กระแสพลังงานที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันทำให้ร่างกายของฟู่เจียงเฉินกระชุ่มกระชวยและเพิ่มระดับพลังปราณให้สูงขึ้นอีก พร้อมกันนั้น ร่างกายของเขาก็ได้รับการขัดเกลาและทรงพลังกว่าเดิม
สิ่งนี้จะทำให้ฟู่เจียงเฉินก้าวข้ามด่านสุดท้ายและสำเร็จวรยุทธระดับราชันย์เทพเจ้าขั้นสูงสุด
“ผมฝ่าด่านวรยุทธ…สำเร็จแล้วหรือ?” ฟู่เจียงเฉินถึงกับเงอะงะ
ด้านคอขวดที่เขาพยายามต่อสู้ฝ่าฟันมาหลายปีแหลกสลายไปได้อย่างง่ายดาย
ครั้งหนึ่ง เขาเคยได้รับความช่วยเหลือเป็นเครื่องตอบแทนจากเทพธิดาหลิงหลง โดยเธอช่วยเยียวยาสภาวะร่างกายของเขา แต่ในครั้งนั้น แม้เทพธิดาหลิงหลงก็ยังจนปัญญา แล้วชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ากลับทำได้อย่างง่ายดาย?
“ผ่านไป 20 อึดใจแล้วนะ! เลิกลังเลเสียที รีบเพิ่มอุณหภูมิของหม้อหลอมยา!” จางเซวียนตะโกนก้องเมื่อรู้สึกได้ว่าฟู่เจียงเฉินเริ่มใจลอยเรื่อยเปื่อย
คำพูดนั้นฉุดฟู่เจียงเฉินออกจากภวังค์ เขารีบถ่ายทอดพละกำลังที่ได้มาใหม่เข้าสู่หม้อหลอมยา
รวมแล้ว เขาต้านทานอยู่ได้เพียง 30 วินาทีเท่านั้น ซึ่งก็เสียไปแล้ว 20 วินาทีให้กับการฝ่าด่านวรยุทธ หากไม่รีบ พลังปราณในร่างกายคงเหือดแห้งหมดเสียก่อนที่หม้อหลอมยาจะทันมีอุณหภูมิเหมาะสม ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาล้มเหลว
แต่นั่นแหละ ต่อให้ผิดพลาดก็ยังไม่สาหัสเท่าไหร่ ตราบใดที่ยังไม่ได้ใส่หญ้าราชันย์เทพเจ้าลงไป เพราะในบรรดาสมุนไพรทั้งหมดที่อยู่ในหม้อ สมุนไพรชนิดเดียวที่แทบไม่มีทางหามาได้อีกก็คือหญ้าราชันย์เทพเจ้า และสูตรยาก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เสมอแล้วแต่สิ่งที่จางเซวียนมีอยู่
แต่ปัญหาก็คือ…จางเซวียนไม่มีเวลามากขนาดนั้น!
พวกเขาใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงในการขัดเกลาสมุนไพรชนิดอื่นๆอีก 107 ชนิด ซึ่งหากต้องตั้งต้นใหม่ก็ไม่ทันการแล้ว และไม่เพียงแต่จะต้องเสียเวลาหาสมุนไพรชุดใหม่ ฟู่เจียงเฉินยังต้องการเวลาฟื้นฟูพลังงานของเขาด้วย
จางเซวียนคงเดินทางกลับน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณต้นกำเนิดไม่ทันแน่!
