Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2151 ไอ้สารเลว…ฉันจะฆ่าแก!

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2151 ไอ้สารเลว…ฉันจะฆ่าแก!

ตอนที่ 2151 ไอ้สารเลว…ฉันจะฆ่าแก!
ไก่น้อยตัวนี้อยู่กับเขาตั้งแต่เมื่อครั้งอยู่ในทวีปแห่งปรมาจารย์ ตอนนั้นมันยังอยู่ในรูปของน้ำเต้า

มันคือจอมตะกละวุ่นวายที่ทำให้เขาเดือดร้อนหลายต่อหลายครั้ง แถมยังขี้เกียจมาก เอาแต่นอนนิ่งอยู่ในจุดตันเถียน ไม่ยอมออกมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลงท้ายทั้งคู่ก็มีปากเสียงกันหลายครั้ง

แต่ต่อให้เขาจะโมโหหรือมองบนใส่ไก่น้อย ยังไม่ทันรู้ตัว มันก็กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเขาเสียแล้ว…

จางเซวียนไม่นึกเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น

ต่อให้ตัวโคลนของเขาก็ไม่อาจเชื่อมต่อร่างเข้าด้วยกันได้หากถูกฟันจนยับเยินแบบนี้!

“แก ไอ้สารเลว…ฉันจะฆ่าแก!” จางเซวียนตาแดงก่ำ

ไก่น้อยเป็นอสูรของเขา แต่ก็เป็นทั้งเพื่อนและพี่น้อง

ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาตลอดหลังจากเข้าสู่มิติเบื้องบน แม้จะกระทบกระทั่งกันหลายครั้ง แต่ทุกอย่างก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของเขาไปโดยไม่รู้ตัว

ต่อให้ไม่มีความผูกพันทางสายเลือด แต่ก็เป็นเหมือนญาติสนิท

โดยเฉพาะเมื่อทั้งคู่ได้ทำสัญญาผูกมัดจิตวิญญาณต่อกันและกัน จางเซวียนรับรู้ความคิดและอารมณ์ของมันได้ เกิดเป็นความรู้สึกผูกพันล้ำลึกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อรู้ว่าวันคืนเหล่านั้นจะไม่หวนกลับมาอีกแล้ว จางเซวียนรู้สึกว่างเปล่าอย่างรุนแรงอยู่ภายใน

ตอนแรก เขาไม่อยากให้ไก่น้อยกลืนกินปรมาจารย์ขงเพราะคิดว่าอันตรายเกินไป แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้เป็นไปตามนั้นเพราะรู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเป็นบรรดาศิษย์สายตรงหรือตัวโคลนของเขา ก็ไม่มีใครเก่งกาจพอจะยับยั้งปรมาจารย์ขงได้เลย

ขนาดไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุด คือหน้าหนังสือสีทอง ก็ยังล้มเหลว!

เขาจึงปล่อยให้ไก่น้อยทำไป แต่ก็กำชับมันแล้วว่าให้หยุดทันทีที่รู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอันตราย เขาคิดว่าเจ้านั่นคงไม่เป็นอะไรเพราะมันมีความสามารถพิเศษในการฟื้นตัวที่เหนือกว่าอสูรธรรมดา แต่ใครจะไปคิดว่าปรมาจารย์ขงคนนั้นจะทำรุนแรงถึงขนาดเฉือนมันเป็นชิ้นๆก่อนจะเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน!

นัยน์ตาของจางเซวียนร้อนรุ่มด้วยเจตนาสังหาร เขากำลังจะพุ่งชนเพื่อต่อกรกับปรมาจารย์ขง ก็พอดีกับที่รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งรั้งตัวไว้ ในตอนนั้น เสียงร้อนรนของหวู่เฉินดังขึ้น “นายน้อย การชำระรังสีสวรรค์ให้บริสุทธิ์เป็นเรื่องสำคัญนะ ไม่อย่างนั้น การสังเวยชีวิตของไก่น้อยจะสูญเปล่า!”

คำพูดนั้นเหมือนน้ำเย็นที่ราดรดจางเซวียน เจตนาสังหารของเขายังคงพลุ่งพล่าน แต่ความมีเหตุมีผลหวนกลับคืนสู่จิตใต้สำนึก เขาหยุดชะงัก

ก็จริง

ด้วยพละกำลังที่มีอยู่ในเวลานี้ ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อต่อกรกับปรมาจารย์ขง เขาก็ไม่มีทางได้ชัยชนะ ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเทพเจ้ากับนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์นั้นเรียกได้ว่าอยู่คนละโลก ลำพังแค่ทักษะหรือความทรหดอดทนไม่อาจเติมเต็มช่องว่างนั้นได้

ถ้าจางเซวียนอยากล้างแค้นให้ไก่น้อย มีวิธีเดียวก็คือต้องชำระรังสีสวรรค์ให้บริสุทธิ์ ซึมซับมัน และยกระดับวรยุทธของเขาให้เข้าถึงขั้นเทพเจ้า

ขอแค่เขาทำสำเร็จ การสังหารอีกฝ่ายก็ไม่ได้ยากเกินไป!

จางเซวียนสูดหายใจลึก จากนั้นก็บรรยายต่อหลังจากหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง “เทคนิคการต่อสู้คือวิธีการถ่ายทอดและสำแดงพละกำลังของนักรบคนหนึ่งให้ตรงจุด…”

เปลวเพลิงบนแท่นบูชามีสีสันเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ

ในเวลานี้ นักรบอมตะตัวจริงกว่า 80,000 ชีวิตได้เปิดใจแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าประสบความสำเร็จ

“อสูรของคุณกล้ากลืนกินผมทั้งตัวได้อย่างไร คอยดูนะ ผมจะเอาคืนเป็นร้อยเท่า!”

สีหน้าของปรมาจารย์ขงยังบูดเบี้ยวด้วยความโกรธแม้จะสังหารไก่น้อยไปแล้ว เขาคำรามและกวัดแกว่งดาบเข้าใส่จางเซวียน

อาวุธของปรมาจารย์ขงเป็นแค่ของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ แต่เมื่ออยู่ในมือเทพเจ้า ก็สำแดงพละกำลังที่เหนือชั้นกว่าอาวุธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์โดยทั่วไป กระแสดาบฉีที่เขาสำแดงออกมาพุ่งออกไปไกลกว่าสิบลี้ ความคมกริบอย่างน่าสะพรึงของมันทำให้รู้สึกราวกับว่ามิติที่อยู่โดยรอบบอบบางเหมือนแผ่นกระดาษ

“คุ้มกันท่านอาจารย์!”

จ้าวหย่ากับคนอื่นพุ่งเข้าใส่อย่างร้อนใจ ตัวโคลนของจางเซวียนก็ตรงเข้าปกป้องร่างต้นแบบของมัน

แม้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ฟื้นคืนพละกำลังดังเดิมแล้วด้วยการดื่มซุปไก่ในขณะที่ไก่น้อยกำลังกลืนกินปรมาจารย์ขงอยู่

ศิษย์สายตรงทั้ง 11 คนและตัวโคลนของจางเซวียนล้วนมีของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์อยู่ในมือ ซึ่งทำให้มีพละกำลังเทียบเท่ากับนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ 24 คน ด้วยการผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่น พวกเขาสร้างค่ายกลผนึกกำลังที่ทรงพลังขึ้นได้

ถึงการฟาดฟันดาบที่เกิดจากความโกรธเกรี้ยวของปรมาจารย์ขงจะมีพลังรุนแรงมาก แต่ทุกคนก็ปัดป้องมันออกไปได้สำเร็จแม้จะลำบากอยู่บ้าง

“ทับเขาให้ตาย!” จางเซวียนเพ่งสมาธิ

ฟึ่บ!

หน้าหนังสือสีทองที่เมื่อครู่นี้หาเป้าหมายไม่เจอล็อคสายตาของมันไว้ที่ปรมาจารย์ขงและทิ้งตัวลงจากกลางอากาศอีกครั้ง

ความแข็งแกร่งของหอสมุดเทียบฟ้าเพิ่มขึ้นอีกมากเพราะพละกำลังของสรวงสวรรค์แห่งมิติเบื้องบน ซึ่งนั่นหมายความว่าระยะเวลาที่หน้าหนังสือสีทองคงอยู่จะยาวนานขึ้นด้วย ทำให้มันยังคงรีรออยู่แถวนี้ได้แม้การโจมตีครั้งแรกจะล้มเหลว

เมื่อหน้าหนังสือสีทองสำแดงพละกำลังเต็มพิกัดจากด้านบน มิติรอบตัวปรมาจารย์ขงก็แข็งทื่อเพราะแรงกดดันของมัน

“บ้าจริง!”

ปรมาจารย์ขงพยายามสำแดงกระบวนท่าเดิมอีกครั้ง คือเปิดใช้งานศาสตร์ลับเพื่อปกปิดตัวเขาจากสายตาของสรวงสวรรค์ จะได้หลบเลี่ยงการโจมตีของหน้าหนังสือสีทอง แต่ตัวโคลนก็ถลันเข้ามาแล้วจ้วงแทงปรมาจารย์ขงจากด้านหลัง

จ้าวหย่ากับพรรคพวกรีบเข้ามา ต่างคนต่างสำแดงกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อเล่นงานปรมาจารย์ขง

“เจ้าพวกโง่! อยากตายหรือไง?” ปรมาจารย์ขงรู้สึกขนลุกขนชัน

หน้าหนังสือสีทองไม่แบ่งแยกว่าใครคือมิตรหรือศัตรู มันเป็นพละกำลังที่เล่นงานได้แม้แต่เทพเจ้า แต่ตัวโคลนของจางเซวียนกับบรรดาศิษย์สายตรงของเขาก็พุ่งเข้ามาในรัศมีการโจมตีของหน้าหนังสือสีทองโดยไม่ลังเลสักนิด

นี่ไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตาย!

และที่เลวร้ายกว่านั้น พวกเขายังวางแผนจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้หน้าหนังสือสีทองเข้าโจมตีด้วย…หรือพูดอีกอย่างก็คือ พวกนั้นตั้งใจสังเวยชีวิตเพื่อเล่นงานเขา!

ปรมาจารย์ขงปล่อยกระแสดาบฉีออกมาโอบล้อมตัวเองราวกับมังกรที่กำลังเกรี้ยวกราด เขาตั้งใจจะขับไล่พวกนั้นออกไปเพื่อจะได้ซ่อนตัวอย่างปลอดภัยจากทุกสายตาของสรวงสวรรค์ แต่เจ้าพวกนั้นก็จงใจโจมตีเขาอย่างไม่ลดละ ไม่ว่าจะพยายามผลักไสออกไปอย่างไร อีกฝ่ายก็จะกลับมาและเล่นงานเขาอีกในชั่วพริบตา

เขาไม่มีทางหลบหนีได้เลย!

บริเวณรอบตัวเขามืดมิดอย่างรวดเร็วขณะที่หน้าหนังสือสีทองกำลังเข้าใกล้ด้วยความเร็วอันน่าสะพรึง ให้ความรู้สึกราวกับน้ำหนักทั้งหมดของสรวงสวรรค์กำลังถาโถมเข้าใส่ ปรมาจารย์ขงเกิดความหวาดกลัวขึ้นในส่วนลึกของหัวใจ

“ต่อให้หน้าหนังสือสีทองเล่นงานผมอย่างจัง ผมก็ไม่ตายง่ายๆแบบนั้นหรอก!” ปรมาจารย์ขงคำราม

รู้ดีว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงความตั้งใจของศิษย์สายตรงของจางเซวียนกับตัวโคลนของเขาได้ ปรมาจารย์ขงใช้กระแสดาบฉีห่อหุ้มร่างของเขาไว้เพื่อคุ้มกันตัวเองจากการโจมตีของจ้าวหย่าและคนอื่นๆ ก่อนจะพุ่งเข้าใส่หน้าหนังสือสีทอง

ฟึ่บ!

เขาปะทะกับหน้าหนังสือสีทอง ดาบในมือแหลกสลายไปทันที แรงกดดันมหาศาลที่โถมทับลงมาทำให้เลือดกระอักออกจากปากและจมูก

แต่ในเวลาเดียวกัน ปรมาจารย์ขงก็ยับยั้งหน้าหนังสือสีทองไว้ได้

“น่าสะพรึงจริงๆ…” จางเซวียนใจหายวาบ

หน้าหนังสือสีทองเป็นไม้ตายที่ไว้วางใจได้มาตลอด จางเซวียนใช้มันเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ขอแค่เขานำมันออกมา ต่อให้นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดก็จะบี้แบนกลายเป็นแพนเค้กในทันที

เขาจึงคิดว่าขอแค่ยับยั้งปรมาจารย์ขงไม่ให้หลบหนีได้ ก็มีโอกาสสูงที่น่าจะเล่นงานอีกฝ่ายได้ถึงตาย แต่หมอนั่นกลับมีพละกำลังมากพอจะต้านทานมัน

ดูเหมือนพลังจากสรวงสวรรค์ของมิติเบื้องบนก็ไร้ความหมายเมื่อเผชิญหน้ากับเทพเจ้า

“นายน้อย รังสีสวรรค์เปลี่ยนเป็นสีทองแล้ว!” หวู่เฉินร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

จางเซวียนหันขวับไปมอง เห็นรังสีสวรรค์ที่อยู่บนแท่นบูชาเปล่งประกายสีทองอร่าม มันดูเหมือนกันเป๊ะกับรังสีสวรรค์ที่เขาเคยได้รับที่หอเทพเจ้า

ขณะที่บรรดาศิษย์สายตรง ตัวโคลน และหน้าหนังสือสีทองของเขากำลังเล่นงานปรมาจารย์ขง เขาก็สามารถรวบรวมเจตจำนงของนักรบอมตะตัวจริงทั้งหนึ่งแสนชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ พิธีกรรมจึงเสร็จสิ้นสมบูรณ์

“ไก่น้อย ฉันจะล้างแค้นให้แก…”

จางเซวียนพุ่งเข้าใส่แท่นบูชาและคว้ารังสีสวรรค์ไว้โดยไม่ลังเล

ซรืดดดดดด!

รังสีสวรรค์ซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านทางรูขุมขน มันไหลเวียนไปทั่วทางเดินพลังปราณทันที

ถ้าในครั้งนั้น จางเซวียนบุ่มบ่ามซึมซับรังสีสวรรค์เข้าไปโดยปราศจากเทคนิควรยุทธที่เหมาะสม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ร่างของเขาจะระเบิดเพราะการสะสมของพลังงานเกินขนาด

แต่ในเวลานี้…

แค่หวนนึกถึงภาพของไก่น้อยที่ถูกเฉือนและเผาจนมอดไหม้ จางเซวียนรู้สึกเหมือนหัวใจสลาย

ภาพเมื่อครั้งที่เขาใช้เวลากับไก่น้อยเรียงรายกันเข้ามา

เมื่อตอนอยู่ที่ปูชนียสถานนักปราชญ์ ตอนที่เขาเดินทางไปกับกลุ่มของหลัวชวนฉิงเพื่อตามหาน้ำเต้าตงฉู่ จู่ๆเจ้านี่ก็พวกพราดเข้ามาอยู่ในจุดตันเถียนของเขาและซ่อนตัวอยู่ในนั้น นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์พิลึกพิลั่นของทั้งคู่

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนักตอนที่พวกเขาอยู่ในทวีปแห่งปรมาจารย์ จางเซวียนไม่อาจต่อรองกับน้ำเต้าตงฉู่ได้ และเจ้านั่นก็ใช้เวลาส่วนใหญ่กบดานอยู่ในจุดตันเถียนของเขา แต่เมื่อมาถึงมิติเบื้องบนแล้ว ทั้งคู่จึงเริ่มใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น

เล่นงานคู่ต่อสู้จากด้านหลัง ขโมยยาเม็ด กลืนดาบของเพื่อนร่วมทีมของเขาลงไป…เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับทั้งคู่

ยังไม่ทันที่จางเซวียนจะรู้ตัว ไก่น้อยก็มีที่ทางอยู่ในหัวใจของเขาแบบที่ไม่มีใครแทนที่ได้

ความเคยชินเป็นเรื่องที่แสนจะน่าหวาดหวั่น ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง จางเซวียนรู้สึกว่าวันคืนจะดำเนินไปอย่างนี้ตลอดไป พวกเขาจะอยู่เคียงข้างกัน ทะเลาะกันไปเรื่อยๆ

“ผมคืออสูรในตำนานที่ครั้งหนึ่งมีอำนาจบงการทั่วทั้งดินแดน…”

เสียงไก่น้อยก้องอยู่ในหัวของจางเซวียน อันที่จริง เขาแทบจะเห็นภาพเจ้านั่นส่ายก้นอย่างลิงโลดขณะเขมือบยาเม็ดอมตะเข้าไปเม็ดแล้วเม็ดเล่าราวกับพวกมันไม่มีราคาค่างวดอะไร

“เรายังไม่รู้เลยว่าแกเป็นอสูรในตำนานชนิดไหน…” จางเซวียนพึมพำ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้านั่นพยายามสุดตัวที่จะฝ่าด่านวรยุทธให้ได้ เพื่อจะได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง…แต่จนถึงวินาทีสุดท้าย มันก็ยังไม่รู้ว่าตัวมันคืออะไร

‘ความผูกพันลึกซึ้งของพี่น้องรวมถึงชีวิตและความตาย’ จางเซวียนพึมพำด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ

การคอยระวังหลังให้อีกฝ่ายและปกป้องซึ่งกันและกันในยามเผชิญหน้ากับอันตราย นั่นคือความผูกพันของพี่น้อง!

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 2100 อ่านนิยาย

อ่านต่อเลือกตอนข้างล่าง


จางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท