Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1827

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1827

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1827 ผู้แทนอมตะ
“ถูกปรมาจารย์ขงกำจัด?” จางเซวียนรู้สึกราวกับกำลังฟังเทพนิยายเพ้อฝัน

สามารถฝังบางสิ่งไว้ในร่างของท่านพ่อของอำมาตย์เฉินหย่งได้…ความแข็งแกร่งของผู้แทนอมตะคนนั้นจะต้องเหนือกว่าแม้แต่นักรบขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด แล้วถ้าปรมาจารย์ขงจับตัวผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นได้ ตัวเขาจะต้องทรงพลังแค่ไหน?

ไม่น่าแปลกใจที่ปรมาจารย์โขงสร้างความหวาดกลัวอย่างล้ำลึกให้กับเผ่าพันธุ์ปีศาจจนพวกมันไม่กล้าเคลื่อนไหวอยู่หลายหมื่นปี ด้วยพละกำลังของเขา ไม่มีใครกล้าต่อต้าน

“ต่อให้พวกนั้นถูกควบคุม ถ้าพวกเราร่วมมือกัน ก็คงเอาชนะได้ เพียงแต่…” อำมาตย์เฉินหย่งขมวดคิ้วอย่างกังวล

“คุณกำลังกังวลเรื่องต้นกำเนิดของเมล็ดพันธุ์แห่งการยินยอมพร้อมใจใช่ไหม?” จางเซวียนถาม

เมล็ดพันธุ์แห่งการยินยอมพร้อมใจมาพร้อมกับผู้แทนอมตะ ซึ่งมันควรจะหายสาบสูญไปหลายปีแล้ว ไม่ควรจะมีอยู่ที่ไหนอีกแม้แต่ภายใต้การควบคุมของสามอำมาตย์ แต่อำมาตย์เฉินหลิงกลับนำมันออกมาได้ และใช้มันอย่างได้ผลด้วย…เขาได้มันมาจากไหน?

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?

“ใช่ การปรากฏของเมล็ดพันธุ์แห่งการยินยอมพร้อมใจย่อมหมายความว่าเจตจำนงของผู้แทนอมตะยังคงอยู่ และนั่นคือนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ที่มีความสามารถในการทำลายล้างมิติและยืนหยัดอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าได้โดยไม่เป็นอันตราย ถ้าอำมาตย์เฉินหลิงได้รับความช่วยเหลือจากคนระดับนั้นจริง เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก ต่อให้มีสมัครพรรคพวกมากมายแค่ไหนก็ตาม!” อำมาตย์เฉินหย่งพูด

มันอาจเป็นความแตกต่างเพียงขั้นเดียวระหว่างนักปราชญ์โบราณขั้น 4 กับนักปราชญ์โบราณขั้น 3 แต่ในแง่ของความเก่งกาจนั้นห่างกันหลายเท่า

ผู้หนึ่งสามารถทำลายล้างมิติและเข้าสู่มิติที่สูงกว่าได้ ในขณะที่คนอื่นๆยังต้องย่ำอยู่ที่เดิมไปชั่วชีวิต ลำพังแค่สิ่งนี้ ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าพละกำลังของพวกเขาห่างชั้นกันมาก

ตลอดหลายหมื่นปีที่ผ่านมา แม้จะไม่ปรากฏนักปราชญ์โบราณขึ้นในเผ่าพันธุ์ปีศาจกับเผ่าพันธุ์มนุษย์มากเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังคงมีนักปราชญ์โบราณอยู่หลายพันคน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็มีพละกำลังเทียบเท่ากับเขา คือเป็นนักรบขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือดโลกจารึก ส่วนผู้ที่สำเร็จวรยุทธนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ก็มีแต่ปรมาจารย์ขงกับไอ้โหดเท่านั้น

ส่วนคนอื่นๆ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างหนักหน่วงแค่ไหน ก็ไม่อาจก้าวข้ามด่านคอขวดด่านสุดท้ายไปได้

ถ้าในตอนนี้มีผู้แทนอมตะสักคนหนึ่งปรากฏตัว อย่าว่าแต่จะแก้แค้นเลย พวกเขาน่าจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่กันหมด!

ด้วยวรยุทธระดับนี้ ต่อให้กองกำลังมากมายแค่ไหนก็ไม่อาจอุดช่องว่างในความเหลื่อมล้ำของพละกำลังได้

“ใจเย็นก่อน! โลกของเราน่ะมีกฎเกณฑ์ของมัน ผู้แทนอมตะไม่อาจลงมาสู่โลกของเราได้ง่ายดายขนาดนั้น ขอแค่เราเคลื่อนไหวให้รวดเร็วพอและเล่นงานอำมาตย์เฉินหลิงเสีย ก็ไม่น่ามีอะไรที่ต้องกังวล!” นักปราชญ์โบราณเปลวเพลิงคำราม

เขาเองก็หวาดกลัวผู้แทนอมตะเช่นกัน แต่…หมอนั่นก็ยังไม่ได้ปรากฏตัวนี่ ใช่ไหม?

ไม่มีความจำเป็นจะต้องกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิด ถ้าอำมาตย์เฉินหลิงตาย ใครกันที่จะเล่นงานพวกเขาได้?

“คุณพูดถูก!” อำมาตย์เฉินหย่งพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

เขายกมือขึ้นและกำลังจะสั่งการทุกคนให้เปิดการโจมตีพร้อมๆกัน ก็พอดีกับที่อำมาตย์เฉินหลิงหันขวับมาพร้อมกับส่งยิ้มให้

เขาดูออกว่าเมื่อครู่อีกฝ่ายกำลังหารือกันถึงเรื่องอะไรบางอย่าง แต่เลือกที่จะปล่อยไป ไม่เข้าไปขัดขวาง นั่นเป็นเพราะเขามั่นใจในชัยชนะ และมันก็เป็นอุบายอย่างหนึ่งที่จะฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความหวาดกลัวลงในหัวใจของอีกฝ่าย

“อำมาตย์เฉินหย่ง คุณรู้ไหมว่าทำไมคุณถึงต้องตกอยู่ในสภาพนี้?” อำมาตย์เฉินหลิงตั้งคำถาม

คำนั้นทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผากของอำมาตย์เฉินหย่งทันที

“ง่ายนิดเดียว เรื่องจริงก็คือคุณไม่โหดเหี้ยมเท่าผม ผมยอมรับว่าผมอ่อนด้อยกว่าคุณในแง่ของพละกำลังและความเฉลียวฉลาด แต่สำหรับความโหดเหี้ยมน่ะผมเหนือชั้นกว่าคุณมาก ผมสามารถสังเวยชีวิตคนของเรามากมายนับไม่ถ้วนเพื่อให้ผมฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ผมพร้อมจะร่วมมือกับเผ่าพันธุ์มนุษย์เพื่อให้คุณถูกสังหาร อันที่จริง ผมพร้อมจะมอบทั้งชีวิตและจิตวิญญาณ เพื่อรับใช้ผู้อื่น เพียงเพื่อให้คุณถึงแก่ความตาย! คุณไม่มีความเด็ดเดี่ยวอย่างที่ผมมี และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงทำอะไรที่สำคัญๆไม่สำเร็จสักอย่างในยุคสมัยของคุณ!” อำมาตย์เฉินหลิงเยาะเย้ย

“มอบทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของคุณ? คุณหมายความว่าอย่างไร?” อำมาตย์เฉินหย่งเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

เขาจับความผิดปกติในคำพูดของอำมาตย์เฉินหลิงได้ทันที สำหรับ 2 เรื่องก่อนหน้านี้คือการร่วมมือกับเผ่าพันธุ์มนุษย์และการใช้ชีวิตผู้คนมากมายเป็นเครื่องบูชายัญนั้น เขาเข้าใจ แต่เขาไม่เคยได้ยินเรื่องที่อำมาตย์เฉินหลิงมอบชีวิตและจิตวิญญาณเพื่อรับใช้คนอื่นมาก่อน!

นั่นหมายความว่าอย่างไร?

“เรื่องนั้นไม่ใช่กงการของคุณ ทั้งหมดที่คุณต้องรู้ก็คือ วีรบุรุษทุกคนน่ะมีความโหดเหี้ยมอยู่ในตัวทั้งนั้น ถ้ามัวแต่สนใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ คุณขาดความโหดเหี้ยม และนั่นคือเหตุผลที่การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องจบลงด้วยการที่ผมได้ชัยชนะ!” อำมาตย์เฉินหลิงหัวเราะลั่นก่อนจะโบกมืออย่างวางมาด “ฆ่าพวกมันให้หมด!”

“ได้!”

ฟิ้วววว!

เมื่อได้ยินคำสั่ง นักปราชญ์โบราณทุกคนพุ่งเข้าใส่เพื่อโจมตีจางเซวียนกับคนอื่นๆทันที

ในเวลาเดียวกัน อำมาตย์เฉินหลิงก็กดนิ้วลงไป พละกำลังมหาศาลพุ่งออกจากปลายนิ้วของเขา ในตอนนั้นมันให้ความรู้สึกราวกับว่าโลกเดินทางมาจนถึงวันสุดท้ายของมัน

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!

ศีรษะของบรรดานักรบที่คุกเข่าอยู่รอบแท่นระเบิดเละไม่เหลือชิ้นดี เลือดสดๆกระจัดกระจายไปทั่วก่อนจะหยดลงบนขั้นบันได เพียงเท่านี้ ขั้นบันไดก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงก่ำเป็นหย่อมๆ

“คุณ…”

นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะโหดเหี้ยมถึงขนาดสังหารคนของตัวเองมากมายขนาดนี้ อำมาตย์เฉินหย่งแทบเสียสติ นัยน์ตาของเขาแดงก่ำด้วยโทสะขณะพุ่งเข้าใส่อำมาตย์เฉินหลิง อยากจะฉีกฝ่ายให้เป็นชิ้นๆ

ถึงเขาจะยังบาดเจ็บสาหัส แต่ในตอนนั้นก็ไม่ใส่ใจแล้ว

อำมาตย์เฉินหย่งมีความคิดเดียวอยู่ในหัวใจ -ถ้าอำมาตย์เฉินหลิงไม่ตายวันนี้ เขาก็จะลากหมอนี่ลงนรกไปกับเขาด้วย!

ไม่อย่างนั้น เผ่าพันธุ์แห่งจิตวิญญาณก็มีแต่จะตกต่ำลงไปเรื่อยๆภายใต้การนำของอีกฝ่าย และอาจลงท้ายด้วยการถูกทำลายล้างจนสิ้นซาก

“คู่ต่อสู้ของคุณน่ะคือผม!”

ฟึ่บ!

แต่ยังไม่ทันที่อำมาตย์เฉินหย่งจะทันได้เคลื่อนไหว นักปราชญ์โบราณคนหนึ่งก็ปราดเข้ามาอยู่ตรงหน้า อีกฝ่ายกวัดแกว่งอาวุธเข้าใส่ใบหน้าของอำมาตย์เฉินหย่ง

เขาคือหนึ่งในนักปราชญ์โบราณที่ถูกเมล็ดพันธุ์แห่งการยินยอมพร้อมใจควบคุมไว้

แม้นักปราชญ์โบราณคนนี้จะเป็นเพียงนักรบขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด แต่ด้วยสภาวะร่างกายที่อ่อนแอของอำมาตย์เฉินหย่ง ต่อให้เขาสำแดงพละกำลังเต็มพิกัด ก็คงยากที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้

อาวุธกวัดแกว่งอยู่กลางอากาศ เกิดเป็นภาพติดตาเหมือนกับม่านที่ถูกดึงขึ้น พละกำลังที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของอาวุธนั้นทำให้คลื่นความสั่นสะเทือนของมิติลามไปจนถึงอำมาตย์เฉินหย่ง กักขังเขาไว้ให้อยู่กับที่

ด้วยการโจมตีอย่างไม่ลดละของนักปราชญ์โบราณ อำมาตย์เฉินหย่งหน้าซีดลงเรื่อยๆ แม้แต่ลมหายใจก็ดูจะแผ่วเบาไป

หากเป็นในอดีต เขาคงสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ระดับนี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ในเวลานี้คือหลบเลี่ยงการโจมตี ทำให้ต้องตามน้ำไป

เพียงแค่คิดว่าตอนนี้เขาไร้เรี่ยวแรงแค่ไหน ก็ทำให้เขาอกคับใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว

“ฝ่าบาท พวกเรามาช่วยคุณ!”

ในตอนนั้นเอง เสียงตวาดก้องก็ดังขึ้นจากด้านล่าง เมื่อมองลงไป อำมาตย์เฉินหย่งเห็นหลิวหยางกับพรรคพวกมาถึงพร้อมกับกองทัพเผ่าพันธุ์ปีศาจจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

บึ้มมมม!

เมื่อรวมพละกำลังของพวกเขาเข้าด้วยกัน พละกำลังนั้นก็พุ่งสูงขึ้นสู่กลางอากาศ แล้วตรงเข้าเล่นงานอาวุธของนักปราชญ์โบราณ ทำให้มันหักเป็น 2 ท่อน

มีความเหลื่อมล้ำอยู่มากระหว่างพละกำลังของนักปราชญ์โบราณกับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ภายใต้สถานการณ์ปกติ ไม่มีทางที่ทั้งสองฝ่ายจะสู้รบกันได้ แน่นอนว่ามันย่อมเป็นการสังหารฝ่ายเดียว

แต่เพราะหลิวหยางกับพรรคพวกใช้พละกำลังนับหมื่นของพวกเขารวมตัวกันในรูปแบบของค่ายกลผนึกกำลัง ทำให้ปล่อยพลังออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถรับมือได้แม้แต่กับนักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด

หากสามารถใช้พละกำลังของคนหมู่มากได้อย่างถูกวิธี แม้แต่กองทัพมดก็ยังสามารถกัดช้างตัวหนึ่งให้ถึงตายได้ กองทัพที่ได้รับการจัดระเบียบอย่างดีก็สามารถสร้างความหวาดกลัวได้แม้แต่กับนักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือด

แต่แน่นอนว่าพละกำลังที่ผ่านค่ายกลผนึกกำลังนั้นมีขีดจำกัด ทันทีที่นักปราชญ์โบราณที่มีวรยุทธขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือดมีเวลามากพอที่จะหลบเลี่ยง ในที่สุดพวกเขาก็จะพบช่องโหว่ของค่ายกลผนึกกำลังและเล่นงานทั้งกองทัพให้พ่ายแพ้ได้

“พวกคุณรนหาที่ตายแล้ว!”

เห็นอาวุธของเขาถูกนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่กับนักรบระดับเซียนกลุ่มหนึ่งทำลาย นักปราชญ์โบราณผู้นั้นหรี่ตาด้วยความโมโห เขาคำรามกึกก้อง จากนั้นก็เงื้อฝ่ามือขึ้นและปล่อยพลังเข้าใส่หลิวหยางกับคนอื่นๆ

ทันทีที่การโจมตีเข้าถึงเป้าหมาย ก็แน่นอนว่าหลิวหยางกับพรรคพวกจะต้องจบเห่แน่!

“ฮึ่มมม!”

แต่ขณะที่การโจมตีกำลังจะถึงตัวหลิวหยาง เสียงคำรามก็ดังขึ้นกลางอากาศ จากนั้น หอกเล่มหนึ่งก็พุ่งออกมาจากที่ไหนสักแห่ง

ฉึกกก!

ปลายหอกปักเข้าที่มือของนักปราชญ์โบราณผู้นั้น ทำให้เลือดสดๆของเขาไหลออกมา

จากนั้น ขณะที่นักปราชญ์โบราณคิดว่าผู้ที่โจมตีเขาอย่างปุบปับคงจะดำเนินการโจมตีอย่างต่อเนื่องและสังหารเขา ก็กลับเห็นอีกฝ่ายนำขวดหยกออกมาแล้วค่อยๆบรรจุเลือดที่เขาเก็บได้อย่างระมัดระวัง

สีหน้าของอีกฝ่ายบ่งบอกความตื่นเต้นขณะเก็บหยดเลือดของเขา แววตาดูทุ่มเทสุดๆ

“….” นักปราชญ์โบราณ

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 2100 อ่านนิยาย

อ่านต่อเลือกตอนข้างล่าง


จางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท