อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2094 เรื่องนี้สำคัญกว่า
เขายับยั้งฝ่ามือขนาดมหึมาที่อยู่กลางอากาศด้วยดาบในมือข้างหนึ่ง จากนั้นก็ยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นและปล่อยพลังเข้าใส่แท่นบูชาที่อยู่ใกล้ๆ
“คุณรนหาที่ตายแล้ว!” สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงคำราม
เพื่อเป็นการตอบโต้ เธอปล่อยพลังจากฝ่ามือเข้าใส่ชายวัยกลางคน การโจมตีอย่างไม่ลดละของเธอทำให้มิติโดยรอบบิดเบี้ยว ดูราวกับทั่วทั้งบริเวณนั้นกำลังจะระเบิดเพราะแรงสั่นสะเทือน
แต่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด ชายวัยกลางคนควบคุมพลังฝ่ามือของเธอไว้ได้โดยไม่ได้รับความบอบช้ำใดๆ
“หัวหน้าตู้ ดูเหมือนคุณจะอ่อนแอกว่าที่ใครๆร่ำลือกันนะ นี่เป็นผลกระทบจากพิธีกรรมหรือเปล่า? แต่เอาเถอะ ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร…แต่เรื่องจริงก็คือตอนนี้คุณสู้ผมไม่ได้ มอบแท่นบูชาของคุณมาเสีย แล้วผมจะพิจารณาไว้ชีวิตคุณ ไม่อย่างนั้น อย่าต่อว่าผมก็แล้วกันที่ไม่ออมมือให้!” ชายวัยกลางคนเยอะเย้ย
เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของ 6 สํานักใหญ่ พละกำลังของตู้ชิงหย่วน จึงมีมากมายมหาศาลจนแม้แต่ชายวัยกลางคนก็ไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าจะสู้เธอได้ แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง แม้การโจมตีของอีกฝ่ายจะดูทรงพลัง แต่ลึกๆแล้วไม่มีสาระสำคัญอะไร
หรือว่าเธอสูญเสียพละกำลังไปเพราะการประกอบพิธีกรรม และพยายามวางท่าให้เข้มแข็งเหมือนเดิมเพื่อทำให้เขาหวาดกลัว
แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นผลดีกับเขา ขอแค่เขาฉกฉวยแท่นบูชาได้สำเร็จ ความดีความชอบที่เขามีต่อหอเทพเจ้าจะทำให้เขายกระดับวรยุทธได้สำเร็จอย่างแน่นอน!
ส่วนอีกด้านหนึ่ง สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงไม่แยแสคำพูดของชายวัยกลางคน เธอปล่อยการโจมตีต่อไป เปลวไฟที่ลุกโพลงบนแท่นบูชาเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีสายสัมพันธ์ที่ค่อยๆหลอมรวมกับท้องฟ้า
“ในเมื่อคุณไม่เจียมกะลาหัว อย่าต่อว่าผมที่ไม่ออมมือให้ก็แล้วกัน!”
เห็นสุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงไม่ยอมล้มเลิกการประกอบพิธีกรรม ชายวัยกลางคนคำรามขณะเงื้อมือขึ้น
ฟึ่บ!
ง้าวเล่มหนึ่งปรากฏในมือของเขา ด้วยการกระโจนอันทรงพลัง เขาแทงง้าวเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างดุเดือด
ซรืดดดดดดดด!
การฉีกกระชากอย่างรุนแรงของมิติปรากฏขึ้นตามแรงโน้มถ่วงของง้าว ซึ่งเมื่อหลอมรวมเข้ากับพลังงานของนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ ปลายง้าวเล่มนั้นก็เรืองแสงเจิดจ้าออกมา ดูราวกับจะทำลายทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าให้เป็นธุลี
ของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์? จางเซวียนหรี่ตา
เขาดูออกว่าง้าวเล่มนั้นไม่ใช่ของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ธรรมดา แม้แต่โซ่โลหะที่เขามีอยู่ก็อ่อนด้อยกว่ามันหลายเท่า ดูเหมือนยังคงมีความเหลื่อมล้ำระหว่างของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ด้วยกัน
เมื่อรู้สึกได้ถึงพละกำลังมหาศาลของง้าว สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงไม่อาจใจเย็นได้อีก เธอหรี่ตา จากนั้นก็หันขวับไปมองแท่นบูชาที่อยู่ไม่ห่างออกไป
“ต่อให้ฉันตาย ฉันก็จะลากคุณไปกับฉันด้วย!”
เธอคำรามกร้าว จากนั้นก็พุ่งเข้าขวางแท่นบูชาไว้
เปลวเพลิงสีฟ้าบนแท่นบูชาพุ่งออกไปและก่อตัวเป็นกำแพงไฟที่ลุกโพลงอยู่ตรงหน้าสุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดง
ถ้าชายวัยกลางคนอยากเข้าถึงตัวเธอให้ได้ ก็จะต้องทำลายแท่นบูชาก่อน
ถึงอย่างไร ภารกิจที่เจ้านายของเขามอบหมายให้ก็คือการฉกฉวยแท่นบูชา จึงย่อมไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงหากแท่นบูชาถูกทำลาย เขาไม่อาจตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นได้
ชายวัยกลางคนถอนง้าวกลับและจ้องสุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดง “คุณช่างเจ้าเล่ห์นักนะ!”
“เชื่อเถอะว่าฉันจะทำลายแท่นบูชาด้วยน้ำมือของฉันเองก่อนที่ฉันจะตาย ฉันอาจทำให้เหล่าบรรพบุรุษผิดหวัง แต่ฉันเชื่อว่าพวกเขาคงไม่อยากเห็นทรัพย์สมบัติของตำหนักคว้าดาวของเราตกไปอยู่ในมือของเหล่าอสูร! จะลองดูก็ได้!” สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง
ในแง่พละกำลัง เธอเทียบชั้นกับชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ แถมทุกอย่างยังเลวร้ายลงไปอีกเพราะอีกฝ่ายมีของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์อยู่กับตัว ไม่มีทางที่เธอจะเอาชนะได้เลย
ในเมื่อเป็นอย่างนั้น อย่างน้อยๆสิ่งที่เธอต้องทำก็คือทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เธอรู้ดีว่าเขาอยากได้แท่นบูชา และนั่นหมายความว่าเธอใช้มันเป็นตัวประกันได้
“ฮึ่มมม!”
ชายวัยกลางคนกำหมัดแน่น เขาจ้องสุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงด้วยสีหน้าที่ดูน่าสะพรึง ครู่ต่อมา อาการขมวดคิ้วของเขาก็คลายลง รอยยิ้มบ้าคลั่งผุดขึ้นที่ริมฝีปาก “ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ผมจะเริ่มที่เขาก่อน!”
ฟึ่บ!
ง้าวเบนเป้าหมายไปยังชายชราที่ไร้เรี่ยวแรงอยู่กับพื้น-ฟู่เฉิงสื่อ
ฟู่เฉิงสื่อหน้าซีด เขาพยายามรวบรวมพละกำลังเพื่อปกป้องตัวเอง แต่เพราะได้รับความบอบช้ำแสนสาหัส จึงทำไม่ได้แม้แต่จะกระเสือกกระสนลุกขึ้นจากพื้น
เขาหันไปร้องบอกสุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงด้วยอาการสิ้นหวัง “หัวหน้าตู้ เร็วเข้าเถอะ รีบหนีไปซะ! คุณมีแท่นบูชาอยู่ในมือ เขาไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก ไม่ต้องเป็นห่วงผม…”
สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดก่อนจะคว้าแท่นบูชาไว้และพุ่งเข้าขวางหน้าฟู่เฉิงสื่อ “จะทำอะไรก็ทำเลย ถ้าอยากเห็นแท่นบูชาพังพินาศล่ะก็…”
ฟึ่บ!
ง้าวหยุดกึกกลางอากาศ “แก ไอ้สารเลว…”
ชายวัยกลางคนโมโหเดือดจนแทบระเบิด พละกำลังมหาศาลห่อหุ้มรอบง้าว เกิดเป็นคลื่นความสั่นสะเทือนที่แผ่ออกไปโดยรอบ แม้เขาจะยับยั้งการโจมตีไว้ แต่เรี่ยวแรงมหาศาลของมันก็ทำให้เกิดรอยร้าวบนพื้นที่โดยรอบ
ในช่วงเวลาคับขันนี้ สีหน้าของสุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงซีดเผือด เลือดกองใหญ่กระอักออกจากปากของเธอ ร่างทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น
ด้วยสีหน้าที่ยังไม่อยากเชื่อ เธอหันกลับไปและเห็นฟู่เฉิงสื่อที่บาดเจ็บสาหัสลุกขึ้นยืน กำลังเช็ดเลือดที่ไหลซึมออกจากริมฝีปาก
“ต้องขออภัยอย่างจริงใจนะหัวหน้าตู้ แต่พวกเราไม่อาจปล่อยให้แท่นบูชาต้องเสียหาย จึงต้องใช้ลูกไม้แบบนี้ ผมหวังว่าตอนนี้คุณคงกระจ่างเสียทีว่าพวกเรามาจากไหน”
ฟู่เฉิงสื่อเคลื่อนไหวติดต่อกันเป็นชุด เขากำจัดเปลวเพลิงสีฟ้าบนแท่นบูชาและสกัดกั้นมันไว้ด้วยพลังปราณ ทำให้สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงไม่อาจควบคุมมันได้อีก จากนั้นก็เก็บแท่นบูชาเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติ
“แก ไอ้คนเลว” สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงสาปแช่งอย่างโกรธแค้น “แม้แต่หอนิรันดร์ผู้สูงส่งก็ยอมศิโรราบให้หอเทพเจ้าแล้วหรือ?”
เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่าแม้แต่ฟู่เฉิงสื่อที่อุทิศชีวิตเพื่อปกป้องเธอก่อนหน้านี้จะร่วมมือกับหอเทพเจ้า แปลว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่การจัดฉาก!
จางเซวียนที่ซ่อนตัวอยู่ก็อดผงะไม่ได้เมื่อเห็นภาพนั้น
เขาเคยคิดว่ามันออกจะประหลาดที่ชายวัยกลางคนปล่อยให้ฟู่เฉิงสื่อเอาชนะได้อย่างง่ายดายเมื่อตอนอยู่ที่ตำหนักคว้าดาว ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นของเขาคือชายวัยกลางคนผู้นั้นน่าจะยอมถอยก่อนเพื่อล่อตำหนักคว้าดาวให้เคลื่อนไหว เพื่อเขาจะได้สะกดรอยตามและในที่สุดจะได้รู้ที่อยู่ของตู้ชิงหย่วน
แต่ปัญหาของสมมติฐานนั้นก็คือไม่มีอะไรเป็นเครื่องรับประกันว่าฟู่เฉิงสื่อจะมุ่งหน้าไปยังที่อยู่ของตู้ชิงหย่วน และตำหนักคว้าดาวจะเคลื่อนไหวหรือไม่
ลงท้าย เรื่องนี้ก็เป็นแค่การต่อสู้กันเรื่องเวลา ถ้าตำหนักคว้าดาวยื้อเวลาได้นานพอให้ตู้ชิงหย่วนประกอบพิธีกรรมของเธอจนสำเร็จและได้รับการปกป้องจากเทพเจ้า สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไป ชายวัยกลางคนคงไม่มีเวลามากพอจะเสียให้กับความไม่แน่นอนแบบนั้น
เรื่องนี้ทำให้เขาเบนความสนใจมาที่คำพูดและพฤติกรรมของฟู่เฉิงสื่อ เพราะหากไม่มีฟู่เฉิงสื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง ชายวัยกลางคนก็ไม่น่าจะหาตัวตู้ชิงหย่วนเจอ
จางเซวียนรู้สึกว่าฟู่เฉิงสื่อแสร้งทำเป็นแสดงอาการห่วงใยฉู่อิงกับผู้อาวุโสที่ 1 จ้าวเยว่เพื่อบีบให้ทั้งคู่เปิดเผยที่อยู่ของตู้ชิงหยวน และนั่นทำให้เขาเกิดความระแวงว่าฟู่เฉิงสื่ออาจร่วมมือกับหอเทพเจ้า
แต่เขาก็รีบสลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพราะนึกไม่ถึงว่าผู้อาวุโสของหอนิรันดร์จะสมรู้ร่วมคิดกับหอเทพเจ้าจริงๆ!
“ในเมื่อแท่นบูชาอยู่ในกำมือของพวกเราแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไว้ชีวิตเธอ” ชายวัยกลางคนคำราม
“ใช่” ฟู่เฉิงสื่อพยักหน้า
เขาถ่ายทอดพลังงานเข้าสู่ฝ่ามือ แล้วปล่อยการโจมตีหนักหน่วงเข้าใส่สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดง แต่ในตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นกลางอากาศ
ฟึ่บ!
สองร่างปรากฏตัวขึ้นในจัตุรัส
พวกเขาคือ 2 ใน 4 บริวารของชายวัยกลางคนที่เป็นนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์
“พวกคุณจัดการเขี่ยแมลงน่ารำคาญที่คอยเกาะพวกเราแจหรือยัง?” ชายวัยกลางคนถามอย่างไม่แยแส
“แมลงน่ารำคาญนั่นเจ้าเล่ห์เจ้ากลมาก ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าพวกเรารออยู่ จึงเผ่นหนีไปโดยที่เรายังไม่ทันได้ทำอะไร” หนึ่งในนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ตอบอย่างกระอักกระอ่วน
“เขาหนีไปแล้ว?” ชายวัยกลางคนย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่เจือความไม่พอใจ
“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด หมอน่าจะเป็นเจ้าสำนักดาวเจ็ดดวงคนใหม่ การกำจัดเขาคงไม่ง่ายหรอก” ฟู่เฉิงสื่อเปรยพร้อมกับส่ายหน้า
“เจ้าสำนักดาวเจ็ดดวงคนใหม่?” ชายวัยกลางคนพึมพำพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ใช่ ผมรู้สึกว่าการปรากฏตัวของเขาค่อนข้างจะปุบปับเหมือนกับหัวหน้าเจิ้งหยางและเจ้าสำนักจางเซวียน ผมจึงพยายามสืบเสาะภูมิหลังของเขา แต่ไม่ได้ข้อมูลเลย” ฟู่เฉิงสื่อตอบอย่างเคร่งเครียด
“แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ต้องใส่ใจเขาหรอก รีบนำแท่นบูชากลับไปให้นายท่านก่อน เรื่องหมอนั่นไว้ว่ากันทีหลัง”
“ใช่ เรื่องนี้สำคัญกว่า” ชายวัยกลางคนพยักหน้า เขามองสุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดงแวบหนึ่งและพูดต่อ “คุณกำจัดเธอเสีย แล้วจากนั้นเราจะออกเดินทาง”
“ได้!” ฟู่เฉิงสื่อพยักหน้า
นักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ทั้งสองก้าวเข้ามาและพูดว่า “ขอผมทำเองเถอะ ผมอยากชดเชยที่จับตัวเจ้าสำนักหลิวหยางไม่ได้…”
จากนั้น นักรบคนหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่สุภาพสตรีที่สวมหน้ากากทองแดง ขณะที่อีกคนหนึ่งยังยืนอยู่ข้างๆชายวัยกลางคน
“ฝากเป็นภาระของคุณก็แล้วกัน” ชายวัยกลางคนพยักหน้าก่อนจะหันหลังกลับเพื่อจากไป
บึ้มมมมม!
ทันใดนั้น กระแสดาบฉีทรงพลัง 2 สายก็ระเบิดขึ้นพร้อมกัน มันพุ่งเข้าใส่แผ่นหลังของชายวัยกลางคนและฟู่เฉิงสื่อ
นักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ทั้งสองคน ซึ่งก็คือจางเซวียนกับตัวโคลนของเขาที่ปลอมตัวมาเปิดการโจมตีพร้อมกัน ชายวัยกลางคนกับฟู่เฉิงสื่อไม่ทันระวังตัว จึงถูกเล่นงานอย่างจัง กระแสดาบฉีแทงทะลุร่างของพวกเขาเป็นรูขนาดใหญ่
“คุณ…”
นึกไม่ถึงว่าบริวารของเขาจะเล่นงานพวกเขาเสียเอง ชายวัยกลางคนกับฟู่เฉิงสื่อหน้าถอดสีด้วยความไม่อยากเชื่อ