เพราะฉะนั้น เขาต้องทำจนสำเร็จให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม
“ได้” ฟู่เจียงเฉินตอบหนักแน่น
แม้เขาจะฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นราชันย์เทพเจ้าขั้นสูงสุดได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ขัดเกลาวรยุทธเลย ปริมาณพลังปราณที่มีอยู่ในร่างกายจึงยังคงเท่าเดิม
เขาไม่แน่ใจว่าทำไมจางเซวียนถึงอาจหาญเพิ่มอุณหภูมิของหม้อหลอมยาอย่างพรวดพราด แต่รู้ดีว่าสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือต้องทำตามคำสั่งของอีกฝ่าย
กระแสพลังปราณที่บริสุทธิ์กว่าพวยพุ่งเข้าสู่หม้อหลอมยา ทำให้เปลวไฟลุกโชนแผดเผายิ่งกว่าเดิม อุณหภูมิภายในหม้อหลอมยาค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น
ผ่านไป 5 อึดใจ หน้าผากของฟู่เจียงเฉินมีเหงื่อเกาะพราว เขาชำเลืองมองจางเซวียนและพูดว่า “ผมใกล้จะถึงขีดสุดของความอดทนแล้ว คงเพิ่มอุณหภูมิให้สูงกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ…”
เขาฝ่าด่านวรยุทธได้สำเร็จแล้วก็จริง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสขัดเกลาวรยุทธ ซึ่งหากบรรลุเงื่อนไขตามที่กำหนดไม่ได้ ก็คงไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้อีก
“หม้อร้อนได้ที่แล้วนะ รักษาระดับอุณหภูมิไว้!” จางเซวียนสั่งการ
เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อย เขาควรจะรู้อยู่แก่ใจแล้วว่ารากฐานวรยุทธของผู้ที่เอาแต่กินยาก็ย่อมอ่อนแอเป็นธรรมดา
จางเซวียนคิดว่าฟู่เจียงเฉินน่าจะเพิ่มอุณหภูมิของเปลวไฟได้อย่างง่ายดายหลังจากที่ฝ่าด่านวรยุทธสำเร็จแล้ว แต่ลงท้าย อีกฝ่ายก็ทำได้แค่ยกระดับอุณหภูมิได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
คำว่า ‘เท่าที่จำเป็น’ หมายถึงอุณหภูมิต่ำสุดที่ใช้หลอมละลายหญ้าราชันย์เทพเจ้า แต่นั่นยังไม่สูงพอจะทำให้เกิดการหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น เขาจึงยังไม่มั่นใจเต็มที่ว่ายาเม็ดจะก่อตัวได้อย่างเหมาะสม
“ช่างมันเถอะ!”
รู้ดีว่าจะมัวลังเลตอนนี้ไม่ได้ จางเซวียนนำหญ้าราชันย์เทพเจ้าทั้ง 4 ต้นออกมาและถ่ายทอดพลังปราณของเวทนาสวรรค์เข้าไป ก่อนจะโยนหญ้าพวกนั้นลงไปในหม้อหลอมยา
ฟู่!
ทันทีที่พลังปราณของจางเซวียนสัมผัสกับของเหลวที่กำลังเดือดปุดอยู่ในหม้อ เปลวไฟภายในหม้อหลอมยาก็เข้มข้นขึ้นทันที อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก
หญ้าราชันย์เทพเจ้าที่แสนจะทนทายาดเริ่มหลอมละลายเข้ากับของเหลวที่มีอยู่
3 อึดใจ…
2 อึดใจ…
“เร็วเข้าสิ!” จางเซวียนกำหมัดแน่น
ต้องใช้เวลาสักพักกว่าหญ้าราชันย์เทพเจ้าจะหลอมรวมเข้ากับของเหลวในหม้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าฟู่เจียงเฉินหมดแรงแล้ว
1 อึดใจ!
“ผมเสียใจด้วย ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ…”
ฟู่เจียงเฉินหน้าซีดเผือดจากการใช้แรงเกินขนาด ร่างของเขาโงนเงนไปมาเหมือนเส้นบะหมี่ก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น
เขาใช้พลังปราณหยดสุดท้ายที่เหลืออยู่ในร่างกายไปจนหมด
เมื่อสูญเสียแหล่งพลังงาน เปลวไฟในหม้อหลอมยาก็มอดลงทันที อุณหภูมิภายในหม้อตกฮวบ
โชคดีที่ในชั่วพริบตาที่ฟู่เจียงเฉินล้มลงไป การหลอมรวมกันระหว่างของเหลวที่มีคุณสมบัติทางยากับหญ้าราชันย์เทพเจ้าในหม้อก็เสร็จสมบูรณ์ เกิดแรงสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจากหม้อหลอมยาขณะที่ยา 4 เม็ดกระเด็นออกมาจากในนั้น
ยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธ์ขั้นราชันย์เทพเจ้า สำเร็จแล้ว!
“ผมไม่มีแรงวิ่งไล่ยาแล้วล่ะ…”
เห็นยาเม็ดกระเด็นออกจากหม้อหลอมยา ฟู่เจียงเฉินตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
เขาดีใจที่ทำสำเร็จในวินาทีสุดท้ายและหลอมสมุนไพรชนิดต่างๆให้กลายเป็นยาเม็ดจนได้ เนิ่นนานแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จมากขนาดนี้เมื่อทำการหลอมยา
แต่เพราะเขาหมดเรี่ยวแรงแล้ว จึงไม่อาจใช้พลังงานปิดกั้นหม้อหลอมยาเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเม็ดหนีไปได้ ยาเม็ดระดับขั้นนี้มีจิตวิญญาณของตัวเอง ดังนั้น หากไม่รีบคว้ามันไว้และทำการกำจัดจิตวิญญาณของพวกมัน ตัวเขากับจางเซวียนก็อาจต้องจบกระบวนการหลอมยาด้วยมือเปล่า!
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นแค่นักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นสูง ขณะที่ยาทั้ง 4 เม็ดนี้…แม้จะยังไม่ถึงขั้นราชันย์เทพเจ้า แต่ก็ไม่ห่างจากนั้น
ต่อให้ฟู่เจียงเฉินเองก็จับยาเม็ดพวกนั้นได้ยาก เพราะพลังปราณของเขาเหือดแห้งไปหมดแล้ว นับประสาอะไรกับจางเซวียน
พูดอีกอย่างก็คือ…
แม้พวกเขาจะหลอมยาสำเร็จ แต่ก็ต้องนั่งจนปัญญาเฝ้ามองยาเม็ดที่ลงทุนลงแรงด้วยความเหนื่อยยากลอยหนีไป
ฟึ่บ!
ขณะที่ฟู่เจียงเฉินกำลังครุ่นคิด ยาเม็ดเหล่านั้นก็ปะทะเข้ากับปราการที่เขาติดตั้งไว้รอบห้อง และหนีขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ทำไมถึงมียาแค่ไม่กี่เม็ด?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
จากการกะประมาณของเขา ด้วยหญ้าราชันย์เทพเจ้า 4 ต้นและเทคนิคการหลอมยาอันแม่นยำของฟู่เจียงเฉิน พวกเขาควรได้ยาอย่างน้อย 10 เม็ด ไม่นึกเลยว่าจะเหลือแค่ 4
แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาจะมาบ่น เขารีบชักดาบออกมาแล้วกระโจนขึ้นสู่กลางอากาศ
ฟึ่บ!
กระแสดาบฉีมากมายนับไม่ถ้วนระเบิดออก แปรสภาพเป็นตาข่ายขนาดใหญ่
หัวใจเส้นด้ายสอดประสานพันปม!
จางเซวียนรู้ดีว่ายาเม็ดเหล่านี้ทรงพลังแค่ไหน จึงใช้ศิลปะเพลงดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของเขารับมือกับพวกมันโดยไม่ลังเล
นี่คือศิลปะเพลงดาบที่เขาทำความเข้าใจเมื่อครั้งอยู่ในมิติเบื้องบน แต่ในเมื่อตอนนี้ความเข้าใจเรื่องเวทนาสวรรค์ของเขาล้ำลึกกว่าเดิมแล้ว ทั้งแนวคิดและประสิทธิภาพของมันจึงสูงขึ้นด้วย แถมเขายังสำแดงมันโดยใช้ดาบที่มีวรยุทธระดับราชันย์เทพเจ้า
ในชั่วพริบตา ตาข่ายขนาดใหญ่ก็ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า โอบล้อมยาเม็ดที่กำลังพยายามหลบหนีเอาไว้ทั้งหมด
จางเซวียนออกแรงดึง แล้วตาข่ายกระแสดาบฉีก็กลับสู่มือของเขา
ยาเม็ดต่างต่อสู้ดิ้นรนจนสุดแรง แต่ไม่อาจหนีรอดจากตาข่ายได้ ด้วยอานุภาพของกระแสดาบฉี จิตวิญญาณของมันถูกกำจัดออกไปอย่างรวดเร็ว
จางเซวียนโบกมือ จากนั้นก็รวบรวมยาเม็ดทั้งหมดมาเก็บไว้ในกล่องหยก “เรียบร้อย!”
