บทที่ 84
รวมพล
ยิ่งจางเหิงยิ่งตรวจสอบดาบเงาจันทราละเอียดมากขึ้นเท่าไหร่ เขายิ่งหลงใหลมันมากขึ้นเท่านั้น นายน้อยแห่งสำนักเพลิงสวรรค์ไม่รู้สึกเสียดายเงินจำนวน 700,000 ตั๋วทองที่จ่ายไปเลยแม้แต่น้อย
เย่เย่ที่กะว่าจะสั่งสอนสองพ่อลูกตระกูลจางกลับรู้สึกว่าตนเองเริ่มกลายเป็นนักธุรกิจจอมเจ้าเล่ห์อย่างที่จางเหิงพูดเอาไว้เสียแล้ว
หลังจากที่สองพ่อลูกตรวจสอบเงาจันทราเรียบร้อยแล้ว เจ้าสำนักเพลิงสวรรค์ก็ได้กล่าวกับเย่เย่ด้วยความรู้สึกปีติยินดี
“ช่างน่าเลื่อมใสจริงๆ พวกเราสำนักเพลิงสวรรค์ไม่เคยเห็นผู้ใดมีความสามารถเฉกเช่นท่านมาก่อน! จากนี้ต่อไปข้าและสำนักเพลิงสวรรค์ขอให้การสนับสนุนหอการค้าหยูเย่อย่างเต็มกำลัง”
จางเสี่ยวยู่ได้แสดงความนับถือของเขาที่มีต่อเย่เย่ออกมาจากใจจริง นับจากนี้ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลายแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่สำนักเพลิงสวรรค์ของพวกเขาจะหันคมหอกใส่หอการค้า หยูเย่อีกเป็นครั้งที่สอง ยิ่งไปกว่านั้นจางเสี่ยวยู่ต้องการกระชับมิตรกับหอการค้าหยูเย่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแม้ว่าข้อตกลงอาจทำให้เขาเสียเปรียบอยู่บ้างแต่เขาก็ต้องการจัดหาสรรพาวุธเพื่อวางขายในหอการค้าหยูเย่โดยตรงเช่นเดียวกับที่หอการค้าตันเซียงจัดส่งเภสัชภัณฑ์
ครั้งหนึ่งจางเสี่ยวยู่เคยคิดว่าเฉิงอี้ตันนั้นไม่ฉลาดที่นอกจากจะเสียผลประโยชน์แล้วการคบค้าสมาคมกับคนนอกยังทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอีกด้วย แต่ในที่สุดจางเสี่ยวยู่ที่เดินเกมช้ากว่าก็ต้องยอมลดศักดิ์ศรีของตนและผูกมิตรกับเย่เย่เช่นเดียวกัน
จางเหิงยังคงสงสัยในกรรมวิธีของเย่เย่ เขาคิดไม่ตกว่า เย่เย่ใช้วิธีใดซ่อมแซมดาบของเขาที่พังเสียหายอย่างไม่มีชิ้นดีได้ในเวลาอันสั้น แม้ว่าจางเสี่ยวยู่ผู้พ่อจะเรียกให้เขากลับสำนักแต่เด็กหนุ่มผู้ดื้อด้านก็ยืนกรานที่อยู่ที่หอการค้าต่อเพื่อศึกษาวิธีการซ่อมจากเย่เย่ เย่เย่ไม่ต้องการให้จางเหิงรู้ความลับของเขาก็สั่งให้ซูฉีเจี่ยพาตัวเขาออกไป
ความพยายามหลายครั้งขอ’ซูฉีเจี่ยก็ไม่เป็นผล จางเหิงยังคงนั่งนิ่งกอดอกไม่ยอมลุกไปไหน เย่เย่จึงไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้เด็กหนุ่มทำตามใจอยากตราบใดที่มันไม่ได้ทำให้กิจการของพวกเขาขัดข้อง
“สำเร็จ!”
