บทที่ 41: พวกเขาไม่คู่ควรเป็นพ่อแม่เธอ
จู่ๆประตูถูกเปิดออก สมคิดไม่ทันตั้งตัว จนเขา เกือบล้มเหมือนหมากินขี้
ยังดีที่ข้างกายมีวันเพ็ญพยุงไว้ ถึงไม่ล้มลงไป เขา
ไม่ยอมทนเสียเปรียบ
ชายตามองเธอและด่าฉอดๆๆ “นางตัวดี
แกอยากให้ฉันล้มหัวฟาดพื้นตายใช่ไหม! หลายปีมา
นี้ฉันไม่จัดการแก
แกปีกกล้าขาแข็งขึ้นเยอะเลยใช่ไหม?”
“ ถ้าล้มหัวฟาดพื้นตายก็ดี คนชั่วอย่างแกไม่คู่ควรที่ จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ด้วยซ้ำ! )
พิงกี้ตะคอกเสียงดังกลับ ” ยายป่วยเข้าโรง
พยาบาลครั้งนี้
เพราะพวกแกทำให้ยายเครียดจนป่วยหนักใช่ไหม?!
ยายแก่ใกล้ตายนั่นก็เป็นอย่างนั้นตลอด เกี่ยว
อะไรกับพวกเรา? ”
สมคิดจ้องฟังก็และยืนมือมาอย่างไม่แคร์
“ ยายแก่นั่นโรคหัวใจกำเริบเข้าโรงพยาบาลต้องใช้
เงินผ่าตัด!
ตอนนี้แกเอาเงินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นก็เตรียมรอ เก็บศพของยายแกเถอะ! ”
“ ยายแก่ที่แกพูดถึงเป็นแม่แท้ๆของแกเลยนะ ! สมคิด แกยังมีหัวจิตหัวใจอยู่ไหม? ”
* หัวจิตหัวใจมีค่าเท่าไหร่เชียว? แกรีบเอาเงินมา ฉันยังต้องรีบไปจ่ายค่ารักษาอีก!”
จ่ายค่ารักษา? พิงกี้กล้าพนันเลยถ้าเอาเงินให้สมคิด
คืนนี้เขาก็จะเล่นพนันแพ้จนไม่เหลือสักบาท ! ถึงจะ เหลือเก็บไว้ในมือนิดหน่อย
เขาก็คงเอาไปใช้กับผู้หญิงที่ขายบริการตามตรอก
ซอยพวกนั้นหมด!
4.ฉันไม่มีเงิน ” สีหน้าพิงกี้เศร้า ตอนที่เธออยู่
บ้านบุญถาวร
คนเดียวที่ดีกับเธอก็คือยายสมศรี ถึงยายสมศรีรู้ว่า
เธอไม่ใช่หลานแท้ๆ
แต่ก็ยังเหลือของกินไว้ให้เธอ และเอ็นดูเธอเหมือน
หลานแท้ๆ
แต่ตอนนี้เธอไม่มีเงินจริงๆ ก่อนหน้านั้นเธอรับปาก
หมั้นกับธีระ
ก็เพราะชาตรีบอกขอแค่เธอยอมเชื่อฟังก็จะให้เธอ
สองล้าน
แต่ตอนนี้งานแต่งยกเลิกไปแล้ว เธอก็ถูกไล่ออกจาก
บ้านดำรงกูลแล้ว
เธอไม่ได้เงินนี้ด้วยซ้ำ
อยู่ห้องดีๆแบบนี้
* แกไม่มีเงิน ? ไม่มีเงินยัง
นี่แกล้อฉันเล่นหรือ?สมคิดผลักพิงกี้อย่างแรงและ
บุกเข้าไปที่ห้อง
พิงกี้ขัดขวางเขาไม่อยู่ ได้แต่ทนดูเขารื้อคันของใน ห้องเล็กๆนี้
เห็นของมีค่าอะไรก็ยัดใส่ถุงที่เตรียมไว้ เธอโมโหและตะโกนเสียงดัง
“ สมคิด แกรีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะแจ้ง ตำรวจ! )
ห้องถูกรื้อจนยุ่งเหยิงไปหมดในพริบตา พิงกี้ทนดู
ต่อไปไม่ไหวแล้ว
เธอหยิบโทรศัพท์จะแจ้งตำรวจ กลับถูกวันเพ็ญจับ
มือห้ามเอาไว้
วันเพ็ญที่อายุห้าสิบกว่าแต่ดูเหมือนหกสิบกว่า ผมก็
หงอกแล้ว
เธอทำหน้าสงสารและขอร้องพิงกี้ 4 พิงกี้ เธออย่า
ถือสาพ่อเธอเลย
เขาก็นิสัยแบบนี้อยู่แล้ว ที่จริงเขาไม่ใช่คนเลวอะไร
หรอก….”
“ แกขอฉันมีประโยชน์อะไร จะขอร้องก็ไปขอสามี
แกไป!
อีกอย่าง เขาไม่ใช่พอของฉัน ฉันไม่มีพ่อที่ยิ่งกว่า สัตว์เดียรัจฉานแบบนี้!
ถึงชาตรีจะเลวแต่ก็ยังดีกว่าสมคิดตั้งเยอะ! พิงกี้สะ บัดมืองของวันเพ็ญออกโดยไม่คิดเลย
“ พิงกี้ เธอด่าพ่อเธออย่างนี้ได้ยังๆง? ” เพิ่งสะบัด
มือออก
วันเพ็ญก็ราวีเธอจับมือเธอไว้แน่น “ ถึงพวกเราจะ เคยทำเรื่องผิดไปหน่อย
แต่ยังไงพวกเราก็เลี้ยงเธอมาสิบห้าปืนะ ถึงไม่มีบุญ
คุณการที่คลอดเธอออกมา
แต่ก็ถือว่ามีบุญคุณที่เลี้ยงเธอมาใช่ไหม? เธอจะ
ใจดำแบบนี้ไม่ได้นะ
พ่อกับแม่ก็หมดหนทางแล้วจริงๆ เธอให้เงินหน่อย
ถ้าพวกเรามีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ ยายของเธอก็ต้องตาย
เหมือนกัน! ”
“ พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว! ” พิงกี้ร่างกายไม่สบาย แต่ยิ่งรู้สึกอัดอัดตันใจ
เธอทั้งรำคาญและหงดหงิด อุดไม่ได้ที่จะตะดอกเสียงดังออกมา
* อย่ามาคุยเรื่องบุญคุณที่เลี้ยงดูกันมา แกสองคน
เป็นมารชัดๆ
ไม่คู่ควรมาคุยเรื่องนี้กับฉัน ! พวกแกรีบไสหัวไป เดี๋ยวนี้ ออกไป! ”
* พิงกี้ เธออย่าไล่พวกเราไปเลย เราก็หมดหนทาง แล้ว ” ในตึกเงียบวงบมาก
แต่เสียงทะเลาะของพวกเขาดังมาก
แถมยังเป็นเวลากลางคืนคนก็เลิกงานกลับบ้านแล้ว
นาทีนี้คนที่ได้ยินเสียงต่างก็เปิดประตูออกมาดู
วันเพ็ญเห็นมีคนมุงดู เลยมีความคิดขึ้นมา เธอ
คุกเข่าลงที่หน้าประตู
กอดขาพิงกี้ร้องไห้และร้องขอ “ พิงกี้ ฉันเป็นแม่
ของเธอนะ
ทำไมเธอใจร้ายใจดำกับพวกเราแบบนี้? ” เธอแกล้ง
เธอก็แค่อยากแสดงออกให้คนเห็นว่าเธอเลี้ยงดูพิงกี้
มาโตขนาดนี้
พวกเขาก็ไม่ใช่ง่ายๆ ยายสมศรีเข้าโรงพยาบาล
ต้องใช้เงิน
แต่พิงกี้กลับกินดีอยู่ดีแต่ไม่ช่วยเหลือพวกเขา และ
ไม่ดูแลพวกเขา…
คิดไม่ถึงเลยผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนแบบนี้ )
ผู้หญิงคนนี้ดูก็ไม่ใช่คนดีอะไร ! ครั้งที่แล้วฉันเห็น เธอขึ้นรถหรูคันนึง
คิดไม่ถึงว่าบ้านจะยากจนขนาดนี้ ฉันดูนะเธอต้องมี
คนรวยเลี้ยงดูแน่ๆ! ”
* ไม่เพียงแค่นี้หรอก ฉันเห็นเธอมีผู้ชายหลายคน
มีอยู่ครั้งนึงยังจูบกันหน้าห้องเลย! ”
เพราะความตั้งใจของวันเพ็ญ
ทำให้รอบๆเริ่มมีเสียงซุบซิบนินทาขึ้นมา แถมยิ่งอยู่ ยิ่งหนักขึ้น
แถมตรงทางโค้งมีคนๆนึงกำลังถือโทรศัพท์ขึ้นมา แอบถ่ายวิดีโอขึ้นมา
โลกนี้จะเจอคนที่มาช่วยตอนลำบากยากมาก แต่คน ที่จะมาซ้ำเติมกลับไม่เคยขาดสน
คำซุบซิบแต่ละคำพูดเหมือนเรื่องจริงยังไงอย่างงั้น มีหลายคำที่แว่วมาข้างหูของพิงกี้
ทำให้ใจที่หงุดหงิดขึ้นมาจู่ๆสงบลง ทำไมเธอต้อง
โกรธเพราะคำพูดของคนพวกนี้?
