อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1947 ศิลปะเพลงดาบนั่น…
ด้วยความใหญ่โตของทวีปที่ถูกลืม การควานหาตัวเฉว่เหยาก็ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร
“ดี!” ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นพยักหน้า เขาหันไปพูดกับหัวเจียงเหอ “ลดระดับวรยุทธของคุณลงเป็นนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 3 และสู้กับเขาด้วยทุกวิถีทางที่คุณมี ห้ามออมมือโดยเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
“ขอรับ ผู้อาวุโสลู่” หัวเจียงเหอพยักหน้า
เขาเดินตรงเข้าหาตั้นเฉี่ยวเทียนขณะลดระดับวรยุทธลงมาเป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 3 เมื่อประจำตำแหน่งแล้ว ก็ชักดาบออกมาก่อนจะโบกมือร้องเรียกตั้นเฉี่ยวเทียน “มาเลย!”
“ท่านอาจารย์…”
นี่เป็นครั้งแรกที่ตั้นเฉี่ยวเทียนต้องต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญตัวจริง จึงอดกังวลใจเล็กน้อยไม่ได้ เขาหันไปมองท่านอาจารย์เพื่อขอกำลังใจ แต่อีกฝ่ายก็ยืนนิ่งราวกับไม่มีความเห็นใดๆต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
เท่าที่เห็น ดูเหมือนท่านอาจารย์ไม่คิดจะขัดขวางการดวลครั้งนี้!
“ช่างมันเถอะ เราก็แค่ต้องทำให้เต็มที่!” ตั้นเฉี่ยวเทียนกัดฟันอย่างมุ่งมั่น
ท่านอาจารย์มอบอะไรให้เขามากมายแล้ว เขาแค่ต้องก้าวข้ามขั้นสุดท้ายไปให้ได้ด้วยตัวเองเพื่อให้ได้เป็นศิษย์สายตรงฝ่ายในของสำนักดาบเมฆเหิน จะมาท้อถอยในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ไม่ได้
ฟึ่บ!
ในตอนนั้น หัวเจียงเหอพุ่งเข้าใส่ตั้นเฉี่ยวเทียนด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ราวกับมีกระแสคลื่นอันเกรี้ยวกราดพุ่งเข้าหาตัวเขา
แต่หลังจากได้เห็นศิลปะเพลงดาบของหัวเจียงเหอกับตา สิ่งที่ตั้นเฉี่ยวเทียนรู้สึกไม่ใช่ความพรั่นพรึง แต่เป็นความประหลาดใจ
ดูเผินๆ ศิลปะเพลงดาบของหัวเจียงเหออาจซับซ้อน แต่นั่นคือทุกอย่างที่ท่านอาจารย์ของเขาได้บอกไว้แล้ว ด้วยความรู้ที่เขามีตอนนี้ เขาพบว่าตัวเองเล่นงานกระบวนท่าของหัวเจียงเหอได้สบาย ความซับซ้อนและสง่างามต่างๆจะถูกกำจัดจนหมดสิ้น มันไม่เป็นความลับต่อเขาอีกต่อไป ราวกับทุกอย่างได้ถูกเปิดเปลือยตรงหน้า
ด้วยสิ่งนี้ การต่อสู้ย่อมง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ตั้นเฉี่ยวเทียนยืนนิ่งเพื่อมองลึกลงไปในเจตจำนงของคู่ต่อสู้ เขามองเห็นแปดวิถีทางที่จะเล่นงานศิลปะเพลงดาบของหัวเจียงเหอได้ในชั่วพริบตา
จากนั้นเขาก็ชักดาบและตรงเข้าโจมตีจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในเพลงดาบของหัวเจียงเหอ
หัวเจียงเหอถึงกับผงะและถอยกรูด
สำหรับตั้นเฉี่ยวเทียน นี่คือหลักฐานที่บ่งบอกชัดเจนว่าการถ่ายทอดความรู้จากท่านอาจารย์ของเขามีประสิทธิภาพ จึงเปิดการโจมตีซ้ำ
หัวเจียงเหอถูกบีบให้ล่าถอย
ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น ฝ่ายหนึ่งรุกคืบขณะที่อีกฝ่ายถอยกรูด วนเวียนไปอย่างนี้กว่า 20 กระบวนท่า ดาบของทั้งคู่ไม่ได้แตะต้องตัวของอีกฝ่าย แต่หัวเจียงเหอก็ถอยไปแล้วกว่า 40 ก้าว
“ศิลปะเพลงดาบนั่น…”
“ไร้เทียมทานจริงๆ!”
