่ ๆ!
มนุษย์โคลนนิ่งหัวเราะอย่างได้ใจ “ไม่มีวิธีอื่นแล้ว พวกแกอย่าคิดให้เปลืองสมองเลย!”
เสี่ยวจูปรายตามองเขาอย่างเย็นชาวูบหนึ่ง “ก็ใช่ว่าจะไม่มีซะทีเดียว”
เขามองเสี่ยวเป่า “ขอเก็บเลือดหน่อย!”
เสี่ยวเป่ายื่นแขนออกมาอย่างไม่ลังเล เสี่ยวจูสูบเอาเลือดไปครึ่งกระบอกแล้วเริ่มแยกเซรุ่มเลือดออกมา เขาต้องพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนั่น ถ้าเป็นจริงการถอนพิษก็ไม่ใช่ปัญหา
ถ้าเขาเดาผิดงั้นเขาคงหมดหาทางแล้วจริง ๆ แต่ไม่ต้องกังวลอะไร คนในครอบครัวเขายังหาวิธีปกป้องได้ อื้ม…หรือต่อให้หาภรรยาหรือรอมีลูกเขยเพิ่มมาอีกสักคนก็ไม่มีปัญหา
“เขาเป็นแค่หลานของหนิงเฉินเซวียน ห่างกันตั้งสองรุ่น เลือดของเขาไม่ได้ผลหรอก!” มนุษย์โคลนนิ่งพูดเย้ยหยัน
“หุบปาก!”
เล่อเล่อตบหน้าไปอีกฉาดใหญ่จนแก้มบวมทั้งสองข้าง
เซรุ่มเลือดที่เสี่ยวจูทำการแยกออกมา เขาค่อย ๆหยดมันลงในน้ำทีละนิด แล้วเริ่มสังเกตการณ์ด้วยใบหน้าจดจ่อ ทุกคนก็เผลอกลั้นหายใจไปตาม ๆกันเพราะกลัวจะขัดระบบความคิดของเสี่ยวจู
เวลาผ่านพ้นไปนาทีแล้วนาทีเล่า บรรยากาศเงียบฉี่มีเพียงเสียงของสายน้ำที่ระดับพื้นผิวน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆจนมันล้นทะลักหลุมไปหลายหลุมแล้ว
และในที่สุด–
“ถูกต้องแล้ว…” สีหน้าเซอร์ไพรส์ของเสี่ยวจูส่งผลทำให้ทุกคนพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่เล่อเล่อยังกังวลไม่หาย “น้ำเยอะขนาดนี้ ต่อให้สูบเอาเลือดทั้งตัวพี่เสี่ยวเป่ามาใช้ก็ไม่พอหรอก!”
ถ้าการถอนพิษต้องแลกด้วยชีวิตของพี่เสี่ยวเป่า เล่อเล่อก็อยากเห็นแก่ตัวสักครั้ง เธอไม่อยากสูญเสียพี่เสี่ยวเป่าไป ต่อให้ต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกันคนทั้งโลกก็ตาม!
“ไม่ต้องเอาเลือดมาทั้งตัวหรอก ขอแค่มีตัวอย่างเซรุ่มเลือดของพี่เสี่ยวเป่าฉันก็ก็อบปี้มันได้!” เสี่ยวจูยิ้มอย่างมั่นใจ
อาร์คีมีดีสเคยกล่าวไว้ว่าขอแค่มีแกนหลักแก่เขาเพียงหนึ่งจุด เขาก็สามารถแบกโลกทั้งใบได้แล้ว
เขากลับตรงกันข้าม ขอเพียงมีหนึ่งตัวอย่างแก่เขา เขาก็สามารถฟื้นฟูโลกทั้งใบได้
“แต่อุปกรณ์มีไม่ครบ ฉันติดต่อพ่อก่อน ให้เขาส่งกำลังหนุนมา!”
เสี่ยวจูล้วงโทรศัพท์ออกมา พอเห็นเน่าเน่ายังคงวุ่นอยู่กับการขุดหลุมก็หยิบระเบิดเชอร์รี่ออกมาเงียบ ๆ “ถอยไป!”