เธอเหลียวมองวันเพ็ญที่คุกเข่าร้องไห้อยู่ เธออด
ยิ้มไม่ได้
ผู้หญิงคนนี้ยังเหมือนเมื่อก่อนไม่เปลี่ยน ดูแล้ว
ซื่อสัตย์อ่อนแอจนไม่มีที่ติ
แต่ตอนที่สมคิดทำเรื่องชั่ว เธอกลับกลายเป็นผู้สมรู้ ร่วมคิดที่ซื่อสัตย์ที่สุด
แม้กระทั่งยังช่วยเขา…พิงกี้หลับตาลงพยายามเก็บกดความทรงจำที่มืดมนนั้นไว้
พอลืมตาขึ้นอีกที สายตาเธอแหลมคมเหมือนมีด
พวกแกไม่คู่ควรเป็นพ่อแม่ฉัน! )
เธอยกเท้าขึ้นถีบวันเพ็ญออกอย่างโหดและรีบแจ้ง
ตำรวจ
เธอเดาว่ายายสมศรีไม่น่าจะมีเรื่องอะไร
ก็แค่สามีภรรยาคู่นี้รู้ว่าเธออยู่ที่นี่เลยอยากมา
อาละวาด แจ้งตำรวจเสร็จ
เธอจ้องมองพวกที่มาดูอย่างเย็นชา
สายตาที่เย็นชานั้นเหมือนมีดที่ผ่านการแช่แข็ง
จ้องมองจนคนพวกนั้นหดหัวเข้าไป และไม่กล้าออก มาดูอีก พอตึกเริ่มสงบแล้ว
ตำรวจกลับเป็นคนที่มาช้าสุดทุกครั้ง ตอนที่พวกเขา
มาถึง
สมคิดก็ชิงของไปไม่น้อยแล้ว และพาวันเพ็ญหนีไปสักพักแล้ว แต่ว่า
พิงกี้ก็ไม่คิดจะปล่อยสองคนนั้นไป
เธอเอาที่อยู่ของตระกูลบุญถาวรให้ตำรวจโดยตรง
“ คุณแน่ใจว่าพวกเขาคือคนบุกเข้ามาชิงทรัพย์?
“ตำรวจขมวดคิ้วและถามพิงกี้
“ คุณพิงกี้ ผมได้ยินคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าคนที่
คุณบอกคือพ่อแม่คุณนะ
ถ้าพวกคุณแค่มีความขัดแย้งกันทางครอบครัว
ผมหวังว่าคุณจะจัดการอย่างระมัดระวังนะ”
4 ไม่ใช่ขัดแย้งกันทางครอบครัวค่ะ ฉันไม่กับพวก เขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน !
ใช่แล้ว สามีภรรยาคู่นั้นยังมีโทษฐานขโมยเด็กด้วย
ถ้าพวกคุณยอมสละเวลาไปตรวจสอบ เอาพวกเขา
เข้าคุกเลยจะดีที่สุด”
พิงกี้พูดออกมาหลายคำอย่างทนไม่ได้ คิดๆแล้ว
เธอโทรศัพท์หาเตชิตโดยตรงเลยดีกว่า “คุณเตชิต ฉันมีเรื่องรบกวนคุณหน่อย”
เธอรู้ว่าเตชิตมีเส้นสาย ขอแค่เธอเอ่ยปาก
สมคิดและวันเพ็ญต้องถูกขังอย่างน้อยครึ่งเดือน แถมจะถูกดูแลเป็นพิเศษ
สิ่งที่สามีภรรยาคู่นี้เอาไปจากที่นี่ เธอต้องให้พวก เขาคืนมาให้หมด
และจะให้พวกเขาได้รับโทษอย่างทรมาน กับสิ่งที่ พวกเขาทำลงไป อย่างนี้
ครั้งหน้าถ้าพวกเขาจะมาหาเรื่องเธออีก จะได้คิด
ไตร่ตรองก่อยว่ายังจะกล้าอีกไหม?!
* ค่าตอบแทนหล่ะ? ” เตชิตถามก็ไม่ถามว่าเรื่อง
กว่าจะได้ฉวยโอกาศไม่ใช่ง่ายๆ เขาไม่แกล้งพิงกี้
หน่อยก็รู้สึกผิดต่อตัวเอง
“ ที่รัก ฉันไม่ใช่คนที่จะขอร้องได้ง่ายๆ ถ้าเธอไม่ให้ ค่าตอบแทนที่ฉันพอใจ
ฉันคงไม่มีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเธอหรอก