Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1804

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1804

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1804 สอบสวน
นักปราชญ์โบราณโม่หลิงถึงกับตัวแข็งทื่อขณะรีบโผขึ้นสู่กลางอากาศพร้อมกับใช้จิตวิญญาณอันใหญ่โตของเขาประเมินสภาพแวดล้อมโดยรอบ แต่ตึกรามบ้านช่องที่อยู่ในพื้นที่ก็เงียบงัน ค่ายกลบริเวณนั้นก็ดูไม่เหมือนว่าจะมีใครแตะต้อง ราวกับไม่เคยมีใครอยู่ตั้งแต่แรก

เขาหนีไปแล้วหรือ?

นักปราชญ์โบราณโม่หลิงหรี่ตาอย่างดุดันขณะแผ่รังสีเย็นเยือกอันน่าสะพรึงออกจากร่าง

ในฐานะผู้พยากรณ์จิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด เขามีวรยุทธลึกล้ำและพิเศษกว่าคนอื่น เขาคิดว่าน่าจะจับตัวอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แต่ใครจะรู้ว่าทั้งที่ถอดจิตวิญญาณออกจากร่างแล้ว อีกฝ่ายก็ยังหลุดรอดไปได้

ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าเขา!

ไม่มีทางที่หมอนั่นจะไปได้ไกลจากที่นี่ นักปราชญ์โบราณโม่หลิงคิด

เมื่อนึกขึ้นได้ เขาเปิดใช้งานค่ายกลทั้งหมดที่อยู่โดยรอบพระราชวังของอำมาตย์เฉินหลิง

อีกฝ่ายอาจหลุดรอดไปได้ผ่านทางรอยแยกแห่งมิติ แต่ด้วยแรงกดดันมหาศาลจากพลังจิตวิญญาณของเขาเมื่อครู่ หมอนั่นไม่มีทางไปได้ไกล อย่างน้อยที่สุดก็ยังต้องอยู่ในวังนี้!

ยิ่งไปกว่านั้น ตามความเข้าใจเรื่องจิตวิญญาณของเขา ร่างต้นแบบของอีกฝ่ายก็น่าจะยังอยู่ในพื้นที่ เพราะไม่อย่างนั้น เขาคงตรวจจับความเคลื่อนไหวของจิตวิญญาณได้เร็วกว่านี้มาก

ฟึ่บ!

นักปราชญ์โบราณโม่หลิงดึงจิตวิญญาณกลับสู่ร่างก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง

“หมอนั่นเป็นใคร? รังสีของเขาดูจะไม่มีองค์ประกอบของพลังหยินเลย แถมหนีรอดไปได้แม้จะอยู่ภายใต้แรงกดดันของเรา…”

เขารู้จักผู้พยากรณ์ทุกคนในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ และต่อให้ผู้พยากรณ์จิตวิญญาณที่เป็นนักปราชญ์โบราณก็ไม่อาจหนีรอดไปจากเขาได้ด้วยวิธีการแบบนี้ ไม่อยากเชื่อจริงๆว่าจะมีใครหลุดรอดจากน้ำมือของเขาไปได้

นักปราชญ์โบราณโม่หลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่อาจหาข้อสรุป จึงหันหลังกลับและตะโกนก้อง “พวกเรา!”

“นักปราชญ์โบราณโม่หลิง!” ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะสีดำเดินออกมาจากเงามืด

“มีบุคคลน่าสงสัยที่เพิ่งเข้าสู่พระราชวังบ้างหรือเปล่า?” นักปราชญ์โบราณโม่หลิงตั้งคำถาม

“รายงานนักปราชญ์โบราณโม่หลิง ตั้งแต่อำมาตย์เฉินหลิงกลับมา วังนี้ก็ถูกปิดตาย ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผู้ที่เข้าวังได้ก็มีแต่บรรดานักตรวจสอบสมบัติเท่านั้น ซึ่งพวกเขามีทั้งหมด 232 คน และผมก็ยังไม่อนุญาตให้ใครออกจากพื้นที่!”

“นักตรวจสอบสมบัติ?” นักปราชญ์โบราณโม่หลิงคำราม “เจ้านั่นจะต้องเป็นหนึ่งในคนพวกนี้แน่ นำข้อมูลทั้งหมดมาให้ผม!”