นายน้อยแห่งสำนักเพลิงสวรรค์ผู้เอาแต่ใจตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ เขาได้เริ่มลงมือศึกษาอุปกรณ์ชนิดต่างๆที่เย่เย่เสริมแกร่งมา แม้ว่าเย่เย่จะใช้ระบบในการปรับแต่งพวกมัน เด็กหนุ่มที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับระบบจึงสนอกสนใจที่จะลองผิดลองถูกโดยใช้อุปกรณ์เหล่านั้นเป็นต้นแบบ
ความเจริญรุ่งเรืองของหอการค้าหยูเย่ที่แม้แต่สำนักเพลิงสวรรค์หนึ่งในห้าขั้วอำนาจของหลิงเฉิงยังต้องผูกมิตร ทำให้เหล่าบรรดาตระกูลน้อยใหญ่ในหลิงเฉิงแห่กันเข้ามาแสดงความยินดีกับความสำเร็จของพวกเขาอย่างไม่ขาดสาย แม้เย่เย่ไม่ได้ต้อนรับพวกเขาด้วยตนเองเขาก็ได้ให้เสี่ยวหยูออกมาตอบรับมิตรไมตรีเหล่านั้นแทน
อย่างไรก็ตามมีคนรักย่อมมีคนเกลียดเป็นสัจธรรม แม้ว่าผู้คนมากมายต่างอยากผูกมิตรกับพวกเขาแต่ก็มีผู้คนที่คิดหาผลประโยชน์จากพวกเขาด้วยเช่นกัน เหยียนซื่อคือหนึ่งในนั้น เขาคือหนึ่งในบรรดาจ้าววรยุทธ์ที่แปรพักตร์จากหอการค้า ตงอี้ฉีหยวนมาเข้าร่วมกับหอการค้าหยูเย่ แม้ว่าตัวเขาจะอายุไล่เลี่ยกับจางเหิงแต่มีฐานะยากจนกว่าจางเหิงอยู่มาก อย่างไรก็ตามเขาถือเป็นจ้าววรยุทธ์ที่มีพรสวรรค์เมื่อเทียบกับคนอื่นๆในหอการค้าเก่าของเขา
เมื่อครั้งซูฉีเจี่ยบุกเข้ายึดหอการค้าของพวกเขา เหยียนซื่อเป็นคนแรกที่หัวไวออกตัวของเข้าร่วมกับหอการค้า หยูเย่เป็นคนแรกในที่แห่งนั้น ซูฉีเจี่ยที่เห็นไหวพริบปฏิภาณของเขาก็แต่งตั้งเหยียนซื่อเป็นรองหัวหน้าของกองกำลังพิทักษ์หอการค้าภายใต้การบังคับบัญชาของเขา
แต่มักใหญ่ใฝ่สูงของเหยียนซื่อไม่จบลงเพียงเท่านั้น เขาได้รวบรวมกำลังพลจ้าววรยุทธ์ที่เพิ่งเข้าร่วมหอการค้าหยูเย่ และบรรดาสหายจากหอการค้าเดิมรวมจำนวนกว่า 30 นาย และชักจูงผู้คนเหล่านั้นมาวางแผนบางอย่างกับเขาอย่างลับๆ
“ก่อนอื่นข้าขอขอบคุณทุกท่านที่ตอบรับคำเชิญของข้าในวันนี้ อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีขณะนี้หอการค้าหยูเย่ของพวกเรากำลังเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากทำให้ผู้คนมากมายจากทั่วสารทิศต้องการที่จะเข้าร่วมกับพวกเราซึ่งทำให้ผลประโยชน์ที่พวกเราสมควรได้รับถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน! พี่น้องทั้งหลายได้เวลาแล้วรึยังที่พวกเราจะทวงคืนสิทธิ์ที่ควรเป็นของพวกเรากลับคืนมา!!”
“จริงด้วย!”
“ใช่แล้ว ข้าเห็นด้วย!”
หลังจากที่เหล่าจ้าววรยุทธ์ได้ฟังเหยียนซื่อพูด พวกเขาเริ่มกังวลถึงส่วนได้ส่วนเสียที่พวกเขาจะได้รับ นอกจากนี้พวกเขาเกรงว่าผลประโยชน์เหล่านั้นจะตกไปอยู่กับเหล่าเทพยุทธ์ที่เก่งกาจกว่าพวกเขา
เหยียนซื่อเห็นปฏิกิริยาตอบสนองดังนั้นจึงเสริมขึ้นอีกว่า
“เช่นนั้นข้าเห็นว่าพวกเราจ้าววรยุทธ์ควรรวมกลุ่มกัน เลือกตัวแทนกลุ่มขึ้นมา 1 คนเพื่อเป็น กระบอกเสียงให้กับกลุ่มของเรา และช่วยเหลือเกื้อกูลส่งเสริมให้ผู้นั้นไต่เต้าขึ้นเป็นผู้บริหารของหอการค้าหยูเย่ให้เร็วที่สุดซึ่งจะทำให้ผู้นั้นมีสิทธิมีเสียงและคอยปกป้องผลประโยชน์ของพวกเรา พวกท่านคิดว่าอย่างไรกับข้อเสนอนี้?”
“ข้าเห็นด้วยนะ แต่เราจะเลือกใครเป็นตัวแทนกลุ่มดีล่ะ?”
“ไม่ต้องสงสัยเลย ของมันก็เห็นกันชัดๆอยู่ ข้าขอเลือกท่านเหยียนซื่อ!”
“ท่านเหยียนซื่อแน่นอน!”
“ข้าด้วยๆ!”
เหล่าจ้าววรยุทธ์ที่เคยทำงานร่วมกับเหยียนซื่อมาตั้งแต่สมัยอยู่หอการค้าตงอี้ฉีหยวนยกมือลงเสียงให้เขาอย่างไร้ข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น พวกเขาในแผนการของเหยียนซื่ออย่างเต็มอก มีจ้าววรยุทธ์ส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่เลือกเหยียนซื่อและยังคลางแคลงใจในแผนการของเขา
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ขุมกำลังเล็กๆภายใต้การนำของ เหยียนซื่อผู้ทะเยอทะยานถือกำเนิดขึ้นในหอการค้าหยูเย่ที่กำลังเจริญรุ่งเรืองอย่างลับๆ…