ความเก่งกาจของเขาช่างน่าสะพรึงเสียจริง!
“ใช่” จางเซวียนพยักหน้า “แต่ตอนนี้วรยุทธของผมยังอ่อนด้อย ไม่อาจหลอมยาได้ ผมจึงมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากคุณ ขอแค่คุณช่วยผมหลอมยาจนสำเร็จ ผมก็พร้อมจะตอบแทนคุณอย่างเต็มที่!”
“คุณก็เกรงอกเกรงใจเกินไป เป็นเกียรติสูงสุดสำหรับนักปรุงยาอย่างผมแล้วล่ะที่ได้เห็นการถือกำเนิดของยาเม็ดที่แสนจะน่าทึ่งขนาดนี้!” ฟู่เจียงเฉินตอบอย่างตื่นเต้น “คุณจะโชว์สูตรยาให้ผมดูก่อนได้ไหม? ผมไม่เคยหลอมอะไรแบบนี้มาก่อน จึงอยากเห็นสูตรยาเพื่อดูว่าอยู่ในวิสัยที่ผมพอจะทำได้หรือเปล่า”
“ได้เลย!”
ในเมื่อจางเซวียนมาขอความช่วยเหลือจากฟู่เจียงเฉินถึงที่นี่ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบัง เขานำตราหยกอันหนึ่งออกมาแล้วถ่ายทอดสูตรยาที่อยู่ในหัวสมองลงไปก่อนจะยื่นตราหยกให้ฟู่เจียงเฉิน
อีกฝ่ายรับตราหยกมาและรีบตรวจสอบรายละเอียดภายใน เขาตาโตเมื่อเห็นสูตรยาทั้งหมด จากนั้นก็หันกลับมาถามจางเซวียนด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกความไม่อยากเชื่อ “คุณแน่ใจหรือว่าสูตรยานี้ใช้การได้?”
สูตรยาที่ปรากฏต่อสายตาฟู่เจียงเฉินนั้นน่าสะพรึงมาก แม้จะเป็นนักปรุงยาชั้นยอดของสรวงสวรรค์ แต่หัวใจของเขาก็ยังแทบจะกระโดดออกมาเมื่อนึกถึงมัน เขาไม่กล้าคิดเลยว่าจะมีใครอาจหาญนำส่วนผสมทางยาเหล่านี้มาหลอมเข้าด้วยกัน
ส่วนผสมหลักของสูตรยา, คือหญ้าราชันย์เทพเจ้านั้นเป็นสมุนไพรที่เขาไม่เคยเห็นหรือได้ยินชื่อของมันมาก่อน แต่สมุนไพรชนิดอื่นๆที่เหลือก็ล้วนแต่ทำให้เย็นเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง
ยังไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น ลำพังแค่สมุนไพรชนิดที่ 6, หญ้ามังกรอสรพิษ ก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในยาพิษที่มีฤทธิ์รุนแรงที่สุดในสรวงสวรรค์แล้ว แม้แต่ราชันย์เทพเจ้าก็ไม่อาจเอาชนะพิษของมันได้ แล้วกล้าใช้ของแบบนี้มาหลอมยา…
ฟู่เจียงเฉินตั้งต้นคิดคำนวณถึงโอกาสที่นักรบคนหนึ่งจะเอาชีวิตรอดมาได้หากกินยานี้เข้าไป!
สำหรับสมุนไพรชนิดที่ 14, ดอกร้อยใบสีม่วง แม้จะไม่มีพิษ แต่ก็มีอานุภาพสกัดกั้นพลังปราณให้แข็งทื่อ ทำให้นักรบไม่อาจสำแดงวรยุทธของพวกเขาได้
ยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธควรจะมีองค์ประกอบที่เปี่ยมด้วยพลังจิตวิญญาณ เพื่อให้นักรบรวบรวมพลังงานได้มากพอสำหรับการฝ่าด่านวรยุทธไม่ใช่หรือ? แต่สมุนไพรเหล่านี้ล้วนมีอานุภาพสกัดกั้นพลังปราณ กินเข้าไปแล้วจะฝึกฝนวรยุทธได้อย่างไร?
และสมุนไพรชนิดที่ 21, หยดเลือดของมังกรเลือดบริสุทธิ์…
นี่คือสิ่งที่นักรบทั่วไปต้านทานได้หรือ? อย่าว่าแต่หยดเดียวเลย แค่ครึ่งหยดก็เกินพอจะทำให้ร่างระเบิดแล้ว!
