ตอนที่ 2177 ส่วนจอมราชันย์…
จางเซวียนพลันเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
อารมณ์และความรู้สึกของคนคนหนึ่งส่งผลกระทบต่อรูปร่างหน้าตาของเขาได้เช่นกัน ก็เหมือนกับการที่ใครสักคนที่กำลังตกหลุมรักจะมีหน้าตาผิวพรรณผ่องใส…หรือว่าเวทนาสวรรค์ของเราได้เปลี่ยนธรรมชาติของพลังปราณเทียบฟ้าไป?
อารมณ์และความรู้สึกนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของแรงขับเคลื่อนและแรงบันดาลใจ แต่ก็ทำให้รูปลักษณ์หน้าตาของผู้นั้นเปลี่ยนแปลงไปได้มาก ว่ากันว่าผู้ที่มีความสุขอยู่เสมอจะแก่ช้ากว่าผู้ที่เอาแต่จมจ่อมอยู่กับความวิตกกังวล
ใครจะไปรู้ว่าการทำความเข้าใจเวทนาสวรรค์จะส่งผลต่อพลังปราณเทียบฟ้าแบบนี้?
“รอสักครู่นะ…”
สุภาพสตรีผู้นั้นรีบออกไป เพียงครู่เดียวก็กลับมาพร้อมกับยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าอีก 10 ขวด
“ผมจะหลอมให้คุณอีกเม็ดหนึ่งเดี๋ยวนี้แหละ” จางเซวียนพูดขณะกลับเข้าไปในห้องส่วนตัวห้องเดิม
15 นาทีให้หลัง เขาก็เดินออกมาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดกว่าครั้งก่อน ดูเหมือนพร้อมจะสะดุดล้มและเป็นลมได้ทุกขณะ
สุภาพสตรีตรวจสอบยาเม็ดที่ได้มาใหม่อย่างละเอียดละออ วิเคราะห์ทุกริ้วรอยบนเม็ดยา แต่ก็ไม่เห็นความแตกต่างใดระหว่างยาเม็ดในมือของเธอกับยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าทั่วไป
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ยกมือขึ้นและสั่งการบางอย่างกับชายวัยกลางคนที่เป็นหนึ่งในบริวารของเธอ
ไม่ช้า สุภาพสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งก็ถูกนำตัวเข้ามา
เธอเป็นนักรบระดับเทพเจ้าขั้นกลางและมีอายุราว 40 กว่าปี แต่ดูร่วงโรยกว่านั้นมาก ริ้วรอยของกาลเวลาเหยียบย่ำผิวพรรณของเธอ สีผิวก็ออกเหลืองเล็กน้อย
ตอนนี้เธอดูเหมือนอายุราว 70 ถึง 80 ปี
หลังจากอ่านหนังสือที่สายเทาทิ้งไว้ จางเซวียนก็ได้ความเข้าใจบางส่วนเกี่ยวกับอายุขัยโดยเฉลี่ยของเหล่าเทพเจ้าในสรวงสวรรค์
ก่อนจะเกิดการเสื่อมถอยของพลังจิตวิญญาณ เทพเจ้าโดยทั่วไปมีอายุขัยราว 150 ปีหรือมากกว่านั้น แต่เพราะสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายกว่าเดิม ในเวลานี้เทพเจ้าส่วนใหญ่จึงอยู่ได้เพียง 80 ปี
ส่วนนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ ใครที่อยู่ได้จนอายุ 60 ปีก็ถือว่ามีชีวิตยืนยาวแล้ว
วิธีเดียวที่เหล่าเทพเจ้าจะยืดอายุขัยของพวกเขาได้ก็คือยกระดับวรยุทธไปเป็นเทพเจ้าสวรรค์สร้าง โดยเทพเจ้าสวรรค์สร้างจะมีอายุขัยราว 1,000 ปี
ราชันย์เทพเจ้ามีอายุขัยราว 10,000 ปี และว่ากันว่าราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติมีอายุขัยราว 100,000 ปีเลยทีเดียว
ส่วนจอมราชันย์…
เป็นที่รู้กันว่าเก้าจอมราชันย์อยู่มาตั้งแต่มีสรวงสวรรค์ ในสายตาของโลก พวกเขาคือผู้ไม่มีวันตาย
“กินยานี้เสีย!” สุภาพสตรีผู้จัดการตลาดมืดพูด
สุภาพสตรีวัยกลางคนรับยาเม็ดนั้นและกลืนลงไปโดยไม่ลังเล
ครู่ต่อมา รูปร่างหน้าตาของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป ริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆจางลงจนมองไม่เห็น ผิวหน้าของเธอผ่องใสและดูสดชื่นเปล่งปลั่ง ราวกับมีใครย้อนเวลาให้เธอหลายสิบปี นำเธอกลับสู่ช่วงเวลาของสาวน้อยทรงเสน่ห์ในวัย 30 ต้นๆ
สุภาพสตรีวัยกลางคนจ้องดูรูปร่างหน้าตาใหม่ของเธอในกระจกเงาพร้อมกับอ้าปากค้าง
ในสรวงสวรรค์มีอัจฉริยะผู้เก่งกาจอยู่มากมาย แต่ไม่มีใครคิดค้นยาเม็ดเพิ่มความงามที่สร้างปาฏิหาริย์แบบนี้ได้ ต่อให้ยาเม็ดเพิ่มความงามที่แพงที่สุดที่มีขายในท้องตลาดก็ไม่อาจเปลี่ยนสภาพเธอได้รวดเร็วขนาดนี้!
สุภาพสตรีวัยกลางคนรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่เพราะยาเม็ดนั้น
“มันได้ผลจริงๆ…ด้วยยานี้ ต่อให้ฉันเลิกดูแลตลาดมืดใต้ดิน ก็ไม่มีวันขัดสนแหล่งทำเงิน!”
แม่สาวไก่แก่แม่ปลาช่อนนัยน์ตาเป็นประกายวิบวับด้วยความตื่นเต้น เธอหันไปมองจางเซวียน “น้องชาย ไม่ทราบว่าฉันควรเรียกคุณว่าอย่างไร?”
เมื่อครู่นี้เธอกับเขาแค่ทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกัน การไม่รู้จักชื่อของกันและกันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะไม่ช้าก็คงแยกย้ายและน่าจะไม่ได้พบกันอีก
แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือพันธมิตรทางธุรกิจที่แสนจะมีศักยภาพ!
“จางเซวียน”
“ฉันชื่อฉีหลิงเอ๋อ ฉันเชื่อว่าคุณคงรู้ดีอยู่แล้วว่ายาเม็ดที่คุณหลอมมีอานุภาพคืนความอ่อนเยาว์ครั้งใหม่…แล้วทำไมเราไม่จับมือกันเพื่อสร้างธุรกิจใหญ่ล่ะ? คุณรับหน้าที่หลอมยา ส่วนฉันจะหาเครือข่ายเพื่อขายยาของเรา ผลกำไรก็แบ่งกัน 50:50 คุณพอใจไหม?” ฉีหลิงเอ๋อยื่นข้อเสนอ
“50:50? ผมโอเค” จางเซวียนพยักหน้า
ด้วยเครือข่ายและเส้นสายกว้างขวางที่ฉีหลิงเอ๋อมีตลอดระยะเวลาหลายปีของการเป็นผู้จัดการตลาดมืดใต้ดิน ก็ถือว่าสมเหตุสมผลที่เธอจะเรียกร้องผลกำไรครึ่งหนึ่ง อีกอย่าง การหลอมยาของเขาก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร
“ดี! อันดับแรกเลยนะ ฉันอยากให้คุณหลอมยาให้ฉัน 10 เม็ด ฉันจะส่งมันไปขายที่เมืองตะวันรอนในอีก 2-3 วันนี้ สร้างความแตกตื่นครั้งใหญ่กันเลย” ฉีหลิงเอ๋อสั่งการ
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก แต่ผมต้องการยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าในจำนวนที่มากพอ”จางเซวียนพูดขณะมองฉีหลิงเอ๋อ
“ฉันเข้าใจ แต่ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าจะถือเป็นค่าใช้จ่ายหนึ่งในการทำธุรกิจของเรานะ” ฉีหลิงเอ๋อตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้ามีสนนราคาอยู่ที่เม็ดละ 1 เหรียญสวรรค์ เพราะฉะนั้น…10 ขวดก็เป็นราคา 100 เหรียญสวรรค์”
“ทำเลยก็แล้วกัน” จางเซวียนพยักหน้า
ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นต่ำมีไว้สำหรับนักรบที่มีวรยุทธต่ำกว่าระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้าง ซึ่งยังอีกยาวไกลกว่าจางเซวียนจะได้เป็นเทพเจ้าสวรรค์สร้าง เขาจึงต้องการยาเม็ดชนิดนี้ในปริมาณมาก แถมยังมีผู้คนอีกมากมายให้ต้องดูแล
“เยี่ยม!” ได้ยินจางเซวียนรับปาก ฉีหลิงเอ๋อไปสั่งการกับชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลัง “บอกผู้เฒ่าเย่นะว่าฉันต้องการยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าทั้งหมดที่เขามี”
ชายวัยกลางคนพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้อง
ไม่ช้าก็กลับมาพร้อมกับแหวนเก็บสมบัติวงหนึ่ง
“ผู้จัดการ ผมเหมายาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าของเขามาหมด รวมแล้วก็ 300 เม็ด เขาบอกว่าเขาจะหาทางนำมาให้ได้มากกว่านี้ถ้าคุณยังต้องการเพิ่ม”
“ดี” ฉีหลิงเอ๋อพยักหน้า เธอรีบถ่ายยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าในแหวนเก็บสมบัติวงนั้นไปยังแหวนเก็บสมบัติอีกวงก่อนจะยื่นให้จางเซวียน “มียาเม็ดแก่นสารเทพเจ้า 1,300 เม็ดอยู่ในนี้ ฉันต้องการยาเม็ดเพิ่มความงาม 13 เม็ด แต่รู้ว่าตอนนี้คุณออกจะอ่อนเพลียไม่น้อย เพราะฉะนั้นก็จะให้เวลา 10 วันในการหลอมยา”
“ไม่ต้องหรอก ผมไม่ชอบทำอะไรชักช้า รอตรงนี้สักครู่ เดี๋ยวจะนำมาให้”
จางเซวียนลากสังขารอ่อนปวกเปียกกลับเข้าไปในห้องส่วนตัวและปิดห้อง ราว 15 นาทีให้หลัง ก็เดินออกมายื่นขวดหยก 2 ใบให้ฉีหลิงเอ๋อ
จางเซวียนดูย่ำแย่กว่าเดิม สีหน้าของเขาซีดเผือด มีเลือดซึมออกจากมุมปาก ร่างกายโงนเงนไปมา ดูเหนื่อยอ่อนเสียจนแทบไม่น่าเชื่อว่าใครสักคนจะยังมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแบบนี้
หลังจากเปิดฝาขวดหยกเพื่อตรวจดู ฉีหลิงเอ๋อตาโตด้วยความประหลาดใจ
“นี่มัน…20 เม็ดนี่?”
ก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มหลอมยาเม็ดเพิ่มความงามได้ 1 เม็ดจากยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้า 100 เม็ด เธอจึงยินดีปรีดายิ่งนักที่เห็นในขวดหยกมียาเพิ่มมา 7 เม็ดจากที่คิดไว้
“คราวนี้ผมโชคดีน่ะ เลยหลอมได้มากกว่าเดิม” จางเซวียนตอบอย่างอ่อนระโหย
“เยี่ยมเลย คุณทำได้ดีมาก! นี่คือบัตรสรวงสวรรค์ซึ่งใช้กันแพร่หลายที่นี่ ฉันจะโอนกำไรจากการขายยาเม็ดเข้าบัตรนี้โดยตรง จำนวนเงินคือ 50 เปอร์เซ็นต์ของกำไรทั้งหมดอย่างที่เราตกลงกันไว้” ฉีหลิงเอ๋อพูดอย่างลิงโลดขณะยื่นบัตรใบหนึ่งให้
จางเซวียนเข้าใจทันทีว่าบัตรสรวงสวรรค์นี้ทำหน้าที่แบบเดียวกับแหวนเก็บสมบัติ จึงรับไว้พร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็เอ่ยถาม “แล้วเลือดอสูรหม่าหยางของผม…”
“คุณต้องรอ 1 วันนะกว่าเลือดอสูรหม่าหยางจะมาถึง ตอนนี้ฉันมีอยู่ในสต๊อกไม่มาก จึงต้องโอนสินค้ามาจากตลาดมืดสาขาอื่น ต่อให้เร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน” ฉีหลิงเอ๋อตอบ
“แต่ไม่ต้องห่วง ฉันดูแลพันธมิตรทางธุรกิจของฉันอย่างดีเสมอ ส่วนเรื่องเงินน่ะ คุณก็ไม่ต้องจ่าย หักออกจากส่วนแบ่งกำไรก็แล้วกัน ดีไหม?”
จางเซวียนพยักหน้าก่อนกล่าวลา “ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อน”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและออกจากตลาดมืด ไม่ช้าก็พบตัวชายตาบอดและกลับถึงเมืองตะวันรอนด้วยเรือลำเดิม
ทันทีที่จางเซวียนลับตาไป สุภาพสตรีวัยกลางคนที่ได้กินยาเม็ดเพิ่มความงามเมื่อครู่ก็ตั้งคำถาม “นายหญิงน้อย ในเมื่อหมอนั่นหลอมยาเม็ดที่มีอานุภาพไร้เทียมทานได้ ทำไมเราไม่กักตัวเขาไว้และบังคับให้เขาบอกสูตรยา? เราจะไม่เสียเงินก้อนโตหรือหากต้องแบ่งผลกำไรกับเขา?”
ฉีหลิงเอ๋อรับหน้าที่จัดหาวัตถุดิบและเครือข่ายการกระจายสินค้า อีกทั้งดูแลเรื่องการตลาดและอื่นๆ ทั้งหมดที่ชายหนุ่มมีก็แค่วิธีการหลอมยาเท่านั้น ไม่มีเหตุผลเลยที่พวกเธอจะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อการนี้
พวกเธอไม่ได้อยู่ในเมืองตะวันรอน ขอแค่จับตัวชายหนุ่มไว้ ไม่ช้าไม่นานอีกฝ่ายก็ต้องยอมคายความลับเรื่องสูตรยาออกมา
“คุณคิดว่าเขาใช้พละกำลังเกินพิกัดตอนที่หลอมยาเมื่อครู่นี้ใช่ไหม?” ฉีหลิงเอ๋อโพล่งออกมา
“ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นหรือ? ฉันตรวจสอบสภาวะร่างกายของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าพลังชีวิตของเขา เสื่อมสภาพไปเพราะการใช้แรงเกินขนาด” สุภาพสตรีวัยกลางคนตอบพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันเข้าใจว่ากระบวนการหลอมยาอาจจะทำให้ร่างกายของผู้หลอมเกิดความบอบช้ำได้มาก แต่ขอแค่เรายอมจ่าย ฉันก็เชื่อว่าคงมีนักปรุงยามากมายที่ยิ่งกว่าเต็มใจรับงานนี้…”
มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่พร้อมพุ่งเข้าชนกับอันตรายเพื่อเติมเต็มความโลภและความกระหายของตัวเอง
ฉีหลิงเอ๋อส่ายหน้า “เขาแสร้งทำเป็นอ่อนแอ”
“แสร้งทำเป็นอ่อนแอ?” สุภาพสตรีวัยกลางคนทวนคำอย่างประหลาดใจ
“ใช่” ฉีหลิงเอ๋อพูด “แม้จะดูเหมือนเขาได้รับความบอบช้ำสาหัสและมีรังสีที่อ่อนระโหยโรยแรงมาก แต่ฉันก็สัมผัสได้ว่าจิตวิญญาณของเขายังอยู่ในสภาพดี ไม่มีสัญญาณของการเสื่อมถอยสักนิด นั่นแปลว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ”
“ในฐานะนักรบระดับเทพเจ้าขั้นต่ำ เขาจะบาดเจ็บหรือไม่ก็ไม่เป็นอันตรายกับพวกเราอยู่แล้ว แต่ตราสัญลักษณ์ที่เขาใช้เพื่อเข้าสู่ตลาดมืดใต้ดินนั้นเป็นของสายเทา ซึ่งฉันได้ข่าวว่าสายเทากับกองโจรของเขาถูกชายนิรนามผู้หนึ่งเล่นงานจนพ่ายแพ้ราบคาบเมื่อคืนนี้ เท่าที่ฉันรู้มา สายเทารับมือกับคู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้แม้จะเป็นการดวลตัวต่อตัว มีความเป็นไปได้สูงว่าคู่ต่อสู้ของสายเทาคือชายหนุ่มคนนั้น”
“นายหญิงน้อย คุณกำลังบอกว่าเจ้าหนุ่มคนนั้นมีพละกำลังมากพอถึงขนาดเอาชนะนักรบระดับเทพเจ้าขั้นกลางได้ทั้งที่ตัวเองเป็นแค่นักรบระดับเทพเจ้าขั้นต่ำอย่างนั้นหรือ?” สุภาพสตรีวัยกลางคนชะงักเมื่อรู้เรื่อง
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามา เธอรีบตั้งคำถาม “นี่หมายความว่าเขามีสายเลือดที่ทรงพลังเป็นพิเศษใช่ไหม?”