อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1960 ฟังคำสั่งของผม!
ที่สภาผู้อาวุโส ผู้อาวุโสฝ่ายในทั้งหมดและผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่ามารวมตัวกัน บรรยากาศออกจะตึงเครียดเล็กน้อย
“หนังสือในหอภูมิปัญญาเพลงดาบที่ผมลงทุนลงแรงจัดระเบียบด้วยความยากลำบากพากันรับรู้ถึงเจตจำนงเพลงดาบและโค้งคำนับให้อย่างพร้อมเพรียง สุดท้ายพวกมันก็ร่วงลงมาจากชั้นหนังสือและกลับไปไร้ระเบียบอีกครั้ง” ผู้อาวุโสเว่ยเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด
“ดาบเล่มใหญ่ที่ผู้ก่อตั้งของเราทิ้งไว้ก็แตกสลาย ทำให้ประตูภูเขาพังทลายไปด้วย” ผู้อาวุโสร่างตุ้ยนุ้ยรายงาน
ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งประสานมือ “บรรดาศิษย์สายตรงที่กำลังเข้ารับการประเมินศิลปะเพลงดาบในหอเทพดาบต่างถูกเจตจำนงเพลงดาบนั้นเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บ”
หลังจากได้ฟังรายงานจากเหล่าผู้อาวุโส ผู้อาวุโสเหอที่นั่งอยู่ใจกลางห้องลุกขึ้นยืนแล้วสบตากับทุกคนที่อยู่โดยรอบ “ผมเชื่อว่าพวกคุณทุกคนคงพอเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ใช่” ฝูงชนพยักหน้า
“นับตั้งแต่ผู้ก่อตั้งของเรา, ผู้ที่สามารถทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้จากไป ก็ไม่มีนักดาบคนไหนเข้าถึงความเข้าใจในเพลงดาบระดับสูงแบบเขาอีก” ผู้อาวุโสเหอพูด “แม้แต่อัจฉริยะที่ปราดเปรื่องที่สุดในประวัติศาสตร์ของเราก็เป็นได้แค่เทพดาบสิบลี้เท่านั้น แต่ในวันนี้ ใครคนหนึ่งสามารถทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของบรรพบุรุษของเราได้ ทำให้ดาบเล่มใหญ่ที่อยู่บริเวณทางเข้าแตกสลาย หนังสือศิลปะเพลงดาบทุกเล่มต่างโค้งคำนับให้ด้วยอาการยอมจำนน ผมอยากฟังความคิดเห็นของพวกคุณที่มีต่อเรื่องนี้!”
“ผมคิดว่าการปรากฏตัวของนักดาบผู้ปราดเปรื่องระดับนี้ถือเป็นพรสำหรับสำนักของเรา ในครั้งนั้น ผู้ก่อตั้งของพวกเราปรากฏตัวขึ้นจากที่ไหนสักแห่งและสร้างชื่อเสียงโด่งดังได้ด้วยการต่อสู้เพียงครั้งเดียว เขาฉกฉวยครึ่งหนึ่งของตัวอักษรคำว่า ‘เทพเจ้า’ มาจากหอเทพเจ้า และนั่นคือที่ๆคำว่าหอเทพดาบกับสมญานามเทพดาบได้รับการขนานนาม!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดอย่างตื่นเต้น
“หลายพันปีมาแล้วที่เหล่าบรรพบุรุษของเราพยายามจะนำพาสำนักดาบเมฆเหินขึ้นสู่ความรุ่งโรจน์เหมือนครั้งเก่า แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีใครเข้าถึงศิลปะเพลงดาบระดับสูงได้เหมือนอย่างผู้ก่อตั้ง แต่ในวันนี้ ใครคนหนึ่งสามารถเข้าถึงเจตจำนงเพลงดาบของผู้ก่อตั้งได้แล้ว นั่นหมายความว่าในไม่ช้า สำนักของเราก็จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดดังเดิม!”