ด้วยประสบการณ์นานปีด้านการหลอมยา ข้อสรุปที่ฟู่เจียงเฉินได้ก็คือนี่ไม่ใช่สูตรยา แต่เป็นหม้อไฟที่เต็มไปด้วยส่วนผสมอันคลุมเครือและน่าสะพรึง!
ก็เหมือนกับการที่พ่อครัวมักใส่พริกไทย หอมใหญ่ ขิง และลูกผักชีลงไปในเนื้อเพื่อเสริมกลิ่นและรสชาติของมัน แต่หากเขาใส่ขี้เถ้า 1 ช้อนชา, ฝุ่นหยิบมือหนึ่ง และขี้เลื่อยอีก 3 ช้อนโต๊ะลงไปในอาหารที่เขาปรุงล่ะ มันจะกินได้ไหม?
นี่คือตรรกะเดียวกันกับสูตรยาที่ปรากฏตรงหน้าฟู่เจียงเฉิน
“ผมทบทวนทั้งหมดรอบหนึ่งแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรนี่” จางเซวียนตอบ
“คุณทบทวนรอบหนึ่งแล้ว?” ฟู่เจียงเฉินแทบอยากจะทึ้งผมตัวเอง
ชายหนุ่มมั่นใจเอาจริงๆ หรือเข้าใจผิดเรื่องการหลอมยากันแน่?
ขนาดนักปรุงยาที่เก่งกาจที่สุดที่ฟู่เจียงเฉินรู้จักก็ยังทบทวนสูตรยาของพวกเขาหลายสิบครั้งกว่าจะพยายามหลอมเป็นยาเม็ดจริงๆ จะได้ไม่สูญเสียสมุนไพรไปเปล่าๆ อันที่จริง บางคนลงทุนถึงขนาดสร้างสถานการณ์จำลองของกระบวนการหลอมยาซ้ำๆหลายร้อยครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าปราศจากข้อบกพร่องโดยสิ้นเชิงก่อนจะเข้าสู่กระบวนการหลอมยาจริงๆ
แต่คุณเพิ่งทบทวนมันเพียงรอบเดียว…แน่ใจหรือว่าทำแบบนี้ก็ได้?
ดูเหมือนคุณจะเห็นทุกอย่างง่ายดายไปเสียหมด!
“วางใจเถอะ ผมมั่นใจในสูตรยา เราหลอมมันได้แน่” จางเซวียนตอบขณะหัวเราะหึๆให้กับความหวาดหวั่นของฟู่เจียงเฉิน
ขนาดหอสมุดเทียบฟ้ายังให้ไฟเขียวแล้ว ดังนั้นย่อมไม่มีปัญหาใดๆแน่!
เห็นความมั่นใจของจางเซวียน ฟู่เจียงเฉินรู้ดีว่าคงพูดอะไรไม่ได้ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เอาเถอะ ในเมื่อคุณนำมันมาแล้ว ก็คงต้องลองดู แต่ผมต้องออกตัวล่วงหน้านะว่าผมไม่เคยหลอมยาเม็ดแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้น ก็มีโอกาสที่สมุนไพรทั้งหมดจะลงเอยด้วยการเสียเปล่า”
ถ้ากระบวนการหลอมยาครั้งนี้ล้มเหลว มันย่อมส่งผลให้สมุนไพรทั้งหมดเสียหายด้วย ซึ่งสมุนไพรที่ใช้หลอมยาที่มีอานุภาพระดับยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธของราชันย์เทพเจ้าย่อมมีมูลค่ามาก
แม้ฟู่เจียงเฉินจะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่ก็คงต้องเสียเงินก้อนใหญ่หากสมุนไพรล้ำค่าเหล่านี้เสียหายไปเปล่าๆ
“อย่าห่วงน่ะ มันไม่เสียหายหรอก!” จางเซวียนยิ้ม “พี่ฟู่ ขอแค่คุณทำตามที่ผมสั่งอย่างเคร่งครัด รับรองว่าไม่มีปัญหาแน่”
“อย่างนั้นก็ได้” ฟู่เจียงเฉินพยักหน้า
เห็นๆกันอยู่ว่าความเชี่ยวชาญด้านการหลอมยาของอีกฝ่ายเหนือชั้นกว่าเขา จึงเป็นไปได้ที่ชายหนุ่มอาจมองทุกอย่างแตกต่างจากเขามาก แถมชายหนุ่มก็ยังคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ
“เราจะเริ่มกันได้หรือยัง?” จางเซวียนถาม
เขามีเวลาเพียงครึ่งวันเท่านั้น ซึ่งก็ผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมง หากไม่รีบ อาจกลับไปไม่ทันการประลอง
“ได้!”
ฟู่เจียงเฉินสะบัดข้อมือ จากนั้นก็นำหม้อหลอมยาใบหนึ่งออกมา เขาโบกมือ แล้วเปลวไฟก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ตรงเข้าโอบรอบหม้อหลอมยาไว้ ทำให้มันสุกสว่าง
หม้อต้มยาที่เขาใช้สำหรับการหลอมยาโดยเฉพาะเป็นของล้ำค่าระดับราชันย์เทพเจ้า และเปลวไฟที่เขาใช้ก็เป็นเปลวไฟสวรรค์สร้าง ด้วยสิ่งนี้ ฟู่เจียงเฉินจะสามารถขัดเกลาได้แม้แต่สมุนไพรระดับราชันย์เทพเจ้า
“คุณได้รับความสำนึกในบุญคุณจากผม!”
เห็นฟู่เจียงเฉินมีอุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการหลอมยา จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาไม่มี
จางเซวียนโบกมือ แล้วสมุนไพรกองใหญ่ก็ปรากฏตรงหน้า มันลอยอยู่กลางอากาศ
เมื่อตอนที่อยู่ในน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน จางเซวียนเสาะหาสมุนไพรไว้ได้หลายชนิดผ่านทางฉีหลิงเอ๋อ และขณะที่เขาเรียบเรียงสูตรยา ก็ได้ปรับเปลี่ยนมันให้เข้ากับสมุนไพรที่เขามีอยู่ในมือ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสาะหาเพิ่มเติม
ฟู่เจียงเฉินมองสมุนไพรที่ลอยอยู่รอบห้องก่อนจะตั้งคำถามพร้อมกับขมวดคิ้ว “น้องจาง…คุณเตรียมสมุนไพรมาเพียงชุดเดียวหรือ?”
เป็นเรื่องปกติที่เหล่านักปรุงยาจะเตรียมสมุนไพรไว้ 3 ชุด ก่อนจะตั้งต้นหลอมยาชนิดใดๆก็ตาม เพราะวิธีนี้จะทำให้พวกเขาปรับเปลี่ยนแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันที
แต่หากมีสมุนไพรเพียงชุดเดียว และบังเอิญเกิดปัญหาขึ้นมาระหว่างกระบวนการขัดเกลาสมุนไพร พวกเขาย่อมไม่อาจแก้ปัญหาได้ และนั่นจะทำให้สมุนไพรทั้งหม้อต้องเสียไปเปล่าๆ
“ชุดเดียวก็พอแล้ว บอกคุณตามตรงนะ ผมกำลังรีบ จึงจะดำเนินกระบวนการหลอมยาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น” จางเซวียนตอบ
“คุณกำลังรีบ?” ฟู่เจียงเฉินพูดไม่ออก
นั่นแหละคือข้อห้ามข้อใหญ่ของการหลอมยา โดยเฉพาะสำหรับยาเม็ดที่มีระดับขั้นสูง
คุณให้สูตรยาที่แสนจะยุ่งเหยิงกับผม แถมยังผ่านการทบทวนเพียงรอบเดียว เตรียมสมุนไพรมาก็แค่ 1 ชุด และรีบร้อนตั้งแต่การหลอมยายังไม่ทันเริ่ม…
แน่ใจนะว่ามาที่นี่เพื่อขอร้องให้ผมหลอมยาเม็ดให้?
ฟู่เจียงเฉินเพิ่งรู้สึกประทับใจในตัวจางเซวียนอยู่หยกๆ คิดกระทั่งว่าอีกฝ่ายอาจเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจที่สุดในสรวงสวรรค์ คงเป็นรองแค่จอมราชันย์พิชิตสวรรค์เท่านั้น แต่เมื่อดูตอนนี้…
นักปรุงยาจะหลุกหลิกลุกลี้ลุกลนขนาดนี้ได้อย่างไร?
“เริ่มเลยเถอะ!”
ขณะที่จางเซวียนพูด ฟู่เจียงเฉินก็เห็นอีกฝ่ายหยิบสมุนไพรชนิดหนึ่งขึ้นมาและโยนลงไปในหม้อหลอมยาของเขา
แวบหนึ่งของความคิด ฟู่เจียงเฉินเกือบจะคว่ำหม้อต้มยาใบนั้น และเขาคงทำไปแล้วถ้าไม่ใช่เพราะกำลังอยู่ในคฤหาสน์ของตัวเอง
หม้อใบนั้นยังร้อนไม่ได้ที่ แต่คุณก็โยนสมุนไพรลงไปเสียแล้ว…แถมวิธีการของคุณก็แสนจะดูเป็นมือสมัครเล่น ราวกับไม่เคยหลอมยามาก่อนเลย…
ฟู่เจียงเฉินไม่เคยรู้สึกว่าความมั่นใจของเขาถดถอยขนาดนี้มาก่อน
“ผมจะส่งต่อหน้าที่ให้คุณละนะ ทำตามคำสั่งของผมอย่างเคร่งครัดด้วย เอาล่ะ…”
จางเซวียนเกือบจะมือพองจากการโยนสมุนไพรลงไปในหม้อ เขารีบถอยมาตั้งหลักและระงับความต้องการที่จะโยนสมุนไพรชนิดอื่นๆตามไป
ฟู่เจียงเฉินถอนหายใจเฮือกใหญ่ “หม้อยังร้อนไม่ได้ที่เลย…”
“มีสมุนไพรบางชนิดที่ไม่ควรใส่ลงไปเมื่อหม้อร้อนได้ที่ เพราะหากอุณหภูมิสูงเกินไป ผลที่ได้จะกลับตรงกันข้าม” จางเซวียนรีบอธิบายก่อนจะออกคำสั่งอีกชุดหนึ่ง “ภายใน 2 อึดใจนี้ ใส่หญ้าใบไม้และใบละมั่งสีทองลงไป เพิ่มอุณหภูมิของเปลวไฟให้ร้อนขึ้น 7% หลังจากนั้น ใช้เทคนิคการหลอมยาแบบฟื้นคืนจิตวิญญาณธาตุไม้เพื่อใส่หญ้าใบเดี่ยวลงไป…”
กระบวนการหลอมยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธขั้นราชันย์เทพเจ้านั้นซับซ้อนอย่างน่าทึ่ง มีรายละเอียดที่ต้องจดจำให้ขึ้นใจอยู่มากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าจะออกคำสั่งได้ทันเวลา จางเซวียนจึงใช้การส่งโทรจิตพลังปราณสำหรับการมอบคำสั่งให้ฟู่เจียงเฉิน
“คุณรู้จักเทคนิคการหลอมยาแบบฟื้นคืนจิตวิญญาณธาตุไม้ด้วยหรือ?”
ฟู่เจียงเฉินกำลังรู้สึกไม่มั่นใจ ก็พอดีกับที่ได้ยินประโยคนี้ของจางเซวียน หัวใจของเขาเต้นตึกตัก
เทคนิคการการหลอมยาแบบฟื้นคืนจิตวิญญาณธาตุไม้เป็นเทคนิคที่ลึกซึ้งและคลุมเครือมาก ตัวเขาใช้เวลาเกือบ 10 ปีกว่าจะทำความเข้าใจได้ทั้งหมด
แต่หลังจากได้เรียนรู้มัน ก็พบว่าความคลุมเครือนั้นทำให้แทบไม่มีสูตรยาชนิดไหนเลยที่จำเป็นต้องใช้วิธีการหลอมยาแบบนี้ เขาจึงไม่สนใจมันอีก เวลาผ่านไปเนิ่นนานนับจากวันนั้น และเขาก็เกือบลืมมันไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจางเซวียนจะรู้จัก!
แต่ฟู่เจียงเฉินก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาตั้งคำถาม เขาไม่รอช้า รีบใช้มือขวาทำตามคำสั่งของจางเซวียน โยนสมุนไพรต้นแล้วต้นเล่าลงไปในหม้อด้วยกระบวนท่าอันแม่นยำและตรงตามเวลาที่เหมาะสม
ส่วนมือซ้ายของเขาก็วุ่นอยู่กับการถ่ายทอดพลังจิตวิญญาณเข้าไปในหม้อหลอมยาเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเปลวไฟ
ขณะที่ใส่สมุนไพรลงไปตามคำสั่งของจางเซวียน ฟู่เจียงเฉินอดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นว่าแม้สมุนไพรเหล่านั้นจะดูเหมือนพร้อมมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านได้ทุกขณะ แต่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง มันหลอมรวมเข้าด้วยกันในช่วงเวลาที่เหมาะเหม็งและผสมผสานเข้ากันได้เป็นอย่างดี
หรือว่านี่คือ…เทคนิคการหลอมยาอันสมบูรณ์แบบ? ฟู่เจียงเฉินคิดอย่างไม่อยากเชื่อ