Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2281 ซุปเปอร์ไก่

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร - ตอนที่ 2281 ซุปเปอร์ไก่

หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าขนาดใหญ่อีกหน้าหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ แต่คราวนี้ เพราะไม่มีพลังจิตวิญญาณชั้นยอดคอยหล่อเลี้ยง ใบหน้านั้นจึงดูพร่าเลือนไปเล็กน้อย

แต่ก็แน่นอนว่าเจตจำนงที่อยู่ในนั้นยังคงสร้างแรงกดดันหนักหน่วงให้กับผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“คุณ…”

แทนที่จะโมโหเดือด ใบหน้าขนาดใหญ่กลับจ้องดูไก่น้อยด้วยสีหน้าที่อธิบายได้ยาก

…..

“ผมคือไก่น้อย อสูรของจางเซวียน…ถ้าคุณจะเล่นงานเจ้านายของผมล่ะก็ ข้ามศพผมไปก่อน!” ไก่น้อยใช้ปีกเท้าสะเอวและประกาศอย่างภาคภูมิใจ

อสูร? ไก่น้อย?

ใบหน้าขนาดใหญ่ออกจะบิดเบี้ยวเมื่อได้ยินคำนั้น “คุณรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณหรือเปล่า?”

“รู้สิ!” ไก่น้อยตอบอย่างมั่นใจ “ผมคืออสูรในตำนานที่ครั้งหนึ่งมีอำนาจบงการทั่วทั้งดินแดน…ซุปเปอร์ไก่”

ใบหน้านั้นอ้าปากค้างอีกครั้งก่อนจะจับจ้องจางเซวียนด้วยสายตาที่พยายามประเมินอีกฝ่าย

หากก่อนหน้านี้ เทพธิดาหลิงหลงเคยคิดว่าชายหนุ่มเป็นแค่นักรบผู้ปราดเปรื่องที่มีวิธีการพิเศษบางอย่างอยู่กับตัว ตอนนี้เธอก็ไม่กล้าคิดแบบนั้นแล้ว

การที่ชายหนุ่มสามารถทำความเข้าใจเทคนิควรยุทธและศิลปะเพลงดาบที่เหนือชั้นกว่าสวรรค์ ทั้งยังครอบครองหนังสือที่สังหารได้แม้แต่ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรตินั้นก็เป็นเรื่องหนึ่ง…

แต่เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะสามารถทำให้บุคคลผู้นั้นย่อมจำนนและกลายเป็นอสูรของเขาได้ แถมยังล้างสมองอีกฝ่ายให้คิดว่าตัวเองเป็นไก่ได้ด้วย! ซึ่งบุคคลผู้นั้นก็ภาคภูมิใจเสียเหลือเกินกับชื่ออันแสนจะน่าอับอาย

นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?

ทุกอย่างในสรวงสวรรค์ดูจะสับสนอลหม่านไปหมดแล้ว!

“ในเมื่อคุณต้านทานการโจมตีของฉันได้ ฉันจะถือว่าเรื่องนี้จบ”

ในฐานะราชันย์เทพเจ้า เทพธิดาหลิงหลงไม่อาจคืนคำ ไม่ว่าชายหนุ่มจะใช้วิธีไหน แต่เรื่องจริงก็คือเขารับมือกับการโจมตีของเธอได้

ใบหน้าขนาดใหญ่นั้นคำราม “คุณไปได้แล้ว!”

“ขอบคุณ!” จางเซวียนประสานมือขณะถอนหายใจอย่างโล่งอก

ถึงไก่น้อยจะกลืนกินใบหน้าที่อยู่กลางอากาศได้ แต่ตราบใดที่ยังอยู่ในดินแดนของน่านฟ้าหลิงหลง พวกเขาก็ยังคงเสียเปรียบ เพราะหากเทพธิดาหลิงหลงตัดสินใจออกโรงด้วยตัวเอง จางเซวียนก็ไม่มีทางรับมือไหวอยู่ดี

ดังนั้น นี่จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขา

จางเซวียนหันกลับไปพูดกับฟู่เจียงเฉิน “นักปรุงยาฟู่ ผมขอขอบคุณที่คุณช่วยผมหลอมยา ซึ่งเมื่อครู่นี้ผมก็ช่วยยกระดับวรยุทธให้คุณ แถมยังมอบความรู้เรื่องการหลอมยาให้ระหว่างที่เราดำเนินกระบวนการหลอมยาด้วย นั่นคงเพียงพอจะชดเชยสิ่งที่คุณช่วยเหลือผมแล้วนะ”