เน่าเน่าถอยไปอีกฝั่ง เสี่ยวจูโยนระเบิดไป ก่อนจะตามด้วยเสียงดังสนั่น จากนั้นหลุมใหญ่ก็ปรากฏบนพื้นดินโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
…………………………….
ตอนที่ 3030 ต้องการพลาสมาเลือดจำนวนมาก
เน่าเน่ายืนมองหลุมลึกตรงหน้าแล้วชะงักไปพักใหญ่ จากนั้นก็ตวาดเสียงใส่เสี่ยวจูอย่างหงุดหงิด “ทำไมไม่รีบโยนแต่แรก?”
ทำเขาเสียแรงตั้งมากจนเหม็นเหงื่อไปทั้งตัวเลย
“ก็มองไม่เห็นนี่!” เสี่ยวจูตอบกลับเสียงเรียบประโยคเดียว เขารู้สึกงงงวยกับอาการเดือดดาลของเน่าเน่าเหลือเกิน
เขาดูสัญญาณโทรศัพท์แวบหนึ่ง มีเพียงน้อยนิดแต่น่าจะโทรติดได้
เหยียนหมิงซุ่นกับเฮ่อเหลียนเช่อเดินทางมาถึงภูเขาสือว่านเป็นที่เรียบร้อยและกำลังเดินตามเส้นทางของพวกเสี่ยวเป่าพอดี แถมยังอยู่ตรงเนินเขาที่ฝังศพสายลับคนแรกที่ตายด้วยฤทธิ์ของงูพิษ
“ตรงนี้มีหลุมหนึ่ง แถมยังมีรอยเท้าเต็มไปหมดด้วย” เหยียนหมิงซุ่นสังเกตเห็นหลุมใหญ่สำหรับใช้ฝังศพสายลับผู้นั้น
ศพในหลุมถูกพวกสัตว์ประหลาดขนไปแล้วและกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดเป็นที่เรียบร้อย
เฮ่อเหลียนเช่อย่อตัวดมกลิ่นดินตรงขอบหลุมก็ทำหน้าแปลก ๆ “ทำไมมีกลิ่นเน่าของศพล่ะ? กลิ่นศพเหม็นเหมือนเน่ามาแล้วหลายปีด้วย”
เหยียนหมิงซุ่นก็อยากดมด้วยอีกคน ทว่าโทรศัพท์เขาก็แผดเสียงดังพอดีซึ่งโทรมาจากเสี่ยวจูนั่นเอง
“เสี่ยวจูโทรมาแล้ว เงียบ!”
เหยียนหมิงซุ่นยกมือทำท่าให้เงียบ สีหน้าสดใสยิ้มร่า แบบนี้บ่งบอกว่าตอนนี้เด็ก ๆต้องปลอดภัยแน่นอน
“คุณพ่อ สัญญาณไม่ค่อยดี ผมจะพูดแล้วพ่อฟังนะ…เส้นลองจิจูดที่ 100.3 องศาตะวันออก เส้นละติจูดที่ 25.4 องศาเหนือ แล้วเอาของที่ผมบอกไปมาด้วย…ยิ่งเร็วยิ่งดี…”
เสี่ยวจูพูดอย่างรวดเร็วโดยแจ้งพิกัดทางภูมิศาสตร์ตรงที่เขาอยู่รวมถึงสิ่งของที่เขาต้องการไป นับว่าโชคดีไม่หยอก พอเขาพูดจบก็มีเสียงดังตู๊ด ๆดังแว่วออกมาจากปลายสายสัญญาณขาดหายไปพอดี
เหยียนหมิงซุ่นกดรับสายก็กดลำโพงไปพร้อมกัน รายการที่เสี่ยวจูแจ้งมารวมถึงพิกัดทางภูมิศาสตร์เฮ่อเหลียนเช่อจดไว้หมดแล้ว
“ต้องการพลาสมาเยอะขนาดนี้ แถมยังเป็นพลาสมาของเลือดกรุ๊ป O อีกต่างหาก แย่แล้ว…คงไม่ใช่เสี่ยวเป่าเป็นอะไรไปหรอกนะ เสี่ยวเป่ากรุ๊ปเลือด O…” เฮ่อเหลียนเช่อตกใจยกใหญ่