“ขอรับ” ชายวัยกลางคนพยักหน้า

ขณะที่เขากำลังจะจากไป เสียงนักปราชญ์โบราณโม่หลิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “รอก่อน ผมจะไปกับคุณด้วย ผมจะสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และจัดการหมอนั่นให้ดิ้นไม่หลุดด้วยน้ำมือของผม!”

…..

จางเซวียนกลับคืนสู่กายเนื้อผ่านทางหว่างคิ้ว เขาลืมตาขึ้นทันที จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เฉียดไปเส้นยาแดงผ่าแปด!

เขาไม่คิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับนักปราชญ์โบราณที่เป็นผู้พยากรณ์จิตวิญญาณ ด้วยความรู้สึกไวอย่างน่าทึ่งที่ผู้พยากรณ์จิตวิญญาณมีต่อพลังจิตวิญญาณ อีกฝ่ายจึงรับรู้การปรากฏตัวของเขาแทบจะในทันที

โชคดีที่เขาหาข้อบกพร่องของอีกฝ่ายเจอ ไม่อย่างนั้นคงตายตั้งแต่ยังไม่ทันรู้ตัว

ไม่แปลกใจแล้วที่อำมาตย์เฉินหย่ง หลิวหยาง และคนอื่นๆพูดว่าพระราชวังของอำมาตย์เฉินหลิงเต็มไปด้วยอันตราย ดูเหมือนเขาประเมินพละกำลังและกำลังพลที่อยู่ภายใต้สังกัดของอำมาตย์เฉินหลิงต่ำไป

ด้วยความคลุมเครือซึ่งเป็นธรรมชาติของเหล่าผู้พยากรณ์จิตวิญญาณ พวกเขาได้เปรียบมากในการลาดตระเวนและการหลบหนีจากเงื้อมมือของศัตรู แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวิถีทางของพวกเขาจะปราศจากข้อบกพร่อง

ในเมื่อนักปราชญ์โบราณอาวุโสคนนั้นรับรู้ถึงการปรากฏตัวของเราแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าเขาน่าจะเริ่มสอบสวนบรรดานักตรวจสอบสมบัติ เราควรจะไปเสียตอนนี้เพื่อปลอดภัยไว้ก่อนหรือไม่?

สีหน้าของจางเซวียนปรากฏความขัดแย้ง

ในเมื่อแขกเหรื่อที่อำมาตย์เฉินหลิงเชื้อเชิญมาในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้คือเหล่านักตรวจสอบสมบัติ โอกาสที่ผู้บุกรุกจะเป็นหนึ่งในนักตรวจสอบสมบัติก็มีสูงมาก ถ้าจางเซวียนเป็นนักปราชญ์โบราณอาวุโสผู้นั้น ก็คงจะตั้งต้นสอบสวนบรรดานักตรวจสอบสมบัติเช่นกัน

ถ้าเป็นอย่างนี้ ไม่ช้าไม่นานนักปราชญ์โบราณอาวุโสก็ต้องหาตัวเขาพบ

ถ้าเขาอยากหนี ก็ต้องรีบตัดสินใจโดยเร็ว

ทุกวินาทีที่ล่วงไปหมายถึงความเป็นไปได้ของการหลบหนีอย่างปลอดภัยที่ต่ำลงเรื่อยๆ

แต่ทันทีที่เราออกจากวังของอำมาตย์เฉินหลิงไป โอกาสที่จะได้กลับมาอีกก็แทบเป็นศูนย์

ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าที่จางเซวียนจะปลอมตัวเป็นนักตรวจสอบสมบัติเพื่อเข้ามาที่นี่ได้ นี่เป็นโอกาสเพียงน้อยนิดที่เขาจะได้พบทะเลสาบเลือดและยกระดับประสิทธิภาพการต่อสู้ของตัวเขาอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากจากไปมือเปล่า!

“เหล่านักตรวจสอบสมบัติ ออกจากห้องของคุณแล้วมารวมตัวกันที่นี่!”