หลังจากจับยาเม็ดทั้งหมดที่หนีไปกลับคืนมาได้ จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่เขากำลังจะเดินไปตรวจสอบอาการของฟู่เจียงเฉิน เงาหนึ่งก็พาดผ่านนัยน์ตาของเขา
ยาเม็ดหนึ่งหนีรอดจากหม้อหลอมยาไปได้ มันพุ่งฉิวออกไปด้วยความเร็วสูงเกินกว่าที่จางเซวียนจะทันตั้งตัว มันดำดิ่งเข้าสู่หมู่เมฆ กลายเป็นจุดดำๆที่อยู่กลางอากาศ
“แย่แล้ว นั่นมันราชายาเม็ด!” จางเซวียนหรี่ตาด้วยความอัศจรรย์ใจ
โดยทั่วไป ยาเม็ดที่ถูกหลอมจากหม้อใบเดียวกันจะมีอานุภาพทางยาในระดับเท่าๆกัน แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง
หญ้าราชันย์เทพเจ้าจำนวนมากเกินไปถูกโยนลงไปในหม้อหลอมยาขณะที่กระบวนการหลอมเป็นไปอย่างรวบรัดเพราะฟู่เจียงเฉินหมดแรง สิ่งนี้ส่งผลให้การกระจายพลังงานของฤทธิ์ยาไปสู่ยาเม็ดต่างๆนั้นเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง
ผลที่ได้ก็คือ ยาเม็ดหนึ่ง, หรือที่รู้จักกันในชื่อราชายาเม็ด ลงเอยด้วยการได้ส่วนแบ่งของฤทธิ์ยาในปริมาณมากที่สุด
อันที่จริง คุณสมบัติทางยาของราชายาเม็ดมีมากกว่ายาเม็ดอื่นๆหลายเท่า ในแง่ของพลังงาน มันเทียบชั้นได้กับราชันย์เทพเจ้าเลยทีเดียว!
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่เขาเห็นยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธเพียง 4 เม็ด ทั้งที่คาดไว้ว่าน่าจะมีเป็นสิบเม็ด ก็เพราะฤทธิ์ยาส่วนใหญ่ไปอยู่กับราชายาเม็ดจนหมดนี่เอง!
ไม่เพียงเท่านั้น จิตวิญญาณของยาเม็ดยังได้รับการพัฒนามากขึ้นอีกด้วย มันมีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้มันซ่อนตัวอยู่ในหม้อหลอมยาขณะที่ยาเม็ดอื่นๆพยายามหลบหนี รอจนสบโอกาสเหมาะเพื่อจะได้หลบหนีบ้าง ดังนั้น พอจางเซวียนไม่ทันระวัง มันก็พุ่งออกไป
ความอดทนและความสามารถในการกะประมาณเวลาของมันจัดว่าน่าทึ่ง
ถ้าจางเซวียนปล่อยให้ราชายาเม็ดหนีไปได้ เขาคงพลาดโอกาสการได้ทรัพย์สมบัติที่ล้ำค่าอย่างแท้จริง
“แกคิดว่าฉันจะปล่อยให้แกหนีไปหรือ?” จางเซวียนคำรามขณะถ่ายทอดพลังปราณไปที่ฝ่าเท้าของเขาและกระโจนพรวดขึ้นสู่กลางอากาศ
ฟิ้วววว!
เขาพุ่งไปยังทิศทางเดียวกันกับราชายาเม็ด ทิ้งไว้แต่แรงกระเพื่อมอยู่ด้านหลัง
เพราะจางเซวียนขับเคลื่อนเคล็ดวิชาบันไดสวรรค์ธุลีแดงจนสุดกำลัง เขาจึงบินได้เร็วกว่ายาเม็ดนั้นเสียอีก!
…..
“ นักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นสูง…บินได้?” ฟู่เจียงเฉินตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
กฎเกณฑ์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ข้อหนึ่งของสรวงสวรรค์ก็คือมีแต่นักรบระดับราชันย์เทพเจ้าเท่านั้นที่บินได้ แต่นี่…
การที่อีกฝ่ายเอาชนะยาทั้ง 4 เม็ดได้ด้วยกระบวนท่าเดียวก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่ายังบินได้ด้วย แถมใช้ความเร็วที่ไม่ได้ช้ากว่าเขาเลยสักนิด
ชายหนุ่มทำแบบนี้ได้อย่างไร?
ฟู่เจียงเฉินนึกสงสัยครู่หนึ่งว่าเขาตาฝาดหรือเปล่า
ราชายาเม็ดที่กำลังหลบหนีก็ชะงักเมื่อเห็นนักรบระดับเทพเจ้าสวรรค์สร้างขั้นสูงไล่ตามมาติดๆ เมื่ออีกฝ่ายใกล้ถึงตัวมันเต็มทีแล้ว มันก็รีบแปลงร่างเป็นชายหนุ่มที่ดูดุดันและหันกลับมาเพื่อจะตบหน้าเขา
มันเป็นกระบวนท่าง่ายๆ แต่มีพละกำลังสูงส่งจนน่าสะพรึง