พูดกันตามตรง จางเซวียนยังคงโมโหฟู่เจียงเฉินที่หักหลังเขาในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเพียงเพื่อช่วยไป๋เย่ฉิงหง เขาเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายตกที่นั่งลำบาก แต่ก็ไม่อาจปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น

มิตรภาพของทั้งคู่จึงขาดจากกันโดยปริยาย

“ผมสำนึกในบุญคุณสำหรับคำชี้แนะของคุณ นักปรุงยาจาง” ฟู่เจียงเฉินโค้งคำนับอย่างงาม

ก่อนหน้านี้เขายังเห็นจางเซวียนเป็นรุ่นน้อง แต่หลังจากได้เห็นกับตาว่าอีกฝ่ายสังหารราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติได้อย่างง่ายดาย แถมยังกลืนกินเจตจำนงของจอมราชันย์ไปด้วย ก็ไม่กล้าทำตัวแบบเดิมอีก แถมยังรู้สึกผิดไม่น้อยกับการกระทำก่อนหน้านี้ของตัวเอง

“ฉีฉี…”

หลังจากพูดกับฟู่เจียงเฉิน จางเซวียนหันไปสบตาสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหลังและเรียกชื่อเธอด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน

เขาไม่ค่อยแน่ใจว่าจะมองหน้าเธออย่างไร เธอทำอะไรให้เขามามากมาย แต่สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด…เขากลับให้เธอไม่ได้

ขณะที่จางเซวียนกำลังอับจนถ้อยคำ สาวน้อยก็มองหน้าเขาด้วยนัยน์ตาแจ่มใสและถามว่า “ปรมาจารย์จาง ฉัน…จะติดตามคุณและศึกษาเรื่องการหลอมยากับคุณต่อไปได้ไหม?”

ได้ยินคำนั้น จางเซวียนหัวเราะออกมาขณะพยักหน้า “ได้สิ”

หลัวฉีฉียิ้มสดใสราวกับดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ “เยี่ยมเลย”

เธอหันไปมองใบหน้าขนาดใหญ่ที่อยู่กลางอากาศ จากนั้นก็คุกเข่าก่อนจะพูดว่า “ฝ่าบาท ฉันสำนึกในบุญคุณของคุณอย่างมากที่ช่วยชีวิตฉันไว้จากคลื่นความสั่นสะเทือนแห่งมิติ แถมยังมอบทรัพยากรให้ฉันมากมาย ทำให้ยกระดับวรยุทธได้อย่างรวดเร็ว เป็นเพราะความช่วยเหลือของคุณที่ทำให้ฉันพัฒนาตัวเองได้มากขนาดนี้ ฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณทำให้ฉันเลย!”

คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าที่อยู่กลางอากาศขมวดคิ้ว

“ฝ่าบาท ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าทันทีที่ฉันได้ข่าวคราวของเขา ต่อให้มีอันตรายแบบไหนรอคอยอยู่เบื้องหน้า ฉันก็จะตามหาเขาและไปอยู่เคียงข้างเขาให้ได้ ในเมื่อตอนนี้เขามาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ฉันก็ขอจากไปพร้อมกับเขาเลย หวังว่าฝ่าบาทจะอวยพรให้” หลัวฉีฉีพูดขณะโค้งคำนับอย่างมีพิธีรีตองหลายครั้ง

ใบหน้านั้นนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ฉันรู้แล้วล่ะ รู้ตั้งแต่ตอนที่ได้ข่าวเรื่องยาเม็ดฝ่าด่านวรยุทธและยาเม็ดเพิ่มความงาม แต่ไม่ได้บอกคุณ เพราะเกรงว่าคุณจะรีบจากไป แต่นั่นแหละ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”

ด้วยความอึกทึกครึกโครมที่จางเซวียนสร้างขึ้นในน่านฟ้าแห่งจิตวิญญาณเร่ร่อน เทพธิดาหลิงหลงซึ่งเป็นถึงจอมราชันย์จะไม่รู้เรื่องนั้นได้อย่างไร?

เธอแค่ห่วงว่าหลัวฉีฉีอาจจากไปทันทีที่รู้ข่าว จึงจงใจปิดเรื่องนี้ไว้ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ชายหนุ่มก็มาถึงที่นี่และสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่กว่าเดิมเสียอีก

เอาจริงๆนะ หมอนี่คือตัวสร้างปัญหา!

ไม่เข้าใจเลยว่าผู้หญิงดีๆอย่างฉีฉีหลงใหลผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไร…

“ช่างเถอะ ไปตามหาความสุขและความฝันของคุณได้แล้ว” ใบหน้านั้นกล่าว “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าผู้หญิงที่เขาชอบจะมีอะไรเหนือกว่าคุณ!”

เทพธิดาหลิงหลงรู้ว่าสาวน้อยที่เธอช่วยชีวิตไว้จากคลื่นความสั่นสะเทือนแห่งมิติเป็นร่างที่แปรสภาพมาจากเครื่องเก็บงำมิติ แม้ในสรวงสวรรค์ เครื่องเก็บงำมิติก็ยังถือเป็นทรัพย์สมบัติชั้นยอด ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้สาวน้อยสำเร็จวรยุทธระดับราชันย์เทพเจ้าได้ภายในเวลาไม่นาน

ด้วยความปราดเปรื่องระดับนี้ คงแทบไม่มีใครในสรวงสวรรค์ที่จะเทียบชั้นกับเธอได้

เทพธิดาหลิงหลงไม่รู้ว่าจางเซวียนชอบใคร แต่เธอไม่เชื่อว่าจะมีผู้ชายคนไหนต้านทานสาวน้อยผู้สมบูรณ์แบบเพียบพร้อมอย่างหลัวฉีฉีได้นานนัก

“ขอบคุณฝ่าบาท!” หลัวฉีฉีตอบอย่างดีอกดีใจก่อนจะหันกลับไปมองจางเซวียน

หลังจากที่เธอได้ข่าวว่าเขาเดินทางออกจากทวีปแห่งปรมาจารย์ ก็รีบฝ่าปราการแห่งมิติเพื่อตามหาเขาทันที ไม่นึกเลยว่าจะได้มาถึงสรวงสวรรค์

เธอคิดว่าคงอีกนานกว่าจะได้เจอชายหนุ่มอีกครั้ง การพบกันอย่างกะทันหันครั้งนี้จึงถือเป็นความอัศจรรย์ใจครั้งใหญ่

จางเซวียนพยักหน้าให้หลัวฉีฉีก่อนจะหันกลับไปพูดกับใบหน้าที่อยู่กลางอากาศ “ที่ผ่านมา ฉีฉีอยู่ภายใต้การดูแลของฝ่าบาทมาตลอด จึงเป็นหน้าที่ของผมในฐานะอาจารย์ของเธอที่จะต้องขอบคุณและทำอะไรสักอย่างเป็นการตอบแทน”

“ตอบแทน? คุณคิดจะตอบแทนบุญคุณของฉัน? ตอบแทนด้วยการสังหารราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติและกลืนกินเจตจำนงของฉันนี่นะ?” ใบหน้านั้นคำราม

ทันทีที่เทพธิดาหลิงหลงได้ยินคำว่า “ตอบแทน” จากปากของจางเซวียน ก็รู้สึกได้ถึงคลื่นโทสะที่แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ

คุณสังหารราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติของฉันตั้งแต่มาถึงที่นี่ได้ไม่นาน แถมยังให้อสูรของคุณกลืนกินเจตจำนงของฉันด้วย!

การกระทำเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เธอเสียหายอะไรมากมายก็จริง แต่ชื่อเสียงของเธอก็ด่างพร้อย

“ไม่ใช่แน่” จางเซวียนหัวเราะเจื่อนๆ

“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดล่ะก็ ฝ่าบาท, คุณนอนไม่ค่อยหลับใช่ไหม?”

จางเซวียนพบว่าไม่อาจใช้หอสมุดเทียบฟ้ามองทะลุข้อบกพร่องของจอมราชันย์ได้ แต่สำหรับเจตจำนงของเทพธิดาหลิงหลง เขาพอจับสังเกตอะไรได้บางอย่าง

เทพธิดาหลิงหลงคือจอมราชันย์ที่มีพละกำลังสูงส่งมาก เป็นแถวหน้าของนักรบรุ่นเดียวกัน แต่เธอกำลังทุกข์ทรมานจากปัญหาใหญ่ข้อหนึ่ง ซึ่งก็คือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ!

จะว่าไป นักรบระดับเธอไม่จำเป็นต้องหลับต้องนอนก็ได้ ต่อให้เธอไม่ได้พักติดต่อกันเป็น 10 ปี สภาพร่างกายก็จะไม่เสื่อมโทรมแม้แต่น้อย

แต่นั่นแหละ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็ยังคงนอนหลับพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายและหัวสมองได้หยุดพัก

คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าขนาดใหญ่ที่อยู่กลางอากาศขมวดคิ้ว

ชายหนุ่มพูดถูก เธอนอนไม่หลับจริงๆ ซึ่งไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่รู้สึกง่วงสักนิด ว่าแต่…ชายหนุ่มรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน?

แม้แต่หลัวฉีฉีก็ยังไม่รู้เลย!

“ฝ่าบาทวางใจเถอะ ผมเป็นนักปรุงยา ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาของคุณ แต่ก็มั่นใจว่าไม่ช้าคงคิดออก หวังว่าผมคงใช้สิ่งนี้ตอบแทนบุญคุณที่คุณมีต่อฉีฉีได้” จางเซวียนประสานมือ

วรยุทธของเขายังอ่อนด้อย การรับมือกับปัญหาที่แม้แต่เทพธิดาหลิงหลงยังแก้ไม่ได้จึงเป็นเรื่องยาก แต่ขอแค่เขายกระดับวรยุทธได้สำเร็จ ก็น่าจะหาวิธีแก้ไขปัญหาของเธอได้

“ฉันจะรอก็แล้วกัน…”

ใบหน้านั้นเลือนหายไปจากท้องฟ้า

จางเซวียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาหันไปพูดกับหลัวฉีฉี “ไปกันเถอะ”

หลัวฉีฉีหันมายิ้มให้ก่อนจะพยักหน้าอย่างเงียบๆ แล้วทั้งคู่ก็เดินทางออกนอกเมือง

…..

ในตำหนักขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศภายในเมืองหลวงแห่งน่านฟ้าหลิงหลง สุภาพสตรีคนหนึ่งเอาสองมือไพล่หลังขณะเฝ้ามองจางเซวียนกับหลัวฉีฉีที่กำลังจากไป

ถ้าจางเซวียนเห็นใบหน้าของสุภาพสตรีผู้นี้ ก็คงประหลาดใจที่พบว่า มันเหมือนกันเป๊ะกับใบหน้าขนาดใหญ่ที่ปรากฏเมื่อครู่

เธอคือเทพธิดาหลิงหลงแห่งน่านฟ้าหลิงหลง!

“สงสัยจริงว่าความรักมันยิ่งใหญ่แค่ไหน ผู้คนถึงพยายามตามล่าไขว่คว้ามันขนาดนี้…” เทพธิดาหลิงหลงพึมพำกับตัวเอง

“ฉีฉี ฉันได้แต่หวังว่าคุณจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจของคุณในวันนี้ ฉันรับรู้ได้ว่าเจ้าหนุ่มคนนั้น ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยกับคนที่เพียบพร้อมอย่างคุณ ฉันพอดูออกว่าเขาจะเลือกใครระหว่างคุณกับผู้หญิงคนนั้น เชอะ ถ้าฉันรู้ว่าแม่นั่นเป็นใครล่ะก็ จะต้องสั่งสอนบทเรียนให้เธอแน่ๆ…”

ยังไม่ทันที่เทพธิดาหลิงหลงจะพูดจบ มิติที่อยู่รอบตัวเธอก็สั่นสะท้าน กระดานสีทองแผ่นหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ

เห็นสิ่งนั้น เทพธิดาหลิงหลงรีบเก็บกิริยา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

“เทพธิดาหลิงหลงแห่งน่านฟ้าหลิงหลง รับคำบัญชา!” กระดานสีทองส่งเสียงวางอำนาจ

“คุณจะต้องเดินทางไปยังน่านฟ้าเสรีเดี๋ยวนี้!”

“จอมราชันย์หลินชีอยากพบฉันหรือ?” เทพธิดาหลิงหลงชะงัก แต่ไม่กล้าขัดคำสั่ง

เธอรีบตอบ “ฉันรับคำบัญชา!”

ร่างของเธอสั่นสะท้านเล็กน้อย เทพธิดาหลิงหลงหายวับไปทันที

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 2100 อ่านนิยาย

อ่านต่อเลือกตอนข้างล่าง


จางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท