อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1977 ภาพเหมือนของเขา?
แต่ขณะที่ความคิดนั้นวนเวียนอยู่ในหัว หลิวลู่จี่ก็พลันรู้สึกถึงความเย็นเยือกที่อยู่เหนือศีรษะ
เขาเงยหน้ามอง ตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ ในชั่วขณะใดขณะหนึ่งนั้น อีกฝ่ายเงื้อดาบขึ้นแล้วจ้วงแทงเข้าไปที่ศูนย์กลางกระบวนท่าของเขา เฝ้ารอให้เขาพุ่งเข้าไปหา
“เฮ้ยยยย….”
เพราะหลิวลู่จี่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป จึงไม่อาจยั้งตัวได้ ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร ดาบนั้นก็ฟันศีรษะของเขาแยกเป็น 2 ซีก
พลั่ก!
ร่างของเขาร่วงลงกับพื้น
“คนต่อไป!” จางเซวียนตะโกน
อีกฝ่ายเคลื่อนไหวรวดเร็วมากจนเขาต้องตัดสินใจใช้ดาบขวางทาง ซึ่งก็เป็นอย่างที่คาดไว้ หมอนั่นวิ่งเข้าหาคมดาบของเขาเอง ทำให้เขาสังหารอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำโดยแทบไม่ต้องออกแรง
“ศิษย์พี่หลิวถูกฆ่า?”
“ที่น่าสะพรึงกว่าก็คือผมน่ะถ่อมตัวไม่ได้ใช้พละกำลังใดๆเลย ทั้งหมดที่เขาทำก็แค่เงื้อดาบค้างไว้ แล้วศิษย์พี่หลิวก็พุ่งเข้าใส่มันเอง!”
“ศิษย์พี่หลิวพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการเอาชนะความเร็วด้วยการใช้ความเร็วกว่าใช่ไหม?”
ฝูงชนพากันตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ถึงตอนนี้ พวกเขาใกล้เสียสติเต็มที
ขนาดผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1 ของศิษย์สายตรงฝ่ายในก็ยังถูกสังหารอย่างง่ายดาย ผมน่ะถ่อมตัวจะต้องทรงพลังขนาดไหน!
“มีอะไร? ไม่มีใครกล้าสู้กับผมแล้วหรือ? ถ้าอย่างนั้นผมจะถือว่าพวกคุณทุกคนยอมแพ้ได้หรือยัง?” จางเซวียนอดรู้สึกไม่ได้ว่าทุกคนพากันเงียบกริบหลังจากเขาสังหารคู่ต่อสู้คนล่าสุดไป จึงได้แต่ขมวดคิ้วและตั้งคำถาม
แม้แต่ตอนที่เขาสังหารหวังเจี้ยนตง ทุกคนก็ยังไม่แสดงทีท่าแบบนี้
หรือว่าคู่ต่อสู้คนเมื่อกี้คือคนดังในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ายใน?
เขาจึงหันไปถามศิษย์สายตรงฝ่ายในคนหนึ่ง “ผู้ที่ผมเพิ่งสังหารไป…คือผู้ที่ได้รับการเคารพอย่างสูงในหมู่ศิษย์สายตรงฝ่ายในหรือเปล่า?”
“คะ-คุณ…” ได้ยินคำถามนั้น อีกฝ่ายแทบลมจับ “คุณไม่รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่างเลยหรือตอนที่สู้กับเขาน่ะ?”
คุณกำลังสู้กับผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1 ของศิษย์สายตรงฝ่ายในอยู่นะ! น่าจะรู้สึกได้ถึงรังสีพิเศษและความแข็งแกร่งเหนือชั้นของเขา!
“แตกต่าง?” จางเซวียนขมวดคิ้ว “ผมควรจะรู้สึกอะไรหรือ? นอกจากความเร็วของเขา ก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย!”
จริงอยู่ว่าคู่ต่อสู้คนล่าสุดของเขามีความรวดเร็วว่องไว แต่การที่อีกฝ่ายไม่สามารถควบคุมความเร็วของตัวเองได้ก็ทำให้ตกเป็นเป้าสังหารได้ง่าย
สถานการณ์ตอนนี้เหมือนกับมดฝูงหนึ่งที่พยายามโจมตีมนุษย์ มนุษย์จะต้องรับรู้ด้วยหรือว่ามดตัวไหนแข็งแกร่งกว่าตัวไหน?
ก็ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างนี่!
“ขะ-เขา…เขาคือผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1 ของศิษย์สายตรงฝ่ายใน, ศิษย์พี่หลิวลู่จี่!” ศิษย์สายตรงผู้นั้นร้องออกมา
“อ้อ…เขาคือผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1 หรือ?” จางเซวียนสงสัย “…อ่อนแอแบบนั้นน่ะนะ?”
“….” ฝูงชน
ในลานบ้านบริเวณยอดเขาซึ่งเป็นที่พำนักของศิษย์สายตรงฝ่ายใน หวังเจี้ยนตงค่อยๆลืมตา รู้สึกเวียนหัวจนต้องกุมขมับไว้ครู่หนึ่ง
หวังเจี้ยนตงทำสมาธิอยู่สักพักเพื่อปรับสภาพร่างกายให้เป็นปกติก่อนจะพึมพำพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ “รู้สึกไม่ค่อยดีเลยที่หัวหลุดกระเด็น”
โดยปกติ เขาคือผู้ที่สังหารใครต่อใครในการประลอง นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับประสบการณ์การถูกตัดหัว แม้อาการบาดเจ็บทางร่างกายที่เกิดขึ้นในหอนิรันดร์จะไม่ถูกส่งต่อมาถึงโลกแห่งความเป็นจริง แต่ความกดดันในตอนนั้นก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว
“ถึงเราจะเสียตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลไป แต่ก็หวังว่าจะได้ทำให้ศิษย์พี่ลู่จี่มองเห็นข้อบกพร่อง ในศิลปะเพลงดาบของหมอนั่น คงจะดีถ้าเขาได้ชัยชนะ” หวังเจี้ยนตงพึมพำ
พูดกันตามตรง เขามีความยำเกรงอย่างเต็มเปี่ยมในตัวหลิวลู่จี่
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าเขาจะได้ร่ำเรียนกระบวนท่าที่ไร้เทียมทานสักแค่ไหนหรือสำแดงศิลปะการต่อสู้ใดๆออกมา ก็ล้วนแต่ไร้ค่าหากต้องเผชิญกับพละกำลังของหลิวลู่จี่ เขาไม่ต่างอะไรกับเด็กคนหนึ่งที่พยายามวุ่นวายกับผู้ใหญ่
สำหรับตัวเขา ความแข็งแกร่งของหลิวลู่จี่เหมือนหลุมดำที่ล้ำลึกเกินหยั่ง
ก็เหมือนกับการสอบในโรงเรียน ต่อให้คุณได้ 99 คะแนน ขณะที่อัจฉริยะคนหนึ่งได้ 100 คะแนน ความแตกต่างระหว่างคุณกับอัจฉริยะคนนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่คะแนนเดียว แต่เป็นเพราะข้อสอบนั้นมีคะแนนเต็มแค่ 100 คะแนนต่างหาก
ขอแค่หลิวลู่จี่มองการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้ทะลุปรุโปร่ง ก็คงเอาชนะหมอนั่นได้สบาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
ขณะที่หวังเจี้ยนตงกำลังครุ่นคิด ก็พลันได้ยินเสียงเคาะประตูอยู่ด้านนอก
ใครกันที่จะมาตอนนี้? หวังเจี้ยนตงพึมพำขณะลุกขึ้นยืนและเดินไปยังทางเข้า
ที่นี่คือบ้านพักของหลิวลู่จี่ คงไม่เหมาะนักหากเขาจะเที่ยวไปเปิดประตูต้อนรับแขกในบ้านของคนอื่น แต่ในเมื่อตอนนี้หลิวลู่จี่กำลังต่อสู้กับผมน่ะถ่อมตัวอยู่ที่หอนิรันดร์ เขาก็คงต้องทำหน้าที่รับแขกของที่นี่ไปก่อน
แอ๊ดดด!
เมื่อเปิดประตู หวังเจี้ยนตงเห็นศิษย์สายตรงจำนวนหนึ่งมองมาที่เขา จากนั้นก็ก้มศีรษะลงด้วยความหวาดกลัว หนึ่งในนั้นละล่ำละลัก “ศิษย์พี่หลิว พวกเราขออภัยที่มาขอพบคุณอย่างกะทันหันแบบนี้…”
แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ ก็พลันรู้สึกตัวว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่หลิวลู่จี่ ต่างคนต่างหัวเราะเจื่อนๆก่อนจะรีบแก้ไขคำพูด “ขออภัยด้วยเถอะ ศิษย์พี่หวัง…ไม่ทราบว่าศิษย์พี่หลิวอยู่ข้างในหรือเปล่า?”
“มีอะไร?” หวังเจี้ยนตงตั้งคำถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
เขาจำคนเหล่านี้ได้ แต่ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน พวกนี้ไม่ได้อยู่ใน 1000 อันดับแรกของการประลองศิษย์สายตรงด้วยซ้ำ ทำไมถึงมาตามหาศิษย์พี่หลิว?
“ศิษย์พี่หลิวคือผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1 ในบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ายใน เขามีอิทธิพลมากที่นี่ พวกเรามีเรื่องสำคัญที่ต้องขอรบกวนเขา” ศิษย์สายตรงคนหนึ่งเอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“เขาไม่ว่าง!” เมื่อเห็นว่าคนพวกนี้มาขอความช่วยเหลือ หวังเจี้ยนตงตอบอย่างหมดความอดทนและเตรียมปิดประตู
จริงอยู่ว่าหลิวลู่จี่มีอิทธิพลมากในหมู่ศิษย์สายตรง แต่เขาจะต้องเหนื่อยยากสักแค่ไหนหากต้องคอยช่วยเหลือใครก็ตามที่มาเคาะประตู?
ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้น ในอนาคตจะต้องมีปัญหามากมายแน่
“ไม่ว่างหรือ? คำตอบห้วนอะไรอย่างนั้น! ทุกวันนี้ศิษย์สายตรงฝ่ายในหยิ่งผยองขนาดนี้กันหมดแล้วหรือไง?”
ทันทีที่หวังเจี้ยนตงพูดจบ เสียงเย็นเยียบของสตรีคนหนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลังศิษย์สายตรงกลุ่มนั้น เขาเงยหน้ามอง เห็นสาวน้อยคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาด้วยสีหน้าขัดใจอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ หวังเจี้ยนตงเลิกคิ้วด้วยความพรั่นพรึง เขารีบประสานมือและทักทาย “ศิษย์พี่ไป๋!”
ผู้ที่เพิ่งปรากฏตัวไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดตัวฉกาจผู้โด่งดัง, ไป๋เหรินชิง!
ไป๋เหรินชิงไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดหรือปราดเปรื่องที่สุดในหมู่ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด แต่เธอมีท่านปู่ผู้ไร้เทียมทานซึ่งเป็น 1 ใน 3 ผู้อาวุโสใหญ่, ผู้อาวุโสไป๋เย่!
แม้ตอนนี้ผู้อาวุโสไป๋เย่กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่มีใครกล้าฉวยโอกาส
ดังนั้น ต่อให้ไป๋เหรินชิงเล่นงานศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดคนไหน ก็ไม่มีใครกล้าแหยม ทุกคนมีแต่จะอยู่ให้ห่างจากเธอเอาไว้และพยายามเต็มที่ที่จะไม่ล้ำเส้น
เธอไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจธุระของศิษย์สายตรงฝ่ายใน แล้วทำไมจู่ๆถึงมาขอพบศิษย์พี่หลิว?
ไป๋เหรินชิงเห็นความข้องใจของหวังเจี้ยนตง เธออธิบาย “ฉันมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากหลิวลู่จี่ในการหาตัวศิษย์สายตรงฝ่ายในคนหนึ่ง เขาน่าจะทำได้ ใช่ไหม?”
“แน่นอน ศิษย์พี่หลิวกับผมไม่มีทางปฏิเสธคำขอของคุณแน่, ศิษย์พี่ไป๋” หวังเจี้ยนตงพยักหน้า
เขาจะทำให้ไดโนเสาร์ตัวเมียตัวนี้โมโหได้อย่างไร?
ถ้าทำท่าฮึดฮัดใส่อีกฝ่าย ก็เสี่ยงกับการถูกเตะไข่แตก ถึงเขาจะหงุดหงิดแค่ไหนก็ต้องฝืนไว้
ขนาดศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดยังไม่กล้าปฏิเสธคำขอของไป๋เหรินชิงเลย นับประสาอะไรกับศิษย์สายตรงฝ่ายในอย่างพวกเขา!
“ศิษย์พี่ไป๋ เชิญเข้ามาก่อน” หวังเจี้ยนตงรีบเชื้อเชิญอีกฝ่ายเข้ามาในบ้านพัก
หลังจากได้ที่นั่งในห้องโถงใหญ่แล้ว หวังเจี้ยนตงขยับเข้าใกล้เธอเล็กน้อยและตั้งคำถาม “ไม่ทราบว่ามีศิษย์สายตรงฝ่ายในโง่เง่าคนไหนทำให้คุณขุ่นเคืองใจ, ศิษย์พี่ไป๋? บอกชื่อเขามาเลย ผมจะให้คนของผมไปจัดการสืบเสาะเรื่องราวทันที!”
“เขาไม่ได้ทำให้ฉันขุ่นเคืองใจหรอก แต่ฉันมีธุระกับเขา” ไป๋เหรินชิงตอบพร้อมกับขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ยอมอธิบายรายละเอียด เธอสะบัดข้อมือ จากนั้นก็นำภาพวาดชิ้นหนึ่งออกมาและพูดว่า “นี่คือภาพเหมือนของเขา”
ไป๋เหรินชิงไม่ได้เป็นแค่นักดาบที่มีทักษะสูงส่ง เธอยังเชี่ยวชาญการวาดภาพด้วย ฝีมือการวาดภาพจางเซวียนของเธอนั้นแม่นยำในทุกรายละเอียด ทำให้ดูสมจริงมาก
“ภาพเหมือนของเขา?” หวังเจี้ยนตงนำภาพวาดมาพิจารณา ครู่หนึ่งก็ส่ายหน้า “ต้องขออภัยด้วย แต่ผมไม่เคยพบชายผู้นี้มาก่อน!”
เขาเป็นศิษย์สายตรงฝ่ายในมาหลายปีแล้ว รู้จักศิษย์สายตรงฝ่ายในทุกคนในสำนักดาบเมฆเหิน แต่ก็แน่ใจว่าไม่เคยเห็นชายผู้นี้
“คุณไม่เคยเห็นเขา? แล้วหลิวลู่จี่ล่ะ เขาอยู่ไหน? ตามตัวเขามาดูภาพนี้ที!” ไป๋เหรินชิงสั่งการ
“ตอนนี้ศิษย์พี่หลิวกำลังดวลกับใครคนหนึ่งอยู่ที่หอนิรันดร์” หวังเจี้ยนตงรีบตอบ
“ดวล?” ไป๋เหรินชิงขมวดคิ้ว “เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1 ของศิษย์สายตรงฝ่ายในไม่ใช่หรือ? ในหอนิรันดร์มีคนที่เทียบชั้นกับเขาได้ด้วยหรือไง?”
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1 ของบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ายใน หลิวลู่จี่ย่อมเอาชนะคู่ต่อสู้คนไหนก็ตามได้อย่างง่ายดายไม่ใช่หรือ? มีเหตุผลอะไรถึงต้องไปดวลกับใครต่อใคร?
“เมื่อไม่นานมานี้ มีนักดาบผู้อาจหาญคนหนึ่ง ใช้สมญานามว่า ‘ผมน่ะถ่อมตัว’ ปรากฏตัวขึ้นในหอนิรันดร์ แต่ตอนนี้คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ ศิษย์พี่หลิวออกโรงด้วยตัวเองแล้ว เขาคงเล่นงานหมอนั่นได้สบาย…” หวังเจี้ยนตงตอบยิ้มๆ
แต่ยังไม่ทันขาดคำ ก็มีเสียงของหนักๆตกลงมาบนลานบ้าน เมื่อมองไป หวังเจี้ยนตงเห็นหลิวลู่จี่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าซีดเผือด
“ศิษย์พี่หลิว…”
หวังเจี้ยนตงกับศิษย์สายตรงฝ่ายในคนอื่นๆรีบลุกขึ้นทักทาย
ไป๋เหรินชิงยังคงนั่งนิ่ง เธอชำเลืองมองชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาและถามว่า “คุณคือหลิวลู่จี่หรือ?”
เมื่อรู้ว่ามีแขกผู้ทรงเกียรติอยู่ในห้อง หลิวลู่จี่รีบประสานมือและทักทาย “คารวะศิษย์พี่ไป๋!”
“ศิษย์พี่ เป็นอย่างไรบ้าง? เอาชนะเขาได้หรือเปล่า?” หวังเจี้ยนตงร้อนใจ
หลิวลู่จี่ส่ายหน้าและตอบอย่างหม่นหมอง “ผมแพ้เขา”
“คุณแพ้?” หวังเจี้ยนตงทวนคำด้วยความตกใจ “ศิษย์พี่หลิว…แล้วคุณบีบให้เขาสำแดงเทคนิคขั้นสุดยอดออกมาได้ไหม?”
“เอ่อ…” หลิวลู่จี่ส่ายหน้าอีกครั้ง “ผมเล่นงานเขาทันทีที่มีโอกาส แต่เขาก็ใช้ดาบฟันหัวผมแบะเป็น 2 ซีก…ก็ตามนั้นแหละ ผมตาย”
“เขาใช้ดาบฟันหัวคุณ?” หวังเจี้ยนตงถึงกับผงะ
ตัวเขาเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้ แต่นี่คือศิษย์พี่หลิว ผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1 ของศิษย์สายตรงฝ่ายใน!
ถูกปราบราบคาบในกระบวนท่าเดียว…