หวงเทา หูปิง และคนอื่นๆพากันจังงังกับความเก่งกาจของตั้นเฉี่ยวเทียน พวกเขามองหน้ากันราวกับเห็นผี
หัวเจียงเหอ หวงเทา กับไม้ไผ่ เคยสู้กับเจ้าโลกเมื่อตอนอยู่ที่หอนิรันดร์
ศิลปะเพลงดาบของเจ้าโลกเป็นดั่งศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้แต่ละคนงงงัน พวกเขาดูออกว่าศิลปะเพลงดาบนั้นไร้เทียมทานมาก แต่ไม่อาจวิเคราะห์ได้ว่ามันคืออะไรและอะไรที่ทำให้มันไร้เทียมทานขนาดนั้น
พูดอีกอย่างก็คือ ทุกคนรู้แต่ผลลัพธ์แต่ไม่รู้สาเหตุ จึงไม่อาจทำความเข้าใจพละกำลังของอีกฝ่ายได้อย่างถูกต้อง ยิ่งการประเมินยิ่งเป็นไปไม่ได้
แต่ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่ได้เป็นแบบนั้น ทุกคนดูออกว่าทุกกระบวนท่าของเขามีเป้าหมายอยู่ที่จุดอ่อนของหัวเจียงเหอ การวิเคราะห์และตีความพละกำลังของตั้นเฉี่ยวเทียนจึงทำได้ง่าย
ภายในไม่ถึง 10 วินาที การแลกเปลี่ยนกว่า 20 กระบวนท่าก็ทำให้หัวเจียงเหอหมดหนทางตอบโต้
แม้แต่ศิษย์ตรงฝ่ายในก็ยังไม่มีศิลปะเพลงดาบที่เฉียบคมขนาดนี้!
ต่อให้คำว่าน่าสะพรึงก็ไม่เพียงพอที่จะบรรยายศิลปะเพลงดาบของตั้นเฉี่ยวเทียน!
“เขาคือเจ้าโลกหรือเปล่า?” หน้าเหลี่ยมตั้งคำถาม
เขาไม่เคยปะทะกับเจ้าโลก จึงไม่รู้กระบวนท่าและวิธีการของอีกฝ่าย แต่คนอื่นๆเคยสู้กับเจ้าโลกมาแล้ว จึงน่าจะมองเห็นในสิ่งที่เขาไม่ทันสังเกต
“เจ้าโลกเล่นงานพวกเราได้ทันทีที่การดวลเริ่มต้น เขาไม่ได้ใช้กระบวนท่าธรรมดาสามัญ ผมจึงบอกไม่ได้จนกว่าเขาจะสำแดงกระบวนท่านั้นอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นก็วิเคราะห์ได้ยาก!” อวิ๋นเฟยหยางพูด
ไม่ใช่เพราะความสามารถในการหยั่งรู้ของพวกเขาอ่อนด้อย แต่เทคนิคการโยนดาบนั้นทรงพลังเกินไป
ทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็วจนแต่ละคนไม่อาจกะประมาณพละกำลังที่แท้จริงของผู้สำแดงกระบวนท่านั้นได้ ดังนั้น จึงไม่สามารถประเมินพละกำลังของอีกฝ่ายผ่านการสำแดงศิลปะเพลงดาบแบบธรรมดา
“แต่เท่าที่เห็น ดูเหมือนศิษย์พี่หัวคงไม่อาจบีบให้เขาสำแดงกระบวนท่านั้นได้เหมือนกัน…” หวงเทาตั้งข้อสังเกตพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ
ทุกคนเงียบไป
อีกฝ่ายบีบศิษย์พี่หัวให้ล่าถอยได้โดยไม่ต้องใช้เทคนิคนั้น ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อให้ศิษย์พี่หัวแพ้ พวกเขาก็ยังไม่อาจแน่ใจได้อยู่ดีว่าตั้นเฉี่ยวเทียนคือเจ้าโลก
“อันที่จริงก็มีวิธีทดสอบนะ แค่ดูกันต่อไป…” หน้าเหลี่ยมหันไปตะโกน “ศิษย์พี่ ใช้นัยน์ตาวารี!”
นัยน์ตาวารีคือฉายาของหัวเจียงเหอที่ใช้ในหอนิรันดร์ ทั้งยังเป็นชื่อทักษะที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดด้วย
ทักษะนี้เหมือนสายน้ำที่ไหลเซาะอย่างไม่หยุดหย่อนจนกว่าหินทุกก้อนที่ขวางทางของมันจะแหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ก็เพราะศิลปะเพลงดาบนี้ที่ทำให้หัวเจียงเหอโดดเด่นเหนือใครในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ายนอก รั้งตำแหน่งศิษย์พี่หมายเลข 1 เอาไว้ได้
“ได้สิ!”
หัวเจียงเหอเข้าใจเจตนาของศิษย์น้องของเขาทันที เขาคำรามก้อง จากนั้นก็ถ่ายทอดพลังปราณเข้าสู่ดาบและขับเคลื่อนมันออกมาอย่างดุเดือด ในชั่วพริบตา ก็ดูราวว่ากับตัวเขาแปรสภาพเป็นสายน้ำขนาดใหญ่ที่พร้อมจะกวาดทุกสิ่งที่ขวางทางให้แหลกสลายและราบคาบ
เห็นหัวเจียงเหอใช้เทคนิคขั้นสุดยอดของเขา ตั้นเฉี่ยวเทียนโยนดาบออกไปอย่างลังเลเล็กน้อย
ถ้าเขาอยากเอาชนะอีกฝ่าย ก็จะต้องเล่นงานสายน้ำที่อยู่ตรงหน้าให้ได้เสียก่อน
ฟิ้วววว!
ดาบของตั้นเฉี่ยวเทียนพุ่งแหวกอากาศออกไป
เขาฝึกฝนเทคนิคนี้ตลอดทั้งคืน สำแดงมันออกไปอย่างน้อยก็พันครั้ง ดาบของเขาหายวับไปจากจุดนั้นทันที เมื่อมันปรากฏอีกครั้ง ก็จ่ออยู่ที่ลำคอของหัวเจียงเหอ
“เวรแล้ว…” หัวเจียงเหอนัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความพรั่นพรึง
เขามัวแต่พยายามบีบให้เจ้าโลกสำแดงเทคนิคขั้นสูงสุดออกมาจนลืมนึกถึงความเสี่ยง หัวเจียงเหอปลดปล่อยวรยุทธทันที ในชั่วพริบตา พละกำลังของนักปราชญ์โบราณขั้น 4 ผู้ทำลายล้างมิติก็แผ่ซ่านออกจากร่าง
เมื่อเรียกพละกำลังเดิมกลับคืนมา หัวเจียงเหอจึงสกัดกั้นดาบเอาไว้ได้ แต่เหงื่อเย็นๆก็ชุ่มโชกแผ่นหลัง
ถ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่มีวรยุทธระดับเดียวกัน กระบวนท่านั้นคงคร่าชีวิตของเขาแล้ว
“เป็นเขาจริงๆ…”
หวงเทากับคนอื่นๆตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นกระบวนท่านั้น
ไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไป ตั้นเฉี่ยวเทียนคือเจ้าโลก
เฉว่เหยายืนโงนเงนก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น
ตั้งแต่เขากลับจากหอนิรันดร์เมื่อคืนวาน ก็ให้สงสัยว่าผู้เชี่ยวชาญที่มีฉายาว่าเจ้าโลกจะเป็นใคร ไม่นึกเลยว่าคือลูกเขยที่เขาจงเกลียดจงชังและดูถูกมาตลอด!
เฉว่ชิงก็แทบเสียสติ
เมื่อคืนวาน เธออยู่กับหัวเจียงเหอตอนที่อีกฝ่ายท้าทายเจ้าโลก จึงไม่มีทางที่จะจดจำกระบวนท่านั้นไม่ได้…ถ้าตั้นเฉี่ยวเทียนคือเจ้าโลกจริงๆ นั่นหมายความว่าเธอกลายเป็นคนรับใช้ของเขาใช่ไหม?
แทนที่จะเป็นคู่หมั้น กลับกลายไปเป็นคนรับใช้ของเขา…
ในตอนนั้น เธออยากจะควักลูกตาทิ้งเหลือเกิน!
มีหยกงดงามเจิดจ้าอยู่ตรงหน้า แต่กลับมองว่ามันไร้ค่าไม่ต่างอะไรกับก้อนอิฐและโยนมันทิ้ง
ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นเฝ้ามองการดวลที่ดำเนินไป เขาพยักหน้าด้วยความตื่นเต้นขณะประกาศผล “ตั้นเฉี่ยวเทียนคือผู้ชนะ!”
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่อีกฝ่ายไม่ตอบตกลงเข้าร่วมกับสำนักดาบเมฆเหินในทันที เรื่องของเรื่องก็คือเขาเฝ้ารอโอกาสที่จะตบหน้าเจ้าเมือง!
ตั้นเฉี่ยวเทียนต้องการทำให้อีกฝ่ายเสียใจกับการกระทำอันชั่วร้ายของตัวเอง!
คนหนุ่มสมัยนี้ช่างเลือดร้อนเสียจริง…แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อครอบครัวของเขาล่มสลาย ใครก็ตามที่เจอเรื่องแบบเขาก็คงต้องทำแบบเดียวกัน
“การที่คุณเอาชนะหัวเจียงเหอได้ก็หมายความว่าคุณผ่านการทดสอบของศิษย์สายตรงฝ่ายในได้อย่างง่ายดาย และในเมื่อคุณสำเร็จวรยุทธระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 3 โลกจารึกได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีโดยปราศจากทรัพยากรพิเศษใดๆ ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่าคุณน่าจะยกระดับวรยุทธไปเป็นนักปราชญ์โบราณได้เมื่ออายุ 17 ปี!”
ผู้อาวุโสลู่มองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างพออกพอใจกว่าเดิม เขาประกาศก้อง “ตัวผมในฐานะผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักดาบเมฆเหิน ขอประกาศว่าตั้นเฉี่ยวเทียนได้ผ่านการทดสอบของศิษย์สายตรงฝ่ายในแล้ว เขาได้การยอมรับให้เป็นศิษย์สายตรงฝ่ายในคนหนึ่งของสำนักดาบเมฆเหิน และจะได้รับสิทธิพิเศษทั้งหมดที่ศิษย์สายตรงฝ่ายในพึงได้!”
“ขอบคุณ ผู้อาวุโสลู่” ตั้นเฉี่ยวเทียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่าเพื่อกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย
ด้วยตัวตนของเขาในเวลานี้ ต่อให้ไม่มีหลักฐานที่แน่นหนา ก็สามารถสังหารเฉว่เหยาและล้างแค้นให้ท่านพ่อกับท่านแม่ของเขาได้แล้ว!
เห็นสายตาเย็นเยียบของตั้นเฉี่ยวเทียนที่เชือดเฉือนมา เฉว่เหยาหน้าซีดด้วยความพรั่นพรึงขณะถอยกรูด “คะ-คุณจะทำอะไรน่ะ? คุณยังมีสัญญาผูกมัดการแต่งงานกับเฉว่ชิงนะ ผมคือพ่อตาของคุณ!”
“ศิษย์พี่หัว ผมขอวิงวอนให้คุณช่วยผมจัดการเขาด้วย ผมอยากล้างแค้นให้สมาชิกทั้ง 97 คนในตระกูลของผม!” ตั้นเฉี่ยวเทียนกัดฟันกรอด
ตอนที่คุณสังหารสมาชิกในครอบครัวของผม เคยคิดว่าตัวเองเป็นพ่อตาของผมไหม?
ตอนที่เฉว่เฉินรวมหัวกับกองโจรแล้วเกือบทำให้ผมถูกฆ่าตาย คุณเคยคิดว่าตัวเองเป็นพ่อตาของผมหรือเปล่า?
เพิ่งมานึกได้ตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยหรือ?
หัวเจียงเหอกับคนอื่นๆเปิดการโจมตีพร้อมกันเพื่อจัดการเฉว่เหยา ถึงเฉว่เหยาจะเป็นนักรบที่เก่งกาจ แต่อวิ๋นเฟยหยาง หวงเทา กับพรรคพวกของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ แถมทุกคนยังมีศิลปะเพลงดาบเหนือชั้นตามแบบของศิษย์สายตรงแห่งสำนักดาบเมฆเหินด้วย ทุกคนเล่นงานเฉว่เหยาได้อย่างง่ายดาย
“ผมไม่สังหารผู้บริสุทธิ์! ในตราหยกไม่ได้มีแค่หลักฐานที่บอกชัดว่าเฉว่เหยาวางแผนทำร้ายตระกูลตั้น ยังบอกรายละเอียดของพฤติกรรมชั่วร้ายต่างๆนานาที่เขาเป็นผู้บงการตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วย” ตั้นเฉี่ยวเทียนพูด
เขานำตราหยกออกมาอีกครั้งและถ่ายทอดพลังปราณเข้าไป ในชั่วพริบตา ตัวอักษรยืดยาวก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ รายงานอาชญากรรมทั้งหมดที่เฉว่เหยาทำไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“เขาคือผู้บงการปฏิบัติการหายนะทุ่งใบไม้ร่วงหรือ? ผมคิดมาตลอดว่าเป็นฝีมือของกองโจร…”
“เขาคือตัวการที่ปล้นฆ่าพวกตระกูลหลิวหรือนี่? พวกนั้นเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกถึง 40 คนทีเดียวนะ!”
“ลูกสาวคนเล็กของตระกูลเฉินถูกทำมิดีมิร้ายก่อนจะเสียชีวิต เขายังมีหน้ากล่าวหาว่าเป็นการกระทำของพวกจิตวิปริตได้อย่างไร? เป็นถึงเจ้าเมือง ไม่มีความรู้ผิดชอบชั่วดีเสียเลย…”
“น่าเสียดายที่ผมมองเขาเป็นแบบอย่างมาตลอด ผมเคารพเขา คิดว่าเขาคือผู้มีเกียรติและเที่ยงธรรม ไม่นึกเลยว่าแท้ที่จริงแล้วคือผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังความเลวทรามมากมาย…”