อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1706 ตัวต่อตัวกับเสือเมฆวิญญาณทอง
“นี่เราถูกพบแล้วจริงๆหรือ?”
จางเซวียนหรี่ตาด้วยความประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้ การสกัดกั้นมิติของเขาทำให้เขาเข้าสู่ปราการป้องกันตัวของเผ่าพันธุ์ปีศาจได้โดยไม่มีใครรู้ แต่ใครจะคิดว่าไม้ตายของเขาจะมาล้มเหลวที่นี่!
หรือว่าจมูกของอีกฝ่ายใช้การได้ดีขนาดนั้นจริงๆ?
แม้เสือเมฆวิญญาณทองจะพยายามล่อจางเซวียนให้ออกมา แต่เขาก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่จุดเดิม
เสือเมฆวิญญาณทองคำรามตอบโต้ความเงียบของเขา “ในเมื่อคุณไม่ยอมออกมา ฉันก็ต้องใช้กำลังละนะ!”
มันคำรามโหยหวน จากนั้นก็กวัดแกว่งกรงเล็บและปล่อยกระแสดาบฉีไปยังทิศทางที่จางเซวียนอยู่
กระแสดาบฉีนี้มีเจตนาสังหารซึ่งมีองค์ประกอบของโลหะหลอมรวมอยู่ มันฉีกมิติที่อยู่ตรงหน้าจางเซวียนจนขาดเป็นชิ้นๆ
ถึงจางเซวียนจะสกัดกั้นมิติรอบตัวเขาไว้แล้ว แต่ถ้าการโจมตีนั้นรุนแรงมากพอ ก็สามารถฉีกกระชากมิติและทำให้เขาบาดเจ็บได้
ทันทีที่จางเซวียนเห็นทิศทางของกระแสดาบฉี ก็รู้ทันทีว่าเสือเมฆวิญญาณทองไม่ได้พูดเล่น มันพบตัวเขาแล้วจริงๆ
จางเซวียนถอนหายใจอย่างจนปัญญา จากนั้นก็ปลดปล่อยการสกัดกั้นมิติและลุกขึ้นยืน
ฟึ่บ!
ในตอนนั้นเอง เวลาก็ดูเหมือนจะช้าลงสำหรับเขา แต่ถึงอย่างนั้น จางเซวียนก็ยังทำได้แค่หลบกระแสดาบฉีพ้นไปแค่เส้นยาแดงผ่าแปด จางเซวียนเกาหัวอย่างจนปัญญา เขาจ้องมองอสูรสวรรค์ทั้ง 5 ที่อยู่ตรงหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าผมจะบอกว่าผมแค่ผ่านมาและไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับคนพวกนั้น พวกคุณจะเชื่อไหม?”
เขาไม่ได้เป็นพวกเดียวกับคนกลุ่มนั้นจริงๆ…ถึงจะอยากจับตัวเสือเมฆวิญญาณทองเหมือนกันก็เถอะ
แน่นอนว่าจางเซวียนไม่โง่พอจะสู้ สิ่งที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าเขาคืออสูรขั้นชั่วกัลปาวสาน โลกจารึก ด้วยประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาในตอนนี้ วิธีที่ดีที่สุดที่เขาทำได้ก็คือรีบหนีไปให้พ้น!
“แค่ผ่านมา? แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือว่ามันหยาบคายไปหน่อยนะที่คุณผ่านอาณาเขตของฉันโดยไม่เข้ามาทักทายฉันก่อน?” เสือเมฆวิญญาณทองคำราม
ฟิ้วววว!
มันยังคงโกรธเกรี้ยวจากการที่เกือบจะถูกมนุษย์กลุ่มหนึ่งจับตัวได้ แล้วจะให้มีอารมณ์รับฟังเหตุผลของจางเซวียนได้อย่างไร? มันตวาดก้องและปล่อยกระแสดาบฉีอีกชุดเข้าใส่จางเซวียน
ปราการกระแสดาบฉีที่พุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องก่อเกิดเป็นรูปร่างเหมือนมังกรอันสง่างาม
“ถ้าอย่างนั้น ผมก็คงไม่มีทางเลือก…” เห็นเสือเมฆวิญญาณทองไม่เชื่อเขา จางเซวียนรู้ดีว่าไม่สามารถหว่านล้อมด้วยคำพูดอื่นได้อีกแล้ว
ในสถานการณ์แบบนี้ เขาจำเป็นต้องใช้พละกำลังแทนคำพูด จางเซวียนสูดหายใจลึก จากนั้นก็สะบัดข้อมือ แล้วหอกสวรรค์กระดูกมังกรก็มาอยู่ในมือของเขา
“จัดการ!” จางเซวียนใช้หอกสวรรค์กระดูกมังกรจ้วงแทงตรงหน้าเพื่อปะทะกับปราการกระแสดาบฉี
ฟึ่บ!
เขาถ่ายทอดทั้งพลังจิตวิญญาณ พลังปราณ และพละกำลังจากร่างกายเข้าสู่หอกสวรรค์กระดูกมังกร มันเรืองแสงออกมาก่อนจะปะทะเข้ากับปราการกระแสดาบฉีอย่างรุนแรง คลื่นความสั่นสะเทือนที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงซึ่งเป็นผลจากการปะทะนั้นแผ่ออกมา ทำให้เกิดรอยแยกขึ้นโดยรอบ ต้นไม้มากมายนับไม่ถ้วนถูกถอนรากถอนโคน ก้อนหินจำนวนหนึ่งแหลกละเอียดเป็นผุยผง
การปะทะเพียงครั้งเดียวทำให้เกิดแรงกดดันที่แผ่กว้างออกไปหลายร้อยเมตรภายในป่าทึบแห่งนี้
“นี่มันนรกอะไร…เขาเป็นแค่นักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติจริงๆหรือ?”
หวูชางผิงกับคนอื่นๆที่กำลังติดกับตาโตด้วยความตกตะลึง
พวกเขาจดจำชายผู้นี้ได้ อีกฝ่ายคือชายหนุ่มที่ก่อนหน้านี้พยายามจะติดตามพวกเขา ก่อนจะถูกขับไล่ไป ทุกคนคิดว่าเขาเป็นแค่นักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไร ไม่นึกฝันเลยว่าเขาจะทรงพลังขนาดนี้
ถ้ารู้เสียก่อน คงจะดึงหมอนี่เข้าร่วมกลุ่มแล้ว เพราะเมื่อมีเขาอยู่ ก็น่าจะจับตัวเสือเมฆวิญญาณทองได้ และหลบหนีอสูรอีก 4 ตัวได้ทันเวลาก่อนที่พวกมันจะรับรู้ถึงความผิดปกติ
“ผมคิดว่าเขาเป็นแค่นักรบที่อ่อนแอคนหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเรา…” หวูชางผิงส่ายหน้าด้วยความเสียดาย
ก่อนหน้านี้ พวกเขายังหารือกันเองว่าควรสังหารชายหนุ่มคนนี้หรือไม่ ซึ่งก็โชคดีที่ไม่ได้พยายามทำลงไป เพราะไม่อย่างนั้น ชายหนุ่มคงเล่นงานพวกเขาทุกคนจนราบคาบเสียก่อนที่จะได้พบกับเสือเมฆวิญญาณทอง
“อ้อ? ดูเหมือนเขาก็ไม่เหยาะแหยะเท่าไหร่นะ!” งูเขียวไม้สวรรค์ตั้งข้อสังเกต
มันไม่คิดว่านักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้จะสามารถปลดปล่อยประสิทธิภาพการต่อสู้ออกมาได้ขนาดนี้ในพื้นที่จำกัด งูเขียวไม้สวรรค์ใช้กรงเล็บลูบเคราขณะพิจารณาชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสนใจ
ฮึ่มมมม!
ส่วนอีกด้านหนึ่ง เสือเมฆวิญญาณทองก็แสนจะหงุดหงิดที่ถูกจางเซวียนโจมตี มันโกรธถึงขีดสุดแล้วเมื่อผู้ที่เป็นเพียงนักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติสามารถตอบโต้การโจมตีของมันได้ นัยน์ตาของมัน เบิกโพลงด้วยความเกรี้ยวกราดขณะเกร็งร่างจนตึงเขม็ง ขนสีทองของมันสั่นสะท้านไม่หยุด
“ตายซะเถอะ!”
ฟึ่บ!
ราวกับลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคันธนู เสือเมฆวิญญาณทองพุ่งเข้าใส่จางเซวียนและใช้พละกำลังทั้งหมดฟาดหางของมันเข้าใส่ชายหนุ่ม
การเคลื่อนไหวของหางนั้นรวดเร็วเสียจนมองแทบไม่ทัน ยากที่จะกะประมาณพละกำลังของมันได้
“รวดเร็วอะไรอย่างนี้!” จางเซวียนหรี่ตาด้วยความตกใจ
รู้ดีว่าคงไม่อาจต้านทานการโจมตีนั้นได้ด้วยพละกำลังที่มีอยู่ในเวลานี้ จางเซวียนจึงรีบเรียกใช้พลังจากสายเลือดตระกูลจางที่อยู่ในร่างของเขา
ฟึ่บ!
การเคลื่อนไหวของเสือเมฆวิญญาณทองเชื่องช้าลงทันที ด้วยการกระโดดเบาๆ จางเซวียนก็หลบพ้นการโจมตีของอีกฝ่าย
บึ้มมมม!
เกิดหลุมขนาดใหญ่ลึกลงไปในพื้นดิน
รู้ดีว่าถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไปคงไม่มีโอกาส จางเซวียนปาดเหงื่อที่หน้าผากและพูดว่า “รอประเดี๋ยวหนึ่งเถอะ…”
“คุณจะร้องขอความเมตตากับฉันหรือ? สายไปแล้วล่ะ!”
เห็นชายหนุ่มหลบเลี่ยงการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของมันได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีเวลามาเจรจาอีก ถึงเสือเมฆวิญญาณทองจะโมโห แต่ก็รู้ดีว่าคงไม่อาจเอาชนะอีกฝ่ายได้ในระยะเวลาอันสั้น มันจึงหยุดการโจมตีแล้วตั้งใจฟังว่าชายหนุ่มจะพูดอะไร
ถึงอย่างไร อสูรสวรรค์ทั้ง 5 ก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่ ทั้งพื้นดินและกลางอากาศถูกสกัดกั้นเอาไว้หมดแล้ว ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะหนีรอด
“ผมรู้ดีว่าไม่มีทางที่ผมจะหนีรอด ดังนั้น อย่างน้อยที่สุด ก็อยากขอดวลกับคุณอย่างชอบธรรมสักหน่อย คุณจะช่วยยอมรับคำขอครั้งนี้ของผมได้หรือไม่?” จางเซวียนประสานมือ
“การดวลอย่างชอบธรรม?”
อสูรสวรรค์ทั้ง 5 มองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าจางเซวียนกำลังพูดอะไร
“ใช่แล้ว ตอนนี้ผมเป็นแค่นักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติ จึงรู้ดีว่ามีโอกาสไม่มากที่จะเอาชนะคุณ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังอยากต่อสู้เพื่อขอโอกาสรอดชีวิต ผมขอท้าทายเสือเมฆวิญญาณทองเข้าสู่การดวลแบบตัวต่อตัว ถ้าผมแพ้ สิ่งเดียวที่รอคอยผมอยู่ก็คือความตาย แต่ถ้าผมบังเอิญชนะ ผมก็จะขอร้องคุณว่าให้ช่วยปล่อยผมไป” จางเซวียนพูด
“ฮ่าาาา!”
อสูรสวรรค์ทั้ง 5 เข้าใจเจตนาของจางเซวียนทันที
ชายหนุ่มกลัวว่าพวกมันจะเข้าโจมตีเขาพร้อมๆกัน
“มนุษย์, หยุดตัดสินพวกเราด้วยมาตรฐานของคุณเสียที คุณดูถูกพวกเรามากเกินไปแล้ว! ต่อให้เรามีวรยุทธระดับเดียวกัน พวกเราก็จะไม่ลดตัวลงไปรุมสกรัมพวกคุณหรอก!” งูเขียวไม้สวรรค์พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ในฐานะผู้ได้รับการสืบทอดสายเลือดอสูรสวรรค์โบราณ อีกทั้งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ควบคุมป่าแห่งนี้ พวกมันมีเกียรติยศศักดิ์ศรีที่ต้องยึดถือ
อย่าว่าแต่จะรุมสกรัมนักรบที่อ่อนแอกว่าเลย ต่อให้อีกฝ่ายมีวรยุทธระดับเดียวกัน พวกมันก็ไม่ทำ
“คุณวางใจได้เลยว่าฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาวุ่นวายกับการดวลของเรา!” เสือเมฆวิญญาณทองคำราม
เมื่อครู่นี้เองที่มันเกือบจะถูกมนุษย์กลุ่มหนึ่งจับตัวได้ แต่ตอนนี้กลับมีมนุษย์อีกคนอยากท้าทายมันเข้าสู่การดวลแบบตัวต่อตัว ในเมื่อก่อนหน้านี้ มันก็ทำให้ตัวเองอับอายขายหน้ามากพอแล้ว หากไม่สามารถรับมือกับนักรบที่มีวรยุทธอ่อนด้อยกว่ามันถึง 2 ขั้นได้ แล้วจะเอาหน้าที่ไหนไปควบคุมอสูรตัวอื่นๆในป่าแห่งนี้?
“ค่อยยังชั่ว…” ว่ากันตามตรง จางเซวียนก็ไม่ได้คาดหวังให้อสูรทั้ง 5 ยอมรับคำขอร้องของเขา เพราะอันที่จริงเขาวางแผนหลบหนีไว้แล้ว แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่ต้องใช้ จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและพูดว่า “อีกอย่าง ในฐานะนักรบ คงไม่ถือเป็นการผิดกฎใช่ไหมหากผมใช้ของล้ำค่าของผมเข้าร่วมในการดวล?”
“เชิญใช้ของล้ำค่าของคุณได้ตามสบาย” เสือเมฆวิญญาณทองคำราม ไม่คิดอะไรมากกับคำขอของจางเซวียน
เพียงเท่านี้ก็เป็นพรจากสวรรค์แล้วในการที่นักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติอย่างชายหนุ่มคนนี้มีหอกอันทรงพลัง ถึงหอกนั้นจะมีประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่ง แต่เสือเมฆวิญญาณทองก็มั่นใจว่ามันรับมือไหว
“เอ่อ..บังเอิญว่าผมเป็นนักฝึกอสูรด้วย คงไม่ผิดกฎหรอกนะถ้าอสูรของผมจะช่วยผมในการดวล ถูกต้องไหม?” จางเซวียนถาม
“อสูรของคุณ? ถ้าคุณมีอะไรดีๆล่ะก็ นำออกมาให้หมดเถอะ” เสือเมฆวิญญาณทองตอบอย่างเย่อหยิ่ง
“ถ้าอย่างนั้นผมก็วางใจ…” จางเซวียนพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็กวัดแกว่งหอกสวรรค์กระดูกมังกร “เริ่มกันเถอะ”
เสือเมฆวิญญาณทองคำราม ตามด้วยเสียงกร้าวก่อนจะพุ่งเข้าใส่จางเซวียนพร้อมกับหรี่ตา แต่หลังจากมันสำแดงกระบวนท่าไปได้เพียง 1 วินาที ก็รู้สึกถึงอาการเจ็บแปลบที่เข้าโจมตีจิตวิญญาณ ราวกับใครสักคนหนึ่งทิ่มแทงมันด้วยเข็มจำนวนนับไม่ถ้วน
จากนั้นแรงกดดันมหาศาลก็โถมทับเข้าใส่มัน
“การโจมตีจิตวิญญาณ? แย่แล้ว…”
นึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะมีไม้เด็ดซ่อนอยู่ ร่างใหญ่โตของเสือเมฆวิญญาณทองแข็งทื่อไปในทันที
เผ่าพันธุ์อสูรนั้นเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องกายเนื้ออันทรงพลัง ซึ่งทำให้พวกมันมีความสามารถเหนือกว่า มนุษย์ทั้งในด้านการโจมตีและการป้องกันตัว แต่พวกมันก็มีจุดอ่อนอันยิ่งใหญ่ซึ่งก็คือจิตวิญญาณ อีกฝ่ายปลดปล่อยการโจมตีจิตวิญญาณเข้าใส่มันอย่างจังตั้งแต่แรก แถมยังมีพละกำลังแข็งแกร่งกว่าที่มันเคยพบเจอมาก่อน เมื่อไม่ทันระมัดระวัง การเคลื่อนไหวของเสือเมฆวิญญาณทองจึงชะงักงันไป