“จริงด้วย ในบรรดา 6 สำนักใหญ่ แม้แต่ตำหนักคว้าดาวที่สามารถสื่อสารกับเทพเจ้าได้ก็ยังไม่อาจหาญใช้คำว่า ‘เทพเจ้า’ หอเทพดาบของเราเป็นข้อยกเว้นเพียงข้อเดียว! และตอนนี้ ใครคนหนึ่งก็ทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้เหมือนกันกับผู้ก่อตั้งของเราแล้ว ขอแค่เราดูแลบ่มเพาะเขาให้ดี สำนักดาบของเราจะต้องได้ตัวอักษรอีกครึ่งหนึ่งมา ทำให้กลายเป็นสำนักเทพดาบ ซึ่งนั่นจะทำให้เรามีสถานภาพเทียบเท่ากับหอนิรันดร์เลยทีเดียว!”
“ตัวอักษรที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งนั้น บรรพบุรุษมากมายของพวกเราต้องต่อสู้อย่างหนักและยอมเสียเลือดเนื้อ ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ในที่สุด แสงแห่งความหวังก็สาดส่องอยู่ตรงหน้าแล้ว…”
ผู้อาวุโสอีก 2-3 คนลุกพรวดด้วยความตื่นเต้น
“ผู้ที่ทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จคงจะนำตัวอักษรอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ จากหอเทพเจ้ามาได้ ทำให้สำนักของเรามีคำว่า ‘เทพเจ้า’ อย่างสมบูรณ์ นี่คือความปรารถนาและเกียรติยศสูงสุดที่พวกเราจะนำมาสู่สำนัก!” ผู้อาวุโสเหอพยักหน้าขณะกำหมัดแน่น
ทวีปที่ถูกลืมเป็นสถานที่ที่เหล่าเทพเจ้าพากันละเลย มีทางเดียวที่จะทำให้เทพเจ้ารับรู้ นั่นก็คือการนำตัวอักษรคำว่าเทพเจ้าที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งมา
สำนักดาบเมฆเหินเป็นเพียงสำนักเดียวใน 6 สำนักใหญ่ที่มีตัวอักษรนั้น แต่ก็ได้มาเพียงครึ่งเดียว นั่นหมายความว่าพวกเขายังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะใช้คำว่าเทพเจ้าเป็นชื่อสำนัก จึงเลือกที่จะใส่คำว่าเทพไว้ในหอที่ใช้เพื่อการทดสอบ
เหตุผลที่ตัวเขาอดทนยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าถึง 30 ปี ตั้งใจฝึกฝนวรยุทธอย่างไม่ลดละไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นแบบไหน ก็เพราะมีความหวังว่าจะสามารถทำความเข้าใจแนวคิดของผู้ก่อตั้งและเข้าถึงแก่นสารของเจตจำนงเพลงดาบอันไร้เทียมทานนั้นได้
แต่ความเพียรพยายามของเขาก็ไม่เป็นผล
สุดท้าย ผู้ที่ทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จก็ไม่ใช่ตัวเขา แต่ถึงอย่างนั้น การที่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับสำนักดาบเมฆเหินก็ถือเป็นพรครั้งใหญ่!
“ฟังคำสั่งของผม! สืบเสาะเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน หาตัวผู้ที่ปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบออกมาให้ได้ ถ้ามีใครในหมู่พวกคุณพบตัวเขา รายงานตรงต่อผมทันที ห้ามรอช้า!” ผู้อาวุโสเหอสั่งการอย่างเคร่งเครียด
“อีกอย่าง เรื่องนี้ถือเป็นความลับสุดยอด ใครก็ตามที่แพร่งพรายให้คนนอกรับรู้ จะถือว่าเป็นผู้ทรยศต่อสำนัก จะไม่ได้รับความปรานีโดยเด็ดขาด!”
“ขอรับ” ฝูงชนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“ก่อนจบการประชุม ผมขอทบทวนหัวข้ออีกครั้ง ควานหาตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าให้ได้และรายงานให้ผมรับทราบ ผมจะส่งเรื่องนี้ไปยังท่านเจ้าสำนักทันที มั่นใจได้เลยว่าท่านเจ้าสำนักจะตบรางวัลให้อย่างงาม”
“ท่านเจ้าสำนักจะตบรางวัลอย่างงาม?”
ทุกคนนัยน์ตาแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
ท่านเจ้าสำนักมีความเก่งกาจในระดับที่ยากจะหยั่งถึง รางวัลที่ได้จากเขาย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกฮึกเหิมกับการควานหาตัวนักดาบลึกลับผู้นั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นด้านนอก
“ผู้อาวุโสเหอ, ผู้อาวุโสฝ่ายนอกลู่อวิ๋นขอเข้าพบสภาผู้อาวุโส”
“ลู่อวิ๋น?” ผู้อาวุโสเหอขมวดคิ้ว
ด้วยความใหญ่โตของสำนักดาบเมฆเหิน มีผู้อาวุโสมากมายที่ทำหน้าที่บริหารงานด้านต่างๆในสำนัก หากจะว่าไป บรรดาผู้อาวุโสฝ่ายนอกไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะขอพบสภาผู้อาวุโส อันเนื่องมาจากสถานภาพต่ำต้อยของพวกเขา
“มีเรื่องอะไร?”
“เขาบอกว่าเขาได้พบนักดาบผู้ปราดเปรื่องคนหนึ่ง จึงมาที่นี่เพื่อรายงาน หวังว่าจะได้มอบตำแหน่งศิษย์สายตรงฝ่ายในให้ผู้นั้น” เสียงหนึ่งรายงาน
“เขาพบนักดาบผู้ปราดเปรื่อง?” ผู้อาวุโสเหอเลิกคิ้ว “เรียกเขาเข้ามา!”
เหตุผลที่เขาเรียกรวมพลเหล่าผู้อาวุโสก็เพื่อควานหาตัวอัจฉริยะผู้สามารถทำความเข้าใจเจตจำนงของเพลงดาบของเทพเจ้า การมาถึงของผู้อาวุโสลู่อวิ๋นในเวลานี้จึงจุดประกายความหวังให้เกิดขึ้นในหัวใจของเขา
ไม่ช้าผู้อาวุโสลู่อวิ๋นก็มาอยู่ตรงหน้าสภาผู้อาวุโส
“คุณบอกว่าคุณได้พบนักดาบผู้ปราดเปรื่องคนหนึ่ง เกิดอะไรขึ้น?” ผู้อาวุโสเหอตั้งคำถาม
“ผู้อาวุโสที่ 1, ผมมีหน้าที่รับผิดชอบการรับศิษย์สายตรงฝ่ายนอกและศิษย์สายตรงระดับล่าง ตอนที่ผมผ่านไปที่เมืองแสงดาว…”
ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างรวบรัด รวมถึงการที่เขาได้พบกับเจ้าโลก การที่ตั้นเฉี่ยวเทียนเอาชนะหัวเจียงเหอได้อย่างง่ายดาย รวมถึงวีรกรรมของตั้นเฉี่ยวเทียนในการปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบได้ไกลถึง 499 เมตร
“นี่คือตราหยกที่เขาทิ้งไว้ในหอเทพดาบ”
“เขาเป็นแค่นักรบระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1 เท่านั้น แต่สำแดงเจตจำนงเพลงดาบได้ไกลเกือบ 1 ลี้?” ผู้อาวุโสเหอมีทีท่าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ใช่เขาเพียงคนเดียว ผู้อาวุโสคนอื่นๆที่อยู่ในสภาก็พากันตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ
ความสามารถในการเข้าถึงแนวคิดของศิลปะเพลงดาบระดับสูงนั้นเชื่อมโยงกับความปราดเปรื่องแต่กำเนิดของนักดาบผู้นั้นด้วย แต่หากปราศจากวรยุทธที่ทรงพลังมากพอ ก็ไม่อาจขับเคลื่อนเจตจำนงเพลงดาบที่แข็งแกร่งได้
ด้วยเหตุนี้ จึงออกจะเหลือเชื่อที่นักรบระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1 สามารถปลดปล่อยเจตจำนงเพลงดาบได้เป็นระยะทาง 1 ลี้
นั่นคือวีรกรรมที่เหนือชั้นกว่าแม้แต่ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดคนอื่นๆ เป็นอัจฉริยะผู้น่าสะพรึงคนหนึ่งเลยทีเดียว
ผู้อาวุโสร่างตุ้ยนุ้ยหันไปถามผู้อาวุโสเหอ “หรือว่าจะเป็นเขา?”
“นักดาบที่มีวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1, อายุ 17 ปี…ผมไม่คิดว่าเขาจะเก่งกาจถึงขั้นทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้หรอก หรือต่อให้เขาทำได้ ก็ไม่น่าจะปลดปล่อยพละกำลังมหาศาลได้ขนาดนั้น แต่ก็แน่นอนว่าเขาคืออัจฉริยะผู้หาตัวจับยากคนหนึ่ง!” ผู้อาวุโสเหอพยักหน้า
แม้แต่นักรบที่มีวรยุทธระดับเดียวกับตัวเขาก็ยังไม่อาจควบคุมพละกำลังมหาศาลของเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้ นับประสาอะไรกับข้อเท็จจริงที่ว่าอีกฝ่ายเป็นแค่ชายหนุ่มอายุ 17 ปีที่มีวรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 1
ดังนั้น เขาจึงตัดความเป็นไปได้ข้อนี้ออกไป
“สำนักของเราอ้าแขนต้อนรับอัจฉริยะผู้ปราดเปรื่องทุกคน ตั้นเฉี่ยวเทียนจะได้เป็นศิษย์สายตรงฝ่ายใน และต่อไปก็จะได้รับสิทธิพิเศษของศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด เมื่อเขาสำเร็จวรยุทธขั้นเสมือนอมตะ ก็จะได้รับการเลื่อนขั้นทันทีโดยไม่ต้องเข้ารับการทดสอบ!”
ถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสเหอหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ผู้อาวุโสลู่อวิ๋น ความดีความชอบของคุณในการพบตัวอัจฉริยะผู้ปราดเปรื่องและพาเขามาสู่สำนักของเราจะไม่ถูกมองข้าม คุณจะได้รับยาเม็ดสวรรค์ยิ่งใหญ่ และผู้อาวุโสอู๋กับผู้อาวุโสไป๋จะให้ความช่วยเหลือคุณในการฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักรบอมตะตัวจริง ซึ่งทันทีที่คุณทำสำเร็จ คุณจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้อาวุโสฝ่ายในของสำนักของเรา”
เมื่อรู้ว่าได้รับรางวัลอย่างงาม ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นและอุทานออกมา “ขอบคุณมาก ผู้อาวุโสเหอ!”
ยาเม็ดสวรรค์ยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งในยาเม็ดล้ำค่าที่สุดของสำนัก แต่ละเม็ดมีมูลค่าสูงมาก และเป็นหนึ่งในทรัพยากรสำหรับการฝึกฝนวรยุทธไม่กี่อย่างที่เพียงแค่มีเงินมากก็ไม่อาจซื้อหาได้
ถ้านักรบขั้นเสมือนอมตะสรวงสวรรค์คนหนึ่งได้กินยานี้เข้าไป 1 เม็ด โอกาสในการฝ่าด่านวรยุทธของเขาก็จะเพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ด้วยสิ่งนี้ เขาจะสำเร็จวรยุทธขั้นนักรบอมตะตัวจริงได้ง่ายขึ้นมาก
แถมยังจะได้รับคำชี้แนะจากผู้อาวุโสอู๋กับผู้อาวุโสไป๋ด้วย
บอกได้เลยว่าตอนนี้เขาอยู่ไม่ไกลจากการได้เป็นผู้อาวุโสฝ่ายในแล้ว!
“ผู้มีความดีความชอบย่อมได้รับรางวัล ส่วนผู้กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษ นี่คือกฎของสำนักของเรา คุณไม่ต้องเกรงอกเกรงใจไปหรอก จนกว่าคุณจะได้เป็นผู้อาวุโสฝ่ายใน คุณจะต้องรับหน้าที่ดูแลตั้นเฉี่ยวเทียนไปก่อน ถ้าพบอะไรผิดสังเกต รายงานผมทันที!” ผู้อาวุโสเหอสั่งการ
“ขอรับ ผู้อาวุโสที่ 1” ผู้อาวุโสลู่อวิ๋นรับคำอย่างตื่นเต้นก่อนจะออกจากสภาผู้อาวุโส
“อือ!” ผู้อาวุโสเหอมองไปรอบๆสภาผู้อาวุโสอีกครั้งก่อนจะโบกมือ “เอาล่ะ พวกคุณไปได้ จดจำสิ่งที่เราคุยกันไว้ให้ดี ขอแค่พวกคุณพบตัวนักดาบคนนั้น รางวัลของคุณจะยิ่งใหญ่กว่าที่ผู้อาวุโสลู่ได้รับเสียอีก!”
“ขอรับ ผู้อาวุโสที่ 1!” ฝูงชนตอบรับก่อนจะออกจากสภา