“ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดชนิดไหน ก็จะต้องมีสัญญาณที่บ่งชี้ลักษณะตามธรรมชาติของมัน ยาเม็ดฟื้นฟูสภาพร่างกายมักมีส่วนผสมของหญ้าหรือดอกไม้ที่ช่วยลดการอุดตันของลิ่มเลือด ส่วนยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธก็มักทำจากดอกไม้ฝ่าด่านวรยุทธหรือกลิ่นหอมที่ช่วยบ่มเพาะทางเดินพลังปราณ…แต่ยาเม็ดเพิ่มความงามที่ชายหนุ่มคนนี้หลอมออกมา แม้จะมีประสิทธิภาพน่าทึ่ง แต่ก็ดูไม่ต่างอะไรสักนิดกับยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้า คุณรู้หรือเปล่าว่ามันเป็นแบบนี้เพราะอะไร?” ฟู่เจียงเฉินตั้งคำถาม
โจวเฟิงส่ายหน้า
ถ้าเขารู้คำตอบ คงไม่ต้องทำถึงขนาดเชิญท่านอาจารย์ให้มาที่นี่เพื่อล้วงความลับของอีกฝ่าย
“ง่ายนิดเดียว เขาใช้เทคนิคการหลอมชนิดพิเศษเพื่อปกปิดความลับในยาเม็ดของเขา” ฟู่เจียงเฉินตอบ
“ปกปิด? ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ?” โจวเฟิงถามอย่างงงๆ
แทนที่จะตอบคำถามของศิษย์สายตรงของเขา ฟู่เจียงเฉินตั้งคำถามกลับ “ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นต่ำคือหนึ่งในยาเม็ดขั้นพื้นฐานที่สุดของสรวงสวรรค์ ด้วยความสามารถของคุณในเวลานี้ คุณคิดว่าวิธีหลอมยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นต่ำมีกี่วิธี?”
“ผมคิดว่าราว 100 วิธีนะ” จัวเฟิงตอบ
“พูดให้ง่ายขึ้น ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นต่ำคือกระบวนการขั้นพื้นฐานของการดึงเอาพลังจิตวิญญาณจากสมุนไพรมากักเก็บไว้ในรูปยาเม็ด การผสมผสานกันของสมุนไพรกับกรรมวิธีการหลอมยาที่ให้ผลแบบเดียวกันนั้นมีหลายรูปแบบ ปัญหาก็คือเราจะค้นพบวิธีการที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร?”
“เหตุผลที่คุณสรุปได้ว่ามีวิธีหลอมยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นต่ำอยู่ราว 100 วิธีก็เพราะคุณมีพื้นฐานด้านวิชาปรุงยาที่แน่นพอ ไม่ได้สักแต่ทำตามสูตรยาที่ตกทอดกันมา คุณเข้าใจธรรมชาติของสมุนไพรและรู้ว่าสมุนไพรแต่ละชนิดที่ทำปฏิกิริยากันในสภาวะต่างกันก่อให้เกิดผลแบบไหนได้บ้าง ดังนั้น คุณจึงค้นพบวิธีการหลากหลายที่นำมาซึ่งประสิทธิผลแบบเดียวกัน”
ฟู่เจียงเฉินจับจ้องชายหนุ่มที่อยู่บนเวที แววตาของเขาบ่งบอกความยำเกรง
“ก็เหมือนกับชายหนุ่มคนนั้นนั่นแหละ แม้ยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธที่เขาหลอมจะดูไม่ต่างอะไรกับยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นกลาง ถึงขนาดที่ไม่อาจใช้การรับรู้จิตวิญญาณแยกแยะ แต่อันที่จริง เขาได้ใช้สมุนไพรล้ำค่าหลากหลายชนิดขัดเกลามันและจงใจหลอมให้อยู่ในรูปของยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นกลาง เพื่อปกปิดสูตรยาของเขาไว้ไม่ให้ใครลอกเลียนแบบได้”
“เป็นผลงานที่น่าทึ่งจริงๆ!” จัวเฟิงตาโตเมื่อพลันเข้าใจ
อันที่จริง สิ่งที่ชายหนุ่มทำก็เหมือนกับการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านยาพิษในสรวงสวรรค์สามารถลักลอบใส่ยาพิษที่มีฤทธิ์รุนแรงถึงตายเข้าไปในยาเม็ดทั่วไปได้โดยไม่มีใครรู้
เพียงแต่สิ่งที่ชายหนุ่มปกปิดไว้ไม่ใช่ยาพิษ แต่เป็นธรรมชาติที่แท้จริงของยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธของเขา
ซึ่งนั่นก็เหมาะเจาะลงตัว เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีทางที่ยาเม็ดแก่นสารเทพเจ้าขั้นกลางจะเพิ่มโอกาสการประสบความสำเร็จในการฝ่าด่านวรยุทธได้ถึง 50%
…..
ส่วนจางเซวียนที่อยู่บนเวทีก็พูดต่อ
“คำพูดใดๆก็ล้วนไร้ความหมายจนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง ในเมื่อผมนำยาเม็ดออกมาแล้ว ก็ต้องสาธิตประสิทธิภาพของมันเพื่อให้พวกคุณมั่นใจว่านี่ไม่ใช่การหลอกลวง!”
“มีใครในที่นี้สนใจอยากทดสอบประสิทธิภาพของยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธไหม? เพื่อขจัดข้อสงสัยว่าผมอาจใช้หน้าม้า ผมขออาสาสมัครสักคนที่เป็นคนดังและได้รับความเชื่อถือจากผู้คนทั่วไปในเมืองหลวงแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน และผู้นั้นจะต้องอยู่ในสภาวะที่ใกล้จะเข้าถึงการฝ่าด่านวรยุทธด้วย”
วัตถุประสงค์ของการสาธิตก็เพื่อโน้มน้าวใจให้ฝูงชนเชื่อว่ายาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธมีประสิทธิภาพอย่างที่เขาพูดไว้ ดังนั้น จึงไม่มีความหมายอะไรหากคนที่เขาเลือกไม่น่าเชื่อถือพอที่จะทำให้ทุกคนแน่ใจว่าไม่ได้กำลังถูกหลอก
“ผมคือจางเหิงจากหน่วยองครักษ์หลวงของเมืองหลวงแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน วรยุทธของผมติดแหงกอยู่ที่ระดับเทพเจ้าขั้นสูงสุดมากว่า 10 ปีแล้ว องครักษ์ทุกคนในเมืองนี้ยืนยันให้ผมได้!”
ยังไม่ทันที่ใครจะได้โต้ตอบ ชายชราคนหนึ่งก็อาสาและกระโจนขึ้นไปบนเวที
“ให้เหล่าองครักษ์ยืนยันให้คุณแล้วมีประโยชน์ตรงไหน? ใครจะไปรู้ว่าพวกนั้นร่วมมือจัดฉากกับคุณหรือเปล่า? ผมทดสอบเองดีกว่า! ผมคือทหารรับจ้างของหน่วยคุ้มกัน ระดับวรยุทธของผมคือเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นต่ำ-สูงสุด พ่อบ้านตระกูลฉียืนยันตัวตนของผมได้”
“พวกคุณน่ะไม่น่าเชื่อถือสักคน ให้ผมทดสอบดีกว่า!”
เกิดความอลหม่านครั้งใหญ่ เพียงไม่กี่อึดใจ ผู้มาร่วมงานกว่า 40 คนก็กระโจนขึ้นไปบนเวที
พวกเขายังไม่เชื่อสนิทใจว่ายาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธเป็นของจริง แต่การที่ชายหนุ่มเชิญผู้คนกลุ่มใหญ่มาร่วมงานของเขาได้ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ตระกูลฉีให้การสนับสนุน ก็ทำให้ทุกคนมีความหวัง
มีความเป็นไปได้สูงที่เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องจริง และนั่นจะเป็นโอกาสทองของพวกเขาในการฝ่าด่านวรยุทธ ทุกคนจึงตัดสินใจแบกรับความเสี่ยงด้วยการเอ่ยปากอาสา
“คือ…”
เห็นคนกลุ่มใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้า จางเซวียนถึงกับอึ้ง ไม่รู้ว่าควรเลือกใคร
ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นกลางอากาศ “ผมเสนอชื่อศิษย์น้องคนหนึ่งของผมได้ไหม?”
จากนั้น ฟู่เจียงเฉินก็ร่อนลงมา
“นั่นคือนักปรุงยาหมายเลข 1 ของสรวงสวรรค์, ฟู่เจียงเฉิน!”
“เดี๋ยวววว เดี๋ยวนะ เขาอาจเป็นนักปรุงยาที่โด่งดังที่สุดในสรวงสวรรค์ก็จริง แต่ยังไม่ใช่หมายเลข 1 หรอก, ใช่ไหม? ผมได้ยินว่าจอมราชันย์พิชิตสวรรค์คือบรมครูตัวจริงด้านการหลอมยา ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่มีใครทำได้ใกล้เคียงกับเขาเลย!”
“คุณคิดบ้าอะไรน่ะ เปรียบเทียบราชันย์เทพเจ้ากับจอมราชันย์นี่นะ? ราชันย์เทพเจ้าไม่มีทางแข่งขันกับจอมราชันย์ได้อยู่แล้ว! แต่ถ้าไม่นับจอมราชันย์ล่ะก็ ทักษะของฟู่เจียงเฉินถือว่าเป็นเลิศ ต่อให้เขาไม่ใช่หมายเลข 1 แต่อย่างน้อยๆก็ต้องติด 1 ใน 5!”
“ผมก็เถียงไม่ได้ แต่พูดก็พูดเถอะ เขาควรจะอยู่ที่น่านฟ้าหลิงหลงไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”
ฝูงชนจำฟู่เจียงเฉินได้ทันทีและเริ่มซุบซิบกัน
นอกจากเป็นราชันย์เทพเจ้า การเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจไร้เทียมทานที่สุดก็เกินพอจะทำให้ชื่อเสียงของเขากระฉ่อนทั่วทั้งสรวงสวรรค์แล้ว
จางเซวียนไม่รู้จักฟู่เจียงเฉิน แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฝูงชน ก็ดูออกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา จึงพยักหน้าและตอบว่า “ได้เลย ผมยิ่งกว่ายินดี”
ฟู่เจียงเฉินไม่มัวมีพิธีรีตอง เขายกมือ แล้วชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังก็กระโจนลงจากอสูรสวรรค์สร้าง ลงมาที่เวที
“เขาคือหานฉี, ศิษย์หลานของผม เป็นนักรบระดับเทพเจ้าขั้นสูง เพิ่งสำเร็จวรยุทธได้ไม่นาน ผมคาดว่าโอกาสประสบความสำเร็จในการฝ่าด่านวรยุทธของเขาตอนนี้น่าจะมีอยู่ราว 30%” ฟู่เจียงเฉินพูด
ในเมื่อศิษย์หลานของเขาคือผู้ได้รับเลือกให้ทดสอบประสิทธิภาพของยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธ เขาก็ควรอธิบายทุกอย่างให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้น ชื่อเสียงของเขาอาจด่างพร้อยหากมีใครกล่าวหาว่าเขาร่วมมือจัดฉากกับชายหนุ่ม
ทันทีที่ฟู่เจียงเฉินพูดจบ หานฉีที่อยู่บนเวทีก็สำแดงวรยุทธของเขาให้ฝูงชนได้เห็น
เขาเป็นนักรบระดับเทพเจ้าขั้นสูงจริงๆ แต่มีร่องรอยที่บ่งบอกว่าวรยุทธของเขายังไม่มั่นคงเท่าไหร่ แถมยังไม่ได้รับการขัดเกลาด้วย เห็นชัดว่าเพิ่งฝ่าด่านวรยุทธได้สำเร็จเมื่อไม่นานมานี้
“พวกเราเชื่อมั่นในความซื่อตรงของนักปรุงยาฟู่ ด้วยสถานภาพของเขา ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องโกหก!”
“ผมก็ไว้ใจเขาเช่นกัน”
“ผมรู้มานานแล้วว่านักปรุงยาฟู่เป็นคนเที่ยงธรรม…”
เสียงตะโกนสนับสนุนฟู่เจียงเฉินดังกึกก้องไปทั่วทั้งจัตุรัส
ไม่ว่าจางเซวียนจะเลือกใครขึ้นมาเป็นผู้ทดสอบยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธ ฝูงชนก็ยังคงแคลงใจ เพราะด้วยอิทธิพลของตระกูลฉี อาจมีใครจัดฉากตบตาพวกเขาก็ได้
แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหากผู้อาสาคือฟู่เจียงเฉิน
ในฐานะราชันย์เทพเจ้าคนหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนของสรวงสวรรค์ ฟู่เจียงเฉินไม่จำเป็นต้องจัดฉากตบตาใคร อีกอย่าง ตลอดหลายพันปีที่เขามีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนักปรุงยาหมายเลข 1 ของสรวงสวรรค์ ก็ขึ้นชื่อเรื่องความยุติธรรมและเป็นกลาง แทบไม่เคยมีข่าวลือในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเขา ทำให้ได้รับความเชื่อถือมาก
เมื่อมีฟู่เจียงเฉินเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เป็นอันไว้ใจในความบริสุทธิ์ของผลการทดสอบได้
“เริ่มกันเถอะ” จางเซวียนพูด
เขาคิดว่าคงต้องลำบากเอาการกว่าจะทำให้ฝูงชนไว้ใจ แต่การเข้ามาของฟู่เจียงเฉินช่วยแบ่งเบาปัญหาได้มาก
จางเซวียนกระดิกนิ้วและยื่นยาเม็ดที่อยู่ในกล่องให้หานฉี
หานฉีหยิบยาเม็ดขึ้นมาและกลืนลงไปทันที
ฟิ้วววว!
พลังจิตวิญญาณเข้มข้นพวยพุ่งเข้าสู่จุดตันเถียนของเขา
หานฉีไม่มัวลังเล เขารีบทรุดตัวลงนั่งและตั้งต้นซึมซับคุณสมบัติทางยาที่อยู่ในยาเม็ดนั้น
ระหว่างนั้น ฝูงชนที่อยู่ด้านล่างก็เฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจดจ่อจนแทบจะหยุดหายใจ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ เกรงว่าจะขัดจังหวะการฝึกฝนวรยุทธของอีกฝ่าย
แต่โชคดีที่ไม่ต้องรอนาน เพียงไม่ถึง 3 นาที ทุกคนก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังงานสวรรค์ของหานฉีก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเสียงดังสนั่นราวพายุจากร่างของเขา เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ…
ตูมมมม!
ทุกอย่างที่สะสมไว้ระเบิดตูม รังสีทรงพลังพุ่งขึ้นสู่กลางอากาศ ในชั่วพริบตา หานฉีก็ฝ่าด่านคอขวดที่สกัดกั้นวรยุทธของเขาได้สำเร็จ
“นี่…เขาฝ่าด่านวรยุทธได้ง่ายๆแบบนี้เลยหรือ?”
“ยังไม่ถึง 5 นาทีเลย!”
ทุกคนกลืนน้ำลายด้วยความตกใจ
แทบไม่มีนักรบคนไหนในสรวงสวรรค์ที่ใฝ่ฝันจะได้เป็นราชันย์เทพเจ้า ลำพังแค่วรยุทธระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างก็ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดในชีวิตของพวกเขาแล้ว
นักรบระดับเทพเจ้ามากมายต่างดิ้นรนจนสุดกำลังเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ บางคนใช้เวลาทั้งชีวิต แต่ก็ยังล้มเหลว ส่วนชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาทำสำเร็จภายในไม่ถึง 5 นาที!
ยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธน่าทึ่งขนาดนั้นจริงๆหรือ?
ฟู่เจียงเฉินก็หรี่ตาอย่างไม่อยากเชื่อ
ตัวเขาก็สามารถหลอมยาเม็ดที่เพิ่มโอกาสให้นักรบระดับเทพเจ้าฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นเทพเจ้าสวรรค์สร้าง แต่ยาเม็ดที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่เขาหลอมได้ก็เพิ่มโอกาสได้เพียง 20% เท่านั้น แถมนักรบคนหนึ่งยังกินยาได้เพียงเม็ดเดียวและครั้งเดียว ไม่อย่างนั้นก็ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงรุนแรง
จะว่าไป ต่อให้ยาเม็ดของชายหนุ่มช่วยเพิ่มโอกาสการฝ่าด่านวรยุทธได้ถึง 50% จริงๆอย่างที่เขาบอก แต่ก็ไม่น่าเห็นผลรวดเร็วขนาดนี้