ขณะที่จางเซวียนยังคงลังเล ก็ได้ยินเสียงตวาดก้องอยู่ด้านนอก จากนั้นเสียงฝีเท้าสับสนก็ดังไปทั่ว ดูเหมือนองครักษ์ 1 คนจะมายืนประจำการอยู่หน้าห้องแต่ละห้อง

สายไปแล้วที่จะหนีตอนนี้…จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะลุกขึ้นยืน

นักปราชญ์โบราณอาวุโสผู้นั้นเก่งกาจกว่าที่เขาคิดไว้ อีกฝ่ายปะติดปะต่อเงื่อนงำต่างๆเข้าด้วยกันและตัดสินใจดำเนินการขั้นต่อไปได้ในเวลาเพียงครู่เดียว

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะมาถึงจุดจบ

จางเซวียนไม่เหมือนกับผู้พยากรณ์จิตวิญญาณโดยทั่วไป จิตวิญญาณของเขาเข้ากันได้ดีอย่างสมบูรณ์แบบกับกายเนื้อ ทำให้เขาปรากฏตัวได้โดยไม่ต่างอะไรจากเผ่าพันธุ์ปีศาจตัวอื่นๆ อีกอย่าง ตัวตนของเขาก็บริสุทธิ์ ดังนั้น โอกาสที่นักปราชญ์โบราณอาวุโสจะขุดรากถอนโคนเขาได้จึงมีไม่มากนัก

จางเซวียนเดินออกจากห้องและเผชิญหน้ากับกองทัพองครักษ์ที่มีสีหน้าเย็นชา หนึ่งในนั้นก้าวออกมาและสั่งการ “ไปจากที่นี่!”

ด้วยองครักษ์ขนาบข้าง จางเซวียนถูกนำตัวไปยังห้องโถงที่มีกองทหารยืนประจำการอยู่ ชายวัยกลางคนที่มีวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกกับนักปราชญ์โบราณโม่หลิงยืนอยู่ใจกลางห้อง สายตาคมกริบจับจ้องที่นักตรวจสอบสมบัติแต่ละคน

จางเซวียนปั้นสีหน้าที่แสดงความงุนงงสงสัยออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าสู่ห้องโถงโดยตามหลังนักตรวจสอบสมบัติคนอื่นๆไป

ทันทีที่เข้าไปในห้อง ก็รู้สึกได้ว่าสายตาทะลุทะลวงของนักปราชญ์โบราณโม่หลิงจับจ้องที่เขา ดูเหมือนพยายามจะมองลึกถึงจิตวิญญาณ เพื่อตอบโต้สายตาทะลุทะลวงนั้น จางเซวียนเดินต่อไปราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งสิ้น ครู่ต่อมา อีกฝ่ายก็ละสายตาไป

ภายในไม่ถึง 5 นาที นักตรวจสอบสมบัติกว่า 200 คนก็ถูกนำตัวมายังห้องโถง

ชายวัยกลางคนที่มีวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกยื่นม้วนกระดาษม้วนหนึ่งให้นักปราชญ์โบราณโม่หลิง

นักปราชญ์โบราณโม่หลิงใช้การรับรู้จิตวิญญาณกวาดสายตาจนทั่วทั้งม้วนกระดาษ ไม่ช้าก็อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ครบถ้วน

“เราตรวจสอบภูมิหลังของนักตรวจสอบสมบัติทุกคนแล้วก่อนจะพาพวกเขาเข้ามา ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้มีชื่อเสียงในถิ่นฐานบ้านเกิดของตัวเองและไม่มีอะไรน่าสงสัย อีกอย่าง เราไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างอำมาตย์เฉินหย่งกับพวกเขาด้วย ตามข่าวที่เราได้มา ดูเหมือนจะไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่เป็นผู้พยากรณ์จิตวิญญาณ…” ชายวัยกลางคนรีบสรุปเพื่อรายงานนักปราชญ์โบราณโม่หลิง

“ไม่มีผู้พยากรณ์จิตวิญญาณในหมู่พวกเขา? คุณกำลังบอกผมว่าเจ้าคนที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้มาจากไหนก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ?” นักปราชญ์โบราณโม่หลิงคำราม

เขารู้ดีว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยของวังอำมาตย์เฉินหลิงนั้นเข้มงวดแค่ไหน แม้แต่นักปราชญ์โบราณก็อย่าได้ฝันว่าจะลักลอบเข้ามาในวังได้โดยไม่สะดุดเข้ากับสายตาของใคร

ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา นอกจากบรรดานักตรวจสอบสมบัติ ก็ไม่มีใครอื่นที่ได้เข้าสู่พระราชวังของอำมาตย์เฉินหลิง หรือพูดอีกอย่างก็คือ ผู้พยากรณ์จิตวิญญาณที่เพิ่งหนีรอดไปจากเงื้อมมือของเขาจะต้องเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าเขาแน่

ชายวัยกลางคนรีบประสานมือ “ผมขออภัยด้วยในความผิดพลาด เป็นไปได้เช่นกันว่าตัวการอาจปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเขาไว้!”

