บทที่ 8:นี้ หรือความรักที่มีให้?
ชาตรีไล่เธอออกไม่ใช่แค่ความคิดชัววูบ
แม้แต่สัมภาระยังให้คนช่วยเธอเก็บเรียบร้อยแล้ว
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
ถูกข่มขู่มาหลายครั้ง ที่ผ่านมาพิงกี้ไม่กล้าคิดถ้าตัว เองถูกไล่ออกจากบ้านจะทำยังไง?
พอถึงวินาทีนี้ เธอคิดว่าเธอจะเสียใจมาก แต่ว่าเธอ
ไม่รู้สึกเลย
บ้านที่เยือกเย็นไม่มีความอบอุ่นแบบนี้ มีอะไรให้น่า
ระลึกอีก?
เหมือนที่ลิสาพูด เธอไม่มีผลประโยชน์กับบ้านนี้แล้ว
อย่าพูดถึงตอนนั้นเพื่อให้เธอแต่งงานกับธีระ ชาตรี รับปากว่าจะให้เธอสองล้านเลย
ตอนนี้เธอไม่มีที่ยืนในบ้านหลังนี้แล้วด้วยซ้ำ ในเมื่อ ถึงขั้นนี้แล้ว
ทำไมเธอยังต้องพูดจาเจียมเนื้อเจียมตัวด้วย ?
จะให้ฉันไปก็ได้หรือ? ได้สิ แต่ฉันมีเรื่องนึ่งจะ ขอร้อง ” พิงกี้พดอย่างสงบนิ่ง
“แขนของฉันพลิก คุณเรียกหมอประดิษฐ์มารักษา
แขนฉันหน่อย” หมอประดิษฐ์ไม่ใช่หมอประจำของที่บ้าน แต่ก็เคย
เซ็นต์สัญญา
ถ้าคนในบ้านมีใครไม่สบายก็สามารถเชิญเขามาดูได้
ถ้าชาตรียังนึกถึงความเป็นพ่อลูกกัน เขาก็คงจะ
รับปาก
“หมอประดิษฐ์อายุเยอะแล้ว ดึกดื่นป่านนี้เรียกเขา มา แกไม่รู้สึกเกรงใจหรือ!?”
ชาตรีคิดก็ไม่คิดก็ปฏิเสธเธอเลย พอเห็นป้านารีถือ สัมภาระมา เขาก็รีบไล่ตะเพิดเลย
แ รีบไสหัวไปซะ !เห็นหน้าแกแล้วอารมณ์ขึ้นโมโห
จน นอนไม่หลับ! ”
เขาจะกล้าขัดใจคุณเควินได้ยังไง? พูดแล้วตลก!
คนที่เควินจะจัดการ เขาไม่โยนหินลงไปทับคนที่อยู่ ในบ่อก็ถือว่าใจบุญแล้ว
แต่เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตอนนี้เขาไล่ตะเพิดพิง
ก็ถือว่าใจดำเลือดเย็นมากพอแล้ว สัมภาระถูกชาตรี
ก็ไป
แย่งมา
และโยนไปที่ขาของพิงกี้ “ ปัง ” เสียงนึง เหมือน
กระแทกมาที่ใจเธอ
มาลาตีหยิบซ้อมจิ้มผลไม้มาใส่ที่ปาก เหมือนทีวีที่ดู อยู่สนุกมาก จนไม่มาสนใจเธอ
หายใจลึกๆคำนึง พิงกี้รู้สึกดวงตาแสบอย่างรุนแรง แต่น้ำตาไหลไม่ออก
สงสัยเธอคงจะชินตั้งนานแล้ว เธอใช้มือซ้ายนิ้ว สัมภาระอย่างลำบาก
พิงกี้ก้าวเท้าเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
และแล้วตอนที่เธอจะก้าวเท้าออกจากประตู จ่า มาลาดีก็ส่งเสียงออกมา
รอก่อน นั่นใครนะ….เธออย่าเพิ่งไป! ” อาจจะ เพราะว่าในใจยังแอบคาดกวังเล็กน้อย
พิงก็หยุดนิ่งไว้ ชาตรีโมโหตะคอกเสียงดัง
* ยังเรียกเธอไว้ทำไม ให้เธอรีบไสหัวไปซะ ”
“ตาแก่ คุณลืมไปแล้วหรือ เดี๋ยวบ้านศิลปการสกุล จะมาถอนหมั้น? ”
มาลาดีวางแก้วชาในมือลง และพูดอย่างไม่เห็นด้วย
ถึงลูกคนนี้จะทำให้คุณโกรธแค่ไหน เดี๋ยวตระกูล ศิลปการสกุลจะมาถอนหมั้น
คนหมั้นก็ต้องอยู่ด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวทางบ้านเขาจะว่า
เราไม่รู้เรื่อง
คำครหานี้ใครจะรับไว้?”
ถึงแม้ตระกูลศิลปการสกุล ไม่มีอำนาจใหญ่โตคำฟ้า เหมือนตระกูล ภิรมย์ภักดี
แต่ก็เป็นตระกูลที่เราจะขัดใจไม่ได้เชียวนะ ถ้า ตระกูล ศิลปการสกุลโกรธกริ้วขึ้นมา
ยังไงก็ต้องให้พิงกี้แบกรับไว้คนเดียว
ชาตรีจิตใจสงบลงก็คิดแบบนี้เช่นกัน
* คุณนี่รอบคอบที่สุดเลย ” เขาทำเสียงใส และเรียก
* ยังไม่รีบไสหัวกลับมาอีก ” พิงกี้ยิ้มอย่างเย็นชา
ถอนหมั้นก็ถอนหมั้นสิ เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย? ธีระเป็นสนุขที่จงรักภักดีกับลิสา งานแต่งของเธอกับ
เธอไม่เพียงแต่ไม่แคร์แถมยังรู้สึกขยะแขยง
เธอไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ให้คนมารังเกียจเธอ หรอก! เธอก้าวเท้าอยากเดินจากไป
แต่ว่าป้านารีมาดึงสัมภาระเธอไว้ และยิ้มอย่างฝืนใจ
“คุณหนูคะ ป้าว่าคุณหนูเชื่อฟังคำพูดของน่ายท่าน
ดีกว่านะคะ
ถ้าทำให้นายท่านโกรธ เดี๋ยวร่างกายคุณหนูจะได้รับ แผลใหม่เพิ่มนะคะ”
พิงกี้เหลียวมองชาตรีและมาลาดี คำพูดที่ข่มขู่ของ ป้านารีพวกเขาไม่ได้เอามาใส่ใจ
ไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูก ทำเหมือนเธอเป็นแค่หมาตัว
ตอนเรียกต้องมาตอนสั่งให้ไปก็ต้องไป ไม่เหลือ
แม้แต่ศักดิ์ศรี
* ได้! ” หายใจลึกๆคำนึง พิงกี้ก็เดินกลับมาที่ห้อง
หลบหลีกไม่ได้ เธอก็ต้องแบกรับเอาไว้!
เธอจะคอยดูชิว่าคนพวกนี้จะทำอะไรกับเธออีก! ความเจ็บปวดที่ได้รับในวันนี้ สักวันเธอต้องเอาคืน
เป็นร้อยเท่า!
โถง
นึ่ง