“นายโง่หรือไง พลาสมาที่เสี่ยวจูต้องการได้เลือดสามเท่าของลูกชายนายแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆต้องใช้พลาสมาเยอะขนาดนี้เชียวเหรอ?” ลี่จิ่วมองเหยียดใส่เขา
คนสมองหมู รู้จักแต่ใช้กำลัง
เฮ่อเหลียนเช่อพรูลมหายใจออกอย่างโล่งอก เขาคร้านจะคิดเล็กคิดน้อยกับท่าทีของหมอนี่แล้ว ขอแค่ลูกชายไม่เป็นไรก็พอ
“ไปขนเลือดจากคลังของมณฑลอวิ๋นที่อยู่ใกล้ที่สุดมา ถ้าไม่พอก็ประกาศขอรับบริจาคจากชาวบ้าน!” เหยียนหมิงซุ่นตัดสินใจฉับไวหันหลังเดินกลับทางเดิม
ทางฝั่งเสี่ยวจูต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่นอน ไม่อย่างนั้นเสี่ยวจูคงไม่โทรมาขอความช่วยเหลือหรอก
จะว่าไปแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวจูขอความช่วยเหลือจากเขาเลยนะ!
“ฉันโทรหาคลังเลือดก่อนจะได้ให้เขารีบเตรียมการ!” ลี่จิ่วเองก็พอจะคาดการณ์ถึงความรุนแรงของปัญหาได้ แต่เขากลับคิดหาสาเหตุไม่เจอ ถ้าไม่ได้บาดเจ็บแล้วต้องเป็นเพราะสาเหตุอะไรถึงจะใช้พลาสมามากมายขนาดนี้?
หรือว่าเพื่อแยกเอาเซรุ่มเลือดงั้นหรือ?
มีคนโดนวางยาพิษหรือเปล่านะ?
ลี่จิ่วปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเขาเองก็นึกถึงเรื่องเชื้อไวรัสขึ้นได้ คนบ้าอย่างหนิงเฉินเซวียนมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างเชื้อไวรัสชนิดใหม่ออกมาเพื่อทำลายโลกใบนี้!
“โทรหาเสี่ยวจู ฉันมีเรื่องจะถามเขา!”
“ไม่มีสัญญาณแล้ว!”
เหยียนหมิงซุ่นโทรติดกันหลายสายก็โทรไม่ติดจึงต้องยอมแพ้แต่โดยดี
เสี่ยวจูวางสายไปก็มองพื้นผิวน้ำที่กำลังสูงขึ้นอย่างใจเย็นพลางกล่าว “พ่อน่าจะต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองวันกว่าจะมาถึง พวกเราต้องหาทางแยกน้ำที่เป็นมลพิษพวกนี้ออกมาก่อน”
น้ำมาจากชั้นใต้ดิน ถ้าไม่แยกน้ำก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อให้มีพลาสมาเลือดมากแค่ไหนก็ไม่พอใช้
เสี่ยวจูหยิบเอาระเบิดเชอร์รี่อีกหนึ่งลูกมาโยน พอเกิดเสียงดังกระหึ่มก็เกิดหลุมลึกอีกหนึ่งหลุม กลางหุบเขามีแต่หลุมมีแต่บ่อ ถ้าให้หมอนี่ระเบิดต่อไปเรื่อย ๆเกรงว่าคงไม่เหลือแม้แต่พื้นดินให้ยืน
เสี่ยวเป่าเข้าใจความหมายของเสี่ยวจูเลยรีบไปขุดร่องน้ำขยายความกว้างในทันที น้ำในบ่อเล็กทยอยไหลเข้าหลุมลึก ส่วนน้ำตรงนั้นก็เริ่มลดลงช้า ๆ สุดท้ายก็เห็นเพียงเศษก้อนหินเกลื่อนอยู่ใต้ก้นบ่อ
…………………