ทั้งคู่หันกลับมามองเหล่านักตรวจสอบสมบัติที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

บรรดานักตรวจสอบสมบัติล้วนแต่มีสีหน้าสับสนและหวาดกลัว ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่รู้ว่าทำไมถึงถูกเรียกตัวมาอย่างเร่งด่วนแบบนี้ ทุกคนดูจะหวาดหวั่น เกรงว่าตัวเองอาจทำอะไรบางอย่างลงไปโดยไม่ตั้งใจ และทำให้อำมาตย์เฉินหลิงขุ่นเคือง

นักปราชญ์โบราณโม่หลิงคำราม แผ่พลังจิตวิญญาณอันทรงพลังของเขาให้ครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ โอบล้อมนักตรวจสอบสมบัติกว่า 200 คนไว้

พริบตาต่อมา จางเซวียนก็รู้สึกเหมือนถูกบ่วงล่องหนรัดไว้ พลังปราณของเขากระตุกโดยอัตโนมัติ เพื่อพยายามตอบโต้ความดุดันครั้งนี้ แต่โชคดีที่เขาระงับมันไว้ได้ทันเวลา

ซรืดดดด!

เส้นด้ายจิตวิญญาณของนักปราชญ์โบราณโม่หลิงแทรกซึมเข้าสู่จุดชีพจร และเดินทางผ่านทางเดินพลังปราณของเขา ดูจะมุ่งตรงเข้าสู่จิตวิญญาณ

จางเซวียนรู้ว่านี่เป็นเทคนิคที่ทำให้นักรบผู้หนึ่งสามารถเข้าถึงส่วนลึกของจิตวิญญาณของอีกฝ่ายได้ เขารู้ว่ามันไม่มีอันตรายใดๆ จึงนิ่งไว้

ในฐานะผู้ที่สำเร็จความเข้าใจเรื่องแก่นสารของจิตวิญญาณและฝึกฝนเคล็ดวิชาเทียบฟ้า จางเซวียนสามารถปรับเปลี่ยนรังสีของจิตวิญญาณของเขาได้ตามใจ เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายได้สัมผัสรังสีจิตวิญญาณของเขาแล้ว จึงพยายามปลอมแปลงมันทันทีที่กลับถึงที่พัก ต่อให้นักปราชญ์โบราณโม่หลิงจะเสาะหาอย่างไร ก็ไม่มีทางจะพบสิ่งใดที่บ่งบอกว่าตัวเขาอาจเป็นผู้พยากรณ์จิตวิญญาณ

เป็นอย่างที่จางเซวียนคาดไว้ หลังจากตรวจสอบทั่วทางเดินพลังปราณของเขา เส้นด้ายจิตวิญญาณก็ถูกถอดถอนออกไป

“นักปราชญ์โบราณโม่หลิง…” ชายวัยกลางคนมองมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล อยากรู้ผลการสอบสวนของอีกฝ่าย

นักปราชญ์โบราณโม่หลิงตอบรับด้วยการส่ายหน้า รอยย่นปรากฏบนหน้าผากของเขา บ่งบอกถึงความไม่อยากเชื่อในผลการสอบสวน

เขาคิดว่าน่าจะขุดรากถอนโคนเจ้าตัวการได้อย่างรวดเร็วด้วยการค้นหาจิตวิญญาณของบรรดานักตรวจสอบสมบัติ เพราะถึงอย่างไร รากฐานวรยุทธของผู้พยากรณ์จิตวิญญาณกับนักรบทั่วไปก็แตกต่างกันมาก แต่ใครจะไปคิดว่าผลที่ได้จากบรรดานักตรวจสอบสมบัติจะออกมาเป็นลบทั้งหมด!

นักปราชญ์โบราณโม่หลิงหลับตาและครุ่นคิดอีกครู่หนึ่ง ไม่ช้า ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามา เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง “นักตรวจสอบสมบัติคนไหนบ้างที่เพิ่งมาถึงวันนี้?”

“ฮะ?”

จางเซวียนใจเต้นตึกตัก

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 2100 อ่านนิยาย

อ่านต่อเลือกตอนข้างล่าง


จางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท