Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1944

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 1944

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1944 ลอบสังหาร?
“คุณจะรีบร้อนไปหน่อยไหม? ผมไม่รู้เลยว่าสำนักเจ้าเมืองมีนิสัยชอบด่วนสรุป” ตั้นเฉี่ยวเทียนคำราม เขาหันไปมองหัวเจียงเหอ จากนั้นก็ประสานมือและตั้งคำถามอย่างสุภาพ “ศิษย์พี่หัว ผมขอเบิกตัวพยาน!”

“ได้สิ” หัวเจียงเหอพยักหน้า

“เข้ามา!” ตั้นเฉี่ยวเทียนมองออกไปข้างนอกและออกคำสั่ง

ร่างหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีดำและหมวกฟางเพื่ออำพรางตัวอย่างมิดชิดเดินออกมาจากหมู่ฝูงชน เขายืนอยู่หน้าการไต่สวน จากนั้นก็ถอดหมวกออกช้าๆ

“เขาคือเฉาเฉิงลี่!”

“คุณหมายถึงหัวหน้ากองโจรคนนั้น?”

“เขากล้าเดินเข้ามาในสำนักเจ้าเมืองเลยหรือ? บังอาจ! ฆ่าเขาเสีย!”

“เขาคือพยานที่ตั้นเฉี่ยวเทียนเรียกมาใช่ไหม? ดูเหมือนทั้งคู่จะรวมหัวกันจริงๆ!”

…..

เมื่อเห็นร่างนั้นใกล้ๆ ฝูงชนแทบจะคลุ้มคลั่ง

คนที่เพิ่งเข้ามาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวหน้ากองโจร, เฉาเฉิงลี่

ที่ซ่อนของหมอนี่อยู่ในส่วนลึกของหุบเขาที่อยู่ไกลออกไป เขาเชี่ยวชาญมากในการบุกป่าฝ่าดงในภูมิประเทศที่ซับซ้อน ด้วยเหตุนี้ ความพยายามหลายต่อหลายครั้งของสำนักเจ้าเมืองที่จะจับกุมเขาจึงล้วนแต่คว้าน้ำเหลว…แต่หมอนี่กล้าเดินอาดๆเข้ามาในสำนักเจ้าเมือง? ใครทำให้เขาอาจหาญได้ขนาดนั้น?

“ทุกคนเห็นไหม? เฉาเฉิงลี่ทำตามคำสั่งของตั้นเฉี่ยวเทียน! ชัดเจนเลยว่าพวกเขารวมหัวกัน!” เฉว่เฉินตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดตัวลอย

หลักฐานที่มีก่อนหน้านี้ล้วนแต่มาจากการสังเกตและพยานที่อยู่โดยรอบ แต่หมอนี่กลับนำตัวหัวหน้ากองโจรเข้ามา

นี่คือการตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ใครสักคนหนึ่งจะทำได้ในสถานการณ์แบบนี้

“รวมหัว?” ตั้นเฉี่ยวเทียนหัวเราะลั่นขณะมองเฉาเฉิงลี่ที่สวมเสื้อคลุมสีดำ “ทำไมเราไม่ฟังจากปากของเจ้าตัวล่ะว่าเขารวมหัวกับใครกันแน่?”

“เป็นเขา!” เฉาเฉิงลี่ก้าวออกมาและชี้นิ้วไปที่เฉว่เฉินกับเฉว่ชิง “เธอก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย”

“คุณพูดเหลวไหลอะไรออกมา? กล้าพูดโกหกในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยุติธรรมแบบนี้หรือ?” เฉว่เฉินเลิกคิ้วขณะรีบปฏิเสธคำกล่าวหาของเฉาเฉิงลี่

“พูดเหลวไหล?” เฉาเฉิงลี่กำหมัดแน่นด้วยความโมโหเดือด เขาหันกลับไปมองฝูงชนแล้วตั้งต้นทบทวนเรื่องราวด้วยเสียงดังฟังชัด “เมื่อคืนวาน เฉว่เฉินไปหาผมถึงที่พัก เอ่ยปากให้ผมลอบสังหารชายผู้หนึ่ง ขอแค่ผมสังหารเป้าหมายได้สำเร็จ เขาก็จะมอบเงินให้ผม 50,000 เหรียญนิรันดร์ ผมสืบเสาะอยู่สักพักและพบว่าชายที่ผมจะต้องสังหารเป็นคนอ่อนแอ จึงรีบตอบรับคำขอของเขา!”

“ลอบสังหาร?”

“อ่อนแอ?”

ในหมู่ฝูงชน มีผู้ปราดเปรื่องอยู่จำนวนหนึ่งที่คาดเดาไว้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขารีบหันกลับไปมองตั้นเฉี่ยวเทียน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คำพูดเหล่านั้นคือสิ่งที่ใช้พูดถึงตั้นเฉี่ยวเทียนอยู่บ่อยครั้ง

“ใช่ เป้าหมายของการลอบสังหารไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตั้นเฉี่ยวเทียน!” เฉาเฉิงลี่ตอบข้อสงสัยของฝูงชน “ผมจึงเตรียมการลอบโจมตีเขาในคืนนั้น แต่ตั้นเฉี่ยวเทียนกลับแข็งแกร่งกว่าที่ผมคิดไว้มาก ภารกิจลอบสังหารของผมจึงล้มเหลว สมาชิกในกองโจรของผมทุกคนถูกเขาจัดการเรียบ…”

มันออกจะน่าตกใจเกินไปหากเขาพูดว่าบรรดาลูกน้องของเขาถูกสังหารโดยม้าตัวหนึ่งและเกี้ยวหลังหนึ่ง ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ปรับเปลี่ยนเรื่องราวให้ดูน่าเชื่อถือกว่าเดิมสักนิดย่อมดีกว่า

“เพราะความโชคดีที่ทำให้ผมหนีเอาชีวิตรอดมาได้ ผมรีบกลับไปพบเฉว่เฉินและเรียกร้องค่าชดเชยจากเขาสำหรับข้อมูลที่ผิดพลาดซึ่งนำไปสู่ความตายของลูกน้องของผมจำนวนมากมาย แต่เขากลับมอบเงินให้ผมเพียง 500 เหรียญนิรันดร์ ด้วยความโมโห ผมสะกดรอยตามเขากลับไปถึงที่พัก หวังว่าจะได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่สิ่งที่ผมได้เห็นก็คือเฉว่เฉินเข้าสู่สำนักเจ้าเมือง และในตอนนั้นเองที่ผมคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ อีกอย่าง…ด้วยความบังเอิญ ผมได้บันทึกภาพนี้ไว้ในผลึกบันทึก กรุณาตรวจสอบดู” เฉาเฉิงลี่พูดขณะเริ่มเปิดใช้งานผลึกบันทึกที่เขาบันทึกภาพเมื่อคืนก่อนไว้

ภาพนั้นเผยให้เห็นลานบ้านของสำนักเจ้าเมืองที่ได้รับการอารักขาอย่างเข้มงวด สิ่งแรกที่ปรากฏต่อสายตาคือทหารกลุ่มใหญ่ที่ยืนเรียงกันเป็นระเบียบภายใต้คำสั่งของชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง, เฉว่เฉิน ซึ่งยืนอยู่แถวหน้า ทหารเหล่านั้นถอดชุดเกราะของตัวเองออกและเปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าสีดำของเหล่ากองโจร หลังจากทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เฉว่เฉินก็สั่งการเสียงดังฟังชัด “ในภารกิจนี้ ตั้นเฉี่ยวเทียนกับทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาจะต้องถูกสังหารหมดสิ้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม!”

บันทึกภาพไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น ผู้บันทึกภาพได้ติดตามกองทหารที่แต่งกายในชุดน่าสงสัยขณะที่พวกเขาพากันข้ามถนน มุ่งหน้าสู่บ้านพักของตั้นเฉี่ยวเทียน

“บันทึกภาพนี้ดูเหมือนกับบันทึกภาพที่เล่นเมื่อครู่ก่อน น่าจะถูกบันทึกในระยะเวลาเดียวกัน…”

“ผมคิดว่าคนที่สวมเสื้อผ้าพวกนั้นคือพวกกองโจร ใครจะไปคิดว่าแท้ที่จริงแล้วคือกองทหารของสำนักเจ้าเมือง…”

“เดี๋ยวก่อน หมายความว่ากองทหารของสำนักเจ้าเมืองจงใจปลอมตัวเป็นกองโจรเพื่อสังหารคนอื่นใช่ไหม?”

…..

ไม่ช้าผู้ชมบางส่วนก็รู้สึกได้ว่าสภาพแวดล้อมที่ปรากฏในบันทึกภาพของเฉาเฉิงลี่เหมือนกับ บันทึกภาพที่ถูกเล่นก่อนหน้านี้ เพียงแต่ถ่ายจากคนละมุมกัน

จากเสื้อผ้า พวกเขาเข้าใจโดยอัตโนมัติว่าคนชุดดำกลุ่มนั้นคือพวกกองโจร แต่กลับกลายเป็นเพียงเปลือกนอก แท้ที่จริงแล้วคือกองทหารของสำนักเจ้าเมือง!

ฟึ่บ!

ภาพหยุดลงหลังจากที่กองทหารเข้าสู่บ้านพักตระกูลตั้น เฉาเฉิงลี่เก็บผลึกบันทึก จากนั้นก็มองหน้าเฉว่เฉินและตั้งคำถาม “คุณยังมีอะไรจะแก้ตัวไหม?”

“คุณ…นั่นมันหลักฐานปลอม!” เฉว่เฉินหน้าซีดด้วยความพรั่นพรึง

เขานึกไม่ถึงว่าจะมีใครติดตามเขาและบันทึกภาพเหล่านี้

“หลักฐานปลอม? คุณพูดราวกับว่าสร้างหลักฐานปลอมได้ง่ายๆอย่างนั้นแหละ ทำไมคุณไม่พยายามสร้างหลักฐานปลอมสักชิ้นล่ะ?” เฉาเฉิงลี่คำราม

เป็นไปไม่ได้ที่จะปรับเปลี่ยนภาพที่ถูกบันทึกไว้ในผลึกบันทึก และการยืนยันจากเพื่อนบ้านของตั้นเฉี่ยวเทียนก็ยิ่งตอกย้ำข้อเท็จจริงในบันทึกภาพของเฉาเฉิงลี่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

“ผม…” เฉว่เฉินหน้าซีดเผือดขณะถอยกรูด “นี่มันเหลวไหลทั้งเพ! คุณหมั้นหมายกับนายหญิงน้อยที่ 2, และด้วยความปราดเปรื่องของคุณ ทำไมพวกเราจะต้องสังหารคุณด้วย? สำนักเจ้าเมืองโง่เง่าถึงขนาดคิดจะทำอะไรแบบนั้นหรือ?”

“ข้อโต้แย้งของเฉว่เฉินก็ฟังขึ้นนะ…”

ฝูงชนรีบหันกลับไปมองตั้นเฉี่ยวเทียน อยากรู้ว่าเขาจะอธิบายอย่างไร

ในเมื่อทั้งสองมีสัญญาผูกมัดการแต่งงานต่อกัน ก็ควรจะเป็นเรื่องดีสำหรับสำนักเจ้าเมืองที่ตั้นเฉี่ยวเทียนกลายเป็นอัจฉริยะ หรือหากคิดในอีกแง่หนึ่ง ต่อให้เฉว่ชิงกับตั้นเฉี่ยวเทียนเกิดความไม่เห็นพ้องต้องกัน ก็แค่ยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงาน เรื่องก็จบ สำนักเจ้าเมืองถึงกับต้องวางแผนลอบสังหารตั้นเฉี่ยวเทียนเลยหรือ?

เรื่องนี้ฟังดูไม่สมเหตุสมผลนัก

“คุณกำลังถามผมว่าทำไมคุณถึงอยากฆ่าผม? ดูเหมือนความจำของคุณจะไม่ค่อยดีนะ บางทีสิ่งนี้อาจช่วยทบทวนความจำของคุณได้!” ตั้นเฉี่ยวเทียนหัวเราะหึๆขณะนำผลึกบันทึกอีกอันหนึ่งออกมาเพื่อเปิดเผยบันทึกภาพที่อยู่ภายใน

“คุณก็รู้ว่าฉันมาที่นี่ทำไม แต่แทนที่จะออกไปต้อนรับฉันด้วยตัวเอง กลับส่งเจ้าคนใช้ต่ำต้อยมามอบสัญญาผูกมัดการแต่งงานให้ คุณคิดหรือว่ามันจะจบง่ายๆแบบนั้น?”

ในภาพ ท่าทีของเฉว่ชิงทั้งเย็นชาและหยาบคาย ราวกับสูงส่งเสียเต็มประดา

“ที่ฉันต้องการจากคุณน่ะไม่มากมายอะไรหรอก ก็แค่อยากให้คุณประกาศให้ทั้งเมืองรู้ว่าคุณคือคนที่ตัดสินใจยกเลิกการแต่งงานของเราเพราะคุณรู้สึกว่าคุณไม่คู่ควรกับฉัน ท่านพ่อของฉันคงจะใช้เวลาใคร่ครวญระยะหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเคารพความคิดเห็นของคุณและระงับการแต่งงานของเราไว้ ไอ้การที่คุณมอบกระดาษแผ่นนั้นให้ฉันน่ะ คิดหรือว่าจะให้ฉันเที่ยวบอกใครๆว่าตัวฉัน, เฉว่ชิง ไม่ยอมแต่งงานกับคุณ ฉันจะปล่อยให้ชื่อเสียงของสำนักเจ้าเมืองผู้ทรงเกียรติต้องด่างพร้อยได้อย่างไร?”

“อ๋อ เรื่องนั้นง่ายนิดเดียว! ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลตั้นทำร้ายผู้คนไปไม่น้อย ถูกไหม? คุณควรจะรู้ตัวนะว่าถ้าไม่ใช่เพราะการหมั้นหมายระหว่างคุณกับเฉว่ชิง คุณคงตายไปหลายครั้งหลายหนแล้ว” เฉว่เฉินคำรามเยาะอยู่ในบันทึกภาพ

“การตายของคุณจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของสำนักเจ้าเมืองได้อย่างไร? เรื่องเป็นอย่างนี้นะ ท่านเจ้าเมืองจะโกรธกริ้วอย่างหนักเมื่อรับรู้การตายของคุณ เขาจะส่งคนออกตามล่าตัวการเพื่อล้างแค้นให้ ส่วนนายหญิงน้อยที่ 2 ของเรา, เธอจะคร่ำครวญโศกเศร้าอยู่นาน และลงท้ายก็ตัดสินใจจะออกจากดินแดนแห่งความอาดูรนี้ไป และมุ่งหน้าสู่สำนักดาบเมฆเหิน!”

…..

ผลึกบันทึกเปิดเผยความหยาบคายและเจตนาร้ายของทั้งเฉว่เฉินและเฉว่ชิงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นคำพูด สีหน้า หรือกิริยา!

“กลับกลายเป็นว่าเธอคือผู้ที่อยากยกเลิกสัญญาผูกมัดการแต่งงาน แต่ไม่พอใจที่ถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ เพื่อรักษาชื่อเสียงไว้ จึงยอมทำแม้กระทั่งลดตัวลงไปสังหารเขา…”

“ใจคอเหี้ยมโหดอะไรอย่างนี้!”

“ชื่อเสียงของสำนักเจ้าเมืองโดดเด่นเป็นสง่ามานานหลายปี ใครจะไปคิดว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขา ซ่อนการกระทำอันชั่วร้ายโหดเหี้ยมไว้?”

“น่าอับอายเหลือเกิน…ผมไม่เคยรู้สึกอับอายที่ต้องเป็นพลเมืองของเมืองชวนเจียงมากเท่านี้!”

…..

เมื่อได้ดูบันทึกภาพแล้ว ก็ไม่มีใครที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นัยน์ตาของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยวขณะหันกลับไปมองเฉว่เฉินกับชเวชิง

“คะ-คุณ…”

เฉว่ชิงหน้าซีดเผือด รู้สึกเหมือนพละกำลังถูกดูดออกจากร่าง ทำให้เธอทรุดฮวบลงกับพื้น

เธอเคยคิดว่าทุกอย่างคงถูกจัดการอย่างเรียบร้อย เธอจะเป็นอิสระจากเจ้าขยะนี่ แถมชื่อเสียงก็จะโด่งดังกว่าเดิม…แต่ทุกอย่างกลับลงเอยในทิศทางที่เธอคาดไม่ถึง ทุกสิ่งที่เธอเคยทำไว้ถูกเปิดโปงต่อหน้าสาธารณชนอย่างหมดเปลือก!

นับจากวันนี้ไป ชื่อเสียงของเธอป่นปี้ไม่มีเหลือ

ทุกคนจะจดจำเธอในฐานะผู้หญิงหัวใจเย็นชาที่ยอมลดตัวลงไปรวมหัวกับกองโจรเพียงเพื่อสังหารคู่หมั้นของตัวเองอย่างเลือดเย็น…

ใครจะกล้าแต่งงานกับเธอเมื่อเธอมีกิตติศัพท์แบบนี้?

เมื่อเรื่องแบบนี้เกิดกับตั้นเฉี่ยวเทียนได้ จะมีอะไรรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนต่อไป?

“ไอ้พวกสวะ! วันนี้ฉันจะสั่งสอนพวกแกในฐานะที่บังอาจสร้างหลักฐานปลอมเพื่อใส่ร้ายสำนักเจ้าเมือง!” เฉว่เฉินคำรามก้องขณะกระโจนเข้าใส่ตั้นเฉี่ยวเทียนกับเฉาเฉิงลี่

เกิดลมพัดหอบใหญ่ พละกำลังจากฝ่ามือของเขาพุ่งออกไปอย่างหนักหน่วง

หลังจากเรื่องที่เกิดทั้งหมด เฉว่เฉินรู้ดีว่าเขาจนมุมแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำได้ก็คือปิดปากตั้นเฉี่ยวเทียนกับเฉาเฉิงลี่เสีย มีแต่ความตายเท่านั้นที่จะทำให้เขากอบกู้สถานการณ์ได้ดังเดิม

ด้วยวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 3 เขาสกัดกั้นทุกอย่างภายในห้องนั้นไว้อย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา ทั้งตั้นเฉี่ยวเทียนกับเฉาเฉิงลี่ก็รู้สึกเหมือนมีหมาป่าโหดเหี้ยมคอยจับจ้องอยู่ ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านจากภายใน

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 2100 อ่านนิยาย

อ่านต่อเลือกตอนข้างล่าง


จางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท