อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1797 หาเลือดมังกรเพิ่ม
จางเซวียนขมวดคิ้ว “คุณจะยอมรับใช้เขาหรือไม่ก็ไม่แตกต่างอะไรหรอก เผ่าพันธุ์อสูรทั้งโหดเหี้ยมและเจ้าคิดเจ้าแค้น เรื่องแบบนี้ไม่ใช่จะคลี่คลายกันได้เพียงแค่คำขอโทษ!”
ในฐานะนักฝึกอสูร เขารู้ดีว่าความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของเผ่าพันธุ์อสูร พวกมันไม่มีทางเต็มใจประนีประนอมเรื่องแบบนี้ หรือพูดอีกอย่างก็คือ มันไม่ใช่ความขัดแย้งที่จะคลี่คลายได้เพียงแค่การกล่าวคำขอโทษ
ถ้าหวู่เฉินไม่ได้เพิ่งถูกโจมตี ด้วยประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาในฐานะเผ่าพันธุ์ปีศาจหมายเลข 1 คำสัญญาของเขาอาจยังพอมีน้ำหนักกับนักปราชญ์โบราณเปลวเพลิง ซึ่งก็คงโชคดีเต็มทีหากอีกฝ่ายไม่ใช้โอกาสนี้แทงเขาข้างหลัง อย่าว่าแต่จะยอมรับข้อเสนอ!
“แล้วเราควรทำอย่างไร?” หวู่เฉินเองก็รู้ดี แต่ยังพอมีความหวังริบหรี่ว่านายน้อยจะมีวิธีแก้ปัญหา
“ไม่มีทางทำอะไรได้หรอก” จางเซวียนตอบอย่างเคร่งขรึม“สำหรับตอนนี้ เราต้องหาหยดเลือดของมังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์”
“อะไรนะ?”
หวู่เฉินกับนักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินสบตากันอย่างงุนงง การเปลี่ยนเรื่องอย่างปุบปับทำให้พวกเขาตามไม่ทัน
“ผมไม่คิดว่านักปราชญ์โบราณเปลวเพลิงจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มังกรนะ” หวู่เฉินพูด
จริงอยู่ว่าเผ่าพันธุ์มังกรนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์อสูรชั้นยอด และเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าอสูรที่มีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์จะมีความเก่งกาจเหนือชั้นกว่าพวกที่มีสายเลือดบริสุทธิ์น้อยกว่า
แต่ความเก่งกาจอันนี้ไม่อาจใช้การได้กับอสูรที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มังกร และนักปราชญ์โบราณเปลวเพลิงก็ไม่มีสายเลือดมังกรอยู่ในร่างของมันแม้แต่น้อย ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจของนักปราชญ์โบราณเปลวเพลิงได้ด้วยเลือดมังกรจำนวนน้อยนิด
วิธีคิดของจางเซวียนช่างเข้าใจยากเสียจริงๆ
“เหตุผลที่ผมอยากได้หยดเลือดของมังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์น่ะไม่ใช่เพื่อเล่นงานนักปราชญ์โบราณเปลวเพลิง แต่เพื่อกำจัดฉนวนที่อยู่บนหอกสวรรค์กระดูกมังกร!” จางเซวียนพูด
หากคิดจะใช้วิธีการฝึกอสูรโดยอัดมันให้น่วม ตัวเขาก็ต้องมีประสิทธิภาพการต่อสู้สูงกว่าอสูรที่เขาคิดจะเล่นงานมันเสียก่อน
แม้จางเซวียนจะพัฒนาวรยุทธได้มากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แต่เขาก็ยังเป็นแค่นักรบขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกเท่านั้น ยังห่างไกลกับนักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด
วิธีที่เร็วที่สุดในการยกระดับประสิทธิภาพการต่อสู้ในตอนนี้ก็คือปลดฉนวนที่อยู่บนหอกสวรรค์กระดูกมังกร ทำให้มันกลับมามีพละกำลังแข็งแกร่งสูงสุดดังเดิม
มีสองวิธีที่รู้กันว่าจะใช้ปลดฉนวนของหอกสวรรค์กระดูกมังกรได้วิธีแรกก็คือเขาต้องสำเร็จวรยุทธขั้นนักปราชญ์โบราณและบ่มเพาะมันด้วยพลังปราณในระดับของนักปราชญ์โบราณ ส่วนวิธีที่สอง คือต้องหาหยดเลือดของสมาชิกเผ่าพันธุ์มังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ยิ่งกว่าหอกสวรรค์กระดูกมังกรมาให้ได้
วิธีแรกดูจะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่เขาจะทำสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น จริงอยู่ว่าอีกเพียงก้าวเดียวเขาก็จะได้เป็นนักปราชญ์โบราณแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าแรงบันดาลใจสำหรับการฝ่าด่านวรยุทธครั้งใหม่จะมาถึงเมื่อไหร่ เขาไม่อาจพึ่งพาสิ่งนั้นได้
ด้วยเหตุนี้ วิธีที่สองจึงดูจะเป็นรูปธรรมและเชื่อมั่นได้มากกว่า ขอแค่เขาสามารถปลดฉนวนที่นักปราชญ์โบราณหรันชิวติดตั้งไว้บนหอกสวรรค์กระดูกมังกร หอกนั้นก็จะฟื้นคืนพละกำลังดังเดิมและกลายเป็นอาวุธระดับนักปราชญ์โบราณขั้นสูงสุด!
ด้วยอาวุธนี้ จางเซวียนจะมีพละกำลังมากพอที่จะเอาชนะนักปราชญ์โบราณเปลวเพลิงและทำให้อีกฝ่ายยอมจำนนได้!
แน่นอนว่าเขาอาจเลือกใช้พละกำลังของ ‘ไอ้โหด’ ได้เช่นกันเพราะหลังจากซึมซับแขนทั้ง 2 ข้างแล้ว ระดับวรยุทธของไอ้โหดก็ดูเหมือนจะเข้าถึงขั้นสูงสุดของวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด แต่พละกำลังเพียงเท่านั้นคงไม่พอที่จะทำให้นักปราชญ์โบราณเปลวเพลิงยอมจำนน
เมื่อเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความคิดของจางเซวียน หวู่เฉินส่ายหน้าและพูดว่า “มังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ก็เหมือนกับเทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณ คือเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ทวีปแห่งปรมาจารย์ไม่แข็งแกร่งพอที่จะแบกรับอำนาจและพละกำลังของพวกเขา…”
สายเลือดมังกรที่อยู่ในร่างของเหล่าอสูรที่อาศัยอยู่ในทวีปแห่งปรมาจารย์และสนามรบของเผ่าพันธุ์ปีศาจจากโลกอื่นนั้นเบาบางมาก ในแง่ของความบริสุทธิ์ ไม่อาจเรียกมันว่ามังกรได้ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับจะเป็นมังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์
เพราะเหตุนี้ จางเซวียนจึงเอาชนะพวกมันได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้แปดโน้ตมังกรสวรรค์ของเขา
ซึ่งเมื่อพิจารณาดู ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะหาหยดเลือดของมังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์มาได้
ในตอนนั้นเอง นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินก็พูดขึ้น “ผมรู้ว่าเราจะหาสิ่งที่คุณต้องการได้ที่ไหน!”
จางเซวียนหันขวับ
“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด สิ่งที่คุณกำลังตามหาไม่ใช่หยดเลือดของมังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ แต่คุณกำลังอยากได้หยดเลือดของนักปราชญ์โบราณเผ่าพันธุ์มังกร เพื่อปลดฉนวนที่อยู่บนหอกสวรรค์กระดูกมังกร ผมเข้าใจถูกไหม?” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินตั้งคำถาม
ไม่มีทางที่จะหามังกรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์พบในทวีปแห่งปรมาจารย์ แต่ไม่ถือว่าเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียวที่จะหาหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณเผ่าพันธุ์มังกร
จางเซวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า
นักปราชญ์โบราณคือผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของทวีปแห่งปรมาจารย์มีความเป็นไปได้ที่เขาจะปลดฉนวนของหอกสวรรค์กระดูกมังกรได้สำเร็จหากได้หยดเลือดของนักปราชญ์โบราณที่เป็นเผ่าพันธุ์มังกรมา
“ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ผมรู้ว่าคุณจะหามันได้ที่ไหน!” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินพูด
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในสมองของหวู่เฉิน เขาหน้าเสีย “หรือว่าคุณกำลังพูดถึง…”
“ใช่ ผมหมายถึงที่นั่น!” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินพยักหน้า “เนิ่นนานมาแล้ว ท่านปู่ของอำมาตย์เฉินหลิง, อำมาตย์หยิงผู้ยิ่งใหญ่ได้สังหารนักปราชญ์โบราณมังกรสีดำ เขาเก็บหยดเลือดของมังกรสีดำมาและสร้างทะเลสาบเลือดขึ้นในหอนอนของเขา เพื่อหวังว่าจะเพาะมังกรสีดำตัวใหม่ขึ้นจากทะเลสาบหยดเลือดและทำให้มันยอมจำนนได้ เขาจึงใช้หยดเลือดของนักปราชญ์โบราณหลายสิบคนในการบ่มเพาะมัน แต่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง แผนการของเขาล้มเหลว ไม่นานหลังจากที่อำมาตย์หยิงผู้ยิ่งใหญ่เสียชีวิตไปหอนอนของเขาก็ถูกปิดตายและไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ้าผมเข้าใจไม่ผิด มีโอกาสที่ทะเลสาบเลือดจะยังคงอยู่ที่นั่น”
ไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดไหนที่จะไม่ถูกอำนาจของเผ่าพันธุ์มังกรดึงดูดหากใครสักคนทำให้สมาชิกของเผ่าพันธุ์มังกรยอมจำนนได้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาก็จะเพิ่มสูงขึ้นมาก
อำมาตย์หยิงผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นท่านปู่ของอำมาตย์เฉินหลิงเป็นอีกคนที่มีชีวิตอยู่ในยุคสมัยเดียวกันกับไอ้โหด และเขาก็ลุ่มหลงกับแนวคิดของการทำให้สมาชิกเผ่าพันธุ์มังกรยอมจำนนและมาเป็นบริวารของเขา เขาทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจในการตามหามังกรสีดำที่สามารถถ่ายทอดสายเลือดมังกร และใช้ความพยายามจนสังหารมันได้ จากนั้นก็ใช้ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรมากมายเพื่อซื้อหาหยดเลือดของเหล่านักปราชญ์โบราณมาบ่มเพาะมัน โดยหวังว่าจะสามารถสร้างเผ่าพันธุ์มังกรตัวใหม่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็จะมีโอกาสทำให้มันยอมจำนนได้ตั้งแต่มันยังเด็ก
แต่ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดพลาด ลงท้ายแผนการของเขาก็สูญเปล่า
“มันเป็นแค่ตำนานที่เล่าขานกันมาในอดีต” หวู่เฉินพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “มันเนิ่นนานเสียจนไม่มีทางยืนยันได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่”
จริงอยู่ว่าเรื่องนี้ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจจากโลกอื่น แต่มันเกิดขึ้นมาหลายหมื่นปีแล้ว จึงยังคงเป็นคำถามอยู่ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ เสี่ยงเกินไปที่จะลักลอบเข้าสู่เมืองหลวงและเข้าไปในหอนอนของอำมาตย์หยิงผู้ยิ่งใหญ่เพียงเพื่อค้นหาทะเลสาบเลือดซึ่งอาจไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก
“ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องจริง ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเข้าสู่ภูเขาสินแร่แม่เหล็กดึกดำบรรพ์ ผมได้เข้าไปที่พระราชวังของอำมาตย์เฉินหลิงเพื่อร้องขอหญ้าเกล็ดมังกร อย่างที่คุณรู้ หญ้าเกล็ดมังกรเป็นสมุนไพรที่จะเติบโตขึ้นได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เผ่าพันธุ์มังกรเคยอาศัยอยู่เท่านั้น ในเมื่ออำมาตย์เฉินหลิงไม่มีเผ่าพันธุ์มังกรเป็นบริวาร แต่กลับมีหญ้าเกล็ดมังกรเติบโตขึ้นมากมายอยู่ในบริเวณที่พักอาศัย ผมจึงคิดว่าตำนานที่อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์น่าจะเป็นเรื่องจริง!” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินเสริม
หญ้าเกล็ดมังกรคือสมุนไพรที่ได้รับการบ่มเพาะจากรังสีของสมาชิกเผ่าพันธุ์มังกร มันมีอานุภาพในการเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและชำระสายเลือดของผู้นั้นให้บริสุทธิ์ ทำให้เป็นของล้ำค่าของเผ่าพันธุ์อสูร เป็นทรัพยากรที่ประเมินค่ามิได้
ในครั้งนั้น นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินได้เสาะแสวงหาหญ้าเกล็ดมังกรในหลายพื้นที่ แต่ไม่เป็นผล ลงท้ายการค้นหาของเขาก็นำเขาไปสู่พระราชวังของอำมาตย์เฉินหลิง และในที่สุดก็ได้พบสิ่งที่เขาต้องการที่นั่น ในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้ก็ทำให้เขาเกิดความสงสัยบางอย่าง
ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ จางเซวียนหันไปตั้งคำถามกับนักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวิน “หอนอนของอำมาตย์หยิงผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในเมืองหลวง ใกล้กับพระราชวังของอำมาตย์เฉินหลิงหรือเปล่า?”
“ใช่!” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินพยักหน้า
จางเซวียนครุ่นคิดหนัก
หวู่เฉินดูออกว่าจางเซวียนเริ่มจะคล้อยตามคำบอกเล่าของนักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวิน เขาแนะนำอย่างร้อนรน “นายน้อย อำมาตย์เฉินหลิงเพิ่งถูกเล่นงานไปไม่นาน ตอนนี้เขาคงยังระวังตัวมาก พระราชวังของเขาจะต้องได้รับการอารักขาอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญมากมายนับไม่ถ้วนจะต้องลาดตระเวนอยู่โดยรอบ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะเข้าไปข้างใน!”
“คุณพูดถูก มันอาจจะยาก แต่ขอแค่เราพิจารณาให้ดี ก็น่าจะหาจุดอ่อนที่จะลักลอบเข้าไปได้” จางเซวียนตั้งข้อสังเกตขณะลูบคางอย่างครุ่นคิด
“แต่…”
“สำหรับเวลานี้ คุณทั้งสองไปตามตัวนักปราชญ์โบราณคนอื่นๆและดูว่าจะชักนำพวกเขามาเป็นพรรคพวกของเราได้หรือไม่ ส่วนตัวผมจะเข้าไปดูในเมืองหลวงสักหน่อย วางใจเถอะ ด้วยความสามารถในการปลอมตัวของผม ไม่มีทางที่พวกนั้นจะจับผมได้แน่” จางเซวียนพูด
สถานที่ที่เลวร้ายที่สุดที่เขาควรจะไปอยู่ในตอนนี้ก็คือเมืองหลวงของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ด้วยวรยุทธอันจำกัดของเขา จะดีที่สุดหากไม่เข้าไปเสี่ยง แต่ถ้าการเข้าไปจะทำให้เขาพบทะเลสาบเลือดและปลดฉนวนของหอกสวรรค์กระดูกมังกรได้จริงๆ เขาก็จะมีพละกำลังเพียงพอที่จะเอาชนะได้แม้แต่นักรบขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด ดังนั้นนี่จึงเป็นความเสี่ยงที่เขาเต็มใจแบกรับ!
“เฮ่อออ…ถ้างั้นผมก็คิดว่าคงไม่มีทางเลือก” เห็นจางเซวียนตัดสินใจแล้ว หวู่เฉินไม่พูดอะไรอีก
เครื่องรางแห่งการปลอมตัวที่เทพเจ้าแห่งจิตวิญญาณมอบให้พวกเขามีอานุภาพทรงพลังมาก จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ใครๆจะมองทะลุการปลอมตัวของจางเซวียน อีกอย่าง หลังจากเหตุการณ์ที่สภาปรมาจารย์สำนักงานใหญ่ อำมาตย์เฉินหลิงกับคนอื่นๆก็ย่อมคิดว่านายน้อยของเขาตายไปแล้ว นายน้อยน่าจะใช้เรื่องนี้เป็นแต้มต่อและจัดการทุกอย่างได้สำเร็จ